ประวัติศาสตร์ มศว - History of SWU
สวัสดีค่ะ วันนี้ขอเปลี่ยนแนว จากปกติที่จะอัพเดทเรื่องราวการสมัครแอร์โฮสเตสนั้น เปลี่ยนมาเป็นเรื่องการเรียน การศึกษาสัก 1 วัน ^_^

ช่วงนี้น้องๆ หลายคนกำลังเข้าสู่ช่วงเวลายากลำบากของชีวิต(รึเปล่า??) นั่นก็คือการสอบ Admission 57 นั่นเองงงงงงงง..... สมัยนี้นอกจากจะสอบ Admission เข้ามหาวิทยาลัยตาระบบปกติแล้ว ยังสอบโควต้ารับตรงตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ด้วย ในฐานะที่พี่เองก็เข้าเรียนมหาวิทยาลัยผ่านการสอบรับตรงเหมือนกัน เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัย เล็กๆ น้อยๆ ให้อ่านกันจ้า...

พี่เรียนจบ "คณะสังคมศาสตร์ เอกประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ" โดยวิธีการสอบโควต้ารับตรงค่ะ ณ ยุคนั้น เวลานั้น (รหัสนิสิตพี่ 48... อะ เป็นรุ่นแรกของภาควิชาที่เป็นนิสิตรับตรง) สอบแค่ 2 วิชาค่ะ คือ ประวัติศาสตร์และเหตุการณ์ปัจจุบัน 
เอกประวัติศาสตร์ที่สอบ ณ ตอนนั้นเป็นสิ่งที่เรียนมาตอน ม.ปลาย ทั้งสิ้น ซึ่งไม่รู้ว่าตอนนี้ยังเป็นเหมือนเดิมมั๊ยนะ แต่เท่าที่ไปดูข้อมูลมจาก //www.2btopic.com/SWU/history.html เห็นมีสอบตามนี้จ้ะ 

รายละเอียดการสอบตรงคณะสังคมศาสตร์ (ประวัติศาสตร์) มศว ปีการศึกษา 2556
1. วิชาภาษาอังกฤษ 
2. วิชาภาษาไทยและสังคมศึกษา 
3. วิชาความถนัดทางการเรียน
4. วิชาความรู้พื้นฐานทางประวัติศาสตร์
.
.
.
อืม....สอบเยอะกว่าสมัยเราเยอะเลย 5555 เอาเป็นว่า เตรียมตัวให้ดีๆ นะคะ พี่มิสามารถติวหรือแนะแนวข้อสอบได้ เพราะยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแว้วว ^^" เรามาเข้าเรื่องชีวิตการเรียนกันดีกว่าเนอะ
.
.
.
.
.
ภาควิชาของเรา...เป็นภาควิชาเล็กๆ อาจารย์น่ารักค่ะ น้องๆ ที่เข้ามาเรียนจะสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากอาจารย์ ภาคเราคนเรียนไม่เยอะจ้ะ อยู่กันอบอุ่นดี น้องๆ มีปัญหาชีวิตสามารถปรึกษาอาจารย์ที่ปรึกษาได้ตลอด(ถ้าอาจารย์ว่างนะ) หรือปรึกษาพี่เทคก็ได้ค่ะ ตำราเรียนส่วนใหญ่ก็ไปมาเป็นทอดๆ จากพี่เทคบ้าง ซื้อใหม่บ้าง แล้วแต่วิชาจ้ะ

