Group Blog
มาดู 10 เหตุผลที่เราไม่ควรเปิดร้านขายของใน Facebook!
10 เหตุผลที่เราไม่ควรเปิดร้านขายของใน Facebook!

1. คุณอย่าฝากความหวังทั้งหมดไว้บน facebook เพราะความที่เขาเปลี่ยนแปลงบ่อย เราต้องคอยตามอยู่สม่ำเสมอ

2. facebook ของคุณจะติดหน้าแรกหน้าเดียวถ้าค้นหาใน Google ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เวลาสนใจจะซื้อสินค้าเขาจะค้นหาใน Google ซึ่งถ้าเราไม่ใช้คำค้นหาเป็นชื่อร้าน โอกาสที่ facebook ของคุณจะแสดงในหน้าแรกๆ ของ Google นั้นน้อยมาก

3. facebook จะเผยแพร่โพสไปยังหน้าฟีดของผู้ติดตามแค่ 1% น้อยมาก แล้วเรามาลองคำนวนดูว่ามีผู้ติดตามร้านคุณ 50,000 คน ในเวลาที่เราโพสอะไรก็แล้วแต่ จะมีคนเห็นโพสคุณแค่ประมาณ 500 คนเท่านั้น

4. facebook ไม่ใช่บ้านของเรา หาก facebook ล่ม โดนแบน หรือบล็อกเราขึ้นมาเราจะทำอย่างไร

5. facebook ดูรูปยาก โดยเฉพาะลูกค้าที่ดูหน้า facebook ผ่านทาง smartphone จะดูยากเพราะรูปจะถูกเรียงตามวันที่โพส ไม่ได้เรียงตามอัลบั้ม และรูปเหล่านี้จะกระจัดกระจายไม่เป็นระเบียบ

6. facebook ไม่แจ้งเตือนโพส ปัญหาที่หลายๆคนเจอคือลูกค้าโพสคอมเม้นต์สอบถามรายละเอียดสินค้า แต่เราจะไม่ได้รับการแจ้งเตือน ไม่รู้ว่ามีคนโพสถาม ก็เลยไม่ได้ตอบ ทำให้เสียโอกาสในการขายไป

7. ลูกค้าไม่ได้สั่งซื้อสินค้าในในตอนนั้น ซึ่งคนส่วนใหญ่จะกด like ก่อนแล้วมาดูทีหลัง เอาละซิร้านชื่ออะไร จำชื่อร้านไม่ได้

8. คนที่ทำธุรกิจแบบคุณมีมากมายมหาศาล ถ้าร้านคุณไม่มีชื่อเสียงจริงๆ โอกาสเกิดยากมาก

9. ร้านค้าใน facebook มีความน่าเชื่อถือน้อยมาก เห็นได้ว่าหลายคดีดังๆ ในพันทิป ล้วนมาจากร้านใน facebook เพราะปิดง่าย และตามตัวยาก

10. เราจะไม่สามารถขายของได้ในครั้งเดียว เพราะต้องคอยคุยกับลูกค้าตลอด ไม่ว่าจะทั้งทาง inbox ใน facebook หรือตอบไลน์ลูกค้า หากเราตอบช้า ลูกค้าก็จะเบี่ยงเบนไปซื้อร้านอื่นที่เขาติดต่อไว้เช่นเดียวกัน และวิธีนี้ไม่เหมาะสำหรับคนที่มีงานประจำ

ดังนั้นเราควรมีเว็บไซต์ของเราเองเพื่อความน่าเชื่อถือ และตอบสนองได้ตามใจที่เราต้องการทุกอย่างหรือยัง? แล้วเราก็ทำทั้งสองอย่างไปพร้อมกันเพื่อเป้าหมาย เป้าหมายนั่นคือความสำเร็จนั่นเอง

