Group Blog
 
All Blogs
 
สลากภัต- สลากย้อม : การถวายทานเพื่อเป็นพุทธบูชาของ "หญิงสาว"[ กันยา- ตุลา]


เรียบเรียงจากผู้จัดการออนไลน์


งานประเพณี“สลากภัต สลากย้อม” อันเก่าแก่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดลำพูน ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ของทุกปี



ต้นสลากย้อม


สลากภัต



       ประเพณี“สลากภัต” เป็นการถวายทานโดยไม่เจาะจงผู้รับ เชื่อว่ามีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลและยังปฏิบัติสืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบันนี้




ก๋วยหรือชะลอมใส่ข้าวของสำหรับถวายทาน


ประเพณีสลากภัต หรือที่ชาวล้านนาเรียกว่า “ตานก๋วยสลาก” หรือมีชื่อเรียกในภาษาท้องถิ่นแตกต่างกันไป อาทิ กิ๋นก๋วยสลาก กิ๋นสลาก ตานสลาก ตานข้าวสลาก ประเพณีนี้นิยมปฏิบัติกันในช่วงช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคมตามเดือนสากลของทุกปี


       โดย 1 วัน ก่อนงานพิธีสลากภัตจะเป็น“วันดา” หรือ “วันสุกดิบ” ชาวบ้านจะจัดเตรียมข้าวของต่างๆทั้งของกินของใช้มาสำหรับจัดใส่ในก๋วยสลาก


       ครั้นพอถึงวันงานสลากภัต จะมีการนำ“ก๋วย” ที่หมายถึง “ตะกร้า” หรือ “ชะลอม” ใส่ข้าวของต่างๆมาทำทานถวาย ร่วมด้วย สลากอื่นๆ เช่น สลากวัว สลากควาย สลากเทวดา รวมไปถึง “สลากโชค” ที่เป็นการนำเงินและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ อาทิ เช่น เสื้อผ้า หมอน เสื่อ บุหรี่ เครื่องนุ่งห่ม อาหารแห้งต่างๆ ฯลฯ มาผูกมัดติดกับต้นสลากขนาดย่อมที่มีการตกแต่งอย่างสวยงาม สูงราว 5-6 เมตร



    ศรัทธาจากชาวลำพูนที่ทำต้นสลากย้อมจำนวนมากมาถวายเป็นพุทธบูชา



 นอกจากก๋วยและสลากต่างๆแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งในประเพณีนี้ก็คือ “เส้นสลาก”จะต้องมีการเขียนเส้นสลากอุทิศบุญกุศลให้กับผู้ล่วงลับ หรือถวายแก่เทวดา เทวบุตร เจ้ากรรมนายเวร สรรพสัตว์ทั้งหลาย ซึ่งในอดีตจะเขียนลงบนใบลาน ส่วนปัจจุบันจะเขียนลงในกระดาษที่มีทั้งนำมาเอง หรือกระดาษที่ทางวัดจัดไว้ให้ โดยบางคนจะมีการห่อด้วยม้วนใบตองอีกชั้นหนึ่ง ก่อนจะนำไปถวายรวมกันในวิหารหน้าพระประธานที่รวมแล้วมีมากมายนับหมื่นๆเส้น

 

เส้นสลากจำนวนมากที่นำมาถวายในวิหารวัดพระธาตุหริภุญชัย


       

เส้นสลากเหล่านี้จะถูกนำมาจัดสรรปันส่วนกันในหมู่พระภิกษุ-สามเณรมากกว่า 2,000 รูป ที่นิมนต์มาจากวัดต่างๆทั่วทั้งจังหวัดลำพูนกว่า 450 วัด จากนั้นพอใกล้จะถึงเวลาเพลจะมีการเปิดอ่านเส้นสลาก แล้วพระ-เณรจะเรียกขานชื่อเดินหาเจ้าของเพื่อให้ศีลให้พร ถือเป็นอันเสร็จพิธี



สลากย้อม

 

