Group Blog
 
All Blogs
 
ความเสื่อมที่เลวร้าย กับ ความเจริญที่เป็นยอด

Sagaing hilltop pagoda with the full moon by : Brain Mcmorrow

 

มีพุทธดำรัสว่า..          

 

            " ความเสื่อมจากญาติ ยังนับว่าเป็นความเสื่อมเพียงเล็กน้อยดอก ภิกษุทั้งหลาย ความเสื่อมที่นับว่าเลวร้ายยิ่งกว่าความเสื่อมทั้งหลาย ก็คือ ความเสื่อมจาก ปัญญา"

              " ความเจริญด้วยญาติ ยังนับว่าเป็นความเจริญเพียงเล็กน้อยดอก ภิกษุทั้งหลาย ความเจริญที่เรากล่าวว่าเป็นยอด คือความเจริญด้วยปัญญา. เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า เราจักเป็นผู้เจริญด้วย ปัญญาวุฑฒิ(ความเจริญด้วยปัญญา) ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้แล"

              " ความเสื่อมจากโภคทรัพย์ ยังนับว่าเป็นความเสื่อมเพียงเล็กน้อยดอก ภิกษุทั้งหลาย ความเสื่อมที่นับว่าเลวร้ายยิ่งกว่าความเสื่อมทั้งหลาย ก็คือความเสื่อมจาก ปัญญา

              " ความเจริญด้วยโภคทรัพย์ ยังนับว่าเป็นความเจริญเพียงเล็กน้อยดอก ภิกษุทั้งหลาย ความเจริญที่เรากล่าวว่าเป็นยอด คือความเจริญด้วย ปัญญา. เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า เราจักเป็นผู้เจริญด้วย ปัญญาวุฑฒิ(ความเจริญด้วยปัญญา) ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้แล"

              " ความเสื่อมจากยศ ยังนับว่าเป็นความเสื่อมเพียงเล็กน้อยดอก ภิกษุทั้งหลาย ความเสื่อมที่นับว่าเลวร้ายยิ่งกว่าความเสื่อมทั้งหลาย คือความเสื่อมจาก ปัญญา"

              " ความเจริญด้วยยศ ยังนับว่าเป็นความเจริญเพียงเล็กน้อยดอก ภิกษุทั้งหลาย ความเจริญที่เรากล่าวว่าเป็นยอด คือความเจริญด้วย ปัญญา เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า เราจักเป็นผู้เจริญด้วย ปัญญาวุฑฒิ(ความเจริญด้วยปัญญา) ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้แล.

 

ที่มา
เอกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๐/๑๗,๑๘
พระไตรปิฎก ฉบับประชาชน โดย อ.สุชีพ ปุญญานุภาพ




Create Date : 21 ธันวาคม 2555
Last Update : 21 ธันวาคม 2555 17:44:17 น. 1 comments
Counter : 1069 Pageviews.

 
บางครั้ง คนเราเมื่อถึงเวลาต้องสูญเสีย ก็สูญเสียอย่างที่คาดไม่ถึง....

ทั้งเสียทรัพย์ เสียยศ เสียเกียรติ เสียคนรัก บางคนเขาไม่รักแล้ว ก็เจ็บแล้ว แต่เขายังกลับเกลียดอีก เรื่องของความรัก จะมีอะไรที่น่าเศร้าใจไปกว่านี้?

หรือบางคนรักษาไว้ซึ่งเกียรติยศ แต่เกียรตินั้นกลับถูกทำลายอย่างย่อยยับ


เสีย....จนหลายๆคน เริ่มคิดว่าจะมีอะไรที่เสียได้มากไปกว่านี้อีกไหม

บางคนยิ้มเยาะกับตนเอง บอกว่าช่างมันเถอะ ..เพราะเสีย จนไม่มีอะไรที่จะเสียอีกแล้ว

.............

ทุกท่านคะ เมื่อเสีย ทุกๆคนย่อมรู้สึกเจ็บปวด

แต่ความสูญเสียเป็นเรื่องที่ทุกๆคนต้องประสพพบเจอ ไม่ว่าวันใดก็วันหนึ่ง เพราะไม่มีผู้ใดหัวเราะหน้าบาน สมหวังอยู่ได้ทุกๆวัน ดังภาษิตจีนบทหนึ่งซึ่งกล่าวว่า "ยามรุ่งเรือง พุ่งเปรี้ยงดุจเสียงฟ้า แม้เทวยังสยบหลบทางให้ จะหยิบดาวเดือนชมก็สมใจ คงร้องไห้วันหนึ่งแน่ คราวแพ้มี"


ถึงคราวเสีย ย่อมต้องต้องใช้เวลาในการเยียวยา และเรียกสติให้กลับคืนมา

ค่อยๆปลุกปลอบใจตนเถิดค่ะ พุทธพจน์บทนี้สอนว่าเสียอะไรก็เป็นความเสียเพียงเล็กน้อย เพราะความสูบเสียที่ยิ่งใหญ๋คือ ความเสื่อมเสียจาก ความดี และ ปัญญา


ขอให้ทุกๆคนเดินข้ามผ่านความทุกข์ และความสูญเสียได้
ด้วยความองอาจ ด้วยสติ ด้วยความดี/บารมี และด้วยปัญญาค่ะ




โดย: คนเคยเสีย (อุ่นอาวรณ์ ) วันที่: 21 ธันวาคม 2555 เวลา:18:18:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อุ่นอาวรณ์
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add อุ่นอาวรณ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.