วิธีการทำการตลาดผ่าน facebook ที่เหมาะสม และอยากแนะนำนั้นมีอะไรบ้าง
  • ใช้ facebook เป็นตัวโปรโมตและดึงลูกค้ามายังเว็บไซต์หลักของเรา เช่น โพสรูปสินค้าที่ดึงดูด เขียนบรรยายสั้นๆ และน่าสนใจ พร้อมใส่ลิ้งค์กลับมาที่หน้าเว็บไซต์ของคุณ
  • โพสสิ่งที่น่าสนใจ เพื่อเพิ่มจำนวนไลค์ และให้เพจคุณดูไม่ Hard sale มากเกินไป ให้คนอื่นนั้นได้มีส่วนร่วมบ้าง
  • อย่าไปโพสเพจอื่นให้มากจนเกินไป ควรโพสให้พอดูงาม ไม่งั้นจะดูเป็นการสแปม
  • ควรลง Promote กับ facebook (facebook campaign) เพราะเราจะกำหนดได้ว่าอยากให้โฆษณาของคุณแสดงที่เป้าหมายใด เลือกแสดงเพศ อายุ ชอบสินค้าอะไร ได้หมด จะทำให้ยอดไลค์ของคุณเพิ่มขึ้น รวมทั้งโอกาสในการขายก็มากขึ้นด้วย


ตัวแทนจําหน่ายเสื้อผ้า รับตัวแทนจําหน่ายเสื้อผ้า ตัวแทนจำหน่ายเสื้อผ้า ตัวแทนขายเสื้อผ้า ตัวแทนจําหน่ายเสื้อผ้าแฟชั่น สมัครตัวแทนจําหน่ายเสื้อผ้า ตัวแทนจำหน่ายเสื้อผ้าพร้อมส่ง รับสมัครตัวแทนจําหน่ายไม่ต้องลงทุน รับสมัครตัวแทนจําหน่ายเสื้อผ้า ตัวแทนขายเสื้อผ้าออนไลน์ ด่วนรับสมัครตัวแทนจำหน่ายเสื้อผ้า สมัครตัวแทนขายเสื้อผ้า รับตัวแทนจำหน่ายไม่ต้องสต๊อกสินค้า อยากเป็นตัวแทนจำหน่าย ตัวแทนขายเสื้อผ้าแฟชั่นรับตัวแทนจำหน่ายฟรี อยากเป็นตัวแทนจําหน่ายเสื้อผ้า ตัวแทนขายเสื้อผ้าพร้อมส่ง ตัวแทนจําหน่ายเสื้อผ้าเกาหลี



Create Date : 21 พฤษภาคม 2558
Last Update : 21 พฤษภาคม 2558 2:18:10 น.
Counter : 1351 Pageviews.

0 comment
7 ขั้นตอน เริ่มต้นกับการขายของออนไลน์
หลายท่านได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับการขายของออนไลน์ ว่าควรเริ่มต้นอย่างไร เลือกนำสินค้าประเภทไหนมาขายจึงจะขายได้ การลงทุนการส่งสินค้าให้ลูกค้าควรทำอย่างไร แน่นอนค่ะว่าการทำธุรกิจออนไลน์มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ สำหรับบุคคลทั่วไปที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการขายของออนไลน์ หรือการทำเว็บไซต์มาก่อนเลย

เพราะนอกจากที่เราจะต้องเปิดเว็บไซต์เป็นของตัวเองแล้ว ยังต้องมานั่งโปรโมทเว็บขายสินค้าของเราให้เป็นที่รู้จักเพื่อที่จะขายสินค้าของเราได้ อีกอย่างการแข่งขันทางตลาดบนโลกออนไลน์ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อีกต่อไปเหมือนเมื่อก่อนแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เราไม่รู้ว่าจะขายอะไรใช่ไหมค่ะ  ?

