สวัสดีค่ะ นู๋หมี ยังไม่มีชื่อมาอีกแล้วค่ะ (เมื่อไร่ แม่จะตั้งชื่อให้นู๋ซะที ก็ม่ายรู) ไม่เป็นไรค่ะ ชื่อนั้นสำคัญไฉน

เมื่อตอนเล็กๆ เอ๊ะ ตอนนี้นู๋ก็ยังเล็กอยู่นะค่ะ แม่เล่านิทานก่อนนอนให้ฟังบ่อยๆ เรื่องเจ้าชาย เจ้าหญิง แล้วก็ปราสาทแสนสวยหลังใหญ่ แล้วชีวิตจริง จะมีหรือเปล่าน้า

คะวันนี้นู๋จะพาไปเที่ยวค่ะ ก็ยังอยู่แถวๆ บ้านละคะ ก็นู๋ยังเด็กแม่เลยไม่ปล่อยให้ไปไกลๆค่ะ



ปราสาทแสนสวย ที่นู๋จะพาไป เขาว่ากันว่าเป็นต้นแบบปราสาทเจ้าหญิงนิทรา ในดิสนีย์แลนด์ค่ะ ช่ายแล้วค่ะ ไม่ต้องเดากันให้มาก ที่นั่นก็คือ ปราสาทนอยชวานชไตน์ (Neuschwanstein) ค่ะ



คำว่า neu (new) แปลว่าใหม่
คำว่า schwan (swan) แปลว่าหงส์
และคำว่า stein (stone) แปลว่าหิน
รวมกันก็เป็น นอยชวานสไตน์ จึงแปลว่า New Swan Stone Castle หรือปราสาทหินหงส์ใหม่ ค่ะ

แต่อย่าออกเสียงเป็น นอยชไวน์สไตน์ (Neuschweinstein) ก็แล้วกันค่ะ เพราะ schwein ภาษาเยอรมัน แปลว่าหมู ค่ะ เดี๋ยวจะกลายเป็น New Pig Stone Castle หรือปราสาทหินหมูใหม่ ไปซะงั้น

มาบ้านนู๋ แล้วอยากทานขาหมู ก็ให้สั่งว่า Schweine Haxe "ชวายเนอร์ ฮักเซอ" ค่ะ

ปราสาทนอยชวานชไตน์ เป็นปราสาทที่ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ ในแคว้นบาวาเรีย เมืองฟุสเซ่น สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรียในช่วง ค.ศ. 1845-86 เป็นปราสาทเจ้าหญิงที่ว่ากันว่างามที่สุดของโลกเลยทีเดียวเชียว



ตัวปราสาท สร้างขึ้นบนยอดเขา มีทั้งภูเขา ลำธาร ทะเลสาบ เป็นสวนดีๆนี่เอง ก็เลยไม่ต้องสร้างสวนให้เสียกะตังส์อีกค่ะ

เวลาจะขึ้นไปชม เราก็สามารถไปได้ทั้งรถม้า รถบัส หรือถ้ามีแรง เราก็เดินชมนก ชมไม้ ขึ้นไปเรื่อยๆ จะได้ซาบซึ้งกับธรรมชาติ แหะๆ แต่นู๋คงไม่เดินขึ้นไปหรอกนะค่ะ นู๋ขาสั้นค่ะ กว่าจะถึงนู๋คงเดี้ยงซะก่อน นู๋ขอขึ้นรถบัสไปสบายๆ ค่ะ แล้วขากลับนู๋จะนั่งรถม้าลงมาค่ะ ดูแล้วเมื่อเจ้าหญิงดีค่ะ ฮิๆ





ตอนที่พระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งรัฐบาวาเรีย สร้างปราสาทตอนนั้นเยอรมันยังไม่ได้รวมประเทศเลยค่ะ (แล้วนู๋ก็ยังไม่เกิดด้วย) ยังเป็นแคว้นเล็กๆ ที่ปกครองกันเอง และมีกษัตริย์เป็นของตัวเองค่ะ

