มังสวิรัติ       ถาม: อาหารมังสวิรัติคืออะไร? แตกต่างจากอาหารเจ แมคโครไบโอติค และอาหารชีวจิตอย่างไร? มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร? อยากเป็นนักมังสวิรัติ จะเริ่มกินอย่างไรดี ตอบ: อาหารมังสวิรัติคือ อาหารที่ปราศจากเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์ หรือชิ้นสวนใดๆ ของสัตว์ นักมังสวิรัติแบ่งเป็น ๔ แบบ ๑. นักมังสวิรัติแบบกินนมและไข่ด้วย (Lacto-ovo Vegetarian) ๒. นักมังสวิรัติแบบดื่มนมด้วย (Lacto-Vegetarian) ๓. นักมังสวิรัติแบบบริสุทธิ์ (Vegetarian) ซึ่งเคร่งครัดมาก ไม่กิน และไม่แตะต้อง เนื้อ นม ไข่เลย ๔. นักมังสวิรัติแบบกินผัก ผลไม้ และธัญพืชเท่านั้น (Fruitarian) ส่วนมาก คนจะเริ่มต้นเป็นนักมังสวิรัติแบบที่ ๑ และ ๒, ๓, ๔ ตามลำดับ หรือแบบเลือกเขี่ย อาหารพวกเนื้อสัตว์ออกไป เพราะว่า อาจต้องใช้เวลาปรับเปลี่ยนตัวเอง จึงจะเป็นนักมังสวิรัติแบบเคร่งครัด หรือนักปฏิบัติธรรม ถือศีลกินเจได้อย่างสมบูรณ์แบบ อาหารมังสวิรัติ แตกต่างจากอาหารเจ ที่อาหารมังสวิรัติไม่ได้ห้ามพืชผัก ที่มีกลิ่นฉุน เช่น กระเทียม หัวหอม กุยช่าย หลักเกียว (กระเทียมโทนหัวใหญ่) และใบยาสูบ คนจีนเชื่อว่า อาหารต้องห้ามเหล่านี้ จะทำลาย และรบกวนอวัยวะในร่างกาย อาหารเจ จะมีความเคร่งครัดในการปรุงด้วยว่า ภาชนะที่ใช้ จะต้องบริสุทธิ์มาก คือ ไม่ปนเปื้อน หรือใช้ทำอาหารประเภทเนื้อสัตว์ มาก่อนด้วย อาหารมังสวิรัติ เป็นอาหารที่ปราศจากเนื้อสัตว์ ไม่มีรูปแบบเฉพาะ เป็นคำกลางๆ แตกต่างจากแนวทาง ของแมคโครไบโอติก ซึ่งเน้นไปทางอาหารที่ สมดุล มีคุณสมบัติเป็นทั้งหยิน (หยิน=หดเข้า) และหยาง (ร้อนๆ=ขยายออก) แตกต่างจากอาหารชีวจิต ซึ่งเน้นทางเสริมสร้างสุขภาพ หลีกเลี่ยงสารเคมี สารพิษ สารกันบูด ทั้งแมคโครไบโอติก และชีวจิต ไม่ส่งเสริมการกินเนื้อสัตว์ นม ไข่ (ยกเว้นเนื้อปลา ซึ่งรับประทานได้เป็นครั้งคราว) นอกจากนี้ ยังมีการดูแล และส่งเสริมสุขภาพ ด้านจิตใจ การฝึกสมาธิ การออกกำลังกาย และการขับล้างพิษอีกด้วย ไม่ว่า คุณจะกินอาหารเพื่อสุขภาพแบบใด ทุกชนิดดีหมด ข้อสำคัญ เราจะต้องหลีกเลี่ยง ละ เลิก และงดเว้นอาหารพวกเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะ วัว ควาย หมู เป็ด ไก่ และอาหารทะเล ซึ่งมักปนเปื้อนด้วยสารเคมี สารพิษ ที่ดูดซับ และสะสมมากกว่าในพืช ผัก ผลไม้ หลายเท่า การเริ่มต้นเป็นนักมังสวิรัติ ที่มีสุขภาพดี จำเป็นจะต้องศึกษา หาความรู้ด้านโภชนาการ ของอาหารมังสวิรัติ ให้เข้าใจหลักการ และอุดมการณ์อย่างแน่วแน่เสียก่อน โดยการอ่านหนังสือ การฟังจากผู้รู้ และการคิด พิจารณา