การเรียนที่นี้ จะว่ามันหนักก็หนักนะ แต่มันก็ไม่ได้หนักแบบไม่ได้นอนเหมือนภาควิชา เรียนแรกๆ จะค่อนข้างชิลนะ 
ปี 1 : เรียนวิชาพื้นฐานซะส่วนมาก วิชาเอกมีน้อย ยังไงก็พยายามเก็บหน่วยกิตวิชาบังคับและกิจกรรมต่างๆ ให้เรียบร้อยตั้งแต่ปีแรก ปีอื่นจะได้สบายๆ  ส่วนวิชาเอกเรียนไม่ยาก อ่านหนังสือเยอะๆ เข้าเรียนให้ครบ ทำงานส่งให้ครบทุกชิ้น ตั้งใจเรียนมากๆ ตอนสอบปลายภาครับรองผ่านฉลุยจ้า
.
.
ปี 2 : เริ่มเรียนวิชาเอกละจ้า ความยากเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับความชอบ ความถนัด ความสนใจของตัวน้องๆ เอง อย่างพี่ไม่ค่อยถนัดประวัติศาสตร์ยุโรปอะ...ก็เลยว่ามันยาก ประวัติศาสตร์ตะวันออก(จีน ญี่ปุ่น) ยากมั๊ย...ก็ยากแต่สนุกดี อะไรทำนองนี้ 
.
.
ปี 3 : ชั้นปีนี้จะเรียนหนักสุดพี่ว่านะ เพราะเราต้องเรียน "วิจัยประวัติศาสตร์" ซึ่งเป็นโปรเจคยักษ์ประจำปีเลยทีเดียว อาจารย์ให้เวลาทั้งเทอมในการทำงานวิจัยจ้ะ แต่ก็ต้องเข้าเรียนทุกครั้งนะ เพื่อส่งงานให้อาจารย์ดูว่า หัวข้อวิจัยเราโอเคมั๊ย ต้องปรับแก้อะไรบ้าง วิชานี้สนุกดี พี่ชอบ 5555
.
ปี 4 : ชั้นปีนี้ก็มีโปรเจคใหญ่อีกชิ้นคือ สัมนาประวัติศาสตร์ แนวๆ การทำรายงานแลวออกมาพรีเซ้นต์ละ แต่ว่า...งานต้องละเอียด เชิงลึก มีเหตุมีผล คือต้องให้สมกับเป็นชั้นปี 4 ทำอะ ตั้งใจทำแล้วมันจะออกมากดีเองนะ ^^
.
.
สิ่งที่ต้องพบเจอตลอด 4 ปี คือ "การทำรายงาน บทความ ทั้งหลาย" ส่งอาจารย์ น้องๆ ที่อยากจะเรียนภาคนี้ทำใจได้เลย งานเยอะแน่นอน ทั้งเดี่ยว ทั้งกลุ่ม 555 แต่สนุกๆ จริงๆนะ พี่คอนเฟิร์ม ^_^ 

****การทำการบ้านส่งแต่ละชิ้นนั้น ห้าม!!!! copy จาก internet มาเด็ดขาด อันนี้พี่เตือนด้วยความหวังดีค่ะ อย่าคิดว่าอาจารย์ไม่รู้ อาจารย์รู้ค่ะ -- พี่เห็นมาเยอะแล้ว พวกส่งงานก๊อปมาแล้วอาจารย์ให้เลข 0 ตัวโตๆ เพราะฉะนั้นอย่าทำนะ****

สำหรับวิชาโท ที่ มศว มีให้เลือกหลายสาขาวิชาจ้ะ จะเรียน ภาษาจีน เกาหลี อังกฤษ ฝรั่งเศส ก็ได้ไม่มีปัญหา ถ้าสอบเข้าไปได้นะ พี่เองเรียนวิชาโทมัคคุเทศก์ค่ะ สมัยก่อนเรียนแล้วก็จะได้บัตรมัคคุเทศก์สีเงินเลย แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้แล้วอะ T_T เศร้าใจ... น้องๆ อยากเรียนวิชาโทอะไรสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่พี่เทค ภาควิชานั้นๆ หรือศึกษาจากคู่มือนิสิตก็ได้จ้ะ ง่ายๆ 

ค่าใช้จ่ายๆ ต่างๆ สมัยพี่เรียน ค่าใช้จ่ายไม่เยอะจ้ะ ภาควิชาพี่จะหมดเงินไปกับการซื้อหนังสือ ถ่ายเอกสาร กัยเสียมาก อย่างอื่นไม่เท่าไหร่ อ้อ....จะมีค่าออกฟิลด์บ้าง แต่ก็มีปีละไม่กี่ครั้ง เผลอๆ ไม่ต้องจ่ายด้วย ^^ 
สำหรับค่าเทอมอ้างอิงจาก //admission.swu.ac.th/new_message_detail.php?id=560002  เทอมละ 12,000 บาทจ้ะ (สมัยพี่ 4,000 เหอะ ราคาขึ้นมาตลอดตั้งแต่เรียนจบเลยนะเนี้ย) 

การออกภาคสนาม ภาควิชาเรามีออกภาคสนามไปศึกษาประวัติศาสตร์กันทุกปีค่ะ แล้วแต่ว่าเรียนวิชาอะไรบ้าง แต่สนุกค่ะ รับรอง 

คำเตือน!!
น้องๆ ที่คิดจะเรียนที่ภาควิชานี้ อยากให้เรียนเพราะใจรักจริงๆ ค่ะ ไม่ใช่เลือกเพราะว่าขึ้นชื่อว่า admission ติด ม.รัฐ ถ้าน้องเรียนแบบไม่ได้ใจรัก น้องก็จะเรียนแบบไม่มีความสุข สุดท้ายน้องก็จะไม่ได้อะไรจากการเรียนปริญญาตรีตั้ง 4 ปี ในมหาวิทยาลัย 
เพราะฉะนั้นคิดให้ดี หาตัวเองให้เจอ ก่อนเลือกคณะนะคะ

