All Blog
Review: อาหารเสริมเืพื่อผิวสวยกับ Verena: L-Gluta Berry Plus
สวัสดีค๊า..วันนี้พี่วิจะพูดถึงเรื่องของอาหารผิวกันบ้าง

ซึ่งพี่มั่นใจว่าทุกคนคงอยากทราบ
ว่าพี่วิทานอะไรบ้าง ในการดูแลผิว




ก่อนหน้านี้พี่วิจะพยายามรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ 
ซึ่งก็ครบบ้างไม่ครบบ้าง การออกกำลังกายซึ่งก็ไม่มีโอกาสได้ทำทุกวัน
แต่การบำรุงด้วยครีมบำรุงผิวและการรับประทานวิตามิน C ใน 2 อย่างนี้ที่พี่ไม่เคยขาดค่ะ

แต่..พี่รู้สึกว่ามันไม่เพียงพอ!!
เลยทำให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ช่วยในเรื่องสุขภาพและผิวพรรณ
เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญ ซึ่งพี่กำลังให้ความสนใจไม่น้อยเลยค่ะ


ถ้าให้พูดเรื่องการทำให้ผิวสวย ขาว กระจ่างใส 
ปฎิเสธไม่ได้ว่าทุกคนจะต้องให้ความสำคัญกับคำว่า กลูต้าไธโอน
หลายคนกลัว!! พี่เองก็กลัวค่ะ ดังนั้นเลยต้องอ่าน ฟัง และหาข้อมูลเพิ่มเติมสักหน่อย
โดยพี่วิได้รวบรวมจากบทสัมภาษณ์คุณหมอและจากในเว็ปไซต์ มาสรุปให้อ่านกันดังนี้ค่ะ

“กลูต้าไธโอน คือ   (glutathione) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เซลล์ในร่างกายมนุษย์สามารถสังเคราะห์ได้เอง 
มีคุณสมบัติเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ทำหน้าที่ในการปกป้องเนื้อเยื่อไม่ให้ถูกทำลายโดยสารอนุมูลอิสระที่สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกาย กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย และที่สำคัญยังช่วยตับ
ในการทำลายและขจัดสารพิษออกจากร่างกายด้วย

               ในทางการแพทย์พบว่ามีการนำกลูตาไธโอนมาทดลองใช้ในการรักษาโรคต่างๆ ซึ่งยังไม่ได้รับการอนุมัติข้อบ่งใช้จากองค์การอาหารและยา เช่น ภาวะเป็นหมันในเพศชาย ปลายเส้นประสาทอักเสบ มะเร็งกระเพาะอาหาร หรือมะเร็งต่อมลูกหมาก วิธีการรักษามักทำโดยการฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำหรือเข้าที่กล้ามเนื้อ ผลข้างเคียงอย่างหนึ่งที่น่าแปลกใจ คือ ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยการฉีดกลูตาไธโอนนั้นมีสีผิวที่ขาวขึ้น เนื่องมาจากกลูตาไธโอนสามารถยับยั้งเอนไซม์
ไทโรซิเนส (tyrosinase) ได้ และส่งผลให้เม็ดสีของผิวหนังเปลี่ยนจากเม็ดสีน้ำตาลดำ
เป็นเม็ดสีชมพูขาว  ด้วยเหตุนี้เองจึงมีผู้พยายามนำผลข้างเคียงของยามาใช้ในการทำให้ผิวขาวขึ้น

ประเด็นสำคัญ ของการใช้ยาฉีดกลูตาไธโอนโดยเฉพาะการฉีดเข้าหลอดเลือดดำนั้น คือ 
ความปลอดภัยจากการฉีดยา เนื่องจากผิวที่ขาวขึ้นจากกลูตาไธโอนนั้นเป็นผลข้างเคียง
ของยาที่เกิดขึ้นชั่วคราวเท่านั้น  หากต้องการให้ผลคงอยู่ไปตลอดจำเป็นต้องได้รับ
การฉีดซ้ำเป็นระยะ ทำให้มีการสะสมยาในร่างกายมากขึ้น และอาจก่อให้เกิดอันตราย
ในระยะยาวได้ นอกจากนี้การฉีดยาจำเป็นต้องกระทำโดยผู้ประกอบวิชาชีพที่เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างการให้ยา เช่น การฉีดยาในอัตราที่เร็วเกินไป 
การติดเชื้อในกระแสเลือด จากเครื่องมือที่ไม่สะอาดเ การเกิดฟองอากาศอุดตันหลอดเลือด 
เนื่องจากผู้ฉีดยาไล่ฟองอากาศในเข็มฉีดยาไม่หมด เป็นต้น
 ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อผู้ที่ได้รับยาจนถึงขั้นเสียชีวิต ได้เลยทีเดียว”


และ พี่วิได้พบบทสัมภาษณ์หนึ่งใน YouTube เป็นการแนะนำจากคุณหมอค่ะ
ว่าเราสามารถรับประทานกลูต้าได้ แต่ต้องอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม จึงจะเกิดประโยชน์
ทานน้อยไปก็ไม่เห็นผล มากไปก็เป็นผลเสียต่อร่างกาย 
ซึ่งคุณหมอแนะนำว่า ใน 1 วันไม่ควรรับประทานเกิน 500 มิลลิกรัมค่ะ
แล้วควรแบ่งเป็น 2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 250 มิลลิกรัม และควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มี อย.

จากหลายๆ ข้อมูลเลยทำให้พี่วิมั่นใจได้ว่า  
เราสามารถดื่มหรือรับประทานได้ในปริมาณที่เหมาะสมค่ะ
ถึงจะส่งผล และไม่ควรนำกลูต้าเข้าสู่ร่างกายด้วยวิธีการฉีดซึ่งอันตรายมากๆ
พี่วิไม่กล้า และไม่สนับสนุนให้ใช้วิธีการฉีดนะคะ  
ถ้ารักจะสวย ก็ต้องสวยแบบฉลาดและปลอดภัยด้วยค่ะ!!

เอาล่ะข้อมูลครบแล้ว..ก็เหลือการเลือกผลิตภัณฑ์ที่จะทดลองแล้วค่ะ
ประจวบเหมาะกับที่มีหลายๆ แบรนด์ส่งผลิตภัณฑ์มาให้ทดลอง
แต่ด้วยวัยที่มากอย่างพี่แล้ว..จะดื่มหรือรับประทานอะไรก็คงต้องเลือกกันหน่อยค่ะ เช่น
ว่าปลอดภัยหรือไม่ 
ได้รับ อย. หรือเปล่า 
และจะส่งผลดีอย่างไร 
รวมถึงมีส่วนผสมอะไรที่พี่สนใจบ้าง
เมื่อได้อ่านและเปรียบเทียบทุกอย่างแล้ว พี่วิจึงตัดสินใจเลือกดื่มของแบรนด์นี้ค่ะ


Verena L-Gluta Berry Plus




ไปดูส่วนผสมกันหน่อยค่ะ.. 
เพื่อความมั่นใจ!!





ไปดูประสิทธิภาพและจุดเด่นที่แบรนด์เคลมไว้หน่อยนะคะ
ว่าเป็นอย่างไรบ้าง

- ผิวขาวขึ้น (ขาวออร่า) ผิวใสขึ้น ผิวตึงขึ้นกว่าเดิม ผิวอมชมพู กระจ่างใส ได้ถึง 10 เท่า

- ดูดซืมเข้าร่างกายได้ดีกว่า เพราะเป็นน้ำ

- รวบรวมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหว่า 15,000 มิลลิกร้ม มาอยู่ในซองเดียว 
สามารถดูดซึมได้ทันที

- ถ้าคุณทานแบบแคปซูลต้องทานประมาณ 20-30 แคปซูล เทียบเท่ากับการทาน 
แอลกลูต้าเบอรี่พลัสเพียงแค่ 1 ซองแต่ถ้าทานแบบแคปซูล
จะก่อให้เกิมะเร็ง เวียนหัว อาเจียน ปวดหัว

- แอลกลูต้าเบอรี่ ปลอดภัย ผ่านการับรองจาก อย. GMP ฮาลาล 
มาตรฐานระดับโลก ทานได้ทุกเพศ ทุกวัย

