ห้องสมุดฟินแลนด์ ประเทศที่มี ระบบการศึกษา ดีที่สุดในโลก















วันนี้จะพามาชมห้องสมุดประชาชนที่ฟินแลนด์ ประเทศที่มีระบบการศึกษาดีที่สุด ในลำดับต้นๆ ของโลก พร้อมเล่าถึงระบบการให้บริการของห้องสมุดที่นี่ค่ะ 


คนฟินน์เป็นชาติที่รักการอ่านมากค่ะ สถิติการเข้าห้องสมุดของคนที่นี่ถือว่าสูงมาก ทุกครั้งที่ไปห้องสมุด จะเห็นคนมาใช้บริการตลอด บางบ้านนี่หอบลูกจูงหลาน มากันเลยทีเดียวค่ะ 

นอกจากนี้ฟินแลนด์ยังเป็นประเทศ ที่มีอัตราการรู้หนังสือมากที่สุดในโลก ห้องสมุดจึงถือว่าเป็นส่วนสำคัญ ที่มีบทบาทต่อการศึกษาของคนที่นี่ และสะท้อนให้เห็นถึงระบบการศึกษาของฟินแลนด์ได้เป็นอย่างดี 


ห้องสมุดที่มุลจะพามาชม เป็นห้องสมุดประจำเมืองเล็กๆ ชื่อเมือง อิมาตรา (Imatra) เปิดให้บริการ จ-ส เวลาทำการวันธรรมดาคือ 9.00 -19.00 น. วันเสาร์ 10.00- 15.00 น.

มีห้องสมุดในเครืออยู่หลายที่ด้วยกัน คือ Lappeenranta, Savitaipale, Lemi, Taipalsaari, Ruokolahti, Rautjärvi และ Parikkala สมาชิกของห้องสมุดที่มีบัตร Heili สามารถยืมหนังสือ และเข้าใช้บริการห้องสมุดในเครือได้ทุกที่ค่ะ

ห้องสมุดเป็นอาคารสองชั้น  ด้านล่างจะเป็นส่วนของห้องพิพิธภัณฑ์ ที่จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติเมือง ด้านบนจะเป็นส่วนที่ให้บริการของห้องสมุดค่ะ  ภาพนี้ยืมมาจาก วิกิพีเดียค่ะ 


ระบบการให้บริการห้องสมุด ค่อนข้างสะดวกมากๆค่ะ เพราะสามารถ ตรวจสอบรายการ /จองคิว /แจ้งยืมหนังสือ ผ่านทางอินเตอร์เน็ต แต่อันดับแรก จะต้องสมัครเป็นสมาชิกของห้องสมุดก่อน โดยสมัครได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ค่ะ

หากต้องการยืมหนังสือเล่มไหน เราสามารถตรวจสอบได้ว่า ห้องสมุดนี้ มีหนังสือเล่มนี้อยู่หรือไม่ มีกี่เล่ม สถานะตอนนี้ว่างหรือไม่ หรือถ้า หนังสือ ถูกยืมไปแล้ว ระบบจะแจ้งว่า หนังสือจะถูกนำมาคืนวันไหน ซึ่งเราสามารถลงทะเบียน ต่อคิวจองหนังสือได้เลยค่ะ


หรือหากห้องสมุดนี้ ไม่มีหนังสือที่เราต้องการ เพียงแค่แจ้ง จนท ที่ดูแล จนท เขาจะพยายามจัดหา จากห้องสมุดในเครือข่าย หรือจากจังหวัดใกล้เคียง ถ้าเขาจัดหาหนังสือมาได้ เขาจะโทรมาแจ้ง ให้ไปรับ ในบางเคสหนังสือจะถูกส่งมาทางไปรษณีย์ ส่งตรงมาถึงบ้านเลยค่ะ ทั้งหมดนี้ ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นนะคะ ( หากส่งคืนตามกำหนด และไม่มีการชำรุดสูญหาย) 

คือมันเริ่ดอ่ะ เราว่าใครเป็นหนอนหนังสือนี่ อยากอ่านอะไรก็ได้อ่านกันเลยทีเดียวค่ะ 


สามารถยืมหนังสือ ครั้งละกี่เล่มก็ได้ค่ะ ระยะเวลาในการยืมต่อรอบประมาณ 3 สัปดาห์ 

หากครบกำหนดการส่งคืน แต่เรายังอ่านไม่จบ อยากยืมต่อ สามารถลงทะเบียน การแจ้งยืมอีกครั้ง ทางอินเตอร์เน็ต หากหนังสือไม่มีคิวจองไว้ เราก็สามารถยืมต่อได้อีกค่ะ โดยสามารถยืมต่อเนื่องได้ 5 รอบ