7 ขั้นตอน เริ่มต้นกับการขายของออนไลน์

ขายของออนไลน์ ยังเป็นอะไรที่ใหม่อยู่ สำหรับท่านใดที่ไม่เคยทำมาก่อนหรือท่านที่กำลังจะเริ่มต้นธุรกิจนี้ ต้องบอกเอาไว้ก่อนเลยค่ะว่า การทำธุรกิจออนไลน์นั้นมีอยู่สองอย่างด้วยกันคือ รุ่ง กับ ร่วง  อย่างไรก็แล้วแต่ มันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน ทุกธุรกิจไม่ว่าจะทำอะไรก็แล้วแต่ล้วนแล้วมีปัจจัยเสี่ยงกันทั้งนั้น มาดูสิว่าเริ่มต้นขายของออนไลน์ควรมีอะไรบ้าง

  • แผนการตลาด
  • งบประมาณ
  • สินค้าที่จะนำมาขาย
  • เว็บไซต์ขายสินค้า
  • บริการชำระเงิน
  • บริการจัดส่ง
  • บริการหลังการขาย

1.แผนการตลาดออนไลน์ แผนการตลาดคือสิ่งสำคัญที่สุดของการทำธุรกิจเป็นจุดชี้ชะตาได้เลยค่ะ ว่าธุรกิจของเราจะสามารถไปต่อได้หรือไม่ หากเราไม่มีแผนการตลาดที่ดีไม่มีการวางแผนไม่มีเป้าหมายที่กำหนด อนาคตในธุรกิจออนไลน์นั้นคงจบลงทันที ควรเริ่มต้นแผนการตลาดกันอย่างไรดี

  • กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน มีขั้นตอนการปฏิบัติเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย อย่างเช่น ทำอย่างไรให้สามารถขายสินค้าของเราได้ เริ่มต้นด้วยการเปิดเว็บไซต์แล้วทำการโปรโมทสินค้าด้วยการใช้โฆษณาเป็นสื่อเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย อย่างนี้เป็นต้น
  • งบประมาณที่ใช้ในการปฏิบัติตามแผน
  • การประเมินแผน การตรวจสอบ และการปรับปรุง

2.งบประมาณลงทุน ธุรกิจจะเติบโตขึ้นมาได้จะต้องมีเงินทุนสนับสนุน เรื่องงบประมาณคงเป็นปัจจัยสำคัญอันดับต้นๆ ในการลงทุนไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในการผลิตสินค้า สั่งซื้อสินค้ามาขาย ค่าใช้จ่ายในการเปิดเว็บไซต์ ค่าใช้จ่ายในการโฆษณาโปรโมทเว็บ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการขนส่ง นี่คือ งบประมาณที่เราต้องคำนึงถึงเสมอในการทำธุรกิจออนไลน์ (ต้นทุนเป็นสิ่งที่สำคัญมากถ้าธุรกิจนั้นๆ มีการแข่งขันกันสูง)

3.ควรเลือกสินค้าที่จะนำมาขายอย่างไร เลือกขายสินค้าอะไรดี ยังคงเป็นปัญหาโลกแตกที่ใครๆ ต่างถามกันนักกันหนาว่า จะขายสินค้าอะไรดี ขายของแบบไหน รับมาจากที่ใดราคาขายส่งกี่บาท บางท่านอยากขายแต่ไม่รู้จะขายอะไรดี ถ้าให้ตอบพูดแบบคนทั่วไปที่ตอบกัน ก็หาสินค้าที่เราถนัดหรือที่เราชอบมาขาย แต่ถ้าให้ตอบแบบนักการตลาดก็ต้องตอบว่า ตลาดต้องการอะไรก็ขายสินค้าตัวนั้นไป อย่างไรก็ตามทั้งสองคำตอบนี้เราควรจะมีเอาไว้ในการพิจารณาเลือกที่จะนำสินค้ามาขาย ส่วนกำไร และต้นทุนเป็นอีกปัจจัยในการตัดสินใจที่จะนำสินค้ามาขายด้วย เพราะการขายของออนไลน์ไม่สามารถควบคุมราคาขายได้ จะเห็นได้ว่ามีการขายตัดราคากันเกิดขึ้นบ่อยๆ ตรงนี้ถ้าใครมีราคาต้นทุนของสินค้าต่ำๆ โอกาสที่จะอยู่รอดก็สูงค่ะ เรื่องของสินค้า จริงๆ แล้วการขายสินค้าออนไลน์สามารถขายอะไรก็ได้ตามใจที่ต้องการ ตามความสะดวกของเรา จะเห็นได้ว่าสินค้าที่มีขายอยู่บนอินเทอร์เน็ตมีขายกันตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ มีทุกอย่าง รวมไปถึงสินค้าของมือสองด้วย ถ้าไม่เชื่อก็ลองค้นหาดูได้เลยค่ะ มีทุกอย่างจริงๆ

