รับสอนภาษาอังกฤษ ม.ต้น, สอบเข้าม.4, ม.ปลาย, Admission, Grammar, English Conversation ตัวต่อตัวและกลุ่มย่อยถึงบ้านค่ะ ^o^
Group Blog
 
All blogs
 

การออกเสียง desert และ dessert ที่ถูกต้อง

สวัสดีค่า Smiley  ปีใหม่ผ่านไปครึ่งเดือนแล้ว เร็วมากๆเลย แป๊ปๆก็ครึ่งปี
แล้วก็สิ้นปี ยังไงก็ขอให้สิ่งดีๆเกิดขึ้นตลอดปีกันทุกคนเลยนะคะ
Smiley



desert กับ dessert เขียนเืกือบเหมือนกันเลย แต่ความหมายไม่เหมือนกันเลยค่ะ
desert แปลว่า  (n.) ทะเลทราย,  (v.) ละทิ้ง, ทอดทิ้ง, จากไป เราก็จะออกเสียงว่า  ดี-เสิร์ท
dessert แปล่า (n.) ของหวาน  เราก็จะออกเสียงว่า เดส-เสิร์ท
แต่ๆๆๆๆ หารู้ไม่ว่าที่เราอ่านกันผิดหมดเลย เวลาออกเสียงไม่ได้ตรงตัวตามคำนะคะ 




desert แปลว่า  (n.) ทะเลทราย   ออกเสียง เด๊ซ-เสิร์ท [dez-ert]  stress ที่พยางค์แรกค่ะ อย่าลืมเสียง z ด้วยค่ะ (พยายามถอดเสียงให้เหมือนที่สุด ^ ^”)



แต่ถ้า desert ที่เป็น verb นะคะ ซึ่งแปลว่าทอดทิ้งสถานที่หรือจากไป to leave (a person, place, etc.) without intending to return  จะออกเสียงว่า ดี-เสิร์ท [dih-zurt]  stress ที่พยางค์หลังและต้องออกเสียง z ด้วยค่ะ



สรุปก็คือ  desert ถ้าเป็น noun ออกเสียง เด๊ซ-เสิร์ท [dez-ert]  ส่วน verb  ดี-เสิร์ท [dih-zurt]  จ้า




มาดูคำที่สองกันดีกว่าค่ะ




dessert คำนี้มีแต่คำนามคำเดียว แปลว่าของหวาน  ออกเสียงที่ถูกต้องคือ ดี-เสิร์ท  [dih-zurt] (ไม่ใช่ เด๊ส-เสิร์ท อย่างที่เคยอ่านกันน๊า) แล้วก็ต้อง stress ที่พยางค์หลังนะคะและออกเสียง z ด้วยจ้ะ




เป็นอย่างไรบ้างคะ สองคำนี้ออกเสียงตรงข้ามกับที่เราเห็นเลยเนอะ
และยังมีอีกหลาาายคำที่ดูเหมือนออกเสียงตรงตัวได้เลย
แต่เอาเข้าจริงแล้วเราออกเสียงผิดมาตลอด
ด้วยเหตุนี้ทำให้คนต่างชาติฟังแล้วอาจจะงงๆ เข้าใจผิดกันได้ค่ะ
Smiley




Reference:
//dictionary.reference.com/browse/desert
//dictionary.reference.com/browse/dessert







 

Create Date : 18 มกราคม 2554    
Last Update : 18 มกราคม 2554 15:56:04 น.
Counter : 7945 Pageviews.  

wander กับ wonder ออกเสียงกันถูกรึเปล่าาาาา???

สวัสดีค่า
หลาย
คนคงได้หยุดพักผ่อนยาวตั้งแต่วันศุกร์ เสาร์
อาทิตย์รวมถึงช่วงวันพ่อกันแล้วเนอะ
พรุ่งนี้ก็วันจันทร์กลับสู่ที่ทำงานเหมือนเดิม
รอหยุดยาวอีกทีช่วงปีใหม่เลยโน่นกันเลย หนึ่งปีผ่านไปช่างเร็วจริงๆ
รู้สึกเหมือนเพิ่งจะปีใหม่ได้ไม่นานมานี่เอง
Smiley