แต่ถ้ายืมมาเกินกำหนด จะต้องเสียค่าปรับรายวัน และหากหนังสือชำรุด หรือสูญหาย จะต้องจ่ายค่าสูญหายตามราคาหนังคือค่ะ 


การตกแต่งภายใน การจัดเรียงหนังสือ ก็เหมือนห้องสมุดทั่วๆไปค่ะ แต่พื้นที่สำหรับอำนวยความสะดวก ภายในห้องสมุด จะให้ความสำคัญกับคน ทุกเพศทุกวัย 

เช่น มุมอ่านหนังสือ สำหรับเด็กเล็ก เด็กโต วัยรุ่น วัยทำงาน ผู้สูงอายุ ผู้พิการ มุมสำหรับครอบครัว  หรือแม้แต่ คุณแม่ที่อยู่ในช่วงให้นมลูกค่ะ



นอกจากหนังสือภาษาฟินนิชแล้ว ก็ยังมีภาษาอื่นๆด้วย
 เช่น อังกฤษ สวีเดน รัสเซีย 

เสียดายไม่มีหนังสือภาษาไทยเลย 
อย่างที่บอกค่ะ ห้องสมุดนี้เป็นเพียง ห้องสมุดประจำเมืองเล็กๆ เท่านั้น

 แต่ก็ไม่แน่นะ ถ้าไปบอกเจ้าหน้าที่ดูแล เขาอาจจะหามาให้ก็ได้เนอะ 





มุมเด็กๆ และครอบครัว







หนังสือสำหรับเด็กเยอะมากค่ะ 





มุมนี้สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานคอมพิวเตอร์ จะพิมพ์งานปริ้นงาน
ตามสะดวกเลยค่ะ มีเครื่องปริ๊น เครื่องถ่ายเอกสารบริการครบครัน




เจ้าเครื่องนี้ คือเครื่องบริการตนเอง บันทึกการยืม/การคืนหนังสือ 

วิธีใช้ก็คือ สแกนบัตรสมาชิก และแสกนบาร์โค้ดหนังสือ เครื่องก็บันทึก อัตโนมัติค่ะ

 แต่ถ้าไม่สะดวกจะใช้เครื่อง เขามี จนท ประจำเค้าท์เตอร์ ไว้คอยบริการเช่นกันค่ะ 

เครื่องนี้มุลก็ไม่เคยใช้หรอกค่ะ พูดกันตรงๆคือ ใช้ไม่เป็น ฮ่าๆ




มุมส่วนตัวสำหรับเด็กเล็กค่ะ 





ในบางช่วงจะมีหนังสือเก่าๆ มาแจกฟรี หรือขายในราคาถูกๆค่ะ

 บางครั้งก็ไม่ได้ตั้งราคาขาย แต่ให้บริจาคตามความสะดวก




เครื่องบันทึกการยืม / การคืน แท็บเล็ต มีวิธีใช้งานแปะอยู่ข้างฝาด้วยค่ะ 




ถ้ามาเป็นแก๊งค์ต้องห้องนี้เลยค่ะ จริงๆ ข้างในจะมีอีกห้องหนึ่ง เป็นห้องสำหรับคนที่ต้องการอ่านไปหลับไปด้วย พอดีมีคนใช้บริการอยู่เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ 






ใครชอบอ่านไป จิบกาแฟไป 
หรือหิวแล้ว เชิญทางนี้ค่ะ 
ด้านในสุดมีร้านกาแฟบริการด้วยค่ะ



มีอีกห้องหนึ่งที่ไม่ถ่ายรูปมา คือห้องสำหรับดูหนัง หรือสารคดีต่างๆ  คือเขาจะมี ดีวีดี ให้ยืมด้วยค่ะ ถ้าไม่อยากเอากลับมาบ้าน ก็เปิดดูที่นั่นได้เลย

นอกจากห้องสมุดประจำเมืองแล้ว ยังมีห้องสมุดในเครือข่าย 
เช่น ห้องสมุดประจำชุมชุม หรือหมู่บ้าน 

