" ความฝันไม่เคยหายไปจากเรา เรานั้นแหละที่หายไปจากความฝัน "
 
ขอศาสนาพุทธเป็น ศาสนาประจำใจ ดีกว่าไปประจำชาติ

ศาสนาพุทธมีวัตถุประสงค์สำคัญ คือ ให้รู้แจ้งในทุกข์ และแนะหนทางที่จะพ้นไปจากทุกข์

หนึ่งในนั้น สอนให้เห็นว่า ทุกสิ่งนั้นล้วนไม่เที่ยง ความไม่เที่ยงนี่แหละเป็นทุกข์
แม้ตัวเราเองนั้นก็ไม่เที่ยง ดังนั้น หากเรายึดมั่นในความเป็นตัวเรา เป็นของเรานั้น ย่อมไม่มีทางพ้นไปจากทุกข์

ปัจจุบัน หลายคนที่กล่าวว่าตนเป็นพุทธนั้น ไม่ต้องพูดไกลไปถึง การไม่ยึดมั่นในตัวเรา ว่าไม่ใช่ของเราเลย
เพราะเขาเหล่านั้นยึดมั่นทุกอย่างไปหมด ว่าเป็นของเรา นั่นของเรา นี่ของเรา แม้แต่ศาสนาก็ยังยึดว่าเป็นของเรา
ซึ่งคนเหล่านี้ไม่ใช่ ผู้ที่เดินตามคำสอนของพระพุทธเจ้า

ดังนั้น คนที่อยากรู้ว่าศาสนาพุทธ ทำให้คนรู้แจ้งในทุกข์ได้อย่างไร มีหนทางปฏิบัติใดที่จะทำให้พ้นไปจากทุกข์
ก็ขอเชิญให้มาดู มาศึกษา มาพิสูจน์ ว่าสิ่งที่พระพุทธเจ้าพบ และสอนให้ปฏิบัตินั้น มีผู้ทำได้จริง ปฏิบัติได้จริง
และมีผลประเสริฐจริง อย่างไร

ส่วนผู้ที่ กำลังศึกษา กำลังพิสูจน์ กำลังปฏิบัติ อยู่นั้น
ก็อย่ามัวสนใจ ในเรื่องที่พระพุทธเจ้าไม่ได้บอก ไม่ได้สอน
อย่าไปร้อนใจ ว่าจะมีใครจ้องทำลายศาสนาพุทธ
อย่าไปคิดร้าย กับสงฆ์ที่ไม่ประพฤติเป็นสงฆ์
อย่าไปโต้แย้ง กับชาวพุทธที่ไม่ปฏิบัติตามวิถึพุทธ

เพราะธรรมทั้งหลายนั้น ทนต่อการพิสูจน์

แม้จะเขียนบันทึก ตำรา หรือกฏหมายอันใด ที่ให้ศาสนาพุทธเป็นที่นับถือ
มีองค์กรศาสนาพุทธที่ใหญ่โต มีผู้นับถือศาสนาพุทธจำนวนมาก
แต่กลับไม่มีใคร ปฏิบัติตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว
ศาสนาพุทธ ก็สูญสิ้น เหลือเพียงชื่อ

แต่ขอเพียงให้ศาสนาพุทธ เป็นแค่ศาสนาประจำใจ แม้ใครเพียงสักคนสุดท้ายบนโลก
ยังปฏิบัติตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ศาสนาพุทธก็ยังคงอยู่ในโลก

-------------------------------------------------------------------------------------

ดูกรภิกษุทั้งหลาย หากจะมีพวกโจรผู้มีความประพฤติต่ำช้า
เอาเลื่อยที่มีที่จับทั้งสองข้าง เลื่อยอวัยวะใหญ่น้อยของพวกเธอ
แม้ในเหตุนั้นภิกษุหรือภิกษุณีรูปใดมีใจคิดร้ายต่อโจรเหล่านั้น
ภิกษุหรือภิกษุณีรูปนั้น ไม่ชื่อว่าเป็นผู้ทำตามคำสั่งสอนของเรา
เพราะเหตุที่อดกลั้นไม่ได้นั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้ในข้อนั้น เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า
จิตของเราจักไม่แปรปรวน เราจักไม่เปล่งวาจาที่ลามก
เราจักอนุเคราะห์ผู้อื่นด้วยสิ่งที่เป็นประโยชน์
เราจักมีเมตตาจิตไม่มีโทสะในภายใน เราจักแผ่เมตตาจิตไปถึงบุคคลนั้น
และเราจักแผ่เมตตาอันไพบูลย์ใหญ่ยิ่ง หาประมาณมิได้
ไม่มีเวร ไม่มีพยาบาท ไปตลอดโลกทุกทิศทุกทาง
ซึ่งเป็นอารมณ์ของจิตนั้น
ดังนี้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอพึงศึกษาด้วยอาการดังที่กล่าวมานี้แล.
มู. ม. ๑๒/๒๖๐/๒๗๒



Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2559
Last Update : 9 มีนาคม 2559 14:04:39 น. 2 comments
Counter : 445 Pageviews.  
 
 
 
 
เก็นด้วยครับ.
 
 

โดย: เจียวต้าย วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:17:41:04 น.  

 
 
 
เห็นด้วยครับ.
 
 

โดย: เจียวต้าย วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:17:41:46 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

ชิวหา
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"ในโลกนี้ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้"
[Add ชิวหา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com