IRONMAN 3
IRONMAN 3

นักแสดงนำ : โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์, กวินเน็ธพัลโทรว์ และดอนเชียเดิล เชน แบล็ค
ประเภทหนัง : Action, Adventure, Fantasy, Sci-Fi,Thriller & Suspense
เข้าฉายวันที่ : 3 พ.ค. 2013



เทรนด์ฮิตประการหนึ่งของสังคมร่วมสมัยที่พบเห็นกันได้บ่อยคือการเพียงหาบางสิ่งที่เรียกว่า ‘อดีต’ การค้นหาอัตลักษณ์รากเง้าและโยงความสวยงามที่ผ่านพ้นมาแล้วให้กลับมาเริงระบำอีกครั้งในรูปแบบกึ่งสำเร็จรูปที่เรียกว่า‘ปัจจุบัน’ วิธีคิดแบบนี้ถูกร้อยเรียงเชื่อมต่อไปในสังคมกระทั่งตัวงานภาพยนตร์เองก็ไม่ถูกละเว้น นี่จึงเป็นความโดดเด่นและข้อสำนึกที่ดีในการรุดหน้าโดยใช้วิธีหากินในสิ่งเก่า 

Iron man 3 นั้นเป็นความจงใจของผู้กำกับ เชน แบล็คที่มีความหลงใหลซีรีย์อาชญากรรมทางทีวีในยุค 1970s-1980sทั้ง 'The Dukes of Hazard(1979-1985) ,Get Smart (1965–1970)และยังเป็นแฟนภาพยนตร์ตลก อย่าง Airplane(1980) และ ซีรี่ย์ TheNaked Gun(1988) อีกด้วย ทั้งหมดเหล่านี้มีแก่นประเด็นสุดซีเรียสแต่กลับนำเสนออกมาได้อย่างเบาสบาย ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับ Iron Man

ในภาคนี้โทนี่ของเราก็ยังคงมีเพื่อนสนิทในกองทัพคนเดิม เจมส์ โร้ดส์ (ดอน ชีเดิล) ซึ่งในภาคนี้ ผมว่าชีเดิลค่อนข้างทำหน้าที่ได้สมกับเป็นเพื่อนพระเอกมากกว่าภาคก่อน(ที่เพิ่งมาประจำการตัวละครนี้แทน เทอร์เรนซ์ ฮาว์เวิร์ดในภาคสอง) น่าจะด้วยบทที่ส่งเสริมมากขึ้น การเป็นไอรอนแพทริออทมีส่วนช่วยให้พระเอกของเราทำภารกิจได้สัมฤทธิ์ผลอย่างมีนัยสำคัญเลยแหละขณะที่อีกตัว อัลดริช คิลเลียน (กาย เพียร์ซ) ก็นับว่าสำคัญต่อเนื้อเรื่องไม่แพ้กันเพียงแค่ไม่ถูกพูดถึงในตัวอย่างเท่านั้นเอง

ผสานเข้ากับเพลงประกอบที่เลือกเอาเพลงโดนใจในอดีตมาประกอบไว้อยู่หลายเพลงสร้างความประทับใจได้เหมือนกับที่หนังซอมบี้อย่าง “Warm Bodies” เคยทำได้มาแล้วขณะที่สเปเชียลเอฟเฟ็กต์ วิชวลเอฟเฟ็กต์ต่างๆ ก็ทำได้ดีแทบไม่มีที่ติแต่ถ้าจะสนใจเรื่อง 3 มิติ เท่าที่ดูมาพบว่า ยังไม่ได้มีฉากโชว์สักเท่าไหร่ไม่จำเป็นนักที่จะต้องดู 3D ดูในระดับดิจิตอลเฉยๆ ก็โอละ