อย่างมีเหตุผล เมื่อเข้าใจ ยอมรับในหลักการ จึงลงมือปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง และจริงจังต่อไป ถาม: อาหารมังสวิรัติ มีโปรตีน และสารอาหารครบถ้วน และเหมาะสมกับเด็กหรือไม่ ตอบ: การกินอาหารมังสวิรัติให้ถูกต้อง ครบถ้วนตามหลักโภชนาการคือ กลุ่มธัญพืช มีข้าวกล้อง (ข้าวเจ้าหรือข้าวเหนียว) หรือข้าวสาลี กลุ่มถั่ว กลุ่มผัก และกลุ่มผลไม้ ในอัตราส่วนที่เหมาะสมคือ ข้าวกล้องหรือธัญพืช ๔๐% (แหล่งคาร์โบไฮเดรต) ถั่วและเมล็ดพืช ๒๐% (แหล่งของโปรตีน ไขมัน และแร่ธาตุ) ผักและผลไม้ ๓๕% (แหล่งของวิตามิน และแร่ธาตุ) และให้อาหารในแต่ละกลุ่ม มีความหลากหลายชนิด รับรองได้ว่า จะไม่ขาดสารอาหาร พวกโปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ อย่างเด็ดขาด ร่างกายจะได้ของดี ซึ่งเป็นสารอาหาร ได้แก่ กรดอะมิโน น้ำตาล ไขมัน วิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นทุกชนิด อย่างครบถ้วนแน่นอน และยังได้สารธรรมชาติเพื่อสุขภาพ ที่เรียกว่า Phytochemicals ซึ่งสามารถต่อต้าน และป้องกันการเกิดโรคเรื้อรัง ที่เป็นแล้วหายยากได้ดีด้วย เด็กที่กินอาหารมังสวิรัติ อย่างถูกต้อง มาตั้งแต่กำเนิด จะเจริญเติบโตได้สัดส่วน แข็งแรง มีสติปัญญาดี เหมือนกับผู้ที่กินอาหารเนื้อสัตว์ทั่วไป ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นมากมาย หลายครอบครัว แสดงว่า อาหารมังสวิรัติที่สมบูรณ์ จะสร้างเสริมสุขภาพของเด็ก และเยาวชนได้ด้วย ถาม: ฉันอยากจะหยุดทานเนื้อสัตว์บ้าง แต่กลัวจะขาดสารอาหาร จะทำอย่างไรดี? ตอบ: เป็นความคิดที่ดีทีเดียว ที่คุณคิดจะเลิกทานเนื้อสัตว์ ง่ายนิดเดียว ก่อนอื่น คุณควรจะทำความเข้าใจเสียใหม่ ว่า แท้จริงแล้ว ร่างกายของคนเรา แทบไม่มีความต้องการ สารอาหารเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์เลย สารอาหารที่ร่างกายต้องการ ในปริมาณพอเหมาะ แม้กระทั่งกรดอะมิโน ซึ่งเป็นสารประกอบที่จำเป็นนั้น ก็สามารถได้รับ จากการรับประทานพืชผัก ฟังดูแล้ว แทบไม่น่าเชื่อว่า จะเป็นไปได้ แต่เรามีหลักฐานมากพอ ที่จะยืนยันได้ว่า มังสวิรัตินั้น เป็นอาหารที่เหมาะ แก่มวลมนุษยชาติที่สุด! เมื่อลองเปรียบเทียบ กับผู้ที่นิยมเนื้อสัตว์ นักมังสวิรัติมีอัตราเสี่ยง ในการเป็นโรคเรื้อรัง อาทิ มะเร็ง โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และโรคกระดูกผุได้น้อยกว่า ยิ่งไปกว่านั้น ผลจากการศึกษา ค้นคว้า และวิจัย ได้แสดงให้เห็นว่า ภาวะหลอดเลือดตีบตัน (atherosclerosis) ซึ่งเป็นสาเหตุ ของโรคหัวใจล้มเหลว และภาวะที่ โลหิตไปเลี้ยงสมองไม่พอ (stroke) สามารถต่อต้านได้ จากการรับประทานแต่พืช จริงๆ แล้ว คนในทุกระดับอายุ ไม่ว่าเด็ก ผู้ใหญ่ หรือแม้แต่หญิงมีครรภ์ และนักกีฬาก็ตาม เมื่อรับประทานแต่ผลิตภัณฑ์จากพืช จะมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ กันทุกคน แถมยังมีอายุยืนนานอีกด้วย มีผลการวิจัยอีกมากมาย สนับสนุนว่า อายุนักมังสวิรัติ จะ ยืนกว่าผู้ที่รับประทานเนื้อสัตว์ ถึงสิบปีหรือมากกว่านั้น ถาม: พี่สาวของข้าพเจ้า เป็นนักมังสวิรัติเช่นกัน แต่เธอยังคงทานอาหาร ที่ทอดด้วยน้ำมันจนชุ่ม, เกลือ, แป้ง และขนมหวาน ในปริมาณมาก เช่นนี้แล้ว สุขภาพของเธอจะดีได้อย่างไรกัน? ตอบ: ถึงแม้ว่า พี่สาวของคุณ จะไม่ทานเนื้อสัตว์ แต่วิถีในการเลือกรับประทานของเธอ ยังไม่ถูกต้อง อย่างนี้แล้ว สุขภาพของเธอก็จะแย่ ไม่แตกต่างอะไร กับผู้ทานเนื้อสัตว์ นักมังสวิรัติที่ดี ควรจะเอาใจใส่ ในการเลือกรับประทานอาหาร ที่ให้สารสำคัญครบถ้วน และในปริมาณที่เหมาะสมด้วย ซึ่งควรจะประกอบด้วย ผักผลไม้สด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผักใบเขียว พืชตระกูลถั่ว รวมถึงเมล็ดพืชด้วย ทุกอย่างที่กล่าวมา ควรจะมีครบ ในอาหารแต่ละมื้อ สำหรับผู้ที่ยังต้องการ ผลิตภัณฑ์จากสัตว์อยู่ อนุญาตให้ทานไข่ได้ สัปดาห์ละสองฟอง และนมไขมันต่ำ เนย โยเกิร์ตได้ จริงๆ แล้ว การทานมังสวิรัติ ไม่ใช่เรื่องยากเลย และไม่จำเป็นต้อง คำนวณปริมาณสารอาหาร ให้ยุ่งยาก คุณสามารถรับประทานได้มาก ตามที่ต้องการ แต่เน้นรับประทาน แต่ผลิตภัณฑ์จากพืชผัก และผลไม้สดเท่านั้น! ถาม: อาหารจากพืชผักดีต่อสุขภาพอย่างไร? ตอบ: จากการเลือกรับประทานอาหาร ให้ถูกต้อง หลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่มีประโยชน์ นักมังสวิรัติ จะมีสภาพร่างกายที่ทนทาน แข็งแกร่งกว่าคนทั่วไป ยิ่งไปกว่านั้น การบริโภคอาหาร จำพวกไขมัน และโปรตีนในปริมาณสูง จากเนื้อสัตว์ เปรียบเสมือนเร่งให้ร่างกาย มีการเผาผลาญอยู่ตลอดเวลา ในที่สุด ก็จะเกิดโรคเรื้อรังตามมาอย่างมากมาย ถาม: กรุณาอธิบายให้แจ้งชัดว่า เหตุใดนักมังสวิรัติ จึงมีสภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถต่อต้านกับโรคภัยไข้เจ็บ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ? ตอบ: นอกจากการมีไขมันอิ่มตัว และโปรตีนในปริมาณสูงแล้ว ผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ อาจจะมีฮอร์โมน เร่งการเจริญเติบโต (Growth Hormone) ยาปฏิชีวนะ, ยาคลายกังวล, สารกระตุ้นต่างๆ, แบคทีเรียและสารพิษ ที่อาจเกิดขึ้น ระหว่างกระบวนการผลิต กระบวนการเลี้ยงดู และให้นมสัตว์เหล่านั้น เหตุนี้ นักมังสวิรัติ จึงรอดพ้นจากสารพิษเหล่านี้ ได้อย่างสบายใจ และร่างกายไม่ต้องทำงานหนัก เนื่องจากการต้องเผาผลาญโปรตีน และไขมันจากเนื้อสัตว์ ที่ต้อง ใช้พลังงานมาก, อีกทั้ง ยังไม่ต้องรบรา กับสารพิษมากมาย ที่สะสมอยู่อีกด้วย ดังนั้น นักมังสวิรัติ จึงมีพลังงานเหลือเฟือ ที่จะใช้ทำงาน และต่อสู้กับโรคภัยต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถาม: ถ้าจริงดังที่กล่าวมา คุณมีอะไรมายืนยันถึงข้อดีเหล่านั้น? ตอบ: มีนักวิจัยชาวเยอรมัน ได้ทำการศึกษา เปรียบเทียบการทำงาน ของเม็ดเลือดขาว (WBC) ระหว่างนักมังสวิรัติ และผู้ที่ไม่ได้ทานมังสวิรัติ ผลปรากฏว่า ระบบภูมิคุ้มกันของนักมังสวิรัติ จะมีความแข็งแรงกว่า และมีประสิทธิภาพ ใน การทำลายเซลล์มะเร็ง ได้มากกว่าถึงสองเท่าเลยทีเดียว ดังนั้น ผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ จึงน่าจะมีความเสี่ยง ในการตกเป็นเหยื่อของมะเร็งร้าย ได้น้อยกว่าผู้รับประทานเนื้อสัตว์ ถาม: แต่ถ้าเราทานเนื้อสัตว์ที่ได้จากธรรมชาติ โดยที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการต่างๆ จากโรงงานล่ะ? ตอบ: คำถามนี้น่าสนใจ หากคุณคิดว่า สัตว์ที่เลี้ยงมาไว้ฆ่า เพื่อเป็นอาหารสำหรับมนุษย์ โดยที่มิได้รับฮอร์โมน เร่งการเจริญเติบโต (Growth Hormone), ยาปฏิชีวนะ, สารเคมีต่างๆ สามารถเป็นอาหารที่ดีได้ คุณคิดผิดแล้วล่ะ อย่างไรก็ตาม เนื้อสัตว์ก็ยังคงไม่ใช่อาหาร ที่เหมาะกับสุขภาพมนุษย์อยู่ดี มีหลายเหตุผล ที่เราควรจะหลีกเลี่ยงการทานเนื้อสัตว์ อย่างแรกเลยก็คือ มนุษย์นั้น ไม่ จำเป็นที่ต้องได้รับ สารอาหารจากสัตว์ สารที่จำเป็นทั้งหลายนั้น สามารถได้รับจากพืชทั้งหมด อย่างที่สองก็คือ เนื้อสัตว์ แม้แต่ปลา หรือพวกเป็ดไก่ก็ตาม ล้วนเต็มไปด้วยคอเลสเตอรอล และไขมัน ซึ่งจะทำให้เกิดการพอกพูน ของไขมันอิ่มตัว และแข็งตัวของไขมัน ตามเส้นเลือดของเราได้ จึงไม่น่าสงสัยเลยว่า เหตุใด ในทุกๆ สองนาที จะมีประชากรบนพื้นโลกล้มเจ็บ และตายจากผลเหล่า นี้ และประการสุดท้าย โปรตีน ซึ่งมีปริมาณสูงมาก จะสะสมในกล้ามเนื้อของสัตว์ ที่มนุษย์ชอบกินกันนักหนานั้น เมื่อทำการผ่าชิ้นเนื้อพิสูจน์ ก็พบว่า มีโปรตีนปริมาณมาก สะสมในผู้ที่เป็นโรคกระดูกผุ ซึ่งชี้ให้เห็นว่า การรับประทานเนื้อสัตว์ เป็นสาเหตุ ของการทำให้กระดูกในร่างกาย ต้องเสียแร่ธาตุพวกแคลเซียม จึงเปราะบาง และแตกหักได้ง่ายในที่สุด ประโยชน์ของอาหารมังสวิรัติ   Create Date : 14 กันยายน 2551     7 comment Last Update : 28 เมษายน 2564 20:12:27 น.     Counter : 1437 Pageviews.   Share Tweet