4.เว็บไซต์ขายสินค้า อันที่จริงเว็บไซต์ขายสินค้าไม่จำเป็นจะต้องเป็นเว็บไซต์ของเราเพียงอย่างเดียวก็ได้ จะเห็นได้ว่าบางท่านไม่จำเป็นต้องมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองเลยเพียงแค่อาศัย ขายของตามชุมชนเว็บบอร์ดต่างๆ แต่ที่นิยมใช้กันมากขึ้นคงจะหนีไม่พ้นเฟสบุ๊ค (Facebook) และคลิปวิดีโอ ยูทูป โซเชียลแคม ที่ทำคลิปรีวิวสินค้าเกี่ยวกับความสวยงาม เครื่องสำอาง สุขภาพ ฯลฯ ถ้าจะให้เจาะลึกไปกว่านี้คงอีกนานเอาไว้เขียนในหัวข้อบทต่อไปดีกว่านะค่ะ

สำหรับท่านใดที่ไม่มีความรู้ เกี่ยวกับการสร้างเว็บไซต์มาก่อนแต่พอใช้งานคอมพิวเตอร์ได้บ้าง ปัจจุบันนี้มีผู้ให้บริการ “เปิดร้านค้าออนไลน์” อยู่หลายเจ้าที่คอยให้บริการเว็บไซต์สำเร็จรูป ที่จะทำให้ท่านสามารถมีเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องมีความรู้ก็สามารถมีเว็บไซต์ขายสินค้าเป็นของตัวเองได้

 ผู้ให้บริการเว็บไซต์สำเร็จรูป

  • www.weloveshopping.com
  • www.lnwshop.com
  • www.taradplaza.com
  • www.bantumweb.com 

5.บริการเรื่องการชำระเงิน สำหรับการขายสินค้าออนไลน์นั้น มีขั้นตอนการชำระเงินอยู่หลายวิธีด้วยกัน อย่างเช่น การโอนเงินผ่านทางธนาคารออนไลน์ paypal visa  หรือผ่านทางตู้ ATM  , 7-Eleven ,บัตรเติมเงิน และเก็บเงินปลายทาง เลือกใช้วิธีใดก็ได้แล้วแต่ความสะดวกของลูกค้าของเรา ว่าสะดวกชำระผ่านช่องทางไหนง่ายที่สุดเราก็ควรมีให้บริการ

6.บริการจัดส่งสินค้า ส่งสินค้ากับไปรษณีย์ไทยการจัดส่งสินค้าทุกวันนี้มีการพัฒนาบริการรับส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีผู้ให้บริการอยู่หลายเจ้าแต่ส่วนใหญ่ที่นิยมเลือกใช้กันมากที่สุดคือ ไปรษณีย์ไทย เพราะมีความสะดวกและรวดเร็วครอบคลุมทั่วประเทศ หากเป็นสินค้าที่มีความใหญ่โตคงต้องพึ่งพาบริการอย่างของ DHL หรือ fedex เพราะมีความรวดเร็ว ถ้าเป็นจังหวัดที่อยู่ติดๆ กัน สามารถส่งสินค้าผ่านทางขนส่งกับรถประจำทางซึ่งเป็นที่นิยมกันพอสมควร เพราะส่งสินค้าไม่เกิน 1 วันนับจากวันที่ส่ง ให้ลองไปติดต่อกับคิวรถกันดูก่อนนะค่ะ