- รสชาติน้ำผลไม้ ตัวนี้เหมาะมาก เพราะทานง่าย หรือวัยทำงานที่ต้องทานน้ำ 
แค่เทลงน้ำก็ได้ทานแล้ว โดยเฉพาะแม่บ้านหรือผู้สูงอายุที่ไม่ชอบทานยา 
ทานง่ายเป็นน้ำผลไม้ได้เลย เด็กหรือวัยรุ่น ที่ไม่ชอบทานยาหรือผักผลไม้


คุณสมบัติและส่วนผสมที่แบรนด์เคลมไว้ค่ะ

- คอลลาเจนจากปลาทะเลน้ำลึกที่มาจากสหรัฐอเมริการ ที่รับรองว่าไม่กลิ่นคาว 
ไม่ทำให้อ้วน ไม่มีกลิ่นฉุน และดูดซึมได้ถึง 100% จะเข้าไป
เติมเต็มริ้วรอยต่างๆ ให้เต่งตึง กระชับ ชุ่มชื้น

- แอลกูลต้าไธโอน จะเข้าไปในร่างกายเพื่อเร่งการสร้างกลูต้าเป็นกลูต้าที่ได้รับมาตรฐาน  
บางคนกลัวกลูต้ามากเพราะบางสื่อโจมตีกลูต้าว่าอันตราย แต่กลูต้าของมี GMP รับรองมาตรฐาน

- ผลไม้ตระกลูเบอรี่ที่เป็นผลไม้ที่วิเศษ เช่น สตอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ 
ทั้งหมดนี้เป็นผลไม้ที่ต่อต้านอนุมูลอิสรา เป็นผลไม้ที่นำเข้าจากต่างประเทศด้วยการแช่แข็ง 
และบดเป็นผงเสมือนคุณได้ทานผลไม้สด ๆ เลย ผลลัพธ์คือ คุณจะมีผิวพรรณที่ใส กระจ่าง 
สังเกตว่าชาวต่างประเทศนิยมผลไม้ตระกูลเบอร์รี่มาก

- ทับทิมราชินีแห่งความงามที่เป็นอมตะ ทับทิมจะไปต่อต้านอนุมูลอิสระทำให้ผิวเราไม่เหี่ยว
ไม่โทรม  ตื่นตอนจะรู้สึกกระปรี้กระเป่า ผิวใส

- โคเอนไซน์เคิวเทนที่ทำให้ผิวไม่แก่ ไม่เหี่ยว และคนที่มีอายุแล้วต้องใช้โครเอนไซน์คิวเทนบำรุง

- วิตามินซี

- ไม่ต้องกลัวว่าจะอ้วน เพราะในตัวนี้มีอินูลินทำให้รู้สึกอิ่ม ซูก้าฟรี ทำให้ผิมสวยหุ่นดีด้วย
- สารสกัดทั้งหมดนี้อยู่ในซอง ซองนี้ วิธีทาน ทานง่ายมากเพียงแค่คุณฉีกซอง ชง ดื่ม และเชค 
ด้วยวิธีชง น้ำเปล่า 1 แก้ว 120 มิลลิลิตร หรือประมาณ 1 แก้ว และเทลงไป 
และคนให้ละลาย จะเห็นเป็นน้ำผลไม้

- ใครที่ชอบทานน้ำผลไม้ หรือทานเหล้าลองใช้ตัวนี้ดู เพราะมีแต่ประโยชน์และดีต่อสุขภาพ



หลังจากที่พี่วิ ได้อ่านข้อมูลครบถ้วนแล้วเลยเริ่มทดลองดื่มดังนี้ค่ะ

15 วันแรกพี่วิจะชงดื่ม 1 ซอง และก่อน 1 ซองค่ะ





15 วันหลัง พี่วิดื่มเฉพาะตอนเช้าอย่างเดียว 2 ซองเลยค่ะ






วิธีการชง และอุปกรณ์






1. พี่วิใช้น้ำเย็นๆ เจี๊ยบบบ..ในการชงค่ะ
2. L-Gluta Berry Plus 1-2 ซอง





จะออกมาเป็นสีชมพูน่าดื่มแบบนี้เลย






กลิ่นเหมือนน้ำผลไม้เลยค่ะ
หอมเบอร์รี่และทับทิม
รสชาติหวาน







ความรู้สึกหลังทดลองผลิตภัณฑ์มา 1 เดือนนะคะ

สิ่งหนึ่งที่เห็นผลชัดๆ แน่นอนเลยคือ 

1. ทำให้พี่วิมีระบบขับถ่ายที่ดีขึ้นมาก จากปกติ 3-4 วันถ่าย 1 ครั้ง
ตอนนี้ถ่ายทุกวันที่ดื่มเลยค่ะ ท้องไม่ผูกด้วย...
และเห็นผลตั้งแต่ 2-3 วันแรกที่ดื่มเลย...ชอบตรงนี้ที่สุด!!

2. ส่วนในเรื่องของผิวขาว ต้องเรียนว่าพี่ว่าขาวอยู่แล้วนะคะ 
เลยอาจจะเห็นผลได้ไม่ชัดเจนเหมือนคนอื่น อีกอย่างพี่วิเชื่อว่าเราต้องดื่มอย่างต่อเนื่องค่ะ 
ถึงจะเห็นผลชัดเจน ว่าขาวขึ้น กระจ่างใสขึ้นขนาดไหน

3. ตื่นเช้ามารู้สึกสดชื่นค่ะ ไม่งัวเงีย ตื่นยาก เหมือนเมื่อก่อน..อันนี้แฟนบอก 5555+

4. อีกอย่างที่ชอบมากๆ ตรงกลิ่นหอมอ่อนๆ ของเบอร์รี่และทับทิมค่ะ
ทำให้รู้สึกว่า ดื่มได้ง่าย และน่าจะดูดซึมได้ไวเพราะเป็นการชงดื่มแบบน้ำ
และสุดท้ายยยย

5. สบายใจตรงที่แบรนด์เคลมว่าดื่มแล้วไม่อ้วน เพราะเป็นซูก้าฟรีค่ะ


สำหรับสาวๆ ที่สอบถามกันมาเยอะว่าพี่วิดูแลผิวอย่างไร ดื่มอะไรบ้าง 
ได้ข้อมูลกันไปแล้วนะคะ

ไว้พบกันใหม่ในบล็อคหน้า...ลุ้นกันว่าพี่วิทดลองอะไรอีกบ้าง 
น่าสนใจขนาดต้องบอกต่อกันแบบนี้หรือไม่...แล้วพบกันค๊า



ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม สถานที่จัดจำหน่าย และช่องทางการสั่งซื้อค๊า

www.verena.co.th
Watsons และ BigC ทุกสาขา
หรือสั่งซื้อโดยตรงที่ โทร. 1607 ส่งฟรีถึงบ้าน

ราคา Promotion : 3 กล่อง 1,000 บาท




Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2557 10:37:55 น.
Counter : 32026 Pageviews.

1 comment
Review: Workshop กับ โดฟ คอนดิชันเนอร์ เคลือบปิดรูพรุนบนผมเสีย

สืบเนื่องจากปลายเดือนมกราคมพี่วิมีโอกาสไปร่วม Workshop กับ Dove Hair
ทดลองสระและนวดผมด้วย โดฟ คอนดิชันเนอร์ ที่ The Gallery Salon ในเกษรพลาซ่าค่ะ
วันนี้เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์และความรู้ต่างๆ ที่ได้ไปฟังบรรยายมา ซึ่งพี่ว่ามีประโยชน์มากๆ




เริ่มต้นจาก..การใช้เครื่องตรวจวัดสุขภาพเส้นผม
จากตัวเลข 0-9 วัดออกมา..พี่ได้ 4 คือ  ผมเริ่มแห้งแล้ว..ตัวเลขอยู่แบบปานกลาง
ใครได้ 0 คือสุขภาพผมนี่ดีมากๆ ช่างน่าอิจฉา





จากนั้นเข้าสู่การเข้าฟังบรรยาย
โดยคุณคุณปรัศว์ หงส์ลดารมภ์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์โดฟ 
กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลและบำรุงเส้นผม บริษัทยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง 



