ชีวิตคือความไม่แน่นอนแต่ในความไม่แน่นอนของชีวิตเรากลับพบความสวยงามของชีวิต
Group Blog
 
All Blogs
 
หลังจากทริป Team Building ที่กาญจนบุรี

ตอนเข้ามาทำงานใหม่ๆน้องๆในฝ่ายเก่าพูดถึงกิจกรรม Team Building เป็นกิจกรรมที่เหมือนไปทริปพร้อมกันทั้งฝ่าย ที่คนในฝ่ายมีการแชร์ค่าใช้จ่ายตามตำแหน่งเพื่อให้ทุกคนสามารถไปด้วยกันได้ น้องๆที่ทำงานในตำแหน่งเล็กๆเงินเดือนไม่มากเขาจะได้ไปเที่ยวด้วยกันได้โดยไม่ต้องเป็นภาระมากนัก

แนวคิดนี้เรารอว่าเมื่อไหร่จะจัดขึ้นมาอีก จนกระทั่งเราย้ายมาอยู่ฝ่ายใหม่ตอนต้นปี น้องๆฝ่ายเก่ามาถามว่าอยากไปไหม? เราตอบว่าอยากไปเพราะเป็นกิจกรรมทริปที่คนในฝ่ายจะได้ไปเที่ยวและได้ทำกิจกรรมร่วมกัน โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ แต่คราวนี้เฉพาะคนไปจ่ายแต่จ่ายอัตราตามตำแหน่ง ตอนดูรายชื่อคนไปคราวนี้ตกลงมีแต่เราที่อยู่ฝ่ายใหม่กับน้องที่ทำAdminให้ฝ่ายที่ไปทริปครั้งนี้ร่วมกับฝ่ายเก่า

ร่างกายทรุดโทรมจากไข้หวัดและการทำงานหนักในช่วงที่ผ่านมา พักผ่อนน้อย คืนวันศุกร์ที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ นั่งเช็ก Lay-out ที่บริษัททำกราฟฟิกจนถึงเกือบตีสอง งีบแป๊บนึงก่อนจะตื่นขึ้นมาเพื่อขับรถกลับไปนอนที่บ้านตอนตีสี่ นอนสามชั่วโมงแล้วก็ตื่นขึ้นมาเพื่อนั่งรถไปรวมพลที่ทำงานไปทริปคราวนี้

รถบัสคันเดียวขนพวกเรา ๔๐ กว่าชีวิตมาถึงโรงแรมริเวอร์แควตอนบ่ายวันเสาร์ที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ไม่ได้แวะมากาญจนบุรีนานมากแล้ว ครั้งสุดท้ายที่มาน่าจะเป็นตอนที่แวะมาบ้านพักตากอากาศของเจ้านายเก่าสมัยเรายังเรียนในญี่ปุ่น จำได้ว่าก่อนมาบ้านเขาคืนวันนั้นนิ้วเท้าชนบันได...ซึ่งไม่คิดมาก่อนว่าจะตามมาด้วยการถอดเล็บในอาทิตย์ต่อมาภายหลังจากคุณหมอดูแผลแล้ว เหตุการณ์เมื่อ ๕-๖ ปีที่แล้ว

กิจกรรมตอนบ่ายที่ทำด้วยกันคือมีเกมส์ที่ช่วยกันทำในทีมสีเดียวกัน เขาให้เราเดินข้ามแพโดยพยายามรักษาสมดุลไม่ให้แพเอียง ผลลัพธ์คือกลุ่มที่เราข้ามแพด้วยกันตกลงไปในน้ำเมื่อแพเกิดเอียงขึ้น ได้ว่ายน้ำเล่นตัวเปียกๆกัน แต่เราก็พยายามให้สมาชิกในทีมที่เหลือข้ามไปถึงฝั่งโดยปลอดภัยโดยการจับแพเอาไว้ไม่ให้เอียง ซึ่งทำสำเร็จ

ฐานสุดท้ายเป็นการไต่เชือกข้ามหนองน้ำ เกมส์นี้ทีมอื่นๆสมาชิกไม่ตกน้ำก็ข้ามไปไม่ทันภายในเวลา แต่ทีมเราเตรียมตัวกันดี นัดส่งเชือกต่อให้กันเป็นจังหวะ