เป็นห้องสมุดเล็กๆ แต่ที่พิเศษคือ สมาชิกห้องสมุด สามารถเข้าไปใช้บริการได้ตลอดเวลา แม้แต่ในช่วงเวลาที่ห้องสมุดปิดทำการแล้ว

โดยใช้รหัสสมาชิก เปิดประตูเข้าไปค่ะ สามารถยืม /คืน หนังสือ ได้จากเครื่องบันทึกอัตโนัมัติค่ะ 

ที่สะดวกขึ้นมาอีกคือ การคืนหนังสือ สามารถส่งคืน ที่ห้องสมุดแห่งไหนก็ได้ ที่อยู่ในเครือเดียวกัน เช่นไปยืมจากห้องสมุดใหญ่ในเมือง แต่เอาไปคืนที่ห้องสมุดในหมู่บ้านก็ได้ เพราะข้อมูลจะลิ้งค์หากันหมด สะดวกสบายแบบนี้ ไม่แปลกใจเลย ว่าทำไมคนฟินน์ถึงมีนิสัยรักการอ่านค่ะ 




 

Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2561    
Last Update : 31 ธันวาคม 2561 5:29:01 น.
Counter : 2375 Pageviews.  

คริสต์มาสที่ฟินแลนด์ ดินแดนซานตาคลอส







บรรยากาศการฉลองคริสต์มาสที่ฟินแลนด์ มีความแตกต่างจากที่มุลเคยจินตนาการไว้ มากเลย หรืออาจจะเป็นเพราะเรามีความคุ้นเคย กับบรรยากาศ ความคึกคัก ครื้นเครง และสีสันของคริสต์มาสแบบเมืองไทยมามั้งคะ 


แต่คริสต์มาสที่นี่ ณ ดินแดนที่ได้ชื่อว่า เป็นบ้านเกิดซานตาคลอส สิ่งที่ได้สัมผัสคือ ความเงียบ ค่ะ เมื่อมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ จึงได้เรียนรู้ว่า ความเงียบสงบ นี่แหละ คือ เอกลักษณ์ และเสน่ห์ของคริสต์มาส แบบฟินแลนด์ เขาถึงมีคำว่า Joulurauha ซึ่งแปลว่า คริสต์มาสที่สงบสุข 


ช่วงต้นเดือนธันวาคม คนที่นี่จะเริ่มจัดงานเลี้ยง ที่ภาษาฟินเรียกว่า Pikkujoulu ( ปิคกุโย่วหลุ Pikku แปลว่า เล็กๆ Joulu แปลว่าคริสต์มาส รวมกันแล้ว น่าจะแปลว่า คริสต์มาสเล็กๆ มั้งคะ ต้องมีมั้งด้วยนะ เผื่อแปลผิด ฮ่าๆ)


คือการจัดเลี้ยง ในกลุ่มเพื่อน หรือ เพื่อนร่วมงาน อาจจะดื่มกาแฟ ทานเค้ก ทานอาหารพื้นเมือง หรือนัดดื่มสังสรร แบบเมาๆ ข้ามวันข้ามคืน กันเลยที่เดียวค่ะ 




ก่อนจะถึงวันคริต์สมาส จะเริ่มเห็นสีสีนขึ้นมานิดนึง ที่ต้องบอกว่าสีสัน ก็เพราะว่า ที่ฟินแลนด์ ช่วงฤดูหนาว บรรยากาศจะงียบ และหนาวมาก คนส่วนใหญ่จึงอยู่แต่ในบ้านค่ะ พอใกล้ๆคริสต์มาส จะเริ่มเห็นคนออกจากบ้าน ออกมาช็อป หาซื้อของขวัญ จึงเป็นช่วงที่ห้างร้านจะมีความคึกคักเป็นพิเศษค่ะ 


 ในภาพคือตลาดคริสต์มาสแถวบ้านค่ะ 








ที่เห็นด้านหลังคือโบสถ์เก่าแก่กลางเมือง Lappeenranta

 ( เมืองที่มุลอยู่ค่ะ ไว้มีโอกาสจะพาชมเมืองนะคะ )


 เป็นโบสถ์ไม้อายุกว่า สองร้อยปี


ของที่ขายในตลาดส่วนใหญ่ จะเป็นพวกงานฝีมือ เช่น ถุงเท้าถัก ผ้าพันคอ เทียนหอม หรือพวกขนมคุกกี้โฮมเมด 


