ในวันพิเศษที่สุดของชีวิตลูกผู้หญิงคือัวนแต่งงาน ทุกคนย่อมอยากเป็นคนที่สวยที่สุด ทว่าสิ่งสำคัญคือการเลือกชุดเจ้าสาวอย่างไรให้เหมาะกับตัวเรามากที่สุด นั่นแหละเราถึงจะเป็นคนที่สวยที่สุดในวันวิวาห์ของเรา วันนี้ผู้เขียนจึงมาขอความรู้เคล็ดลับการเลือกชุดเจ้าสาว จากหนึ่งในกูรูด้านการออกแบบเสื้อผ้าชุดเจ้าสาวของเมืองไทย คือ คุณสาวิตรี อัครมาส หรือกนิษฐ์ เจ้าของห้องเสื้อกนิษฐ์ (Ganit The Wedding Gallery) โดยวิธีการเลือกชุดในครั้งนี้เราจะมาแก้ไขข้อบกพร่องของร่างกาย โดยแบ่งตามรูปร่างผู้หญิงลักษณะต่าง ๆ 

ผู้หญิงรูปร่างอวบอ้วนและรูปร่างใหญ่

          ผู้หญิงที่มีรูปร่างแบบนี้ควรเลือกชุดเจ้าสาวแบบแขนยาว และมีรูปทรงที่ไม่บานมาก สวมคอร์เซ็ท (Corset) เข้ารูปนิดหนึ่ง เป็นคอร์เซ็ทที่สามารถเก็บช่วงเอวได้ ดึงเอวให้ดูบางลง ปั้นรูปร่างให้เพรียวลง แต่ผู้หญิงที่มีรูปร่างแบบคนอ้วนหรือรูปร่างแบบนี้ สามารถสวมแพทเทิร์นที่มีรายละเอียดได้เช่นกัน เพราะจะช่วยดึงจุดสนใจมากกว่ารูปร่าง ซึ่งคนที่อ้วนแต่รูปร่างสมส่วนก็จะโชคดีกว่าคนที่อ้วนแล้วไม่สมส่วน คือมีทางเลือกได้มากกว่า โดยแบบที่เหมาะกับคุณมากที่สุด คือ ทรงเอไลน์ (A-line) แต่ไม่ควรใส่ทรงแชท (Sheath) ที่ทิ้งตัวลงมาหลวม ๆ ไม่รัดรูปและไม่เน้นรูปร่าง เพราะจะทำให้คุณดูเหมือนกำลังตั้งครรภ์

ผู้หญิงรูปร่างผอมบางและตัวเล็ก

          ต้องเลือกพวกบอลกาวน์ (Ball Gown) ฟองฟู และเกาะอกทรงเจ้าหญิงหรือทรงปริ๊นเซส (Prinoess) กระโปรงบานแบบเจ้าหญิงก็ได้ แต่จริง ๆ ทรงเจ้าหญิงนี้ผู้หญิงสามารถใส่ได้แทบทุกรูปร่างอยู่แล้ว ยกเว้นคนอ้วน ถ้าเป็นผู้หญิงรูปร่างเล็กใส่แล้วยิ่งน่ารัก ทำให้เธอดูมีสัดส่วนมากขึ้น ข้อดีอีกอย่างของคนตัวเล็ก คือ ใส่ได้ทุกรูปแบบ จะให้มีลูกไม้อย่างไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นแขนยาว แขนสั้น หรือจะให้มีรายละเอียดมากแค่ไหนก็ได้ ซึ่งผู้หญิงที่ตัวเล็กแต่สมส่วนก็จะได้เปรียบหน่อย หรือจะเป็นทรงแชท (Sheath) ที่ทิ้งตัวลงมาหลวม ๆ ไม่รัดรูปแบบไม่เน้นรูปร่าง ผู้หญิงร่างเล็กใส่ทรงนี้ได้สบาย

 ผู้หญิงที่มีหน้าอกเล็ก

          ถ้าคุณหน้าอกเล็กไม่ว่าจะสูงหรือตัวเล็กก็ตาม เลือกเป็นพวกทรงเอ็มไพร์จะดีกว่ามีเกาะอกได้ เพราะช่วงบนเล็ก หรือเป็นทรงแบบว่าปิดคอลงมา หรือจะเป็นคว้านคอก็ได้ คอตั้งจะได้ไม่ไปเน้นหน้าอกมาก แต่หน้าอกเล็กก็สามารถเสริมเพิ่มขึ้นมาได้ หากให้ดีที่สุดกับผู้หญิงที่ช่วงบนเล็ก ทรงเอ็มไพร์ (Empire) จะดีมาก ซึ่งทรงนี้ลักษณะเข้ารูป ขอบเอวสูงต่อกระโปรงตั้งแต่ใต้อกลงมาแล้วปล่อยชายบานเล็กน้อยจะทำให้ดูสูงโปร่ง แต่ผู้หญิงหน้าอกใหญ่ไม่ค่อยเหมาะกับทรงนี้ เพราะจะทำให้ช่วงอกล้นมากไป