จนสุดท้ายข้ามฝั่งไปได้ด้วยกันทั้งหมด



ตัวยังเปียกๆอยู่ นั่งและยืนในรถสองแถวไปเล่นเกมส์ยิงปืนอัดลมที่มีลูกปืนเป็นเม็ดสีกลมๆ ชุดนักรบเหมือนทหารจริงๆ มีหน้ากากกันกระสุนอัดลมโดนตา ตอนไปเล่นจริงแล้วพยายามวิ่งหลบกระสุนจากฝ่ายตรงข้าม ตอนล้มตัวหลบลูกกระสุนมันไปทั้งตัวเลย พยายามหลอกล่อให้ฝ่ายตรงข้ามเล็งมาที่อื่น เพื่อคนอื่นในทีมจะได้ไปชิงธง ยังยิงกันได้ไม่กี่นัดเพื่อนกองหน้าในทีมก็ไปชิงธงกลับมาสำเร็จ

ตอนกลางคืนมีกิจกรรมทศกัณฐ์หน้าเด็ก บางคนสมัยเด็กใบหน้าช่างแตกต่างจากปัจจุบันมาก เราเอารูปสมัยอยู่ปีสามที่จุฬาฯซึ่งถ่ายเมื่อ ๒๐ ปีที่แล้วให้น้องที่เป็นคนจัดการกิจกรรมนี้ พอเขาเอารูปขึ้นจอปุ๊บน้องๆในฝ่ายไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นใคร
มีกิจกรรมต่อเพลงและคาราโอเกะ ตอนไปสัมมนาหลายๆครั้งที่ผ่านมาเรามีอะไรต้องทำ ดังนั้นจึงไม่เคยไปร้องคาราโอเกะกับเพื่อนคนอื่น แต่คราวนี้ไม่มีภาระอะไรที่ต้องทำจึงนั่งฟังคนอื่นร้อง น้องๆในฝ่ายอยากให้มีส่วนร่วมเลยมาถามว่า "พี่อยากร้องเพลงอะไรครับ?" บอกไปว่า ขอเพลง "เติมใจให้กัน" ของ มัม ลาโคนิก

หลายครั้งที่เกิดเหตุการณ์ที่ต้องจากใครบางคนด้วยเหตุและปัจจัยต่างๆแล้ววันนึงในเวลาที่เหมาะสมก็มีโอกาสได้กลับมาเจอกันอีกด้วยความรู้สึกดีๆระหว่างกันที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา

พี่เขาแซวว่าเราใส่ชุดไทยเหมือนต้อนรับสงกรานต์ล่วงหน้า เราชอบใส่ชุดคอแตงโมในวันสบายๆ ตอนหน้าร้อนในญี่ปุ่นมักใส่ชุดคอแตงโมอยู่บ่อยๆ เห็นแขกอยู่ประเทศไหนมันก็ใส่ส่าหรีไปไหนมาไหนก็ไม่มีใครว่าอะไร ถ้าเราใส่ชุดไทยบ้างคงไม่ถึงทำร้ายความรู้สึกของคนรอบข้างนะ

พี่เอ็ดดี้อยู่ในวัยใกล้เคียงกันและยังเป็นโสด เพลงที่เขาร้องเราเลยร้องตามได้สบายๆ นั่งคุยกันแล้วมีมุมมองชีวิตเหมือนกัน แต่งงานหรือไม่แต่งงานตอนนี้ไม่มีความสำคัญอะไรแล้ว แต่ถ้าคิดจะแต่งงาน...คนที่จะมาใช้ชีวิตด้วยคงต้องมีแบบแผนการใช้ชีวิตใกล้เคียงกัน ไม่อย่างนั้นชีวิตสมรสคงไม่มีความสุขและไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องแต่งงาน





ตอนเช้าวันอาทิตย์เราแวะไปทำบุญกันที่วัดพรุปลู ในเขตอำเภอไทรโยค เป็นกิจกรรมทริปที่แตกต่างจากที่เคยไปกับที่ทำงานหลายที่ซึ่งเคยไปมา กรรมที่พวกเราทำด้วยกันคงมีเหตุผลทำให้เรามาเกี่ยวข้องมาทำกิจกรรมกับเพื่อนๆในฝ่ายเก่าอีก

