รีวิว ยกก๊วนแบกเป้ พิชิตภูกระดึง

สวัสดีค่ะ ช่วงนี้ก็เป็นปลายฝนต้นหนาวแล้วเนอะช่วงปลายปีแบบนี้ หลายคนคงจะมาหาสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อไปท้าลมหนาว ก่อกองไฟกางเต้นท์เพื่อชมบรรยากาศทะเลหมอกกันส่วนใหญ่สถานที่ท่องเที่ยวสมัยนี้สามารถขับรถไปจอดได้ ซึ่งสะดวกสบายมาก แต่ถ้าใครชอบท่องเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์คือเดินขึ้นเขา ชมบรรยากาศป่าไม้ไปเรื่อยๆ ขอแนะนำ "อุทยานแห่งชาติภูกระดึง" หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า "ภูกระดึง" สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้อยู่ใน จ.เลย เพราะว่าที่นี่จะต้องเดินขึ้นไปเอง ส่วนกระเป๋าสัมภาระอื่นๆ จะแบกเอง หรือไม่แบกเองก็ได้ คือใช้บริการของ "ลูกหาบ" ก็ได้ (ลูกหาบ คือ ชาวบ้านที่มาทำอาชีพแบกกระเป๋านักท่องเที่ยวขึ้นไปยังที่พักด้านบนนู้น) ภูกระดึงสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อว่าชีวิตนี้ต้องไปสักครั้ง!!!


ไหว้พระก่อนขึ้นภูกระดึง


เส้นทางพิชิตฝัน (พูดให้อลังการ)

เมื่อมาถึงอุทยานแห่งชาติภูกระดึงแล้ว จะต้องซื้อบัตรเพื่อขึ้นภู ดูจากป้ายแล้วจะต้องเดินประมาณ 5.5 กิโลเมตร และตรงส่วนนี้จะมีจุดให้ลงทะเบียนเพื่อใช้บริการลูกหาบ ซึ่งจะคิดน้ำหนักเป็นกิโลกรัม กิโลกรัมละ 30 บาท แต่สำหรับพวกเราเองด้วยความที่เป็นผู้ชายและผู้หญิงที่แข็งแกร่ง จึงตกลงกันว่าเราจะแบกกระเป๋าขึ้นไป ก่อนเดินพวกเราก็ได้ไหว้พระกันก่อนแล้วลุย เริ่มเดินขึ้นตั้งแต่เวลา 6 โมงเช้า เดินไปคุยไปผ่านซำต่างๆ พอมาถึงซำแฮก ซำนี้ต้องหยุดพัก แวะถ่ายรูป เพราะพระอาทิตย์กำลังขึ้นแสงสาดส่องมาพอดี ไม่ใช่อะไรหรอก เหนื่อย! ระหว่างทางเดินไปไม่ต้องกลัวว่าจะหิว ไม่มีอะไรกิน เพราะแต่ละซำจะมีร้านอาหารขายตลอด ทั้งน้ำแข็งใส ไอติม ลูกชิ้น เดินไปกิน พวกเราจะพักทุกซำเลยก็ว่าได้ เดินไปบ่นไปแต่สนุกดี เพราะยิ่งเดินทางก็จะเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างทางเดินไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดว่า เดินป่าจะมีสัวต์อะไรมางาบไปมั้ย เพราะไม่ได้มีเฉพาะกลุ่มเราเดินเพียงกลุ่มเดียว แต่ยังมีอีกหลายกลุ่มที่เดินขึ้นภูกระดึงกัน 


เดินไปกินไป


กินเสร็จเดินต่อ


ในช่วงที่ทางชันอาจจะต้องมีการจับมือช่วยกันดึงขึ้น ปีนก้อนหินบ้าง ตอนนี้เราจะได้เห็นความมีน้ำใจของเพื่อนร่วมทางที่เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแต่เค้าช่วยเหลือเราพร้อมรอยยิ้มของคนไทย ซึ้งจริงๆ


ลูกหาบมีทั้งผู้ชายผู้หญิง แข็งแรงมาก


เดินไปทางนู้นๆ

เมื่อมาถึงด้านบนจะต้องเดินไปอีกประมาณ 3-4 กิโลเมตร เพื่อไปยังเต้นท์ที่จองไว้ เต้นท์นึงจะนอนได้ถึง 3 คน เรียงกันเต็มลานกว้าง พวกเราก็เก็บกระเป๋าเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำ หาข้าวกินและออกเดินเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ บนภูกระดึง ใครจะรู้เชื่อว่าบนภูกระดึงมีน้ำตกด้วย แต่จะต้องเดินจากที่พักไปน้ำตกไม่ต้องกลัวหลงทางเพราะมีคนเดินผ่านไปผ่านมาตลอดหรือดูป้ายก็ได้ ตลอดทางเดินจะผ่านป่าสนและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ บรรยากาศสดชื่น


ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว


ลานกางเต้นท์



บริเวณร้านขายอาหาร



ต้นไม้เขียวชอุ่ม

เมื่อมาถึงภูกระดึงแล้ว สิ่งที่ไม่เดินไปไม่ได้เลยคือ "ผาหล่มสัก" คือว่าเป็นแลนด์มาร์คของที่นี่เลยก็ว่าได้ ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดดูพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุด พวกเราออกเดินทางตั้งแต่ช่วง 10 โมงเช้า กางแผนที่ดูเดินไปยังน้ำตกก่อนเพื่อดูใบเมเปิ้ลสีแดงที่หล่นมาในน้ำตกและไหนมาตามกระแสน้ำ และออกเดินไปยังผาหล่มสัก ระยะทางจากที่พักตรงจุดกางเต้นท์ไปยังผาหล่มสักก็ประมาณ 9 กิโลเมตร เดินไป-เดินกลับ ระยะทางรวม 18 กิโลเมตร ไกลมว๊ากก พอไปถึงจะเห็นว่าคนเยอะมาก มากันก่อนพวกเรา ตั้งกล้องเพื่อถ่ายรูปเวลาพระอาทิตย์ตกดินกันเพียบ พวกเราเดินไปถึง 5 โมงเย็นกว่าๆ ยืนต่อคิวถ่ายรูปกับป้ายแปปนึงแล้วพระอาทิตย์ก็ค่อยๆ ตกลง แค่นี้แหละแล้วพวกเราก็เดินกลับกันอีก 9 กิโลเมตร คราวนี้ความมืดเข้ามาครอบงำจำเป็นต้องใช้ไฟฉายและอาศัยการเดินจับมือกับเพื่อนไปตลอดทาง เพราะไม่สามารถมองเห็นข้างทางได้เลยเดินไปสักพักก็แวะพักเหนื่อยเพราะมีเพิงพักของชาวบ้านที่มาขายของเปิดไฟส่องสว่างไว้ พักพอหายเหนื่อยก็เดินทางไปต่อเรื่อยๆ เดินมาถึงเต้นท์ก็เวลา 2 ทุ่มจึงไปหาอะไรกินกัน บนภูกระดึงมี "หมูกระทะ" บริการด้วยนะ ชุดเล็กชุดใหญ่แล้วแต่จะสั่ง ตอนนี้ไม่ได้ถ่ายรูปเพราะความหิวเข้าสิงเรียบร้อยแล้ว กินเสร็จอิ่มเดินกลับเต้นท์แยกย้ายกันไปอาบน้ำเตรียมตัวนอนเพราะวันนี้เหนื่อยเดินมาทั้งวัน 



ป้ายบอกทางต่างๆ


ผาหล่มสัก คนเยอะจริงๆ แต่สวย

ก่อนนอน ทางอุทยานได้ประกาศว่า ตอนตี 4 จะมีการเรียกรวมกลุ่มเดินไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน ใครจะไปให้มายืนรวมกันที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว พวกเราก็นัดแนะว่าจะไปกันทั้งหมด พอถึงเวลาจริง โอ๊ยไม่ไหวขอนอนก่อน งอแงกันขึ้นมา ตื่นมาตอนเช้ารอบๆ เต้นท์จะมีน้ำค้างเกาะ หมอกเต็มเลย ตืนมาแปรงฟันหาของกินกันเลยดีกว่า บนภูกระดึงจะมีร้านค้าขายอาหาร ทั้งโจ๊ก ข้าวราดแกง ไข่กระทะ ปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ เยอะแยะเลย ขอแค่มีเงินไปเท่านั้น แต่ราคาก็เปลี่ยนแปลงตามความสูงเนอะ ราคาคูณ 2 เท่า แต่อาหารบนภูกระดึงอร่อยทุกอย่างจริง เพราะเหนื่อยหรือเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกัน แหะๆ

ช่วงสายๆ พวกเราก็เก็บของเตรียมเดินลงกันแล้ว เพราะกลัวถึงข้างล่างมืดค่ำเดี๋ยวจะมองไม่เห็นทาง สำหรับทริปนี้จะเหนื่อยเดินจนปวดทางกัน แต่สำหรับเราถือว่าสนุกมากได้ใกล้ชิดธรรมชาติ ประเทศไทยสวยจริงๆ




โจ๊กหมู



ปาท่องโก๋ กาแฟ มาม่า


หมอกในช่วงสาย



หน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยว



ลูกหาบเตรียมบริการหาบกระเป๋าลงไปด้านล่าง


CR. //www.khanpak.com/content/28115/




Create Date : 17 กรกฎาคม 2558
Last Update : 17 กรกฎาคม 2558 16:57:07 น.
Counter : 1096 Pageviews.

1 comments
  
thx u crab
โดย: Kavanich96 วันที่: 18 กรกฎาคม 2558 เวลา:4:16:19 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สาวน้อยบนดาวอังคาร
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



สวัสดีค่ะ เราเป็นคนที่ชอบกิน ชอบเที่ยวทะเล ภูเขา ป่าไม้ ดำน้ำ ปลูกป่า ชอบเยอะมาก เน้นเขียนรีวิวอวด เอ้ย แนะนำที่กิน ที่เที่ยวค่ะ