7.บริการหลังการขาย สิ่งที่เจ้าของธุรกิจต้องให้ความสำคัญ ไม่แพ้กว่าสิ่งอื่นใดก็คือเรื่องบริการหลังการขาย หรือก่อนขาย เพราะจะทำให้ลูกค้าที่ซื้อสินค้าจากเราไป รู้สึกอบอุ่นและมั่นใจในผลิตภัณฑ์ทำให้เรายังคงมีลูกค้ารายเก่าอยู่ สินค้าบางอย่างเรื่องของราคานับว่าเป็นเรื่องที่รองลงมาจากการบริการ ตัวอย่างเช่น เราต้องการเปิดเว็บไซต์ออนไลน์เพื่อที่ต้องการขายสินค้า แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกเปิดกับเจ้าไหนดีเพราะมีบริการเปิดร้านค้าอยู่มากมาย ลองให้ท่านทำการส่งเมล์ไปดูหน่อยสิว่าแต่ละเจ้าใช้เวลาในการตอบจดหมายของเรากันกี่นาทีหรือเป็นชั่วโมง นี่คือตัวอย่างของการให้บริการก่อนการขายใครช้าเป็นอดค่ะ

ตัวอย่างบริการหลังการขายเป็นอย่างไร ง่ายๆ เมื่อทำการซื้อสินค้าไปแล้ว แต่มีปัญหาติดต่อไปแล้วนานมาก กว่าจะแก้ปัญหานั้นได้ บางเจ้าติดต่อไม่ได้เลยสุดท้ายคงต้องโบกมือลา บ๊าย..บาย.. ในที่สุด ถ้าไม่อยากให้ลูกค้าของเราเป็นเช่นนั้น ก็ควรใส่ใจเรื่องการบริการ ถึงลูกค้าไม่มีปัญหาอะไรก็ควรส่งอีเมล์ส่วนลด หรือทักทายไปบ้างก็ยังดี

สำหรับท่านใดที่สนใจอยากทำธุรกิจแต่ยังไม่อยากลงทุนเองวันนี้เราเปิดรับ

รับสมัครตัวแทนจําหน่ายขายเสื้อผ้าแฟชั่นเกาหลีพร้อมส่งออนไลน์ฟรี ไม่ต้องลงทุน ไม่ต้องสต๊อกสินค้า

ตัวแทนจําหน่ายเสื้อผ้า รับตัวแทนจําหน่ายเสื้อผ้า ตัวแทนจำหน่ายเสื้อผ้า ตัวแทนขายเสื้อผ้า ตัวแทนจําหน่ายเสื้อผ้าแฟชั่น สมัครตัวแทนจําหน่ายเสื้อผ้า ตัวแทนจำหน่ายเสื้อผ้าพร้อมส่ง รับสมัครตัวแทนจําหน่ายไม่ต้องลงทุน รับสมัครตัวแทนจําหน่ายเสื้อผ้า ตัวแทนขายเสื้อผ้าออนไลน์ ด่วนรับสมัครตัวแทนจำหน่ายเสื้อผ้า สมัครตัวแทนขายเสื้อผ้า รับตัวแทนจำหน่ายไม่ต้องสต๊อกสินค้า อยากเป็นตัวแทนจำหน่าย ตัวแทนขายเสื้อผ้าแฟชั่น รับตัวแทนจำหน่ายฟรี อยากเป็นตัวแทนจําหน่ายเสื้อผ้า ตัวแทนขายเสื้อผ้าพร้อมส่ง ตัวแทนจําหน่ายเสื้อผ้าเกาหลี




Create Date : 18 พฤษภาคม 2558
Last Update : 21 พฤษภาคม 2558 2:12:09 น.
Counter : 540 Pageviews.