ส่วนของราคานั้น เห็นมาตั้งแผงขายไม่ใช่จะถูกนะคะ แพงกว่าในห้างค่ะ 




พูดถึงเรื่องโบสถ์ ศาสนา เกี่ยวเนื่องกับเทศกาลคริสต์มาสนิดนึงค่ะ คนฟินน์ส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ นิกายลูเธอร์แรน 


แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ๆ ที่ไม่ได้นับถือศาสนาใดๆ


 ฉะนั้นในวันคริสต์มาส ในบางครอบครัว ก็อาจจะไม่ได้ไปโบสถ์ หรือไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เลยค่ะ 






วันที่ 24 ธันวาคม หรือวัน Jouluaatto ในภาษาฟินนิช


เป็นวันที่คนฟินน์ เขาจะฉลองคริสต์มาส กับครอบครัว

เป็นวันรวมญาติวันนึงก็ว่าได้ค่ะ แต่ละครอบครัว อาจจะมีประเพณีปฎิบัติ หรือรูปแบบการจัดงาน ที่แตกต่างกันไป ตามความสะดวกของแต่ละบ้าน แต่หลักๆ วันนี้คือวันของครอบครัวค่ะ 








ขอแนะนำอาหารประจำเทศกาล คริสต์มาสค่ะ ฟินแลนด์เป็นประเทศที่มีความน่ารักอย่างนึงค่ะ ในทุกๆเทศกาล 


หรือวันสำคัญ เขาจะมีอาหารประจำเทศกาลนั้นๆ เสมอ 




kinkku หรือแฮมค่ะ 



Kinkku เป็นเมนูหลักเลย บนโต๊ะอาหารของทุกบ้าน จะต้องมีแน่นอนค่ะ สำหรับการฉลองคริสต์มาส หน้าตาเจ้า กิ้งกุ ลักษณะจะเป็นแฮม ก้อนใหญ่ๆ  ที่ห้างเขาจะชั่งขายเป็นกิโล เราก็นำมาอบเองที่บ้าน รสชาติ ต้องบอกว่าอร่อยมากค่ะ ถูกปากคนไทยแน่นอน เอามาทำน้ำตกแบบบ้านเรา เริ่ดมากค่ะ 


จริงๆมีอาหารพื้นเมือง อีกมากมายหลายอย่าง ที่ใช้เสริฟในวันคริสต์มาส 


ขึ้นอยู่กับว่า บ้านไหนจะสะดวกจัดเตรียม แต่หลักๆคือ  กิ้งกุ นี่ล่ะค่ะ

 ที่ขาดไม่ได้เลย 


ใครมาเที่ยวฟินแลนด์ ช่วงคริสต์มาส ถ้าคุณไม่ได้ทาน กิ้งกุ แสดงว่าคุณพลาดนะคะ 


เล่าถึงเครื่องดื่มบ้าง ในส่วนของเครื่องดื่ม ที่บ่งบอกถึงกลิ่นอาย ของคริสต์มาส


 นั่นคือ Glögi เกลิกกิ ไม่แน่ใจว่าออกเสียงภาษาไทยถูกมั้ย

(ถ้าผิดขออภัยอย่างแรงค่ะ แฮ่ะๆ)



Glögi จะมีทั้งแบบที่ ผสมแอลกอฮอล์ และแบบที่ไม่มีแอลกอฮอล์ เลือกดื่มได้ตามชอบค่ะ 




เวลาจะดื่มเขาจะนำมาอุ่นบนเตา แต่ไม่ให้เดือดค่ะ แค่ร้อนก็พอ 

เติมลูกเกด หรือ อัลมอลด์สไลด์


รสชาติอธิบายยากจังค่ะ เอาเป็นว่ามันอร่อยเนาะ ดื่มอุ่นๆ ริมหน้าต่าง นั่งมองหิมะตก โอ๊ย ฟินค่ะ 


จริงๆ จะดื่มตอนไหนก็ได้นะ  แต่มันจะได้บรรยากาศมาก ถ้าดื่มช่วงคริสต์มาส เออออ ไม่รู้ทำไมเหมือนกันค่ะ และจะได้ความฟินเพิ่มขึ้น  ถ้าใช้แก้วเฉพาะสำหรับ Glögi เท่านั้น  หน้าตาแก้ว ก็ตามภาพนั่นเลยค่ะ 