       สำหรับที่จังหวัดลำพูนงานสลากภัตประจำจังหวัดของที่นี่นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 เป็นต้นมา ได้มีการนำประเพณี“สลากย้อม”ที่เริ่มสูญหายมาผนวกรวม เป็นประเพณี“สลากภัตและสลากย้อม”ที่ดำเนินการจัดควบคู่กันไป



       สีสันสลากย้อมยามราตรี



 ประเพณีนี้นอกจากเป็นการถวายทานตามคติความเชื่อของงานสลากภัตแล้ว ยังเป็นการรวมต้นสลากย้อมจากหลากหลายชุมชนมาถวายและจัดงานที่วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ศูนย์รวมจิตใจของชาวลำพูนก่อนเป็นลำดับแรกของทุกๆปี(นับตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา)

 

หลังจากนั้นจึงจะมีการจัดงานของสลากวัดอื่นๆเรื่อยไปตามการตกลงกันในแต่ละปีว่าวัดใดจะเป็นเจ้าภาพจัดงาน จนถึงวันแรม 14 ค่ำ เดือน 11 (เดือนเกี๋ยงเหนือ แรม 14 ค่ำ หรือ เดือนเกี๋ยงดับ)



       เดิมสลากย้อมเป็นการถวายทานเพื่อเป็นพุทธบูชาของหญิงสาว บางพื้นที่จำเพาะเจาะจงว่าต้องมีอายุ 20 ปีเท่านั้น ขณะที่บางพื้นที่ไม่จำเป็น ขอให้เป็นช่วงคาบเกี่ยวกับอายุ 20 ปี (บวกลบ 2-3 ปี) แต่สิ่งที่เชื่อเหมือนกันก็คือ ต้องเป็นหญิงสาวที่ไม่แต่งงาน โดยเชื่อว่าการถวายสลากย้อมของหญิงสาวจะได้รับอานิสงส์ผลบุญอย่างสูงยิ่งเทียบเท่ากับการบวชของผู้ชาย



ต้นสลากย้อมกับองค์ประกอบต่างๆ

       สลากย้อมมีของถวายทานสำคัญอยู่ที่ต้นสลากย้อมซึ่งทำเป็นต้นสูงใหญ่ เกิน 8 เมตรขึ้นไป ต้นสลากย้อม มีองค์ประกอบหลักๆ คือ


       -“ก้างสลาก” หรือลำต้น ซึ่งเดิมทำจากไม้ไผ่สีสุกลำต้นใหญ่ เหยียดตรง สูงยาว ส่วนปัจจุบันอาจมีปรับเปลี่ยนมาทำด้วยเสาเหล็กหรือท่อพีวีซีแทน ลำต้นสลากย้อมจะหุ้มด้วยฟางอีกที เพื่อใช้สำหรับปักไม้แขวนของถวายทาน และวัสดุสำหรับการตกแต่งเพื่อความสวยงาม


       -“ก้างฐาน” เป็นส่วนฐาน เดิมเป็นฐานโครงสร้างไม้ไผ่ มีการเจาะเข้าสลักปิดบังด้วยผ้าสี ปัจจุบันหันมาเป็นฐานโครงสร้างเหล็กหรือฐานไม้จริง กรุไม้อัด เพื่อความแข็งแรงและมีการประกับตกแต่งฐานอย่างสวยงาม


ไม้เฮียวย้อมสี


ไม้เฮียว”(ไม้เฮวหรือไม้เรียว) เป็นไม้ไผ่เหลาจนเล็กเรียวปักไปบนก้างสลาก มีไว้สำหรับแขวนเครื่องถวายทานต่างๆ ที่ปลายยอดไม้เฮียวขูดเป็นเส้นฝอยทำคล้ายดอกไม้ และนิยมย้อมสีตรงส่วนเส้นดอกฝอยนี้เพื่อความสวยงาม ทำให้หลายๆคนเชื่อว่าชื่อ“สลากย้อม”น่าจะมาจาก กระบวนในส่วนนี้นี่เอง



ขะจา เครื่องประดับตรงส่วนยอด


 -“จ้อง”หรือร่ม ทำประดับตรงส่วนยอด โดยจะมีการทำ “ขะจา” ที่ดั้งเดิมเป็นเหรียญถักขอบด้วยเข้าเปลือกห้อยประดับไว้ ส่วนปัจจุบันมีการปรับเปลี่ยนวัสดุไปตามยุคสมัย