มารู้จัก กับท่านกันหน่อยนะค่ะ


ลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีบ หรือ ลุดวิก ฟรีดิช วิลเฮลมที่ 2 แห่งบาเยิร์น (Ludwig II of Bavaria; Ludwig Friedrich Wilhelm II von Bayern)
พระเจ้าลุดวิก ทรงเป็นพระราชโอรสองค์แรกของพระเจ้าแม็กซิมิลเลียนที่ 2 แห่งบาวาเรีย และ เจ้าหญิงมารีแห่งปรัสเซีย ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ค.ศ. 1845 ที่วังนิมเฟนเบิร์ก

ทรงครองราชย์ระหว่างวันที่ 10 มีนาคม ปี ค.ศ. 1864 พระองค์ยังมีพระชนมายุแค่ 18 ชันษา เท่านั้น

ด้วยพระองค์เป็นกษัตริย์ที่มีอารมณ์ศิลปิน สนใจศิลปะ ดนตรี วรรณกรรม ตำนานพื้นบ้าน (สงสัยท่านคงจะได้ฟังเรื่องเจ้าชาย เจ้าหญิงแบบนู๋มั้งค่ะ)

พระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย ก็เลยมีพระนามว่า “พระเจ้าหงส์” (Swan King) ในภาษาอังกฤษ และ “พระเจ้าเทพนิยาย” (der Märchenkönig) ในภาษาเยอรมัน

พระองค์โปรดให้สร้างปราสาทนอยชวานสไตน์ เพื่อเป็นที่ประทับ และเพื่ออุทิศให้แก่กวี “ริชาร์ด วากเนอร์” (Richard Wagner) ผู้ที่พระองค์ชื่นชอบ ก็เลยเป็นที่มาของการสร้างปราสาทของพระองค์ค่ะ

แต่ปราสาทหลังนี้ออกแบบโดยนักออกแบบการละครค่ะ ไม่ใช่สถาปนิกทั่วไป ชื่อคุณ คริสเตียน แยงค์ (Christian Jank) และสร้างตามบทประพันธ์เรื่อง อัศวินหงษ์ (Swan Knight Lohengrin) ของท่านริชาร์ด วากเนอร์ ค่ะ

ปราสาทก็เลยดูว่าจะเหมือนปราสาทในจินตนาการซะมากกว่าค่ะ

ข้างนอก ก็ดูเหมือนปราสาทยุคกลางทั่วไป แต่ข้างในเต็มไปด้วยศิลปะในยุคต่างๆ ไบแซนไทน์ โรมันเนสก์ โกธิก และมีภาพจากนิยายเรื่องต่างๆ ของท่านวากเนอร์ค่ะ




ปราสาทนอยชวานสไตน์ สร้างไม่เสร็จค่ะ สร้างไปได้แค่ 1 ใน 3 เอง พระองค์ก็สิ้นพระชนม์ พระองค์เองก็มีเวลาได้ชื่นชมปราสาทแค่ 170 วัน เท่านั้นค่ะ



รถบัสพาเราขึ้นมาถึงลานกว้าง จากตรงนี้จะเป็นทางแยกไปจุดชมวิวที่ Marienbrücke (Mary's Bridge) และทางไปปราสาทค่ะ

ป้ายบอกทางไปปราสาทค่ะ


งั้นเราไปชมวิวกันก่อนแล้วค่อยไปปราสาทค่ะ ตรงจุดชมวิวที่สะพานแมรี่ นี่ทุกคนที่มาเที่ยวก็จะไปยืนได้รูปกันตรงนี้ค่ะ จะได้วิวสวยๆของปราสาททั้งหลังและยังเห็นตัวเมืองข้างล่างไกลๆ

อีกฝั่งนึงก็จะมีน้ำตกไหลผ่านอยู่ด้านล่าง






ขอโทษทีค่ะพาไปตอนที่เขากำลังซ่อมปราสาทกันอยู่ค่ะ


รูปเต็มๆจากโปสการ์ดไปก่อนก็แล้วกันค่ะ


ถ่ายรูปกันเสร็จแล้วเราก็เดินไปที่ปราสาทกันเลยค่ะ ระหว่างทางก็ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้สูง เหมือนเดินเล่นอยู่ในสวนเลยค่ะ

เดี๋ยวหลุดโค้งนี้ไป เราจะได้เห็นวิวข้างล่างที่เป็นปราสาทสีเหลืองกะวิวทะเลสาบค่ะ เดี๋ยวค่อยมาเล่าให้ฟังอีกทีนะคะ