แวะสะพานข้ามแม่น้ำแคว...ทานข้าวเที่ยงและเดินเล่นบนสะพาน คราวนี้ข้ามไปถึงอีกฝั่งของสะพาน เห็นอนุสาวรีย์ของทหารจีนที่มาเสียชีวิตในเหตุการณ์สร้างสะพานสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง



เริ่มมีอาการตัวร้อนเหมือนเป็นไข้.... ทำได้ตอนนั้นคือพยายามหลับบนรถ

กลับมาถึงบ้านมีข้อความในเครื่องตอบรับโทรศัพท์ที่บ้าน พอเปิดฟังดูปรากฏว่าเป็นเสียงเพื่อนสนิทสมัยเรียนที่จุฬาฯที่ไปใช้ชีวิตที่สิงคโปร์ รอตอนดึกเพื่อมั่นใจว่าเพื่อนกลับมาถึงบ้านแน่ๆก็โทรไปที่บ้าน เบอร์บ้านเขาเราไม่เคยจดเอาไว้ แล้วก็โทรไปบ้านเขาปีละไม่กี่ครั้งแต่น่าแปลกที่เราจำเบอร์บ้านเพื่อนคนนี้ได้ตลอด มารู้จากคนใช้ที่บ้านว่าคุณพ่อเขาเสีย ตอนนี้ทำบุญอยู่ที่วัดอุทัยธาราม ถนนพระรามเก้า พอป้าเขารู้ว่าเราโทรมาก็ฝากบอกเพื่อนเรา

ตอนขึ้นเครื่องบินกลับจากญี่ปุ่นตอนไปเรื่องงานคราวที่แล้ว อ่านหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์เขาวิจารณ์หนังเรื่อง "รักแห่งสยาม" ว่าเป็นเรื่องรักที่ต้องห้ามในสังคมไทย พอกลับมาถึงเมืองไทยหนังเข้าพอดี ได้ยินทั้งจากกลุ่มที่ชอบหนังเรื่องนี้และกลุ่มคนที่ไม่ชอบหนังเรื่องนี้ ไม่มีโอกาสได้ดูหนังเรื่องนี้จนกระทั่งหนังออกจากโรง ได้ยินมาว่าหนังได้หลายรางวัล แต่อย่างที่ในกาลามสูตรกล่าวไว้ว่า อย่าเชื่อเพราะเขาบอก แต่ให้คิดไตร่ตรองอย่างแยบยลก่อนจะเชื่อ ตราบเท่าที่เรายังไม่เคยดูหนังเรื่องนี้เราคงไม่สามารถวิจารณ์ว่าดีหรือว่าไม่ดี

ยืมวีซีดีหนังเรื่องนี้มาดูเพราะอยากรู้ว่าหนังเรื่องนี้ดีพอที่จะซื้อเก็บไว้ไหม? เนื้อเรื่องเดินได้สวยดีก่อนจะมีปมให้คนดูเดาว่าเรื่องควรเดินไปในแนวไหน ผู้หญิงที่เป็นแม่ในเรื่องนี้มีให้เห็นได้ทั่วไป ผู้หญิงที่ชี้นำให้คนในครอบครัวต้องฟัง ต้องเชื่อ ต้องรู้สึกตาม สามีที่ไหนบ้างที่มีความสุขที่ต้องอยู่กับภรรยาแบบนี้? เรื่องความรักระหว่างเด็กหนุ่มกับเด็กหนุ่ม....เป็นเรื่องที่ไม่แปลกในสังคมไทยยุคนี้ แต่โดยส่วนตัวเราก็ยังรับไม่ได้ เรื่องความรัก Puppy Love ของเด็กสาวที่มีต่อเด็กหนุ่มก็เป็นเรื่องธรรมชาติของคนวัยนี้ ดูหนังเรื่อง "รักแห่งสยาม" จบลงด้วยความรู้สึกว่า ได้ดูแล้ว เป็นอย่างนี้เอง โชคดีแล้วที่ไม่ไปเสียเงินค่าตั๋วดูหนังหรือชวนใครไปดูด้วย เป็นหนังที่เราไม่ได้ปลื้ม อาจเป็นเพราะเราไม่ชอบหนังแนวนี้

เพื่อนสนิทโทรมาหาหลังจากเขาเลิกงานที่วัด เขาบอกว่าจะจัดงานเผาศพพ่อเขาวันพุธนี้ บอกเขาว่าวันจันทร์จะแวะไปงานศพพ่อเขาที่วัด