วันนี้
ขอเสนอเรื่องการออกเสียง wander กับ wonder ค่ะ
 ความจริงมองเฉยๆมันก็ออกเสียงง่ายๆนี่นา wander ก็ วัน-เดอร์
(หรือบางคนบอก เวน-เดอร์ บ้างก็ แวน-เดอร์)ไง  ส่วน wonder ก็ง่ายมาก
วอน-เดอร์ บ้างก็บอก วัน-เดอร์
 สรุปแล้วสองคำนี่มันออกเสียงเหมือนกันหรือต่างกันหรือยังไงเนี่ย - -?
Smiley


ความจริงก็คือ....

wander (v.)  อ่านว่า ว๊อน-เด่อร์ /ˈwɒndər/ โดย stress ที่คำว่า “วอน” ค่ะ
ลองฟังกัน //dictionary.reference.com/browse/wander
ส่วน
wonder (v.)  อ่านว่า วั๊น-เด่อร์  /ˈwʌn dər/ โดย stress ที่คำว่า “วัน” ค่ะ
ลองฟังกัน //dictionary.reference.com/browse/wonder


สาเหตุ
ก็คือถ้าเราออกเสียงผิด ฝรั่งก็จะไม่เข้าใจว่าเราหมายถึงอะไรและทำให้เข้าใจผิดได้
ในขณะเดียวกันถ้าเราฟังฝรั่งพูดเราเองก็อาจจะเข้าใจผิดเนื่องจากเราออกเสียงผิดมาตลอด (อย่าลืมว่าตอนคุยกันไม่มี subtitle ขึ้นนะจ้ะ)


ไหนๆก็พูดเรื่องออกเสียงละ  ขอเพิ่มเติมวิธีการใช้ด้วยละกันค่ะ

wander (v.)  อ่านว่า ว๊อน-เด่อร์ /ˈwɒndər/
ความหมายก็คือ เดินเตร็ดเตร่ไปเรื่อยไม่มีจุดหมายแน่นอน
preposition ที่ใช้คู่กับ wander ก็คือ into/around/through
Ex. My sister likes wandering around the city at night.
หรือ go for a wander, take a wander, have a wander  อารมณ์ประมาณว่าเดินเล่นชิวๆเรื่อยเปื่อย
Ex. Let’s go for a wander round the market.

และ

wonder (v.)  อ่านว่า วั๊น-เด่อร์  /ˈwʌndər/
ความหมายก็คือ สงสัย ข้องใจ
มักใช้คู่กับ question words   wonder how/why/what/when etc.  หรือ wonder + if/whether/about
Ex. I wonder if they’ll get married.
Ex. I was wondering about their secrets.

อย่าลืมนะคะว่า wander กับ wonder ที่ถูกต้องต้องออกเสียงว่ายังไง Smiley






 

Create Date : 12 ธันวาคม 2553    
Last Update : 12 ธันวาคม 2553 11:42:01 น.
Counter : 4022 Pageviews.  

คำศัำพท์ที่"ไม่สามารถใช้ในรูปพหูพจน์" ที่เราใช้ผิดเป็นประจำ (Confusion of Number)

สวัสดี
ค่า หายหน้าหายตาไป2-3อาทิตย์ได้ เพราะงานเยอะมากเลยค่ะ ใกล้สอบแล้วด้วย
บทความใหม่ๆอาจจะมาช้าบ้างนะคะ ก็ต้องขอโทษล่วงหน้าด้วยน๊า
Smiley


หัวข้อวันนี้ คำศัำพท์ที่"ไม่สามารถใช้ในรูปพหูพจน์" ที่เราใช้ผิดเป็นประจำ ใช่
แล้วค่ะ ภาษาอังกฤษถ้าพูดถึงสิ่งที่นับได้ (countable noun)
หลายสิ่งมากกว่าหนึ่ง เราก็ต้องเปลี่ยนรูปเป็นพหูพจน์กันใช่้มั้ยคะ เช่น a
house -> 4 houses