0 comment
ข้อควรระวังสำหรับการขาย
 ข้อที่ 1 จงขายคุณค่าหรือประโยชน์ของสินค้า (ถ้ารู้จักคิดและใช้สติปัญญา) ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการ ของลูกค้าได้ หรือ แก้ไขปัญหาของลูกค้าให้ลุล่วงไปได้


       ข้อที่ 2 สินค้าทุกอย่างจะขายได้ จะต้องสัมพันธ์หรือเกี่ยวข้องกับความต้องการพื้น ฐานของมนุษย์ (Basic Needs) ซึ่งเราสามารถเร่งเร้าพัฒนาให้มีขึ้นได้ทุกเวลาและโอกาส


       ข้อที่ 3 การซื้อสินค้าโดยอาศัยหลักการและเหตุผลมีเป็นส่วนน้อย (ส่วนใหญ่ซื้อเพราะอารมณ์มากกว่า)


       ข้อที่ 4 ความเฉื่อยชาของลูกค้า (ในการตัดสินใจซื้อ) และความเฉื่อยชาของคุณ (ในการเสนอขาย) เป็นศัตรูที่ยิ่งใหญ่ต่องานขาย แต่ก็สามารถนำมาใช้เป็นประโยชน์ได้ (ถ้ารู้วิธี)


       ข้อที่ 5 การขายที่มีวิธีการพลิกแพลงเปลี่ยนแปลงปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่เสมอ มีผลดีกว่าการขายแบบก้าวร้าวหรือการขายแบบบีบบังคับ (ใช้อิทธิพลหรือลูกตื้อ)


       ข้อที่ 6 ไม่มีสินค้าใด (ในโลก) ที่ขายได้เพราะมีคุณภาพดีเลิศเพียงอย่างเดียว (ถ้าไม่มีการขาย การโฆษณาช่วยสนับสนุน)


       ข้อที่ 7 สินค้าราคาถูกหรือราคาแพงอาจไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ในการตัดสินใจซื้อของลูกค้า (ฝีมือคนขายมีส่วนสำคัญมากกว่า)


      ข้อที่ 8 หน้าที่สำคัญที่คุณพึงกระทำ คือ การสร้างความสนใจและความต้องการอย่างแรงกล้า ในการซื้อสินค้าของลูกค้า


      ข้อที่ 9 การโต้เถียงชนะลูกค้าเป็นบ่อเกิดแห่งความหายนะของการขาย (อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก แต่ลมปากหวานหูไม่รู้หาย / พูดเป็นดีกว่าพูดได้)


      ข้อที่ 10 ในการเสนอขายแต่ละครั้ง หากลูกค้าไม่มีข้อโต้แย้งเลย ไม่ได้หมายความว่า คุณจะประสบความสำเร็จในการขายเสมอไป (เพราะลูกค้าอาจไม่สนใจในสิ่งที่คุณอธิบายก็เป็นได้)


      ข้อที่ 11 การขายหลายครั้งประสบผลล้มเหลวเสียตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้น (เพราะขาดความเชื่อมั่นในตนเองของนักขาย)


      ข้อที่ 12 กระบวนการขายแบ่งได้สอดคล้องกับภาวะความต้องการของมนุษย์ทั้ง 4 ระดับ (ลาภ, ยศ, สรรเสริญ, สุข )


      ข้อที่ 13 ในแต่ละขั้นตอนของกระบวนการขาย จะต้องมีรายละเอียดปลีกย่อยที่นักขายพึงจดจำ และนำไปปฏิบัติให้บังเกิดผลด้วย


      ข้อที่ 14 การขายที่ได้ผลอาจขึ้นอยู่กับคำว่า โอกาส (การขายที่ถูกทั้งบุคคล, กาละ, และเทศะ)


      ข้อที่ 15 การเสนอขายตัวต่อตัว (จับเข่าคุยกันได้) จะเป็นการขายที่ได้ผลมากที่สุด


      ข้อที่ 16 ลูกค้าไม่จำเป็นต้องถูก หรือเป็นผู้วิเศษเสมอไป (ถ้าคุณเป็นเทวทูต คุณจะมีบทบาทและความสำคัญมากกว่า)


----------------------



Create Date : 18 มีนาคม 2558
Last Update : 21 พฤษภาคม 2558 2:11:21 น.
Counter : 775 Pageviews.