นอกจากอาหารที่ต้องเสริฟบนโต๊ะ และเครื่องดื่มที่ต้องดื่ม ในวันคริสต์มาสแล้ว มีอีกสิ่งนึง ที่ขาดไม่ได้ ทำหรับคนฟินน์ นั่นคือ ซาวน่า ค่ะ 


ซาวน่า คือชีวิตจิตใจของคนที่นี่เลยล่ะ จะวันปกติ หรือวันพิเศษ คนที่นี่ก็เข้าซาวน่า 


แต่ความพิเศษ ของวันนี้คือ ในบางครอบครัว สมาชิกในครอบครัว อาจจะไม่ได้อยู่พร้อมหน้ากันมานาน วันนี้จึงถือเป็นวันที่พิเศษ ที่ทุกคนในครอบครัว จะได้เข้าซาวน่าพร้อมกันค่ะ 


การฉลองคริต์มาส ไม่ใช่เพียงแค่การฉลองของคน ที่ยังมีชีวิตอยู่เท่านั้นค่ะ ในวันนี้ ญาติๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่ จะไปจุดเทียนที่หลุมฝังศพ เพื่อรำลึกถึงคนที่ล่วงลับไปแล้วค่ะ 


ป่าช้าที่นี่ไม่น่ากลัวค่ะ ออกแนวสวยๆ ด้วยซ้ำไป ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ หายกลัวผีเลยค่ะ บรรยากาศมันไม่ทำให้เรากลัวค่ะ 





วันที่ 25 ธันวาคม วันคริสต์มาส เป็นวันหยุดพักผ่อนสบายๆค่ะ บางครอบครัวอาจจะเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศกันช่วงนี้ แต่ละปี คนฟินน์ เดินทางไปเที่ยวเมืองไทยเยอะมากค่ะ ช่วงคริสต์มาส 


วันที่ 26 ธันวาคม ภาษาฟินน์เขาจะเรียกวันนี้ว่า Tapaninpäivä ( ตะปะนินไปว่ะ) ถ้าทางอเมริกา ก็คือวัน Boxing Day นั่นเอง กิจกรรมที่ฟินแลนด์ คือ คนฟินน์เขาจะออกไปพบปะเพื่อนฝูง นัดเต้นรำกันที่ร้านอาหาร ประมาณนี้ค่ะ 


หลังคริสต์มาส คือช่วงเวลาแห่งความคึกคัก เพราะร้านค้าต่างๆ เขาจะลดราคาสินค้า แบบลดแลก แจกแถม กันเลยทีเดียว 


เป็นเวลาแห่งการช็อปประจำปี ขาช็อปห้ามพลาดนะคะ มีอะไรค้างคาใจ เก็บกด อยากได้ อยากซื้อมานาน แต่เกรงใจกระเป๋าสตางค์  โอกาสของคุณมาถึงแล้วค่ะ จัดไปโลดค่ะ


Hyvää Joulua สุขสันต์วันคริสต์มาสค่ะ 





 

Create Date : 05 มกราคม 2561    
Last Update : 31 ธันวาคม 2561 5:26:54 น.
Counter : 3655 Pageviews.  

เมือง Kotka ประเทศฟินแลนด์ กับงาน Meripäivät





Kotka เป็นเมืองที่อยู่ทางตอนใต้ ของฟินแลนด์ อยู่ไม่ไกลจากกรุงเฮลซิงกิ เมืองหลวงมากนัก ขับรถเพียงแค่ชั่วโมงกว่าๆเองค่ะ เป็นเมืองที่มีท่าเรือที่สวยงามมาก เป็นอีกเมืองที่น่าเที่ยวค่ะ


มีโอกาสได้ไปเที่ยวงาน Kotkan Meritpäivät เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมาค่ะ เป็นงานที่จัดแสดงเกี่ยวกับเรือชนิดต่าง ซึ่งเดินทางมาจากหลายประเทศทั่วโลก

Meritpäivät จะจัดขึ้นทุกปี ที่ Kotka ในช่วงเดือนกรกฎาคม ถือเป็นงานใหญ่พอสมควรค่ะ มีผู้เข้าชมงานมากกว่า 2 แสนคน เป็นงานที่มีผู้สนใจเข้าชมงาม มากที่สุดเป็นอันดับที่สองของฟินแลนด์เลยค่ะ ( อันดับ 1 คืองาน Pori jazz ) ใครมาฟินแลนด์ช่วงหน้าร้อน ถ้าอยู่ใกล้ๆ แนะนำให้ไปเที่ยวค่ะ งานจะจัดปีละ 4 วัน โดยงานจะเริ่มในวันพฤหัสบดี ถึงวันอาทิตย์