เผยถึงปัญหาผมเสียของสาวไทยว่า ผู้หญิงไทยใช้ความร้อนและสารเคมีในการทำผมเพิ่มขึ้นมาก
เพราะทรงผมที่เคยทำยาก ๆ ก็ไม่ได้เกินความสามารถของผู้หญิงอีกต่อไปและด้วยเทคโนโลยีของอุปกรณ์ทำผมด้วยตนเองที่มีมาให้เลือกได้หลากแบบหลายทรง รวมทั้งกระแสการเปลี่ยนสีผมสวยๆ ตาม  เทรนด์แฟชั่นอีกด้วย ซึ่งส่งผลให้สูญเสียเคราตินจนเกิดรูพรุนบนเส้นผม อันเป็นสาเหตุของผมเสียอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นผมขาดความแข็งแรง แห้ง แตกปลายและขาดร่วงง่าย เพราะผมที่ไม่แข็งแรงก็เปรียบเสมือนเสาที่มีรูพรุนซึ่งจะไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นหรือน้ำมันตามธรรมชาติที่ทำให้ผมเรียบและอยู่ทรงเอาไว้ได้ ทำให้สาวๆ ขาดความมั่นใจและไม่กล้าที่จะเผยเส้นผมให้ใครๆ เห็น อย่างไรก็ตามเราพบว่าผู้หญิงจำนวนมากได้เผยว่าไม่อยากจะใช้บำรุงผมด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นเป็นประจำ เนื่องจากมักจะให้ความรู้สึกหนักและไม่สบายศีรษะในระหว่างวัน ทำให้ขาดการบำรุงและฟื้นฟูผมอย่างต่อเนื่อง

และโดฟได้จัดอันดับสำหรับ 3  เทรนด์ผมฮิต
ที่ทำร้ายผมสาวไทยมากที่สุด 

พิจารณาจากความรุนแรงในการทำร้ายผมและความนิยมในหมู่ผู้หญิงไทย 



อันดับ 1 ได้แก่ทรง Fuzzy Curls 
การม้วนผมด้วยแกนไฟฟ้า เพื่อให้ผมฟูฟุ้งสวยมีมิติเป็นสาเหตุให้ทำผมเสียไร้น้ำหนัก 
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาว ๆ ที่อยากได้ลอนเด้งตลอดวัน
แล้วตั้งค่าความร้อนเกิน 180 องศาเซลเซียสขึ้นไป 

อันดับ 2 ได้แก่ทรง Super Straight Hair 
เทรนด์ผมตรงเรียบจรดปลายที่เป็นที่นิยมของสาว ๆ ทุกยุคสมัยทำให้ผมต้องเจอกับการไดร์ตรง
ที่ใช้ความร้อน แม้ความร้อนจากไดร์เป่าผมจะไม่ได้สูงเท่าทรงแรก 
แต่กว่าจะได้ลุคสวยหวานก็ต้องไดร์เป็นเวลานาน อีกทั้งยังต้องไดร์ทุกวัน
ทำให้เส้นผมแห้งเสียในระยะยาว

อันดับ 3 ได้แก่ทรง Vintage Big Hair
ตั้งแต่ภาพยนตร์ The Great Gatsby ออกฉาย กระแสผมหยอกพองฟู
แบบวินเทจสไตล์ดาราฮอลลีวู้ดกำลังเข้าสู่เมืองไทย ซึ่งนอกจากต้องใช้พลังความร้อนสูง
ในการทั้งเป่าและเซ็ตผมแล้ว สาว ๆ หลายราย
ก็ยังนิยมยีผมเพื่อเพิ่มวอลลุ่มให้โคนผมอีกด้วย ซึ่งเป็นการเปิดเกล็ดผม 
ดังนั้นกว่าจะได้ทรงสวยเนี้ยบเก๋ก็ทำให้ผมเสียได้เช่นกัน

เมื่อเทรนด์ผมสวยแต่ส่งผลเสียต่อสุขภาพผมคงจะอยู่กับสาวไทยรวมทั้งสาว ๆ ทั่วโลกไปอีกนาน 
ดังนั้นสถาบันวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ยูนิลีเวอร์ ประเทศอังกฤษ จึงพัฒนานวัตกรรม  
“เคราติน รีแพร์  แอ็คทีฟ”  ที่สามารถอุดรูพรุนด้วยการเติมเคราตินถึงชั้นเซลล์ผม แต่ยังให้ความรู้สึกเบาสบายมีชีวิตชีวา ด้วยการทำงานของ “แผ่นไมโครชีท”



คุณธนภัทร บารมีแสงเพชร ผู้จัดการแผนกพัฒนาผลิตภัณฑ์
เครื่องใช้ส่วนบุคคล บริษัทยูนิลีเวอร์ ไทย   เทรดดิ้ง 
เผยถึงมิติใหม่แห่งการบำรุงและฟื้นฟูสุขภาพผมในโดฟ คอนดิชันเนอร์ สูตรล่าสุดว่า 
“หลังจากใช้เวลาในการศึกษาค้นคว้าวิจัยมานาน ในที่สุดสถาบันวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ยูนิลีเวอร์
ก็ประสบความสำเร็จในการพัฒนาครีมนวดผม “โดฟ คอนดิชันเนอร์” สูตรใหม่ ด้วยเทคโนโลยี 
“เคราติน รีแพร์ แอ็คทีฟ” และ “ไมโครชีท” เอกสิทธิ์เฉพาะของยูนิลีเวอร์
ที่ช่วยยกระดับการบำรุงและฟื้นบำรุงผมแห้งเสียได้อย่างเต็มความสามารถ 
ด้วยการตรงเข้าบำรุงถึงชั้นเซลล์ผม  พร้อมสารบำรุงที่ช่วยเคลือบปิดรูพรุนเพื่อฟื้น
บำรุงให้ผมแห้งเสียกลับมาแข็งแรง เรียบลื่นสุขภาพดี ตอบสนองกับขั้นตอนการทำผม
ของสาวๆ ยุคนี้ที่มีการใช้ความร้อนและสารเคมีเยอะขึ้นได้อย่างดี นอกจากนี้โครงสร้าง
โมเลกุลสารบำรุงผมในรูปแบบ "ไมโครชีท” ที่สามารถกระจายตัวเข้าบำรุงเส้นผมได้อย่างทั่วถึง 
ผมจึงเรียบลื่นและนุ่มสลวย ไม่พันกันแม้ขณะทีผมเปียก  
พร้อมตอบโจทย์สาวเมืองร้อนด้วยการมอบความรู้สึกเบาสบายตั้งแต่ขณะสระผมอีกด้วย”




ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยโครงสร้างของแผ่น “ไมโครชีท” ที่มีลักษณะเป็นรูปทรงแบนเรียบสามารถ
กระจายตัวเข้าบำรุงเส้นผมได้อย่างทั่วถึง ผมจึงเรียบลื่นและนุ่มสลวย ไม่พันกันแม้ขณะทีผมเปียก  แตกต่างจากโมเลกุลสารบำรุงในครีมนวดผมทั่วไปในปัจจุบันที่เป็นลักษณะเป็นรูปทรงกลมคล้ายหัวหอม ซึ่งพื้นที่ผิวสัมผัสไม่เอื้ออำนวยต่อการเคลือบบำรุงเส้นผมได้อย่างทั่วถึง 
ประสิทธิภาพที่ทำให้ผมเรียบลื่นและนุ่มสลวยก็น้อยลงไปด้วย


หลังจากฟังบรรยายจบ พี่วิได้มีโอกาส Workshop 
โดยการทดลองใช้ “โดฟ คอนดิชันเนอร์ ใหม่”

ที่ The Gallery Salon ที่เกษรพลาซ่าค่ะ 
ใครเคยไปทำผมที่ร้านนี้บ้างคะ..จะบอกว่าพนักงานสระผมและนวดได้เคลิ้มมากๆ 
มีเวลาอีกนิดเจ้หลับแน่ๆ 555+  พนักงานทุกท่านมารยาทดี สุภาพ ไดร์ผมสวย มือเบาค่ะ
บรรยายกาศในร้านสะอาดสะอ้าน  เหมาะสำหรับสาวๆ ที่ต้องการบริการ
ระดับ Hi-end หรูหราและเป็นส่วนตัวค่ะ