ผู้หญิงที่ไม่มีเอว สะโพกใหญ่ ขาใหญ่

          คำว่าผู้หญิงไม่มีเอวไม่จำต้องเป็นผู้หญิงอ้วนเสมอไป เพราะผู้หญิงอ้วนบางคนก็สมส่วน แต่ในที่นี้รวมถึงผู้หญิงผอมแต่ไม่สมส่วนด้วย ชุดเจ้าสาวที่เหมาะกับผู้หญิงรูปร่างแนวนี้ คือ ทรงเอไลน์ (a-line) ที่กระโปรงบานใส่ลงมาตั้งแต่เอว-สะโพก หรือจะเป็นทรงบอลกาวน์ ก็ล้วนสามารถช่วยปิดพรางสะโพกได้

 ผู้หญิงคอสั้น

          ต้องเปิดคอสักหน่อย ช่วยให้คอดูไม่ตันเกินไป แต่จะดีมาก ๆ ถ้าเปิดไหล่ ถึงวันวิวาห์คุณก็จะเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุด ส่วนรูปแบบใส่ได้ทั้งทรงเอไลน์ ทรงบอลกาวน์ และทรงเจ้าหญิง

 ผู้หญิงคอยาว

          ใส่คอตั้งหรือคอจีน คอปิดได้หมด แต่ถ้าคอยาวมากไปไม่เหมาะกับชุดเปิดไหล่สักเท่าไร ถ้ารูปร่างส่วนอื่นไม่มีปัญหาก็สามารถใส่ได้แทบทุกทรง รวมถึงทรงสลิปเดรส (Silp Dress) แนบเนื้อ ทำให้ดูทันสมัยคล่องตัวมั่นใจในรูปร่างของตนเอง ซึ่งผู้หญิงที่ไม่ชอบรายละเอียดมากก็อาจเลือกทรงนี้ได้

 ผู้หญิงแขนใหญ่

          เปิดอกได้แต่ต้องดีไซน์โดยนำผ้ามาบังช่วงต้นแขน ถ้าไหล่สวยแต่แขนใหญ่อาจใช้ผ้าบาง ๆ มาโอบไหล่ก็จะช่วยได้ หรือนำลูกไม้บาง ๆ มาปิด นอกจากนี้สำหรับผู้หญิงที่มีรูปหน้ากลม การทำผมเกล้าสูงขึ้นไปก็ช่วยได้ เพราะเป็นการดึงหน้าให้ยาวขึ้นการตัดชุดเจ้าสาวทั้งที จะให้ดีควรได้รับคำปรึกษาจากกูรูด้านการออกแบบเพื่อเขาจะได้ช่วยปรับสรีระให้แก่คุณผู้หญิง แต่ละคนก็มีรูปร่างและมีข้อดีข้อด้อยต่างกัน สำหรับข้อด้อย คุณก็สามารถเลือกที่จะปรับแต่งใหม่ได้ แต่สำหรับข้อดีอย่างไรก็ต้องโชว์ เช่น ผู้หญิงไหล่สวยอย่างไรก็ต้องเปิดไหล่ ผู้หญิงแผ่นหลังสวยก็ควรเปิดหลัง หรือผู้หญิงที่มีหน้าอกสวยก็ลองให้ช่างคว้านช่วงอกหน่อย สิ่งเหล่านี้จะยิ่งทำให้คุณสวยและมีเสน่ห์มากขึ้น

เทรนด์ที่มาแรงที่สุด

          ส่วนเทรนด์แบบชุดเจ้าสาวที่กำลังมาแรงที่สุดไปจนถึงปีหน้า คือ ทรงเมอร์เมด (Mermaid) หรือทรงหางปลาเป็นทรงที่พัฒนามาจากทรงเอไลน์ คือ ตัวเสื้อเข้ารูปแต่กระโปรงจะบานยาวย้วยลากระพื้น ผู้หญิงสูงใส่แล้วสวยผู้หญิงตัวเล็กใส่แล้วจะทำให้สง่ามากขึ้น หางยิ่งยาวยิ่งดูอลังการ เวลาที่ถ่ายรูปแล้วซ้อนมุมกล้องขึ้นไปก็จะยิ่งทำให้เจ้าสาวสวยสง่าน่าประทับใจมาก ส่วนสีที่นิยมสูงสุด คือ สีขาวออฟไวท์ 70 เปอร์เซ็นต์ รองลงมา คือ ขาวงาช้าง ขาวแชมเปญ ขาวอมชมพูอ่อน ขาวอมเงิน และขาวอมทอง โดยอาจเป็นการผสมผสานตามธีมของงาน และอาจนำเครื่องประดับมาตกแต่งเพิ่มเติมให้มีความพิเศษมากยิ่งขึ้น

เพิ่มคำอธิบายภาพ