เรียนแล้วจบไปทำงานอะไร? >> พี่เชื่อว่าน้องๆ หลายคนคงมีคำถามนี้วนเวียนอยู่ในสมองใช่ไหมเอ่ยยย ^_^ เรียนประวัติศาสตร์จบไปทำได้หลายอย่างค่ะ เพื่อนพี่หลายคนเป็นคุณครูทั้งในโรงเรียน รัฐบาลและเอกชน มีทั้งระดับมัธยมและประถม อาจารย์ในมหาวิทยาลัยก็มี บางคนก็ทำงานบริษัททัวร์ บางคนก็เรียนต่อ ป.โท บางคนเป็นไกด์ บางคนรับราชการในกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ นักเขียนในสำนักพิมพ์วิชาการต่างๆ แปลกๆแหวกหน่อยก็ทำงานธนาคาร เซลล์ เซลล์โคฯ อะไรประมาณนี้ ตัวพี่เองเป็น Admin ค่ะ ตอนนี้กำลังจะหางานใหม่ 5555 


จริงๆ แล้วสาขาวิชาของเรา ถ้าจะให้ทำงานตรงสายจริงๆ จะค่อนข้างยาก เพราะสายอาชีพค่อนข้างแคบ แต่....เราสามารถนำสิ่งที่เรียนมาไปประยุกต์ใช้ได้จ้า เพราะการเรียนในมหาวิทยาลัยกับชีวิตจริง ค่อนข้างจะแตกต่างกัน เวลาที่เราเข้าสู่ชีวิตการทำงาน ก็ต้องเรียนรู้อะไรๆ ใหม่ๆ อยู่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นอย่าได้กังวล เพราะเพื่อนพี่ รุ่นพี่ รุ่นน้อง จบมาก็มีงานทำกันทุกคนแหละ ^_^
.
.
.
.
วันนี้ขอจากลากไปเท่านี้นะคะ น้องๆ คนไหนที่เข้ามาอ่าน และมีคำถาม ถามไว้ได้ที่คอมเม้นท์หรือจะส่งเมลมาถามหลังไมค์ก็ได้ไม่ว่ากัน ยังไงก็ ขอให้น้องๆ โชคดีกับการการสอบเข้ามหาวิทยาลัยกันทุกๆ คนนะคะ ^_^

arr.by
BelLTuBa



Create Date : 15 พฤษภาคม 2556
Last Update : 15 พฤษภาคม 2556 10:23:20 น.
Counter : 5046 Pageviews.

4 comment
ความสุขเล็กๆ น้อยๆ ในการทำงาน
สวัสดีเช้าวันอังคารค่ะ พรุ่งนี้ก็วันลอยกระทงละ ใครจะไปลอยกระทงที่ไหนกันบ้าง เราก็คงไม่พ้นลอยที่วัดริมคลองแถวบ้านเหมือนเดิม ^^

เรายอมรับค่ะ ว่าโดยปกติเราเป็นคนช่างคิดเล็กคิดน้อยคิดมาก เวลาไม่ชอบใครก็จะไม่ชอบอยู่อย่างนั้น แล้วก็เป็นคนหงุดหงิดง่ายมว๊าก

จนมาถึงวันนี้ รู้สึกว่า "การที่เราคิดเล็ก คิดน้อย มีอคติ และรู้สึกหงุดหงิดอยู่ตลอดเวลานั้น มันทำให้เราทุกข์จริงๆ" เราก็เลยลองปล่อยวาง เลิกคิดเล็กคิดน้อย เลิกอคติผู้คนที่เราไม่ชอบ ไม่ถูกใจ มันทำให้เรารู้สึกดีขึ้นจริงๆ นะ อย่างน้อยก็ทำให้เวลาที่เราทำงานมีความสุขมากขึ้น ไม่รู้สึกเหนื่อยจิต เหนื่อยใจ และแฮปปี้กับผู้คนรอบข้าง 

ใครที่รู้สึกเหนื่อยกะชีวิต เหนื่อยจิตเหนื่อยใจ เหนื่อยกับการทำงาน ลองวิธีนี้ดูค่ะ มันทำให้เรารู้สึกดีขึ้นจริงๆนะ ^_^

Arr.by BelLTuba
Smiley



Create Date : 27 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2557 15:41:26 น.
Counter : 233 Pageviews.