เห็นปราสาทแทรกอยู่ระหว่างต้นไม้ค่ะ อีกเดี๋ยวก็ถึงแล้ว

การเข้าชมภายในปราสาทต้องซื้อทัวร์เพื่อเข้าชมเท่านั้นค่ะ เพราะจะมีไกด์พาเดินชม เป็นเวลาประมาณ 35 นาที ก็ต้องเลือกเอาค่ะว่าอยากได้ไกด์พูดภาษาอะไร ก็จองรอบนั้นค่ะ

ข้างในเขาเปิดให้เราได้ดูแค่ 14 ห้องเท่านั้น แต่ละห้อง ก็ประดับประดาด้วยภาพวาดเกี่ยวกับตำนานและนิทานพื้นบ้าน โดยเฉพาะเรื่องที่มาจากอุปรากรของวากเนอร์ อย่างที่นู๋บอกไปแล้วค่ะ ก็มีเรื่อง Tannhäuser, Lohengrin, Tristan and Isolde, Parsifal (ข้างในเขาไม่ให้ถ่ายรูปค่ะ ดูรูปจากโปสการ์ด คุณ cherokee ไปก่อนก็แล้วกันค่ะ


รูปสวยๆ จากละครค่ะ

ห้องข้างหน้านี่คือ Throne Hall หรือห้องโถง นั่นละค่ะ ดูยิ่งใหญ่อลังการ เป็นสีเหลืองทอง แบบศิลปะไบแซนไทน์ ห้องนี้ก็ยังไม่เสร็จค่ะ ยังขาดพระแท่นบัลลังก์ ก็ตรงฐานมันยังโล่งๆ อยู่นี่ค่ะ

โคมระย้า อันนี้ ก็หนักถึง 900 กิโลกรัม เวลาที่จะทำความสะอาดก็คงเล่นเอาเหนื่อยอยู่เหมือนกันค่ะ



ห้องถัดมา เป็น ห้องบรรทมของพระเจ้าลุดวิก ค่ะ เป็นศิลปะแบบโกธิก โดยเฉพาะยอดเตียง อึ้ออือ อลังการงานแกะสลัก คะ

แล้วภาพวาดในห้องนี้ ก็ไม่พ้น ของวากเนอร์ ละคะ เป็นภาพจากอุปรากรเรื่อง Tristan and Isolde



ชมไปเรื่อยๆ จนถึงห้องชั้นบนสุดของปราสาท คือห้อง Singers Hall เป็นห้องที่ใช้จัดแสดงอุปรากรของวากเนอร์โดยเฉพาะ มีการออกแบบระบบอคูสติก ส่วนภาพวาด ก็จากเรื่อง Parsifal กษัตริย์ลุดวิก ท่านไม่มีโอกาสได้ทอดพระเนตรการแสดงในห้องนี้ขณะที่ยังทรงพระชนม์ชีพอยู่

(นู๋กำลังเริ่มสงสัยแล้วค่ะ ว่าตกลงปราสาทนี้ มันของใครกันแน่ ของพระเจ้าลุดวิก หรือศิลปินวากเนอร์ กันน๊า พี่ๆ คิดว่าไงค่ะ ท่าทางท่านไม่ได้ชอบอย่างเดียวแล้วละ ยิ่งกว่าคลั่งใคล้เลย ฮิๆ)



ห้องสุดท้ายจริงๆ ค่ะ ที่ช้อปปิ้งค่ะ
มีโมเดลของปราสาทด้วยค่ะ


สุดท้ายแล้ว นู๋จะพาลงไปนั่งรถม้าแล้วละ ก็นู๋อยากเป็นเจ้าหญิงนี่ค่ะ แต่พี่ๆ จะเดิน หรือจะกลับไปขึ้นรถนู๋ก็ไม่ว่านิ ราคามันไม่เท่ากันค่ะ





จำได้ไหมค่ะ ตอนที่นู๋บอก ที่เราเห็นปราสาทสีเหลืองๆ นั่นก็คือ “ปราสาทโฮนชวานเกา” (Hohenschwangau)