เลือกครีมบำรุงผมให้เหมาะกับสภาพผม
โดฟขอแนะนำครีมบำรุงผม “โดฟ คอนดิชันเนอร์ ใหม่” ที่มาพร้อมด้วยเทคโนโลยี “เคราติน รีแพร์ แอ็คทีฟ*” และ“ไมโครชีท” ในโดฟทั้ง 4 สูตร ช่วยเคลือบปิดรูพรุนในผมแห้งเสียได้ดียิ่งกว่า ผมนุ่มลื่นยิ่งขึ้นตั้งแต่ขณะสระและผมเปียก บำรุงลึกถึงชั้นเซลล์ผม ปรับโครงสร้างผมที่เสีย เพื่อความแข็งแรงของเส้นผม หวีง่ายไม่พันกัน ป้องกันการขาดหลุดร่วงระหว่างสระผม สู่สัมผัสผมนุ่มลื่นสลวยถึงภายนอก พร้อมให้ความรู้สึกเบาสบายมีชีวิตชีวาอย่างแท้จริง โดยมาในขวดรูปโฉมใหม่ ใช้ง่าย และจับถนัดมือกว่าเดิม





ใช้ครีมนวดให้ถูกวิธี
การใช้ครีมนวดผมอย่างถูกวิธีคือ “เราควรชโลมทันทีหลังจากสระผมเสร็จ ขณะที่ผมเปียกหมาดๆ เพื่อให้สารบำรุงในครีมนวดผมสามารถตรงเข้าสู่เซลล์ผมได้อย่างเต็มที่ โดยหากผมยาวประมาณครึ่งหลัง ควรใช้ปริมาณครีมนวดผมประมาณหนึ่งฝ่ามือ แต่หากผมยาวมากหรือหนาเป็นพิเศษก็ควรเพิ่มปริมาณให้มากขึ้น หลังจากบีบครีมนวดผมมาได้ในปริมาณพอเหมาะ ให้ชโลมครีมนวดผม โดยเริ่มจากกึ่งกลางผมแล้วลูบไปตามความยาวของเส้นผม โดยเน้นบริเวณปลายผมให้มาก แล้วทิ้งไว้ 1-2 นาที เพื่อช่วยให้ครีมนวดผมสามารถเข้าถึงเส้นผมได้ทั่วถึงที่สุด จากนั้นล้างออกด้วยน้ำตั้งแต่โคนไปสู่ปลายผม ซึ่งจะช่วยปิดเกล็ดผมและเก็บกักความชุ่มชื้นไว้ภายใน”

ไดร์ผมเสร็จแล้ว พี่วิได้รับผลิตภัณฑ์ 
เพื่อมาทดสอบเองที่บ้านด้วยค่ะ





 ได้ความรู้มาเพี๊ยบบบ!!
เช้าอีกวันตื่นขึ้นมาเห่อมากเลยค่ะ..ขอสระผมและนวดผมด้วยโดฟซะเลย





เนื่องจากพี่วิเป็นสาวผมเสียนะ เลยเลือกสูตรนี้เลย

โดฟ คอนดิชันเนอร์ อินเทนซ์ รีแพร์ (สำหรับสาวผมเสีย)
INTENSE REPAIR





พี่วิผมยาวประมาณกลางหลังค่ะ 
เลยลงครีมนวดตั้งแต่ช่วงกลางถึงปลายผม





ไดร์ผมเสร็จแล้วค๊า...ดูพริ้วเลยยยย




ความรู้สึกหลังใช้:
หลังจากซับผมให้แห้งแล้ว พี่วิไดร์ผมตามปกติเหมือนทุกวันค่ะ
 “ผมดูชุ่มชื่น มีน้ำหนักมากขึ้น แต่ไม่ลีบแบนค่ะ”


แบรนด์ให้มาทดลองทั้ง 4 สูตรค่ะ 
แต่ที่เหมาะกับพี่คือสีน้ำเงินที่พี่วิทดลอง





4 สูตรเหมาะกับสาวๆ ผมแบบไหนบ้าง??
ดูได้จากด้านล่างนี้เลยค่ะ


โดฟ คอนดิชันเนอร์ อินเทนซ์ รีแพร์ (สำหรับสาวผมเสีย)



ดูแลล้ำลึกจากภายในด้วยเคราติน รีแพร์ แอ็คทีฟ เพื่อจัดการทุกปัญหาผมเสียไม่ว่าจะเป็นผมหยาบ ชี้ฟู ไม่เงางาม ผมแห้ง ไม่มีน้ำหนัก ผมไม่แข็งแรง พันกัน จัดทรงยาก และเรียงตัวไม่สวยงาม บำรุงเส้นผมให้แข็งแรงจากโคนจรดปลาย  ให้ผมเสียกลับมาสวยสมบูรณ์แบบตลอดทั้งเส้น เสริมสร้างความยืดหยุ่นเพื่อให้เส้นผมแข็งแรงและมีน้ำหนัก พร้อมรับมือกับการถูกทำร้ายในอนาคต 



โดฟ คอนดิชันเนอร์ นอริชชิ่ง ออยล์ แคร์ (สำหรับสาวผมแห้ง)



ผสานพลังนูทริ-ออยล์ บำรุงให้ผมนุ่มลื่นขึ้นถึง 99%** ซึมซาบเข้าไปบำรุงผมอย่างล้ำลึก เพื่อเติมลิพิดหรือน้ำมันตามธรรมชาติ พร้อมด้วยสารบำรุงผมอื่นๆที่จำเป็น พร้อมลดการชี้ฟู 
โดยไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะ ล้ำหน้าไปอีกขั้นกับการดูแลเส้นผม
ให้คงความนุ่มสลวยและเปล่งประกายเงางาม



โดฟ คอนดิชันเนอร์ แฮร์ ฟอล เรสคิว (สำหรับสาวผมขาดหลุดร่วง)



ปกป้องและลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผมตั้งแต่โคนผม และเสริมความแข็งแรงให้แก่เส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการผสานส่วนผสมสำคัญ ไตรคาซอล แอ็คทีฟ (Trichazole actives) และป้อนสารบำรุงลงลึกถึงโคนผม จึงช่วยให้ผมยึดติดกับโคนผมได้ดีขึ้น^ ขณะเดียวกันก็ช่วยเคลือบปิดเกล็ดผมที่ขาดและฟื้นบำรุงเส้นผมที่แห้งเสีย ช่วยทำให้เส้นผมลื่นขึ้น ไม่เปราะขาดง่ายอีกต่อไป 
^เมื่อใช้ควบคู่กับ โดฟ แฮร์ฟอล เรสคิว โทนิค



โดฟ คอนดิชันเนอร์ สเตรท แอนด์ ซิลกี้ 
(สำหรับสาวผมชี้ฟูเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ)



ให้ผมตรงขึ้น สวยขึ้น เหมาะสำหรับผมเสียปานกลาง ผมแห้ง ไม่มีน้ำหนัก และจัดทรงยาก โดยมีไมไคร มอยซ์เจอร์ เซรั่ม เอกสิทธิ์เฉพาะของโดฟ ช่วยบำรุงให้ผมตรงเรียงเส้นสวยขึ้น มีน้ำหนัก 
ลดการชี้ฟู ไม่แห้งเสีย และจัดทรงได้ง่ายขึ้น 



ทั้ง 4 สูตรมีให้เลือก 5 ขนาด ได้แก่ 
70 มล (29 บาท) 
160 มล (69 บาท) 
330 มล (135 บาท) 
460 มล (159 บาท) 
650 มล (199 บาท)  

********************************
*เคราติน รีแพร์ แอ็คทีฟ ที่มีเฉพาะในโดฟ อินเทนซ์ รีแพร์ คอนดิชันเนอร์


เรียกว่า Workshop ครั้งนี้  ทำให้พี่วิมีความรู้เกี่ยวกับครีมบำรุงและการบำรุงดูแลเส้นผมมากขึ้นมากๆ
ขอขอบคุณ โดฟ บริษัทยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง และ The Gallery Salon มากค่ะ
ที่ให้พี่วิได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมและประสบการณ์ดีๆ รวมถึงความรู้ใหม่ ๆ
เพื่อนำมาแบ่งปันข้อมูลดีๆ ในครั้งนี้ค๊า



Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2557 14:59:04 น.
Counter : 6526 Pageviews.