       นอกจากส่วนประกอบหลักแล้ว ต้นสลากย้อมในปัจจุบันยังมีกระดาษแก้วหลากสีสันเป็นสิ่งประดับตกแต่งสำคัญ และมีของถวายทานสารพัดสารพัน รวมไปถึงทุกต้นจะต้องมี “กำฮ่ำ” หรือ “กะโลง”(ครรโลง) ประจำต้นสลากของตน


       กะโลง เป็นโคลงกลอนของชาวล้านนา เดิมเขียนเล่าประวัติของหญิงสาวเจ้าของต้นสลาก และรายละเอียดกระบวนการทำสลากย้อม ปัจจุบันมีการเพิ่มเติมในส่วนการเขียนเพื่ออุทิศให้ผู้ล่วงลับ เขียนคติธรรมคำสอน รวมถึงมีบทตลกขบขันสอดแทรกเข้าไปสร้างสีสัน ยามที่นำกะโลงไปขับประกวดประชันกัน


       ต้นสลากย้อมที่ทำถวายเป็นพุทธบูชา


ความที่ต้นสลากย้อมมีความสูงใหญ่ มากไปด้วยข้าวของถวายทานและสิ่งของตกแต่ง ในอดีตหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของต้นสลากจำเป็นต้องเก็บหอมรอมริบทรัพย์จำนวนหนึ่งมาทำ และ ต้องใช้เวลาทำนานร่วม 3-4 เดือน โดยในส่วนที่เป็นแรงงานหนักอย่างงานตัดไม้ ทำโครงสร้าง ปีนขึ้นไปทำยอด ก็จะได้ชายหนุ่มในชุมชนมาช่วย ซึ่งเดิมบ้านไหนมีฐานะดีก็มีเกณฑ์คนมาช่วยได้เยอะ หรือไม่บ้านไหนที่หญิงสาวเจ้าของต้นสลากเป็นคนสวย คนน่ารัก ก็จะมีชายหนุ่มมาช่วยทำต้นสลากเป็นจำนวนมาก เพื่อให้เป็นที่เข้าตาของสาวเจ้าของต้นสลาก


ดังนั้นการทำสลากย้อมของหญิงสาวในสมัยโบราณ จึงเป็นกุศโลบายให้หญิงสาว รู้จักมัธยัสถ์ เก็บหอมรอมริบ รู้จักทำงานการฝีมือ เย็บปักถักร้อย รวมไปถึงการเป็นแม่บ้านแม่ศรีเรือนที่ดี


       สำหรับการทำต้นสลากย้อม จากเดิมที่เป็นการทำเฉพาะส่วนบุคคลสำหรับหญิงสาวที่ยังไม่แต่งงานเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา แต่ว่าต่อมาในภายหลัง(ถึงปัจจุบัน) การทำสลากย้อมได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นการทำสำหรับชุมชน หรือสำหรับหน่วยงาน องค์กรต่างๆ เพื่อถวายอุทิศให้กับบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ หรือทำเพื่อถวายให้กับตัวเองในภพหน้า อีกทั้งยังเป็นการทำทานเพื่อถวายให้กับคนยากคนจนอีกด้วย





Create Date : 13 สิงหาคม 2555
Last Update : 14 สิงหาคม 2555 9:58:44 น. 1 comments
Counter : 5157 Pageviews.

 


อยากจะไปทำสลากย้อมเป็นพุทธบูชา รวมทั้งประกวดประขันกับเขาบ้าง....


เสียดาย น่าจะรู้ก่อนหน้านี้สัก... "สิบปี" ...555


ปีนี้ ....เอาเป็นว่าหากได้ไปร่วมบุญกับ "อ่อนน้อย วัย20" ทั้งหลาย ก็ดีใจมากแล้วค่ะ..เรียนเชิญนะคะ


โดย: อุ่นอาวรณ์ วันที่: 14 สิงหาคม 2555 เวลา:10:08:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อุ่นอาวรณ์
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add อุ่นอาวรณ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.