ปราสาทแห่งนี้ เป็นพระราชวังฤดูร้อนโดยพระเจ้าแม็กซิมิเลียนที่ 2 (Maximilian II) พระบิดาของพระเจ้าลุดวิก ค่ะ เมื่อเจ้าชายลุดวิกยังทรงพระเยาว์ ก็ทรงมาประทับอยู่ที่ปราสาทนี้ค่ะ

ชื่อ โฮเฮนชวานเกา ก็มาจากคำว่า
hohen (high) แปลว่าสูง
schwan (swan) แปลว่าหงส์
และ gau (county or region) ที่แปลว่า ดินแดนหรือเขตแดน

Hohenschwangau Castle จึงแปลว่า Castle of the High Swan County หรือปราสาทแห่งดินแดนหงส์ที่อยู่สูง (แต่ปรากฎว่านอยชวานสไตน์ สูงกว่าค่ะ เพราะสร้างทีหลัง) เรียกว่าปราสาทพ่อ ปราสาทลูก เลย ฮิๆ



ปราสาท 2 หลังนี้อยู่ไม่ไกลกันค่ะ เดินก็แค่ 20 นาทีเอง

การมาที่นี่ ก็ไม่ยากค่ะ พี่ๆ ก็นั่งมาที่เมืองมิวนิก แล้วก็ต่อรถไฟมาลงที่เมืองฟุสเซน (Füssen) นั่งมาประมาณ 2 ชั่วโมง จากสถานีรถไฟ ก็ต่อรถบัสสาย 73 หรือ 78 เป็นระยะทาง 5 กิโลเมตร รถจะจอดที่จุดขายตั๋วพอดีค่ะ

แถมท้ายค่ะ
นอกจากปราสาทนอยชวานสไตน์แล้ว พระเจ้าลุดวิกที่ 2 ยังโปรดให้สร้างปราสาทอีก 2 แห่งค่ะ

ได้แก่ ปราสาทลินเดอร์ฮอฟ (Linderhof) ใกล้เมืองโอเบอร์อัมเมอร์เกา (Oberammergau) เป็นปราสาทหลังเล็กๆ ในสไตล์ร็อกโคโค เป็นปราสาทหลังที่สองที่พระองค์โปรดให้สร้างขึ้น และเป็นหลังเดียวที่สร้างเสร็จสมบูรณ์


(ยืมรูปมาจากอากู๋ค่ะ)

ปราสาทแฮร์เรนคีมเซ (Herrenchiemsee) เป็นปราสาทหลังที่สามที่พระเจ้าลุดวิกโปรดให้สร้างขึ้นบนเกาะกลางทะเลสาบคีมเซ โดยได้ต้นแบบจากพระราชวังแวร์ซายส์ในฝรั่งเศส แต่สร้างไม่เสร็จเพราะสิ้นพระชนม์เสียก่อน



จริงๆ แล้วพระองค์อยากจะสร้างถึง 4 หลัง แต่สิ้นพระชนม์ไปก่อน ตอนครองราชย์พระองค์ไม่สนใจงานบ้านงานเมือง มัวแต่เพลิดเพลินไปกับดนตรีและศิลปะอยู่ในปราสาทเหล่านี้มากกว่าจะไปอยู่ในพระราชวังในเมืองหลวง แล้วปราสาทแต่ละหลังก็ใช้เงินมิใช่น้อย ดูท่าว่าหลายคนคงไม่พอใจ อันเป็นเหตุนี้มั้งค่ะ ที่พระองค์หายไปตอนล่าสัตว์ และมีการพบพระศพในทะเลสาบสตาร์นเบิร์ก

พระเจ้าลุดวิกที่ 2 (สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ค.ศ. 1886) พระร่างถูกฝังไว้ที่วัดเซนต์ไมเคิล ที่มิวนิคในคริพต์ของราชวงศ์วิทเทิลสบาค

แต่กาลเวลาผ่านไป ปราสาทนอยชวานสไตน์ เป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญอันดับหนึ่งของเยอรมนี และทำรายได้ให้ประเทศเป็นเงินมหาศาล ค่ะ

วันนี้นู๋ขอบายแล้วนะคะ

Create Date : 13 กันยายน 2554
Last Update : 22 กันยายน 2554 10:34:57 น.		6 comments
Counter : 3762 Pageviews.
Share Tweet