หากพูดถึงเนื้อเรื่องในภาคนี้นับเป็นภาคที่3 แล้วสำหรับมหาเศรษฐีหนุ่มพร้อมชุดเกราะรบสุดไฮเทคเหตุการณ์ในเรื่องนั้นเป็นผลกระทบที่ตามมาจากเหตุการณ์ใน Avengers โดยตรง หลังจากที่เอเลี่ยนChitauriบุกถล่มนิวยอร์กนอกจากมันจะสร้างบาดแผลทางกายให้กับโลกแล้ว มันยังได้สร้างบาดแผลทางใจให้กับโทนี่สตาร์กด้วย สุดยอดอัจฉริยะถึงกับต้องหัวหดเมื่อได้รู้ว่าในจักรวาลแห่งนี้ยังมีสิ่งที่ตนไม่รู้ สิ่งที่เหนือกว่าตนอีกมากมายสร้างปมสำคัญอันนึงให้กับโทนี่ในภาคนี้ได้เป็นอย่างดีและการโจมตของพวกชิทอรินั้นยังสั่นคลอนอเมริกาอีกด้วย จึงเป็นเหตุให้เจมส์โร้ดส์ต้องเปลี่ยนมาใช้ชื่อ Iron Patriot เพื่อสร้างสัญลักษณ์แห่งความหวังให้ประชาชนว่าประเทศของตนยังมีที่พึงเป็นมนุษย์เหล็กรักชาติผู้นี้เสมอภาคนี้ยังมีเปิดตัววายร้ายตัวใหม่ของเรื่องซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน Mandarin จอมขมังเวทย์ตัวฉกาจศัตรูคู่อาฆาตของโทนี่จากในคอมิคมาสู่จักรวาลภาพยนตร์ของมาร์เวลแมนดารินมาได้ค่อนข้างเก๋าด้วยการเปิดตัวอย่างเทพด้วยการแฮ็กทีวีทั่วประเทศแสดงแสนยานุภาพของตนแสดงตนเป็นผู้ก่อการร้ายสุดเจ๋ง พร้อมด้วยวายร้ายของเรื่องอีกคน AldrichKillian บอสใหญ่ของ A.I.M. ผู้พัฒนาโปรเจ็ก Extremis ที่ใช้ในการดัดแปลงดีเอ็นเอของมนุษย์ธรรมดาให้เหนือมนุษย์ได้ทั้งสองร่วมกันระดมพลถล่มโทนี่อย่างสนุกสนาน เรียกได้ว่าเล่นซะเละทีเดียว

ตัวอย่างของหนังแสดงให้เห็นแต่ความดาร์กมากถึงมากที่สุด ว่าฮีโร่ของเราคนนี้จะโดนยำเละ ว่าฮีโร่คนนี้ต้องล้มลุกคลุกคลานให้อารมณ์เหมือน The Dark Knight Rises ของNolan ไม่มีผิดแต่เมื่อได้ดูจริงๆแล้วหนังไม่ได้ดาร์กหรือซีเรียสแบบที่คิดเลยยังคงเหมือนภาคก่อนๆแต่แตกต่างานิดเดียว ในภาคนี้เราจะได้เห็นโทนี่สวมเกราะน้อยลงเห็นเขามีการพัฒนาด้วยตัวของเขาเองมากขึ้นโทนี่ที่หยิ่งผยองได้เรียนรู้ว่าตนไม่ได้แกร่งล้นฟ้า แต่ก็เป็นแค่ชายในชุดหุ่นกระป๋องเท่านั้น

ถ้าในฐานะแฟนคอมิคและคนที่อ่าน Iron Man มาผมค่อนข้างผิดหวังกับหนังเรื่องนี้นะ เพราะความที่หวังมากเกินไปอ่ะจากการดูตัวอย่างเอย ดูรูปนิ่งเอย คาดหวังไว้มากเรื่องชุดเกราะใหม่ๆของโทนี่อยากเห็นฟังค์ชั่นเกราะ อยากดูโทนี่ใช้ แต่ในเรื่องกลับกลายเป็นว่ามากันตัวละแค่ฉากสองฉากบางตัวบินมาไม่กี่วิก็ชนตู้พัง มันดูไม่สมกับที่โปรโมทกันมาเลยจริงๆอ่ะแอพไออ้อนแมนบนเฟซบุ๊กก็ปล่อยภาพเกราะใหม่สนุกสนานทุกๆคนเห็นก็ต้องอยากดูพวกมันลุยกันเป็นธรรมดาล่ะแต่กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่เราคาดหวังกันเนี่ย มันแว๊บมาเพียงไม่กี่วิเท่านั้นเองทำเอาผมที่นั่งดูอยู่ถอนหายใจ “อะไรวะ? มีแค่นี้เองหรอ?”