0 comment
อะไรบ้างที่ไม่ควรพูด หรือ บอกกับลูกค้า
1.การโกหก (A Lie) : ไม่มีใครชอบการโกหก เพราะการโกหก อาจจะช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่อาจจะสร้างปัญหาในระยะยาวได้ (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อถูกลูกค้าจับได้ ทีนี้ก็สูญเสียความเชื่อถือกันไปเลย) จำไว้ว่าถ้าลูกค้าจับได้ว่าเราโกหก เพียงแค่ครั้งเดียว คุณก็จะกลายเป็นคนโกหกและไม่น่าไว้วางใจในการทำธุรกิจไปในทันที


2.ความจริงทั้งหมด (The Entire Truth) : ไม่มีลูกค้าคนไหนที่อยากรู้เรื่องทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้าคงไม่อยากรู้ว่า โปรเจคอาจจะไม่เสร็จ เพราะว่าพนักงานคนหนึ่งในทีม เกิดล้มแขนหัก มาไม่ได้ เป็นต้น


3. ไม่ (No): อย่าพึ่งปฏิเสธกับลูกค้า ให้ลองหาทางเลือกต่างๆดู เพราะลูกค้ามองหา Solutions ไม่ได้มองหาการปฏิเสธ


4.คุณคือคนผิด (You’re wrong): ไม่มีประโยชน์อันใดที่จะบอกว่าลูกค้าว่าคุณคือคนผิด เพราะถึงเขาจะผิดจริงๆ เขาก็คงอยากจะได้ทางแก้ปัญหามากกว่า การที่คุณเอาชนะได้ ในสายตาลูกค้าคุณคือคนแพ้

5.ปัญหาของเรา (Problems): คงไม่เป็นการดี หากนำเอาปัญหาของเราไปเล่าให้ลูกค้าฟัง ลูกค้าอาจเห็นใจ แต่การที่ลูกค้าเข้ามาหาเราเพื่อติดต่อเรื่องธุรกิจ พวกเขาไม่ได้ต้องการอยากทราบว่าธุรกิจของคุณมีปัญหาอะไร บางทีปัญหาที่ทางลูกค้ามี ก็มีอยู่มากพอแล้ว


----------------------



Create Date : 18 มีนาคม 2558
Last Update : 21 พฤษภาคม 2558 2:10:44 น.
Counter : 417 Pageviews.