วันอาทิตย์กลับมาถึงบ้านพยายามพักผ่อนมากๆ...แต่ยังมีอาการไอตอนกลางคืนในขณะที่นอน ตื่นมาวันจันทร์มีอาการปวดหัว ไปทำงานยังคงมีอาการไอแห้งๆ หลายครั้งรู้สึกรำคาญเพราะจะมีอาการอยากจะไอเวลาพูด มันทรมานเวลารับโทรศัพท์ ตอนเย็นไปงานศพคุณพ่อของเพื่อนเห็นบรรยากาศในงานแล้วสงสัยว่าเขาไม่ได้จ้างใครมาถ่ายภาพบรรยากาศงานศพเลยหรือ? ดูเหมือนเจ้าภาพไม่ได้คิดเรื่องนี้เอาไว้ พอจะเข้าใจว่าตอนงานศพเป็นงานกะทันหัน...เจ้าภาพบางทีก็ลืมคิดบางเรื่อง

คุณพ่อเขาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง...คุณพ่อเขาต่อสู้กับโรคนี้มาหลายปีมากแล้วแต่เพื่อนไม่เคยเล่าให้ฟัง คุณพ่อเขาเสียวันก่อนวันวาเลนไทน์หนึ่งวัน ฟังเรื่องพ่อเขาตายเพราะโรคมะเร็งแล้วทำให้นึกถึงความตั้งใจที่อยากจะแปลหนังสือ "การใช้ชีวิตอย่างฉลาด" ให้คนไทยได้อ่านเร็วขึ้น ถ้าเพียงเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้มีโอกาสได้ถ่ายทอดให้คนไทยได้อ่านกัน....ณ.วินาทีที่คนป่วยหนักและคนชรายังมีชีวิตอยู่เขาจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขโดยไม่กังวลว่าเมื่อไหร่วินาทีสุดท้ายของชีวิตจะมาถึง

หยิบหนังสือเล่มดังกล่าวขึ้นมาเริ่มต้นแปลเป็นภาษาไทยตอนที่บ้านซ่อมใกล้เสร็จเมื่อปีที่แล้ว แต่ก็หยุดเอาไว้อย่างนั้นหลังจากเริ่มต้นทำงานเมื่อปีที่แล้ว ตอนต้นปีตั้งใจเอาไว้ว่าจะแปลหนังสือเล่มนี้ให้คนไทยอ่านกันภายในปีนี้ให้สำเร็จ เอาหละคราวนี้มาดูต่อไปว่าจะแปลหนังสือเล่มนี้เสร็จเมื่อไหร่

วันอังคารโทรไปบอกเพื่อนว่าตัดสินใจไปช่วยถ่ายรูปงานวันเผาพ่อเขา ทำเรื่องลางาน แล้วก็บอกเพื่อนทีมสีฟ้าที่ไปทริปด้วยกันว่าคงไปทานข้าวกลางวันด้วยไม่ได้เพราะจะไปช่วยงานศพพ่อเพื่อน น้องๆเข้าใจเขาเลยทำการเลื่อนนัดเป็นวันศุกร์แทนเพราะอยากให้ทุกคนในทีมไปกินข้าวด้วยกันเพราะรางวัลเป็นของทุกคนในทีมร่วมกัน

วันพุธไปช่วยงานศพของพ่อเพื่อนตั้งแต่เช้า วันนี้ไอน้อยลงอาจจะเป็นเพราะพูดน้อยลงมั้ง อยู่จนถึงเขาประชุมเพลิงตอน ๕ โมงเย็น เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสได้ถ่ายภาพตอนเขาเอาโลงศพใส่เชิงตะกอน เห็นภาพดอกไม้จันทน์กำลังลุกไหม้เผาโลงศพในเตาเผาก่อนเขาจะปิดเตาเผา



ตอนพระเทศน์ก่อนจะเผา ท่านหยิบเรื่องมรณานุสติมาเตือนคนที่มีชีวิตอยู่ฟังว่า การพลัดพราก การตาย เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คน ถ้าเราเข้าใจและหมั่นเจริญสติและเข้าใจธรรมชาติเรื่องนี้ ณ.วันหนึ่งที่การพลัดพรากจากคนอันเป็นที่รัก เราจะไม่เสียใจ ไม่หลั่งน้ำตา เพราะมองเห็นว่าเป็นเช่นนี้เอง