1 comment
Review: Hada Labo Retinol Lifting & Firming เพื่อผิวกระชับและลดเลือนริ้วรอย

เดือนมกราคมผ่านไปแล้ว...เร็วจริงๆ เลยเดือนๆ นึงเนี่ย!!

ปีนี้ถือว่าหนาวกว่าทุกๆ ปีเลยแถมหนาวนานด้วย ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจนถึงปลายเดือนมกราเลยค่ะ

ได้ใส่เสื้อผ้าเก๋ๆ เพี๊ยบ..แต่ก็นะ..ในขณะที่อากาศเย็นสบาย สำหรับพี่ปัญหาตามมาเลยค่ะ!!!




ทั้งที่เป็นคนติดครีมบำรุงมากๆ  แต่ผิวกลับแห้งสุดๆ ผิวกายนี่ต้องโบ๊ะครีมแบบเนื้อเข้มข้นกันเลยทีเดียว

ผิวหน้าไม่ต้องพูดถึงค่ะ...แย่มากๆ เป็นเหมือนกันไม๊?? ผิวแห้ง หน้าตึง 

และสิวอักเสบแบบเม็ดใหญ่ๆ  ขึ้นด้วย  สักพักหน้าลอก!! เห้อออ..เหนื่อยมากกก


แต่เพื่อความงามค่ะ!!  พี่พยายามหาวิธีแก้ไขมาทุกหน้าหนาวนะ..

ปีนี้ก็เช่นกัน..แต่ปีนี้พิเศษหน่อย!!  คือยอมทดลองการเปลี่ยนสกินแคร์หมดทั้งเซ็ทเลยค่ะ

เลือกแบบชุ่มชื่นจริงๆ  แต่ยังคงเน้นเรื่องการลดเลือนริ้วรอยอยู่นะ เพราะสำคัญมากสำหรับพี่ 555++


สิ่งที่นำมาลองเทสในหน้าหนาวนี้มีตัวไหนบ้าง แล้วผลลัพธ์เป็นอย่างไร??

พี่วิขออธิบายขั้นตอน..ตั้งแต่หลังล้างหน้าเสร็จแล้วนะคะ เพราะถ้ารวม

ขั้นตอนการล้างหน้าด้วยคงยาวมากจริงๆ




ขั้นตอนการบำรุงผิว

หลังจากล้างหน้า ซับหน้าให้แห้งแล้ว...ก็ทดสอบตามขั้นตอนนี้มา 1 เดือนเต็มๆ ค่ะ..เริ่มจาก

1. ฉีดด้วยสเปย์น้ำแร่ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวค่ะ แล้วนวดกระชับหน้าเบาๆ

2. แตะครีมบำรุงรอบดวงตา แล้วกดแตะเบาๆ  ที่บริเวณรอบดวงตาด้วยปลายนิ้วนางให้ทั่ว

3. ลงด้วย Lotion แล้วตบเบาๆ ให้ทั่วทั้งหน้า

4. ต่อด้วยการลง Essense แล้วตบเบาๆ ให้ทั่วทั้งหน้าเช่นกัน

5. และท้ายสุดด้วยการลง Pack Cream บางๆ เพื่อคงความชุ่มชื่นให้กับผิว






ตัวผลิตภัณฑ์ที่พี่วินำทดลองในช่วงหน้าหนาวที่ผ่านมานี้คือ...


ตัวที่ 1.  Hada Labo Retinol Lifting & Firming Lotion

โลชั่นบำรุงผิวหน้า เพื่อผิวกระชับและลดเลือนริ้วรอย 

ขนาด 170 มิลลิลิตร ราคา 620 บาท






ในการลงผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 ตัว  พี่วิมีวิธีคือการวอร์มผลิตภัณฑ์แต่ละตัวที่ฝ่ามือก่อนค่ะ

แล้วจึงใช้การตบเบาๆ ลงบนผิวหน้าให้ทั่วทุกจุดแล้ว ทั้งหน้าเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ลงสู่ผิว

ได้รวดเร็วและล้ำลึกยิ่งขึ้น


อธิบายเป็นตัวหนังสือแล้ว  มีภาพประกอบมาให้เข้าใจง่ายขึ้นดังนี้ค่ะ....

1.1 เท Lotion ลงที่ฝ่ามือ กว้างประมาณเท่าเหรียญ 10 บาทค่ะ



1.2  ถูวนเบาๆ เพื่อเป็นการวอร์มและให้โลชั่นกระจายทั่วทั้งฝ่ามือ



1.3 วางมือลงที่แก้มทั้ง 2 ข้าง แล้วกดลงเบาๆ ค่ะ



1.4 วางมือลงที่หน้าผากและคาง แล้วตบเบาๆ




1.5 วางมือทั้ง 2 ข้างลงที่กลางหน้าช่วงจมูก  แล้วตบเบาๆ


1.6 ตบเบาๆ ซ้ำ ไปเรื่อยๆ ให้ทั่ว จนผลิตภัณฑ์ซึมซาบลงสู่ผิว







สาเหตุที่พี่วิใช้ “การตบเบาๆ” แทนการ “เกลี่ยหรือปาด” 

ผลิตภัณฑ์ให้ทั่วใบหน้าเป็นเพราะว่า

1. การวางฝ่ามือแล้วตบเบาๆ เป็นการกระตุ้น หรือปลุกผิว ที่อ่อนล้าในกระปรี้กระเปร่าขึ้นค่ะ

2.  หากเรานวดหรือเกลี่ยผลิตภัณฑ์ ไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้องหรือน้ำหนักแรงเกินไป

อาจทำให้เกิดริ้วรอยหรือผิวไม่กระชับได้


ดังนั้นพี่วิจึงใช้วิธีเหล่านี้ในการลงครีมบำรุงผิวในทุกๆ วันค่ะ..

ส่วนวิธีการนวดหน้า และสครับหน้า…ทำไม๊??...ทำค่ะ!!

ไว้พี่วิจะมารีวิวในบล็อคถัดๆ ไปนะคะ ว่าควรทำตอนไหน 

และทำอย่างไรจึงเรียกว่าถูกวิธีและดีต่อผิวค่ะ



ตัวที่ 2  Hada Labo Retinol Lifting & Firming Essence

Essence เป็นตัวบำรุงเข้มข้น ทำให้เห็นผลเรื่องยกกระชับและลดเลือนริ้วรอยเร็วขึ้น

ขนาด 30 กรัม  ราคา 790 บาท






วิธีการใช้คือ ลงหลังจากลง Lotion เรียบร้อยแล้วค่ะ

ส่วนวิธีในการลงเหมือนการลง Lotion ด้านบนเลยค๊า เนื้อ Essence จะมีสีเหลืองครีมขุ่นๆ เข้มข้นๆ

เกลี่ยง่าย ซึมซาบไม่เร็วมากนัก เหมาะกับวัตถุประสงค์และวิธีใช้ในการบำรุงค่ะ




และตัวที่ 3 Hada Labo Retinol Lifting & Firming  Cream

ครีมบำรุงผิวหน้า เพื่อผิวกระชับและลดเลือนริ้วรอย

Pack Cream ตัวนี้ได้รับรางวัล Best Beauty จาก Marie Claire Magazine

เทียบเท่า Cream From Counter Brand ราคาแพงเลยค่ะ

ขนาด 50 กรัม  ราคา 689 บาท




วิธีการใช้ ลงเป็นตัวสุดท้ายเลยค่ะ หลังจาก Essence นั่นเอง!!

ตัวนี้เป็นครีมบำรุงค่ะ เนื้อสีขาวขุ่น

เนื้อครีมเหนียว แต่ไม่หนัก ไม่เหนอะหนะ เกลี่ยง่าย

เหมาะมากๆ กับหน้าหนาว หรือสาวๆ ที่ผิวแห้งมากๆ




ทำไมถึงทดลอง 3 ตัวนี้??

เพราะทั้ง 3 ตัวนี้มีส่วนผสมที่เหมาะกับสภาพผิว ริ้วรอย และวัยแบบพี่วิ..ซึ่งได้แก่...