แต่
มีหลายคำที่เป็นข้อห้าม ไม่สามารถใช้ในรูปพหูพจน์ได้
ทั้งๆที่ฟังแล้วก็น่าจะนับได้นี่นา
หรือไม่ก็ในชีวิตจริงก็นับได้นะทำไมถึงกลายเป็นนับไม่ได้ล่ะ
อืมมในภาษาไทยเราไม่มานั่งนัีบว่าสิ่งนี้นับได้หรือไม่ได้
แต่ในภาษาอังกฤษนี่ต้องนับทุกสิ่งค่ะว่าเป็นคำนามประเภทไหน (countable noun
or uncountable noun)

อีกอย่างนึง โบว์เห็นหลายคนใช้คำเหล่านี้ผิดกันมากเลยค่ะ เพราะฉะนั้นวันนี้เลยขอเสนอหัวข้อนี้ซะเลย

คำต่อไปนี้ใช้ในรูปพหูหจน์ไม่ได้ (ห้ามเติม s, es)
1. furniture   ถ้าหมายถึงสิ่งเดียวใช้ a piece of furniture
2. damage ความเสียหาย  (ถ้าหมายถึงเงินที่จ่าเพื่อชดเชยความเสียหายใช้ damages ค่ะ)
3. luggage และ baggage หีบห่อ สัมภาระ
4. information ข้อมูล
5. advice คำแนะนำ   (แต่ถ้าเป็น suggestion นับได้ค่ะ = suggestions)
6.
work  งาน เช่น บอกว่างานเยอะก็ใช้ a lot of work นะคะ
 (แต่ถ้าเป็นผลงานจำพวก งานเขียน งานประพันธ์ งานแต่งเพลง งานศิลปะทั้งหลาย
ใช้ works ได้ค่ะถือว่ามีผลงานหลายอย่าง)

7. equipment  อุปกรณ์ (แต่ถ้าเป็น tool เครื่องมือถือว่านับได้ค่ะ = tools)
8. knowledge ความรู้
9. progress ความก้าวหน้า
10. food, fruit, fish  ถ้าหมายถึงสิ่งทั่วไปไม่ต้องเติม s ค่ะ จะเิติม s ก็ต่อเมื่อมีหลายชนิด หลายประเภท



10 คำข้างต้นนี้เป็นคำที่เจอบ่อยมากๆเลย  ยังมีคำอื่นๆีอีกมากมายทางที่ดีเช็คจากdictionaryก่อนจ้า Smiley









 

Create Date : 05 ธันวาคม 2553    
Last Update : 5 ธันวาคม 2553 22:06:18 น.
Counter : 5594 Pageviews.  

farther และ further ต่างกันอย่างไร??

สุขสันต์วันลอยกระทงจ้า  หวังว่าทุกๆท่านคงสนุกสนานกับงานลอยกระทงกันถ้วนหน้านะคะ Smiley

วันนี้เรามาเรียนคำที่ดูเหมือนกันมาก father กับ farther กับ further มองเผินๆบางคนอาจคิดว่ามันต่างกันตรงไหนเนี่ย ต่างกันแน่นอนค่ะ father คำแรกก็หมายถึง พ่อ นั่้นเอง แต่วันนี้เราไม่ได้มาพูดเืรื่องถึง father ค่ะเพราะใครๆก็รู้อยู่แล้วเนอะว่าหมายถึง พ่อ เราจะมาพูดถึงความแตกต่างของ farther กับ further  ตัวอักษรไม่เหมือนกันแค่ตัวเดียวเองค่ะ “a” กับ “u”   เรามาดูกันเลยค่ะ...

farther และ further ทั้งสองคำนี้เป็นขั้นกว่า (comparative) ของ far ค่ะ

farther  จะเกี่ยวกับระยะทางที่ไกลขึ้น (= to a greater distance)
เช่น Chicago is farther north than Forth Worth.
ชิคาโกอยู่ทางเหนือไกลกว่าฟอร์ททวอร์ธ
How much farther is it to the airport?
อีกไกลเท่าไหร่ถึงจะถึงสนามบิน




แต่ further จะเกี่ยวกับปริมาณ, เวลา, ระดับที่เพิ่มขึ้น หรือเพิ่มเติมค่ะ (=to a greater extent or degree)
เช่น I will give you further information later.
ผมจะให้รายละเอียดคุณเพิ่มเติมตอนหลัง
I have nothing further to say on the subject.
ผมไม่มีอะไรจะพูดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเืรื่องนี้