0 comment
อยากขายของออนไลน์ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหนดี
หลายๆคนคงเคยที่จะคิดเปิดร้านค้าบนอินเทอร์เน็ต ผ่านโลกออนไลน์ ให้ลูกค้าของคุณได้เข้ามาในร้านเพื่อเพิ่มช่องทางการขายสินค้าของคุณ
แต่ ! ก็มีปัญหาต่างๆ มากมายที่ผุดขึ้นมาในหัวของคุณ ไม่ว่าจะเรื่อง
จะเปิดร้านได้อย่างไร ? ไม่มีข้อมูลเลย
เขียนเว็บเองหรือจ้างคนเขียนเว็บไซต์ดี แล้ว ถ้าจ้างต้องจ้างกับใคร ต้องเสียเงินเท่าไหร่
หรือจะเป็น เว็บสำเร็จรูป ที่เพื่อนๆ เคยบอกดี ?
และถ้ามีร้านแล้ว จะขายของได้อย่างไร ใครจะรู้จักเว็บเราหล่ะ ?
ผมจะมาช่วยไขข้องคำถามแบบคร่าวๆ ให้พอเข้าใจเบื้องต้นก่อนดังนี้ครับ
การเปิดร้านค้าออนไลน์นั้นมีหลากหลายวิธี เช่น
จ้างเขียนเว็บไซต์เป็นของตนเอง ข้อดี – สามารถสร้างระบบที่เฉพาะร้านของเราได้ อยากได้อะไรก็บอกคนที่เราจ้าง ข้อเสีย - เสียค่าใช้จ่างแพงถึงแพงมาก ใช้เวลาในการพัฒนาร้านนานเป็นเดือนๆ
ประกาศขายของผ่าน Blog หรือ Facebook หรือ ตาม Webboard ต่างๆ ข้อดี – ไม่ต้องลงทุนอะไร แค่โพสต์สินค้าขายของ  ข้อเสีย – ไม่มีระบบซื้อ-ขาย ตะกร้าสินค้า การโอนเงิน ต้องโต้ตอบ ติดต่อกันเอง
ใช้เว็บสำเร็จรูปของต่างประเทศ เช่น Presta Shop, Joomla Virtual Mart ข้อดี - ระบบที่มีประสิทธิภาพ ฟรีในบางเจ้า  ข้อเสีย - ไม่สามารถสอบถามการใช้งานเว็บ ต้องค้นหาเอาเอง ไม่มีที่โปรโมทสินค้า
ใช้เว็บสำเร็จรูปในประเทศไทย ซึ่งเดี๋ยวนี้มีมากมาย หากค้นหาใน Google ข้อดี – สร้างง่าย รวดเร็ว มีระบบการซื้อ-ขายที่ดี พร้อมการบริการในทุกๆด้าน ข้อเสีย – ต้องเลือกหาผู้ให้บริการที่ดี ซึ่งแต่ละเจ้าก็จะมีคุณภาพและการบริการที่ต่างกัน
ซึ่งดูจากวิธีข้างต้นแล้ว สำหรับผมแล้วก็ต้องเลือกข้อสุดท้าย ที่ใช้เว็บสำเร็จรูปทำร้านค้าออนไลน์ในประเทศแน่นอน เนื่องด้วยการติดต่อซึ่งเป็นเรื่องสำคัญสามารถทำได้ง่าย และหากเลือกผู้ให้บริการบางเจ้าที่จะมีระบบห้างสรรพสินค้าออนไลน์ด้วยแล้ว ก็จะสามารถโปรโมทสินค้าของเราได้ง่ายขึ้นและ สามารถขายได้มากขึ้นด้วย
แต่สุดท้ายแล้ว แม้ว่าผู้ให้บริการ เว็บร้านค้าออนไลน์ นั้นจะสามารถสนับสนุนคุณมากเพียงใด สร้างร้านค้าให้คุณสวยเลิศแค่ไหน แต่สินค้าและบริการในการขายของคุณเอง ไม่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ การขายของออนไลน์ของคุณ ก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้อยู่ดี

Credits: lnwShop
----------------------



Create Date : 17 มีนาคม 2558
Last Update : 21 พฤษภาคม 2558 2:10:06 น.
Counter : 919 Pageviews.

0 comment
1  2  

สมาชิกหมายเลข 956482
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 79 คน [?]



เทรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นใหม่ๆ เสื้อผ้าแฟชั่นแฟชั่นใหม่ล่าสุด เสื้อผ้าแฟชั่น ชุดเดรส เสื้อผ้าแฟชั่นราคาถูกชุดราตรี เสื้อผ้า เสื้อผ้าเกาหลี ชุดแซก ชุดไปงานแต่งงาน ชุดไปงานแต่ง เสื้อ ชุดราตรียาว เสื้อแฟชั่น เสื้อผ้าแฟชั่นเกาหลีเสื้อผ้าราคาถูก ชุดทำงาน เดรส ชุดราตรีสั้น ชุดเพื่อนเจ้าสาว ชุดทํางาน