เรตินอล วิตามิน เอ: ฟื้นบำรุงผิวให้ดูอ่อนเยาว์ พร้อมลดเลือนริ้วรอยให้ดูตื้นขึ้น

คอลลาเจน: เพิ่มความยืดหยุ่น ยกกระชับผิว ป้องกันริ้วรอยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ซุเปอร์ ไฮยาลูโรนิค แอซิด: เติมเต็มและกักเก็บความชุ่มชื่นล้ำลึกให้ผิวเนียนนุ่ม


ความรู้สึกหลังทดลองใช้

หลังจากที่ใช้ครบ 1 เดือนเต็มๆ ในช่วงอากาศหนาว ผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 ตัว  ช่วยให้ผิวพี่วิไม่ลอกหรือแห้งเลย 

ให้คะแนนเต็มในเรื่องความชุ่มชื่นเลยค่ะ

 ผิวดูกระชับขึ้น ซึ่งอาจเป็นผลมาจากวิธีในการกดและตบเบาๆ ผลิตภัณฑ์เลยทำงานได้อย่างเต็มที่ค่ะ

ส่วนเรื่องของการลดเลือนริ้วรอย..ต้องใช้เวลาและการบำรุงอย่างต่อเนื่องค่ะ

บอกตรงๆ ว่า การทดลองแค่ 1 เดือนนี่พี่ยังไม่คอนเฟิร์มเรื่องนี้ค่ะ


แต่ถ้าถามว่าพี่วิชอบตัวไหนที่สุด!!  ต้องเป็น!! 

Hada Labo Retinol Lifting & Firming Lotion ค่ะ

เพราะบางเบาไม่เหนียวเหนอะหนะ ผิวชุ่มชื่นดี เมื่อผิวเราชุ่มชื่นอย่างสมดุลจะทำให้ไม่เกิดริ้วรอยได้ง่าย

แล้วอีก 2 ตัวไม่ชอบหรอคะพี่วิ??  เนื่องจากพี่วิเป็นผิวผสมถ้าใช้ในฤดูอื่นๆ ที่นอกเหนือจากหน้าหนาว

พี่ว่าจะชุ่มชื่นเกินไปสำหรับผิวหน้าพี่ค่ะ...แต่เหมาะมากๆ สำหรับสาวผิวแห้ง หรือผิวขาดน้ำ

แนะนำเลยลองดู ราคาไม่แพงหาซื้อง่ายด้วยค่ะ


สำหรับการรีวิวผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื่น ไม่แห้งลอกผิวมีความยืดหยุ่นได้ดีในหน้าหนาวที่ผ่านมา 

หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับสาวๆ ที่ผิวแห้ง หรือสาวๆ ที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์

กลุ่มยกกระชับและลดเลือนริ้วรอยนะคะ น่าจะตอบโจทย์สาวๆ หลายคนได้เลยล่ะ


สถานที่จำหน่าย: Watsons, Tops Super Market, Home Fresh Mart,

Gourment Market, Tsuruha, Tesso Lotus และ EVEANDBOY




Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2557 8:19:21 น.
Counter : 15280 Pageviews.

2 comment
Review : DIY สปาผิวให้นุ่มชุ่มชื่นกับ Dove Indulgent Nusrishment body lotion โลชั่นบำรุงผิวจากโดฟ
ผิวนุ่มชุ่มชื่น อิ่มน้ำ น่าสัมผัสเป็นผิวที่สาวๆ ใฝ่ฝันหาพี่วิเองก็เช่นกันค่ะ

วันนี้พี่วิมีโอกาสได้ไปเรียนรู้การทำ DIY สปาผิวง่ายๆ ด้วยตัวเองที่ ไอศวรรย์ สปา
Grand Hyatt Erawan  กิจกรรมดีๆ แบบนี้จัดขึ้นโดย Dove Body Lotion 





ก่อนการสปาเรามาร่วม Workshop ไปพร้อมๆ กันนะคะ







ภายในงานได้แนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก 

Dove Body Lotion ทั้ง 4 สูตรได้แก่





1. โดฟ เอสเซนเชี่ยล นอริชเม้นท์ (สีน้ำเงิน/ สำหรับผิวธรรมดา ถึงผิวแห้ง) 
ด้วยส่วนผสมของ เอสเซนเชี่ยลออยล์ ในดีพแคร์คอมเพล็กซ์ บำรุงผิวล้ำลึกจากภายใน
*ล็อคความชุ่มชื่นให้ผิวสวยเนียนนุ่มอย่างยาวนาน 

2. โดฟ โก เฟรช นอริชเม้นท์ (สีเขียว/ สำหรับผิวธรรมดา) 
สูตรผสมเมนทอลและกลิ่นหอมของแตงกวาและชาเขียว ผสานดีพแคร์คอมเพล็กซ์ 
ช่วยบำรุงผิวล้ำลึก* ให้กลิ่นหอมสดชื่น เติมชีวิตชีวาพร้อมล็อคความชุ่มชื่นให้ผิวเย็นสบายตลอดวัน 

3. โดฟ อินดัลเจ้นท์ นอริชเม้นท์ (สีน้ำตาล/ สำหรับผิวธรรมดา ถึงผิวแห้ง) 
ด้วยส่วนผสมเข้มข้นจาก นอริชชิ่งครีมและสารสกัดจากเชีย บัตเตอร์ ผสานดีพแคร์ คอมเพล็กซ์ 
ช่วยบำรุงล้ำลึก* ล็อคความชุ่มชื่นให้ผิวเนียนนุ่มดุจได้รับการปรนนิบัติเป็นพิเศษทุกวัน 

4. โดฟ ซิลกี้ นอริชเม้นท์ (สีทอง/ สำหรับผิวธรรมดา) 
สูตรผสมชิมเมอร์ ให้ผิวดูสว่างเปล่งประกาย พร้อมดีพแคร์คอมเพล็กซ์ 
ช่วยบำรุงผิวล้ำลึกจากภายใน* ล็อคความชุ่มชื่นให้ผิวเนียนนุ่มดุจแพรไหม

จะเห็นได้ว่าทางโดฟ ให้ความสำคัญในเรื่องของการ 
*ล็อคความชุ่มชื่นให้ผิวเนียนนุ่ม และ DeepCare Complex เป็นพิเศษ

หมายถึงอะไร..ไปดูเลยค่ะ





ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณของโดฟ ได้อธิบายให้เราฟังอย่างละเอียดว่า  โดฟ บอดี้ โลชั่น
ได้ผสมผสานสารบำรุงผิวเพื่อล็อคความชุ่มชื่นในชั้นผิวอย่างยาวนาน ด้วย DeepCare Complex 
(ดีพแคร์ คอมเพล็กซ์) สูตรเฉพาะของโดฟที่มีสารบำรุงผิวชนิดเดียวกันกับที่มีในผิวตามธรรมชาติ และเอสเซนเชี่ยลออยล์ ช่วยปลดล็อคปัญหาผิวแห้งด้วยการบำรุงอย่างล้ำลึกถึงภายใน 
ซึ่งดีพแคร์ คอมเพล็กซ์ นี้ประกอบไปด้วย

• กรด Conjugated Linoleic Acid (CLA) กรดไขมันโครงสร้างชนิดพิเศษ
ที่พบแทรกในส่วนของโปรตีน อาทิ นมและไข่ ในน้ำมันดอกคำฝอยและน้ำมันดอกทานตะวัน
ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยฟื้นบำรุงปราการผิวชั้นนอกให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น

• น้ำมันเมล็ดทานตะวัน สารบำรุงผิวจากธรรมชาติที่อุดมไปด้วยวิตามินอี
ที่ช่วยเสริมบำรุงระหว่างชั้นเซลล์ผิวให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น 

• อะมิโน แอซิด เบลนด์ (Amino Acid Blend) คือสารที่รวมตัวกันจากการผสานกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อผิวพรรณซึ่งเป็นที่ยอมรับกันดีถึงประสิทธิภาพในการช่วยให้ผิวชุ่มชื่น
และยืดหยุ่นได้ดียิ่งขึ้น

• ฮิวเมคแทนท์ (Humectant) เช่น กลีเซอรีน สารสำคัญสำหรับบำรุงผิวพรรณ 
ด้วยคุณสมบัติเด่นในเรื่องการดึงดูดน้ำเพิ่มเข้าสู่ผิว และช่วยกักเก็บน้ำไว้ใต้ชั้นผิว ทำให้ผิว
คงความชุ่มชื่นมากขึ้นและยาวนานขึ้น สารดังกล่าวจึงกลายมาเป็นส่วนสำคัญ
ในการเสริมให้การบำรุงผิวอย่างมีประสิทธิภาพ 

ฟังแล้วอาจจะเข้าใจยาก ผู้เชี่ยวชาญจาก Dove เลยทำการทดสอบให้เห็นกันชัดๆ เลยค่ะว่า…
เมื่อมีส่วนประกอบดังกล่าวแล้ว ดีอย่างไร และทำให้ 
โดฟ บอดี้ โลชั่น ต่างจากแบรนด์อื่นตรงไหน!!