ถ้าเป็นขั้นสูงสุด (superlative) ก็คือ farthest กับ furthest จ้า


Alright....I have nothing further to say on this topic and I hope you all had a great time on Loy Krathong day.Smiley






 

Create Date : 21 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2553 22:30:59 น.
Counter : 11339 Pageviews.  

lie กับ lay ต้องใช้คำไหนถึงจะถูก?? (2)

คราวนี้มาดู lay  กันบ้าง


Lay หมายถึง 'put down carefully' or 'put down flat'. ซึ่งก็คือ วางลงค่ะ
Lay คำนี้ต้องตามด้วย object เสมอเลย  เราต้องบอกเสมอค่ะว่าเราวางอะไร?
พอมาเป็น v.2 และ v.3  ก็เปลี่ยนรูปเป็น laid, laid ค่ะ  lay/laid/laid
ถ้าเป็นรูป present participle ก็แค่เติม ing => laying

มาดูตัวอย่างประโยคกัน
Please lay this letter on the table. (lay อันนี้ยังเป็น v.1อยู่นะคะ, เป็นประโยคขอร้องกึ่งๆสั่ง)
She laid the papers on the desk.  (ปย.เป็น past ดังนั้น laid เป็น v.2 แล้วค่ะ)
เห็นมั้ยว่าทั้งสองประโยคมี object ตาม ซึ่งก็คือ this letter กับ the papers ค่ะ  

Lay (lay/laid/laid) คำนี้ก็ใช้กับ สัตว์หรือนกที่วางไข่ด้วยค่ะ (to produce eggs)
และแปลว่าพนัน(ด้วยเงิน) ได้อีกด้วย  She won't get the job - I'd lay money on it!

Phrasal verb ของ lay นี่เยอะมากมายเลยค่ะ  และความหมายก็แตกต่างกันไปด้วย  (ไว้โบว์จะอธิบายเพิ่มเติมอีกค่ะ ในหมวด Idioms & Phrasal Verbs)

มาสรุปกันอีกทีดีกว่า
Lie/lay/lain (lying) หมายถึง นอน (no object)
Lie/lied/lied (lying) หมายถึง โกหก
Lay/laid/laid (laying) หมายถึง วางลง, ออกไข่, พนัน (ตามด้วย object เสมอ)

เพื่อไม่ให้เป็นการสับสน  ควรจำแยกเแต่ละความหมายไปเลยค่ะ

หวังว่าบทเรียนนี้จะช่วยให้เข้าใจการใช้ lie กับ lay กันมากขึ้นนะคะ ^^ 





 

Create Date : 19 ตุลาคม 2553    
Last Update : 21 ตุลาคม 2553 23:43:35 น.
Counter : 2155 Pageviews.  

1  2  

a girl who never gives up
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




สวัสดีค่าาา.... ^^
ขอต้อนรับสู่ blog เรียนภาษาอังกฤษนะคะ
เจ้าของblogชื่อ โบว์ น๊าาา (ขอแนะนำตัวนิสสนึง)
ก็ตอนนี้กำลังศึกษา ป.ตรี อยู่และก็รับสอนภาษาอังกฤษด้วยค่ะ ตั้งเป้าไว้ว่าหลังจากเรียนจบจะสอบ TOEFL เพื่อไปเรียนต่อด้าน TESL จะได้กลับมาเป็นครูสอนEngเต็มตัวซะที ^^

สำหรับบทความใน blog นี้ก็จะเกี่ยวกับภาษาอังกฤษล้วนๆ แต่พอดีเพิ่งทำ blog เลยอาจจะดูโล่งๆ หน่อยนะคะ - -"

ท่านใดสนใจอยากรับบทเรียนใหม่ๆที่ลงใน blog นี้ผ่าน Email ของท่าน กรุณาส่ง Email ของท่านมาที่ eng_by_pbow(at)live.com ค่ะ ^^

สุดท้ายขอขอบคุณที่เข้ามาอ่านและ comment นะคะ
blog นี้เปิดรับความคิดเห็นและพูดคุยได้ทุกเรื่องจ้า

Friends' blogs
[Add a girl who never gives up's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.