ภายในเรือยังเปิดให้เข้าชมฟรีด้วยค่ะ แต่ละลำเว่อร์วังอลังการจริงๆค่ะ









นอกจากจัดแสดงเรือแล้ว ภายในงานยังมีเทศกาลอาหารนานาชาติด้วย
แน่นอนว่า อาหารไทยเรา เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ
 อาหารที่ฝรั่งรู้จัก และชื่นชอบที่สุดน่าจะเป็น ผัดไทย กับปอเปี๊ยค่ะ


ดูเรือกันแล้ว แวะไปเดินเล่นในเมืองกันหน่อย 


ภาพนี้ดูแล้วถ้าเป็นที่ไทยเรา ก็คงปกติธรรมดา 
แต่ที่ฟินแลนด์ เป็นภาพที่ไม่ค่อยจะมีให้เห็นค่ะ
 จะเห็นก็เฉพาะหน้าร้อนนี่แหละ ที่จะมีรถขายไอศรีมมายืนขายแบบนี้
 ไม่ได้มีทุกที่ด้วยนะคะ มีเฉพาะในตลาดเท่านั้น



มองผ่านๆ ก็คล้ายๆตลาดนัดบ้านเราเหมือนกันเนาะ



St. Nicholas Orthodox Church 
ชื่อภาษาฟินนิชคือ Phyhän Nikolaoksen kirkko 
สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1799- 1801
 เป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดใน Kotka



ตรงนี้เป็นบริเวณท่าเรือ ที่อยู่อีกด้านนึง ซึ่งอยู่คนละที่กับที่จัดแสดงเรือนะคะ
บริเวณรอบๆ สวยมากค่ะ ด้านหน้ามีร้านกาแฟ นั่งชมวิวสบายๆ มีจักรยานให้เช่าปั่นเล่นรอบเมืองด้วยค่ะ











ดินจากท่าเรือมาเรื่อยๆ ก็จะเป็น Sapokka Water Garden 
ชื่อภาษาฟินนิชคือ Sapokan vesipuisto 
ข้างในสวยและร่มรื่นมากๆค่ะ เหมาะแก่การปั่นจักรยานไปรอบๆ หรือไปเดินเล่นชมดอกไม้สวยๆค่ะ


อากาศที่นี่ในฤดูร้อนก็ไม่ได้ร้อนมากค่ะ เย็นๆ สบายๆ ค่ะ
สะพานที่เห็นคือสะพานข้ามไป Sapokka Water Garden ค่ะ






ภายในสวนมีน้ำตกด้วยค่ะ เป็นอีกหนึ่งที่ ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือน Kotka ค่ะ





 

Create Date : 28 กรกฎาคม 2560    
Last Update : 31 ธันวาคม 2561 15:52:18 น.
Counter : 2129 Pageviews.  

พระอาทิตย์เที่ยงคืนในวัน Juhannus หรือ Midsummer ที่ฟินแลนด์

















 Juhannus คือวันฉลองฤดูร้อนของประเทศฟินแลนด์ หรือวัน Midsummer นั่นเอง ปีนี้คือปีที่ 4 ของมุลที่ได้ร่วมฉลองเทศกาลฤดูร้อนที่นี่ค่ะ ปีนี้ตรงกับวันที่ 23 -24 มิถุนายน (แต่ละปีอาจจะไม่ตรงกันค่ะ แต่ก็จะอยู่ราวๆ ระหว่างวันที่ 20-26 มิ.ย.) 