โดยการนำกลีบกุหลาบสีขาวจำนวน 4 กลีบจากดอกเดียวกัน






มาทาด้วยครีมบำรุงผิว





เริ่มจากซ้ายมือสุดจากโดฟ และเปรียบเทียบกับอีก 2 แบรนด์ในท้องตลาด
และขวาสุด ที่ไม่ทาอะไรเลย!!  เอาเข้าไมโครเวฟเป็นเวลา 90 วินาที





แล้วน้องแม กาละแมร์ สาวสวยสุขภาพดี มาเป็นผู้พิสูจน์แบบใกล้ชิด
มาดูพร้อมๆ กันค่ะ..ว่าใคร?? ที่ล็อคความชุ่มชื่นล้ำลึก ให้ผิวชุ่มชื่นเต็มอิ่มได้มากกว่ากัน






อุ๊ต๊ะ...กลีบกุหลาบซ้ายสุดที่ทาด้วยโดฟ เป๊ะเวอร์

ถึงกับอึ้งกันทั้งห้อง Workshop





เข้าเตาอบพร้อมกันเป็นเวลา 90 วินาที แล้วนำออกมา จะพบว่า..
กลีบกุหลาบที่ 1 ที่ถูกทาด้วยโดฟ บอดี้ โลชั่น ยังคงมีความชุ่มชื่น และยืดหยุ่น 
ในขณะที่กลีบกุหลาบที่ 2, 3 ที่ถูกทาด้วยโลชั่นทั่วไปและกลับที่ 4 ที่ไม่ถูกทาด้วยโลชั่นใดๆ 
มีลักษณะแห้ง และกรอบ แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการล็อคความชุ่มชื่น
ของโดฟ บอดี้ โลชั่น ที่ยังคงสามารถล็อคความชุ่มชื่นให้กับผิว 
แม้ในสภาพอากาศที่ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื่นอย่างรุนแรง


เห็นแล้วคันไม้คันมืออยากสัมผัสเนื้อโลชั่นด้วยตัวเองบ้างแล้วสัก 1 ตัว...ขอลองตัวนี้ค่ะ
โดฟ อินดัลเจ้นท์ นอริชเม้นท์ (สีน้ำตาล)
























เนื้อครีมเกลี่ยง่าย นุ่มลื่น กลิ่นหอมรัญจวนใจเลยค่ะ
ทาแล้วผิวชุ่มชื่น เหมาะกับผิวแห้งแบบพี่ ดูเหมือนจะซึมยาก แต่ไม่นะ!!
ซึมซาบได้ดี ยิ่งถ้าทาก่อนนอนเช้ามาผิวนุ่มมากค่ะ แนะนำเลยสำหรับสาวๆ ผิวแห้งเหมือนพี่
บางคนที่ผิวธรรมดาหรือผิวอิ่มน้ำอยู่แล้วอาจจะรู้สึกเหนอะหนะบ้างนิดหน่อยกับสูตรนี้
แต่พี่วิว่าถ้าอยู่ในห้องแอร์หรือในช่วงหน้าหนาวนี่กำลังดีเลยค่ะ 
หรืออาจจะเลือกสูตรอื่น เช่น สูตรสีเขียว


สำหรับเคล็ดลับในการทาครีมบำรุงผิวของพี่วิคือ 
ทาทันทีทั้งตัว..ทุกส่วน!! ในขณะที่ผิวยังหมาดๆ อยู่นะคะ
หมายถึง อาบน้ำเสร็จเช็ดตัวปุ๊บทาปั๊บเลยค่ะ ...โลชั่นจะซึมซาบลงสู่ผิวได้เร็วและลึกล้ำ ชุ่มชื่นสุดๆ



เอาล่ะ..เรามาฟังการดูแลผิวพรรณของสาวผิวแทนที่สวยสุขภาพดี
กับคุณกาลาแมร์ พัชรศรี กันค่ะ
เคล็ดลับง่ายๆ คือการดื่มหรือจิบน้ำบ่อยๆ และใช้ครีมบำรุงผิวเป็นประจำทั้งเช้าและก่อนเข้านอนค่ะ
(ไม่ยากนี่นะ..แต่พวกเรามักไม่ค่อยทำสม่ำเสมอใช่ไม๊??)




ต่อด้วยการ DIY สปาผิวจากผู้เชี่ยวชาญของ ไอศวรรรษ์ สปา 

แนะนำให้สครับผิวอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1-2 ครั้งค่ะ ทำเองได้ง่ายๆ 
ด้วยการใช้โยเกิร์ต ผสมกับน้ำตาลหรือเกลือ ขัดเป็นวงกลมเบาๆ 
เพื่อช่วยในการขัดเซลส์ผิวที่ตายแล้วออกไป และที่ขาดไม่ได้หลังจากการสครับผิวคือ
ต้องนวดบำรุงด้วยโลชั่นที่มีความเข้มข้น ชุ่มชื่นมากพอและการนวดนั้น 
จะต้องลงน้ำหนักมือ เพื่อเป็นการกระตุ้นผิวค่ะ





ได้เวลาไปนวดมือกับเท้าที่ ไอศวรรย์ สปา กันแล้วค่ะ











เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง..ความสุขมักผ่านไปเร็วจริงๆ ^^
หลังจากสครับผิวเสร็จทาง ไอศวรรย์ สปา นวดผิวต่อให้ด้วย Dove รู้สึกผิวสะอาดและนุ่มมาก
สบายสุดๆ ค่ะ..เรียกว่าเคลิ้ม หลับกันเลยทีเดียวค่ะ





จบลงแล้วสำหรับรีวิว การล็อคความชุ่มชื่นให้ผิวเนียนนุ่มด้วยโดฟ บอดี้ โลชั่น
ว่าแล้วขอตัวไปอาบน้ำแล้วทาครีมบำรุงให้ตัวหอมฟุ้ง 
ตื่นเช้ามาจะได้นุ่มไปทั้งตัวก่อนดีกว่าค่ะ...บ๊ายยยย



Disclaimer : Sponsored Content by Dove
ขอขอบคุณ : Dove Body Lotion, ไอศวรรษ์ สปา และ Ogivy Public Relations, Bangkok

โดฟ บอดี้ โลชั่น ใหม่ ทั้ง 4 สูตร มีวางจำหน่ายแล้วในร้านค้าชั้นนำ
ในราคาและขนาดดังนี้ 250 มล.(ทุกสูตร) ราคา 159 บาท และ 400 มล. 
(เฉพาะสูตรเอสเซนเชี่ยล นอริชเม้นท์, โก เฟรช นอริชเม้นท์ และอินดัลเจ้นท์ นอริชเม้นท์) 
ราคา 235 บาท 


หมายเหตุ :-   *ผิวชั้นนอก




Create Date : 21 พฤศจิกายน 2556
Last Update : 22 พฤศจิกายน 2556 12:53:46 น.
Counter : 2419 Pageviews.

0 comment
Review: ท้าแสงแดดด้วย กันแดดแบบสเปรย์ Sunplay SPF80 PA+++


สวัสดีค่ะ..วันนี้เรามาท้าแสงแดดกันหน่อยม๊ะ??


ในเรื่องการรักษาผิวให้ขาวผ่องเป็นยองใยกระจ่างใสอยู่เสมอ 

เป็นเรื่องสำคัญสำหรับสาวน้อยสาวใหญ่ทุกคนค่ะ


พี่วิเองนี่ปกป้องผิวสุดๆ ถึงแม้จะอายุเยอะแล้วก็ไม่ละเลยนะ พี่เป็นคนผิวขาว  

แต่ผิวไวต่อแสงแดดมากคล้ำง่ายและขาวยาก!!

