ชีวิตของน้ำเกลือ
Group Blog
 
All Blogs
 
" ไปไม่รอดแล้วน้องเด้ ถูกเหน่น้ำตาปลาดูหยง "

" ไปไม่รอดแล้วน้องเด้ ถูกเหน่น้ำตาปลาดูหยง "


พะยูนฝูงสุดท้ายของทะเลไทย


ข้อความข้างต้นนั่นคือ เสียงเพลงรองเง็งแปลงจากแถบหมู่บ้านชาวประมงฝั่งอันดามันแว่วมาแต่ไกล สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อจากอดีตที่ตกค้างอยู่มาถึงปัจจุบัน น้ำตาปลาดูหยงหรือปลาพะยูนมีคุณค่าในทางการทำเสน่ห์ยาแฝดเทียบเท่าน้ำมันพราย เป็นที่ปราถนาของบรรดาหนุ่มตะกอทั้งหลาย หากได้มาเกี้ยวพาราสี ประพรหมให้ต้องกายสาวเพียงหยดสองหยดรับรองว่าไม่พลาด

อันที่จริง ปลาพะยูนหรือปลาดูหยง ไม่ใช่ปลา แต่เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อาศัยอยู่ในทะเลเหมือนโลมาหรือวาฬ พะยูนเคยมีอยู่ทั่วไปทั้งภาคใต้แถบตะวันตกและตะวันออก ชื่ออำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง ก็บ่งชี้ว่าเป็นแหล่งที่มีพะยูนชุกชุม แถบทะเลสาบลำป่าอันเป็นส่วนหนึ่งของทะเลสาบสงขลาก็เคยมีชาวประมงจับพะยูนได้ในปี พ.ศ. 2533 แต่ได้ทำร้ายจนบาดเจ็บเพื่อเตรียมจะชำแหละเนื้อขาย คุณไพบูลย์ วัฒนกิจ หัวหน้าสถานีประมงน้ำจืดจังหวัดพัทลุงได้มาขอซื้อไปเพื่อรักษาพยาบาลไว้แต่ก็มีชีวิตอยู่ได้แค่ 3 วันเท่านั้น โอกาสที่พะยูนจะสูญพันธุ์ไปจากโลกเช่นเดียวกับมานาที (Manatee) หรือพะยูนอเมริกาใต้ จึงมีอยู่มากหากไม่เร่งอนุรักษ์ไว้อย่างเอาจริงเอาจัง

พะยูนมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Dugong dugong มีชื่อไทยว่า พะยูน หมูน้ำ หรือเงือก De Blainville นักชีววิทยาทางทะเลได้ศึกษาจากซากฟอสซิล ที่พบในอียิปต์ แล้วให้ความเห็นว่า พะยูนมีลักษณะหลายอย่างคล้ายช้าง Moeritherium ซึ่งมีอายุอยู่เมื่อราว 40 ล้านปีมาแล้ว จึงจัดพะยูนเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีกีบ ต้นตระกูลเดียวกับช้าง แต่ได้วิวัฒนาการจนสามารถอาศัยอยู่ในน้ำได้จนขาหลังหดหายไป ขาหน้าก็กลายมาเป็นครีบสำหรับว่ายน้ำ

พะยูนมีลักษณะคอใหญ่ ตาเล็ก มีฟันบดเคี้ยวเอื้องติดกันเป็นผืด ไม่มีเหงือกแต่มีรูจมูกปิดเปิดได้เวลาขึ้นมาหายใจบนผิวน้ำ ตัวเมียมีเต้านมขนาดเท่านิ้วก้อย 2 เซนติเมตร สองเต้า ลำตัวและหางคล้ายโลมา ลำตัวด้านหลังสีเทาดำและเขียวคล้ำ ท้องสีดำนวลจนถึงเทาปนขาว ครีบหางและขาคู่หน้า ขนลำตัวสีเทาดำ หนวดสีขาว ตัวผู้เมื่อมีอายุเข้าวัยรุ่นจะมีฟันบนงอกยาวออกมาคู่หนึ่งจนกลายเป็นงา ใช้เป็นอาวุธไว้ต่อสู้แย่งสาวมาเป็นคู่ครองสืบพันธุ์มีลูกหลานต่อไป อาหารคือหญ้าทะเล (Seagrass) ซึ่งงอกงามอยู่ใต้ท้องน้ำตื้น ๆ ลึกราว 3-6 เมตร อันเป็นที่ซึ่งพระอาทิตย์สาดแสงลงไปถึงได้ พะยูนจึงได้อีกชื่อหนึ่งว่า วัวทะเล (Sea Cow)

หญ้าทะเลปัจจุบันได้ถูกทำลายไปมากโดยฝีมือมนุษย์จากการระบายของเสียจากนากุ้ง โรงงานอุตสาหกรรม เหมืองแร่ทางทะเล และแหล่งชุมชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำประมงประเภทอวนลาก อวนรุน ซึ่งจะกวาดพื้นทะเลรวทั้งหญ้าทะเลไปเสียหมด โอกาสที่พะยูน รวมทั้งเต่าทะเล ซึ่งกินหญ้าทะเลเป็นอาหารจะสูญพันธุ์ไปเพราะขาดอาหารเป็นอีกหนทางหนึ่งนอกเหนือจากการติดอวนขึ้นมาเป็นอาหารของมนุษย์โดยตรง

แต่เป็นที่น่ายินดีที่สมาคมหยาดฝน จังหวัดตรัง ซึ่งมีคุณพิศิษฐ์ ชาญเสนาะ นายกสมาคมได้รณรงค์ร่วมกับชุมชนประมงขนาดเล็กแถบอำเภอสิเกาและอำเภอกันตัง ให้ปกป้องน่านน้ำจับปลา ป่าชายเลน และหญ้าทะเล จนกระทั่งได้เกิด " ป่าชุมชนชายเลน " ขึ้นเป็นแห่งแรกในประเทศไทย สามารถอนุรักษ์แนวหญ้าทะเลในแหล่งสำคัญ 3 แห่ง พื้นที่ประมาณ 133 ตารางกิโลเมตร ความอุดมสมบูรณ์ได้กลับคืนมาสู่ชายทะเลจังหวัดตรังอีกครั้งหนึ่ง พร้อม ๆ กับการปรากฎกายของพะยูนฝูงหนึ่งซึ่งอาจเป็นฝูงสุดท้ายของโลกที่หาดหยงหลิง อำเภอกันตัง ท่ามกลางความชื่นชมของชาวประมงผู้เล็งเห็นคุณค่าของการอนุรักษ์ธรรมชาติ และคงไม่ช้าไม่นานเสียงเพลงออดอ้อนของหนุ่มชาวเลจะแว่วมาอีกครั้งอย่างมีความหมาย

" ไปไม่รอดแล้วน้องเด้ ถูกเหน่น้ำตาปลาดูหยง "




ลิ๊งค์ที่เกี่ยวข้อง

//www.phangngacity.com/environ4.2.htm

//travel.sanook.com/Eco-Tour/ecotour_08457.php

//www.zdirectory.com/standard_info.asp?language=L&crefno=87


Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2549
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2549 17:16:50 น. 0 comments
Counter : 2661 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

น้ำเกลือยอดเยี่ยม
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ทำอพาร์ตเมนต์ ขายปลา ทำปลา เล่นเน็ต ตามการเมือง
Friends' blogs
[Add น้ำเกลือยอดเยี่ยม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.