ยุฮันนุส ไม่ใช่เทศกาลพระอาทิตย์เที่ยงคืนนะคะ ฟินแลนด์ไม่มีเทศกาลพระอาทิตย์เที่ยงคืนค่ะ คือในวันมิดซัมเมอร์ จะเป็นวันที่มีช่วงเวลากลางวันนานมาก พระอาทิตย์จะตกดินเกือบๆ เที่ยงคืน แต่ก็จะไม่มืดสนิทเลยทีเดียว จะยังสว่างไสวอยู่ จนรู้สึกเหมือนกับว่าพระอาทิตย์ไม่ตกดินเลยทั้งวันทั้งคืน จากนั้นพระอาทิตย์จะโผล่พ้นข้ามฟ้าขึ้นมาอีก ประมาณตีสองกว่าๆค่ะ 


การฉลองมิดซัมเมอร์ที่ฟินแลนด์คือ คนฟินน์จะนิยมไปพักผ่อนและฉลองที่บ้านพักตากอากาศริมทะเลสาบ กิจกรรมที่ทำก็คือ กินๆๆ ดื่มๆๆ แล้วก็เข้าซาวน่า วนอยู่อย่างนั้นทั้งวันค่ะ  ความฟินคือ ออกจากฃาวน่าร้อนๆ แล้ววิ่งลงทะเลสาบแช่น้ำเย็นๆ ควันนี้ลอยออกจากตัว ฟินสุดๆ สดชื่นมากค่ะ คนฟินน์บอกว่า การซาวน่าร้อนจัดๆ แล้วลงแช่ในน้ำเย็นจัดทันที จะทำให้ระบบหมุนเวียนโลหิตทำงานดีค่ะ 


ปีนี้อากาศไม่ค่อยเป็นใจเลย อากาศเย็นค่ะ อุณหภูมิ ราวๆ +16 องศา ครึ้มฟ้าครึ้มฝนอีก แต่ยังโชคดี ที่มีแดดออกช่วงกลางคืน (แปปนึง) ให้ได้ชื่นชมความงามของพระอาทิตย์อยู่ ที่สำคัญถ่ายรูปทันด้วย ฮ่าๆ มีภาพมาฝากกันค่ะ 

ภาพนี้ถ่ายตอน สามทุ่ม แดดออกพอดี 


ภาพนี่คือบรรยากาศตอนเที่ยงคืนที่พระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว แต่ยังคงส่องสว่างอยู่ 


ภาพนี้ก็หลังเที่ยงคืนแล้วค่ะ


ในช่วงกลางคืนก็มีการก่อกองไฟ ที่ภาษาฟินนิชเรียกว่า Kokko แต่ปีนี้กรุ๊ป ที่มุลไปด้วยไม่ได้ก่อกองไฟค่ะ เลยไม่มีภาพมาเอง แต่ไปยืมภาพมาจาก Wikipedia ค่ะ พูดถึงไอ้เจ้า Kokko นี่ มาอยู่ปีแรกคือตั้งตารอมาก มันคืออะไรน๊อ 55  มันก็คือกองไฟธรรมดานี่แหละค่ะ เขาจะก่อที่ริมทะเลสาบในตอนกลางคืนของวันศุกร์ หรือถ้าจะพิเศษหน่อย บางที่เขาจะทำเป็นแพแล้วไปจุดไฟกลางแม่น้ำ  ถือเป็นหนึ่งในกิจจกรรมที่เป็นประเพณีปฎิบัติของการฉลองฤดูร้อนของฟินแลนด์ค่ะ 

การก่อกองไฟริมทะเลสาบที่เรียกว่า kokko ภาพจาก wikipedia


ภาพนี้ สี่ทุ่มกว่าๆค่ะพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าแล้ว





ช่วงยุฮันนุส ร้านค้า บริษัทต่างๆ ส่วนใหญ่จะปิดให้บริการ เย็นวันพฤหัส ทุกบ้าน
ต้องเตรียมตุนอาหารให้เพียงพอตลอดทั้งวีคเอ็นเลยค่ะ แต่หลังหมดช่วงวันหยุดแล้ว ร้านค้าจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งตามปกติ ซึ่งความพิเศษคือ หลังจากเทศกาลยุฮันนุส ร้านค้าที่นี่จะนำสินค้ามาลดกะหน่ำซัมเมอร์เซลส์ เป็นช่วงเวลาที่หลายๆคนโดยเฉพาะสาวๆ เตรียมตัวช็อปปิ้งกัน สาวๆที่ฟินแลนด์เตรียมตัวช็อปกันได้เลยค่ะ 






 

Create Date : 26 มิถุนายน 2560    
Last Update : 26 มิถุนายน 2560 4:46:01 น.
Counter : 4192 Pageviews.  