1 comment
ชีวิตพนักงานคนหนึ่ง....กับวันๆ นึงที่หมดไป
สวัสดีค่ะ ... วันนี้อยากจะอัพเรื่องงานการปัจจุบันของตัวเองบ้าง 

ตอนนี้เราเป็น......(อะไรดีละ).....Admin / Co-ordinator / Receptionist / Operator / Messenger / Copy Doc. Girl บลา บลา ๆ !!!!! ทำไมมันช่างเยอะอย่างนั้นละ !!! Smiley จริงๆ ไม่ได้เยอะหรอกค่ะ แค่เราไม่มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบแน่นอนเท่านั้นเอง ก็เลยทำจับฉ่ายในแผนก admin Smiley

วันๆ ทำอะไรบ้างหรา เธอว์...
ด้วยความที่หน่วยงานที่ทำอยู่เป็นหน่วยงานประเภทลูกครึ่งรัฐ-เอกชน อะไรหลายๆ อย่างก็ยังคงต้องทำในลักษณะราชการอยู่ เพราะฉะนั้นหน้าที่เราก็คือ "ร่างจดหมายราชการ" มันก็เป็นอะไรที่ดูง่ายๆ สบายๆ เนอะ แต่จริงๆ แล้วมันต้องใช้สมาธิในการทำงานพอสมควรเลยนะ เพราะจะต้องนั่งคิดว่าจะใช้ภาษาทางการแบบไหน จะเรียนใคร เรื่องอะไร เอาอะไรขึ้นก่อนหลัง อ้างถึงใคร กล่าวถึงใคร โอ๊ย...เยอะแยะ ใครว่างานราชการง่ายๆ ขอบอกเลยจ้า ว่า "ไม่" Smiley แรกๆ ที่เราทำก็เหมือนจะน่าสนุกนะ เพราะคิดว่าไม่น่าจะต่างจากงานหนังสือที่ทำเท่าไหร่ แต่....แม่ม ทำไปทำมาชักไม่สนุกละ เราคงไม่ชอบงานเอกสารจริงๆ ละ เพราะมันไม่ได้มีแค่ร่างจดหมายราชการเบๆ หนะสิ มันยังต้องทำหนังสือบันทึกข้อความจุกจิกจุ๊กจิ๊กอีกมากมาย จะจัดประชุมนั่นนี่ ขอเบิกนั่นนี่ก็ต้องมีหลักฐาน เราก็เลยต้องทำหน้าที่นี้ไปนั่นเอง ...ความเบื่อก็เริ่มมาเยือน

แล้วมาทำงานที่นี้ทำไมละ ... เอิ่มมม ก็แค่อยากได้ความมั่นคงและรายได้ที่ดีขึ้นแค่นั้นเอง
ไม่ได้ทำเพราะใจรักเลยสักนิ๊ด .... แล้วงานที่รักคืออะไร ... เราเองก็หาคำตอบอยู่เหมือนกัน ... ซึ่งเราก็เชื่อว่าอาชีพลูกเรือบนเครื่องบินน่าจะเป็นคำตอบของเรา และเราก็เชื่อมั่นว่าอย่างนั้น ...

อยากจะบอกใครที่ผ่านเข้ามาอ่าน แล้วยังหาคำตอบว่าชีวิตตัวเองต้องการอะไร? ยังไม่ได้ 
อยากให้ลองคิดเยอะๆ ค่ะว่าแท้จริงแล้วตัวเองต้องอะไรกันแน่ อยากใช้ช้ชีวิตแบบไหน ทำงานแบบไหน ที่ทำแล้ว Happy งานไหนที่ทำแล้วมีพลังงานล้นเหลือใช้ไม่มีวันหมด ไม่ว่างานจะเหนื่อยจะหนักแค่ไหน... เพราะถ้าเราได้ใช้ชีวิตอย่างที่เรารักและต้องการ ทุกๆ วันที่มาทำงาน ก็จะไม่เหมือนทำงาน และเราจะมีความสุขกับมัน อย่าเอาเรื่องรายได้หรือความต้องการของคนอื่นมาเป็นเป้าหมายในชีวิต จริงอยู่ที่ว่า 'เงินคือปัจจัยหลักในการดำรงชีพ' แต่ถ้าเราต้องแลกทั้งชีวิตกับงานที่ไม่ชอบเพื่อให้ได้เงินเดือนที่มากมาย เราว่าไม่คุ้มกันหรอก เราว่ามันเหมือนซอมบี้ไร้หัวใจมาทำงานมากกว่า Smiley และมันจะทำให้เราไม่มีความสุขไปตลอดทั้งชีวิตเลยนะ 

มีคนดังๆ หลายๆ คนที่ประสบความสำเร็จในงานที่ตัวเองรัก ถึงแม้ตอนเริ่มต้นมันจะมีสะดุด
บ้าง ท้อบ้าง ถ้าเราไม่ท้อซะอย่างความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกลหรอก และหลังจากนั้นรายได้ดีๆ มันก็จะตามมาเอง Smiley

วันนี้อัพแค่นี้ดีกว่าค่ะ...วันหลังว่างๆ จะมาเม้าท์มอยเรื่องงานให้ฟังใหม่นะจ้ะ ^_^

Arr. by BelLTuBa



Create Date : 13 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2557 15:41:51 น.
Counter : 341 Pageviews.

2 comment

btb
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]