พองานเลิก คุณแม่เพื่อนจะมอบเงินที่มาช่วยงานนี้ เราไม่รับเพราะตั้งใจว่างานนี้เรามาช่วยในฐานะเพื่อนสนิทกัน ให้เขาเก็บเงินส่วนนี้เอาไว้ทำบุญหรือเก็บเอาไว้ช่วยงานมงคลของเราในอนาคตแล้วกัน คุณแม่เพื่อนให้ขับรถตามไปที่บ้านเพื่อเด็ดเอาใบอั้งฮวยเซียงเช่าให้เรากลับบ้าน ใบไม้สองชนิดนี้เป็นไม้มงคลที่นิยมใส่ในน้ำบริสุทธิ์ล้างหน้าก่อนจะเข้าบ้านหลังจากไปงานเผาศพมา

ตอนเย็นเพื่อนสนิทในฝ่ายเก่าโทรมาถามไถ่อาการไอเสียงแห้งด้วยความห่วงใยหลังจากที่ตอนโทรศัพท์คุยกันตอนเที่ยงเขาฟังอาการแล้วไม่สู้ดี เขารู้ว่าเราไม่สบายต่อเนื่องมานานแล้วยังไม่หายเสียที รู้สึกขอบคุณในความห่วงใยที่เขามีต่อเรา ความเป็นเพื่อนคงอยู่ตรงที่ยามที่เราลำบาก ยามที่เราเจ็บป่วย ยังมีคนที่เรียกว่า "เพื่อน" คอยห่วงใย คอยเป็นกำลังใจให้

ตัดสินใจไปหาหมอที่โรงพยาบาลพญาไท ๑ หลังจากที่ไม่เคยแวะมาที่นี่กว่า ๑๖ ปีนับตั้งแต่ย้ายไปอยู่ฝั่งธนบุรี เล่าอาการให้คุณหมอฟังว่าเริ่มจากอาการเป็นไข้และเจ็บคอเมื่อปลายเดือนมกราคม ตามมาด้วยการใช้ร่างกายอย่างหนักเพื่อเร่งงานให้เสร็จทันตามกำหนด ร่างกายทรุดโทรมอย่างไร ขาดการพักผ่อนในช่วงที่ผ่านมา คุณหมอดูคอแล้วบอกว่า กล่องเสียงอักเสบตอนนี้ ดังนั้นกรุณาพักผ่อนมากๆ

ถึงเวลาที่ควรจะหันมาดูแลและรักตัวเราเองให้มากขึ้นด้วยการพักผ่อนมากๆ...กลับมาออกกำลังกายใหม่ วิ่งเบาๆ ๓๐ นาทีตอนเช้าอากาศดีๆของวันมาฆบูชาแบบนี้ ตอนนี้ขอพักผ่อนก่อนครับ


Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2551 15:53:36 น. 3 comments
Counter : 2479 Pageviews.

 
เพิ่งกลับจากกาญฯ วันก่อน สนุกดีค่ะ


โดย: narak-chan วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:18:33:01 น.  

 
พี่รัตน์มาเยี่ยมค่ะ...
ไม่สบาย...อาการดีขึ้นมั้ย
ดูแลสุขภาพมากๆนะคะ
ห่วงใยเหมือนเดิม
...พี่สาวค่ะ


โดย: รัตตมณี (kulratt ) วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:19:43:40 น.  

 
ขอบคุณพี่รัตน์ที่แวะมาเยี่ยมบล็อกนี้สม่ำเสมอ อาการวันนี้ดีขึ้นเพราะได้พักเต็มๆ ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ

ขอบคุณคุณน่ารักจังที่แวะมาแชร์ประสบการณ์ ตอนที่ผมค้างกันที่กาญจนบุรีมีหมอกตอนเช้าๆด้วย อากาศดีทีเดียว เสียดายที่มีเมฆตอนกลางคืนเลยเห็นแต่จันทร์ข้างขึ้นแต่ไม่เห็นดาว


โดย: ชีวประภา วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:21:46:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชีวประภา
Location :
พิษณุโลก Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ชีวประภา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.