เห็นด้วยกับความคิดนี้

ความรักของผู้หญิงเริ่มจาก 0

แล้วค่อยๆเพิ่มมากขึ้นๆไปจนถึง 100

ในขณะที่ความรักของผู้ชายเริ่มจาก 100

แล้วค่อยๆลดลงเหลือ 0

นี่แหละความรัก.... ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์

ต้องยอมรับผลของมันที่จะเกิดขึ้น

เป็นกำลังใจให้นะ

ไม่ใช่แต่เพียงความรักนะคะ ความคิดของผู้ชายและผู้หญิงก็ยังไม่เหมือนกันเลยค่ะ .. อยากบอกเพียงแค่ว่า .. เราไม่สามารถเปลี่ยนใครๆ บนโลกใบนี้ได้หรอกนะคะ นอกจากเปลี่ยนตัวเราเอง ปรับตัวเราเอง ให้รับในสิ่งที่เค้าเป็น เข้าใจในสิ่งที่เค้าทำ ฯลฯ ปล่อยวางให้มั่กๆ เดินทางสายกลางอ่ะค่ะ อย่าปล่อยให้ใครมามีอิทธิพลเหนือชีวิตเรานะคะ .. เพราะมันจะทำให้เราเป็นทุกข์ .. อย่างเราเอง .. ก็ถูกแฟนที่คบกันมา 9 ปีไปมีคนใหม่ ก็เลยทำให้เลิกกัน .. ไม่มีอะไรแน่นอนในชีวิตเลยอ่ะนะ .. เราก็ได้แต่คิดว่า .. อดีตไม่รื้อฟื้น อนาคตไม่แน่นอน ปัจจุบันทำให้ดีที่สุด .. ใช้ชีวิตตัวเองให้มีความสุขที่สุดโดยที่ไม่เดือดร้อนใครจะดีกว่าค๊า .

ใช่เลยบางทีความคิดมันสวนทางกันจริง ๆ คือเราคิดแบบนี้ เค้าอาจจะคิดอีกอย่าง และแล้วเราก็ไม่รู้ว่าเค้าคิดยังไง มันก็เลยกลายเป็นเส้นขนานที่สวนทางกัน ต่างคนต่างไป

ผู้หญิง(บางคน) ยอมมีเซ็กส์กับผู้ชายเพราะรัก..
ผู้ชาย(บางคน) ยอมบอกรักเพราะต้องการมีเซ็กส์

ถ้าไว้ใจกันได้ ความระแวงก็จะหมดไป
แต่ถ้าทำยังไงก็ระแวงอยู่ดีแสดงว่าเค้าทำตัวไม่ให้เราไว้ใจ
ก็ทำจิตใจให้สบายนะคะ ถ้าเนื้อคู่กันมันก็ไม่แคล้วหรอกค่ะ
ระแวงไปก็ไม่มีความสุข อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดค่ะ

นั่นซิค๊ะ...ขอบคุณทุกคนมากค่ะ
ความจริงก็ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจ และก็รู้ว่ามันไม่มีคำตอบที่ชัดเจน
แต่ก็รู้สึกเสียใจทุกครั้งที่การให้ความรู้สึกดีๆ
บางครั้งมันไม่ได้ทำให้ผู้รับรู้สึกดีด้วย
แต่ก็ได้เรียนรู้ว่า ความรักคือการให้ โดยอย่าหวังผลตอบแทน
หากมีความสุขกับการให้ ก็เป็นผู้ให้แค่นั้นพอ
ดังนั้นหากเราไม่คาดหวัง มันคงจะทำให้รู้สึกดีขึ้น
เฮ้อ...ความรัก มาพร้อมกับน้ำตาจริงๆ
เพราะเวลาเรามีความสุขกับความรัก น้ำตาแห่งความปิติก็จะไหล
แต่หากเมื่อเรามีทุกข์เพราะรัก น้ำตาแห่งความเสียใจก็ไหลเหมือนกัน..