ใบไม้ผลิที่ฟินแลนด์







kevät หรือฤดูใบไม้ผลิในภาษาฟินนิชค่ะ ช่วงนี้ประเทศอื่นๆในยุโรปหลายๆประเทศ ได้เข้าสู่ฤดูร้อนกันแล้ว แต่ฟินแลนด์ ยังอากาศเย็นอยู่เลยค่ะ เมื่อกลางเดือนที่แล้วบางที่หิมะยังตกอยู่เลย ฤดูหนาวที่นี่ยาวนานมากค่ะ ฉะนั้นเมื่อถึงฤดูร้อนคนที่นี่จะตื่นตัวมากเป็นพิเศษที่จะได้เห็นแสงแดด บรรยากาศจะเริ่มมีชีวิตชีวา หลังจากที่มืดครึ้มมานาน การได้เห็นดออกไม้ดอกแรกโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน เป็นอะไรที่น่ายินดีมากค่ะ 

ดอกไม้ชนิดแรกที่จะเกิด และป็นสัญญลักษณ์ของฤดูใบไม้ผลิของฟินแลนด์ ชื่อว่าดอก Leskenlehti จะออกดอก ช่วงกลางเดือนเมษายนค่ะ


ทะเลสาบกลับมาสู่สภาพเดิมแล้วค่ะ หลังจากที่กลายเป็นน้ำแข็งมาหลายเดือน



บรรยากาศสีเขียวๆเริ่มกลับมาอีกครั้ง ตามท้องถนนก็เริ่มคึกคัก เริ่มเห็นคนออกมาปั่นจักรยานเล่นกันแล้ว โอ๊ยยย ว่าแล้วอยากให้มีหน้าร้อนนานๆ 



ดอกไม้นานาชนิดก็เริ่มเบ่งบานอีกครั้ง หลังจากที่หลับไหลมานานเกือบ 10 เดือน





ดอกไม้ชนิดนี้ชื่อว่า voi kukka เป็นดอกไม้ริมทางที่คนฟินน์ไม่ค่อยชอบ เขาบอกว่ามันคือวัชพืช แต่มุลว่ามันสวยดีเนอะ กินได้ด้วยนะคะ ใบแห้งเอาทำชา เห็นเพื่อนคนไทยบางท่าน ก็เอามาทำแกงขี้เหล็ก เพราะมีรสขมนิดๆ อยู่ต่างแดนก็แบบนี้แหละค่ะ ต้องรู้จักประยุกต์หาอาหารทดแทนอาหารไทยที่หายากค่ะ 















ร้านขายต้นไม้ก็กลับมาสดใสอีกครั้ง 



บลูเบอรรี่เริ่มออกดอกแล้ว อีกสองเดือนก็พร้อมเก็บแล้วค่ะ แต่สภาพอากาศปีนี้ไม่ค่อยดีเลย คาดว่าบลูเบอรรี่น่าจะไม่ดก


พบกันใหม่บล็อกหน้าค่ะ 




 

Create Date : 02 มิถุนายน 2560    
Last Update : 4 กรกฎาคม 2560 18:43:39 น.
Counter : 2620 Pageviews.  

1  2  3  4  

Pikku Mul
Location :
Finland Finland

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




เจ้าของบล็อกมาใช้ชีวิตอยู่ที่ฟินแลนด์ เรื่องราวในบล็อกนี้ จึงเขียนเกี่ยวกับประเทศฟินแลนด์เป็นส่วนใหญ่ค่ะ

บอกเล่าวิถีชีวิต (ไทย-ฟินน์) ในฟินแลนด์
รูปถ่ายต่างๆ ตามประสาคนบ้าถ่ายรูป 😄😄
ประสบการณ์ในต่างแดน (ถ้ามี😬)

ฟินแลนด์ เป็นประเทศที่มี วัฒนธรรม ภาษา และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอยู่หลายอย่าง เรื่องราว ที่เขียนในบล็อกนี้ เป็นเพียงมุมเล็กๆ มุมหนึ่ง จากคนไทย ที่มาใช้ชีวิตอยู่ฟินแลนด์ค่ะ

ภาพถ่ายทั้งหมด แม้จะไม่ได้สวยงามตามท้องเรื่อง..

บทความที่เขียน แม้จะไม่มีสาระอันใดก็ตาม..แต่ก็ขอสงวนสิทธิ์ไว้นะคะ ก่อนจะก็อปข้อความใดใด บอกกล่าวกันก่อนเนอะ เพื่อความสบายใจค่ะ

ขอบคุณที่แวะมาค่ะ

Pikku มุล...คร้าาา




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Pikku Mul's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.