พี่เลยให้ความสำคัญต่อการปกป้องผิวมาก..เยอะ!!บอกเลย!! 

ปกติก่อนออกจากบ้านทุกวันนอกจากทาครีมบำรุงผิวแล้ว

จะประโคมต่อด้วยครีมกันแดดทันที ทั้งผิวหน้าและผิวตัว..ทุกจุดเลยมิมีพลาด^^


ไลฟ์สไตล์ของพี่วิหรอคะ..ระหว่างวันก็เดินตากแดดกลางแจ้งบ่อยๆ

ถึงแม้ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านและกางร่มแล้ว..ก็ยังรู้สึกว่าไม่เพียงพอนะ!!

ยิ่งวันหยุดก็ชอบที่จะไปเดินเล่นในสถานที่ต่างๆทั้งสวนจตุจักร สวนสาธารณะ 

ถ้าหยุดยาวๆ ก็ไปทะเล



แม้แต่อยู่บ้านก็ออกมากลางแจ้งพรวนดินในกระถางต้นไม้บ้าง 

หรือยืนรดน้ำต้นไม้ตอนเย็น  ก็หนีไปพ้นแสงแดด  ดังนั้นระหว่างวันพี่จำเป็นต้องทากันแดดเพิ่มค่ะ 

แต่ด้วยอากาศที่ร้อนมากๆ จะใช้แบบเนื้อครีมลงทับระหว่างวันก็เหนียวตัวเกินไป

บางทีอยู่ระหว่างทางก็หาที่ล้างมือไม่ได้..ชีวิตดูลำบากไปม๊ะ555++


พี่เลยต้องการผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดสักหนึ่งตัวที่ปกป้อง

ไดัอย่างมีประสิทธิภาพ สะดวกต่อการใช้ และการพกพาค่ะ


โชคดีมากที่ทาง Sunplay ส่งผลิตภัณฑ์มาให้พี่ทดลองพอดี

ด้วยคุณสมบัติมีหลายอย่างตรงกับที่พี่หาอยู่..แต่อยากรู้ว่าจะใช้ได้ดี

และสะดวกอย่างที่พี่คิดหรือเปล่า..ไปดูกัน!!


พี่วิมีแผน!! ..อยากทดลองกลางแจ้งซะหน่อย  เลยหาเรื่อง..ไปเดินเล่น..หาอะไรอร่อยๆ ทาน

ที่ตลาดน้ำขวัญเรียม ตรงรามคำแหงค่ะ...ร้อนสะใจแน่!!



พี่มาถึงประมาณบ่ายโมง โอววว..วันนี้แสงแดดแรงมากค่ะ




อากาศร้อนแบบอบอ้าว ทั้งที่มีลมพัดโชยตลอด

ที่นี่ดีตรงที่มีจุดพักในร่มหลายจุดค่ะ..แต่แดดแรงขนาดนี้เอาไม่อยู่นะ..

พี่รู้สึกเริ่มแสบผิวที่หลัง..นี่ประมาณ 3ชั่วโมงแล้วที่ทากันแดดเนื้อครีมออกมาจากบ้าน


ได้เวลาลองกันแดดตัวใหม่แล้วล่ะ..ว่าจะช่วยเราได้แค่ไหน

พี่ถือขวดสเปรย์ให้ห่างจากผิวประมาณ 6-8 นิ้วแล้วฉีดให้ทั่ว..และพลาดไม่ได้กับแผ่นหลัง!!








ลองเทสกับหลังมือบ้าง..อยากเห็นเองชัดๆ




ผลที่สังเกตุเห็นได้คือ..




เป็นละอองสเปรย์ สัมผัสถึงผิวแล้วเป็นใสๆ เงาๆดูสุขภาพดี

ไม่ต้องเกลี่ย  ไม่เหนอะหนะ



สักครู่จะซึบซาบลงสู่ผิวผิวดูชุ่มชื่นแต่ไม่มันค่ะ


ความคิดเห็นส่วนตัวหลังใช้

1. ข้อดี

- พกพาสะดวก ใช้งานง่าย ด้วยรูปแบบหัวสเปรย์ไม่ต้องเกลี่ย ให้เหนียวเหนอะหนะมือ

- การซึบซาบลงสู่ผิวพี่ว่าเร็วดีค่ะความที่เป็นละอองใสๆ จึงส่งผลดีไม่ทิ้งคราบ

และไม่เลอะเปรอะเสื้อผ้าทั้งที่ใส่สีดำ

- ด้วยละอองที่ละเอียดและหัวสเปรย์ที่มีประสิทธิภาพ ฉีดเพียงเล็กน้อยก็ควบคุมได้ในพื้นที่กว้างมาก

- ความเสถียร Photo Stability ทำให้พ่นครั้งเดียวก็ปกป้องได้นานไม่ต้องพ่นซ้ำบ่อยๆ

- ใช้ได้ดีในส่วนที่เราหวงแหนแต่ปกป้องเองไม่ถึง..อย่างแผ่นหลัง..ชอบตรงนี้ที่สุด


2. ข้อเสีย

- ด้วยความที่เป็นรูปแบบสเปรย์ อาจจะฉีดจนเพลินทำให้หมดเร็วค่ะ


พูดถึงมานาน...มาดูหน้าตาเต็มๆ ชัดๆ กันเลย

สีสันสดใสด้วยสีส้มสด คาดสีน้ำตาลอมส้ม



ผลิตภัณฑ์

Sunplay SPF80 PA+++ UVBody Mist Sunblock

ขนาด 150มล. ราคา 495 บาท


รายละเอียดผลิตภัณฑ์

Sunplay เป็นของแบรนด์ Mentholatum รูปแบบสเปรย์ ใช้ป้องกันแสงแดด


คุณสมบัติเด่น

มาพร้อมเทคโนโลยี ใหม่ล่าสุด Solarex-3 ที่คงทนต่อแสงแดดสูงมาก

ปกป้องผิวจากรังสี UVA และUVB ได้ยาวนานอย่างเต็มประสิทธิภาพ

และป้องกันแสงแดดได้ในทันที ใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย


คำเตือน

-กรณีสำหรับผิวหน้าแนะนำให้พ่นสเปรย์ลงบนฝ่ามือก่อน

แล้วจึงแตะลงบนผิวหน้าเพื่อป้องกันไม่ให้เข้าตาเพราะอาจระคายเคืองได้ค่ะ

-ห้ามใช้กับผิวที่มีผื่นคันนะคะ



หาซื้อได้ที่: EVEANDBOY, Tsuruha, Gourmet Martket, Home Fresh Mart, 

Watsons และTop Supermarket

#SunplaySPF80 #Sunplay #SpayUVBody #MistSunblock



พี่วิทดลองและรีวิวมาฝากเพื่อเป็นข้อมูลต่อการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์กันแดดในครั้งต่อไปนะคะ..

ใกล้เข้าฤดูหนาวแล้ว กลางวันจะยิ่งแดดแรงมาก 

อย่าลืมดูแลผิวพรรณ ทั้งผิวหน้าและผิวกายกันนะจ๊ะ..บ๊ายยยย




Create Date : 05 พฤศจิกายน 2556
Last Update : 22 พฤศจิกายน 2556 12:54:02 น.
Counter : 14942 Pageviews.

1 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  

beauty4ties
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 157 คน [?]



หวัดดีค๊า...วิค่ะ "งานไม่ใหญ่แน่นะวิ" ^_^

วิเริ่มเขียนบล็อกมาถึงปี 2566 นี้ก็น่าจะเกือบๆ 10 ปีได้แล้วหล่ะค่ะ ผลุบโผล่เป็นช่วงๆ หลักๆ วิเขียนรีวิวค่ะ ปัจจุบันก็พึ่งเริ่มหัดเป็นแม่ค้ามือใหม่

อยากเห็นทุกคนมีรอยยิ้มทุกวันน๊า..^_^

ฝากกดติดตาม Blog นี้กันด้วยนะคะ วิจะกลับมาอัพเดท เรื่องในวัย 50 ให้มากขึ้น นอกจากที่บล็อกนี้แล้ว..ทุกคนสามารถติดต่อพูดคุยกับวิทุกวันได้ที่ Facebook นะคะ --> Beauty4ties

ขอบคุณทุกคนค่ะ ^^
New Comments