เกราะ Mark42 นี่ก็ แปปเดียวพัง แปปเดียวพัง เดี๋ยวอีกซักพักก็ชาร์จเดี๋ยวก็บินไม่ได้ จากเกราะที่เป็นไฮไลท์ของภาคมันกลายเป็นเกราะกระจอกไปเลยอ่ะอีกอย่างที่แย่สำหรับผมเลยนะคือเรื่องแมนดารินเนี่ยแหละ แมนดารินในคอมิคนี่โหดเอาเรื่องเลยนะแหวนแต่ละวงบนมือมีพลังวิเศษนานาแต่พอมาดัดแปลงในหนังกลับกลายเป็นเหมือนแค่ผู้ก่อการร้ายอัจฉริยะธรรมดาแต่นั่นผมพอรับได้นะหากต้องมองถึงขอบเขตของเรื่องและความสมจริง ว่านี่คือ “ไออ้อนแมน” ไม่ใช่ “ธอร์”หรือ “จอมขมังเวทย์ 2″ ที่จำนำเรื่องเวทย์มนตรามาใช้แต่ที่หนักคือการหักมุมสุดช็อกว่าแมนดาริน แท้ที่จริงแล้วเป็นแค่นกต่อของคิลเลี่ยน วายร้ายตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังเท่านั้น! ทำไม Iron Man 3 ถึงโหดร้ายเยี่ยงนี้จัดให้วายร้ายหมายเลขหนึ่งของไออ้อนแมนกลายเป็นแค่นักแสดงชาวอังกฤษที่คิลเลี่ยนจ้างมาเฉยๆ!

Iron_Man_3_The-Mandarin

ให้วายร้ายอันดับหนึ่งมาเป็นนกต่อยังไม่พอไอ้วายร้ายตัวจริงกลับเป็นแค่ไอ้ตัวละครโนเนมจากในคอมิคเท่านั้น!ซึ่งในหนงสือโผล่ออกมาแค่สองตอน

องค์ประกอบโดยรวมของ “Iron Man 3″ หากมองในมุมครดูหนังนั้นนับว่าเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ดูสนุก ฉากแอ็คชั่นเยอะแต่พองาม ไม่เยอะเกิน CGIเรียบเนียน ยังไม่นับมุกตลกมากมายที่ใส่ลงมาในหนังอย่างจุใจเอาให้ฮาก๊ากกันไปเลย (แต่ผมยังคิดว่าอเวนเจอร์สตลกกว่านะ)มีการหักมุมที่พอทำให้อ้าปากหวอได้ มีปมปัญหาที่สร้างความน่าสนใจให้กับหนังบอกได้เลยว่าเป็นหนึ่งในหนังมาร์เวลที่สนุกที่สุด เปิด Phase 2ของจักรวาลหนัง MCU ได้ดีเยี่ยมถ้าในฐานะคนดูหนังธรรมดาๆผมให้คะแนนคือ 8/10 เลยนะ


5403249  อธิพงศ์ นิ่มเนียม   RTV

54032625  ณัฐวุติ รัตนน้อย  RTV




Create Date : 31 กรกฎาคม 2556
Last Update : 31 กรกฎาคม 2556 8:26:05 น.
Counter : 1344 Pageviews.

1 comments
  
น่าดูคะ..iherb สั่งของ
โดย: narusu วันที่: 15 สิงหาคม 2556 เวลา:14:48:36 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

อ้วนจัง สมุทรปราการ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]