วิธีแก้กรรมให้กับตนเอง     เวลาที่ทำบุญหรือทำความดีอะไรทุกครั้ง นอกจากจะทำบุญเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาแล้ว เช่น การใส่บาตร การถือศีล และ การพูดคุย ธรรมะ การช่วยให้ผู้อื่นสบายใจ ชี้แนะทางแก้ไขปัญหาชีวิต การทำความสะอาดห้องพระ การถวายน้ำเปล่าเพียง ๑ แก้วให้กับหิ้งพระพุทธฯ การร่วมอนุโมทนาการทำความดีของผู้อื่น โดยการใช้จิตน้อมไปทางบุญกุศล การกวาดใบไม้ทำสวน การทำความสะอาดห้องน้ำ หรือจะของส่วนรวม ความที่มีจิตใจดีหรือตั้งใจดีทั้งหมด การดูแลคนแก่ เด็ก ฯลฯ ทั้งหมดนี้เป็นมหากุศลทั้งสิ้น ตั้งนะโม ๓ จบ ทุกครั้ง ขอให้พระพุทธเจ้าเป็นพระประธาน เพราะบารมีพระพุทธเจ้าเปิด ๓ ภพ โลก สวรรค์ มนุษย์ นรก เจ้ากรรมนายเวรจะอยู่ภพภูมิไหน เช่น นรกขุมสุดท้าย ๑๘ เจ้ากรรมนายเวรจะอโหสิกรรมหมดรวดเร็วแล้วควรกรวดน้ำลงดินทุกครั้งแม่พระธรณี แม่พระคงคาเป็นทิพย์พยาน เพราะท่านก็สำเร็จพระอรหันต์แล้ว ลูกได้ทำความดี เช่น ทำบุญกุศลใส่บาตร ฯลฯ ขอถวายบุญกุศลแก่พระสัมมาพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ ขอให้ทุกพระองค์นำส่งบุญให้ลูก   มีเดชปัญญา โภคะ ความสมบูรณ์ เพื่อจะได้อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร วิญญาณโปร่งใส ทุกภพทุกชาติ ศัตรูหมู่มารหรือหมู่พาล คือ มนุษย์ เช่น บริวาร ญาติ มิตร คนรับใช้ สามี บุตร ธิดา ทุกภพทุกชาติขอให้ได้รับมหากุศลนี้รับแล้วขอให้อโหสิกรรม ให้ขาดจากกัน ณ เดี๋ยวนี้ บัดนี้ ขอให้ข้าพเจ้ามีบุญบารมีสูงขึ้น ๆ ๆ ๆ เต็มขึ้น เพื่อจะได้ช่วยสังคมให้สูงขึ้น และช่วยสร้างคนให้เป็นพระ เกิดปัญญาทางธรรม จิตสัมผัสรู้ ชั่วดี เลว เหตุการณ์ล่วงหน้า ปัญญาทางโลกทุกคนมีอยู่แล้วจากพ่อแม่ แต่ขาดปัญญาทางธรรม ถ้าได้จะประสบแต่ความสำเร็จ สมบูรณ์พูนสุขทุกอย่างเพราะบุญคือขุมทรัพย์ ลาภยศจะมาเอง และยังช่วยผู้อื่นครอบครัวได้ด้วย กรรมเวร แก้ไข ได้โดยการขอขมากรรม และส่งวิญญาณด้วยพระสะดุ้งมารขนาด ๓ นิ้ว ๕ นิ้ว เป็นการต่อชะตาชีวิต ถ้าเจ้ากรรมนายเวรจากส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายบริเวณที่เจ็บป่วยได้อโหสิกรรม จะหายเจ็บป่วยทันที ถ้าเป็นโรคหัวใจ วิญญาณจะอยู่บริเวณนั้น การปวดศีรษะ กรรมจะเกิดจากชอบแกงปลาช่อน โดยได้ทุบหัวปลาไว้เพราะปลาช่อนก็มีอายุขัย วิญญาณมาสิงอยู่บริเวณศีรษะแบบเดียวที่เราได้ทำไว้ ถ้าเป็นไมเกรน เพราะวิญญาณตามมาพบ โกรธที่เคยเป็นหนี้ชาติไหนไม่รู้ ๑๐ ตำลึง จะตีบริเวณศีรษะไม่ข้างใดก็ข้างหนึ่ง เรียกว่า ไมเกรน ต้องแก้ที่ต้นเหตุ คือ ทำบุญใส่บาตรอาหาร ๑ ชุด ด้วย   พระสะดุ้งมาร ๓ นิ้ว หรือ ๕ นิ้ว ดอกไม้ธูปเทียน ส่งวิญญาณขึ้นศาลา เป็นวิธีแก้กรรมที่ต้นเหตุ ถ้าแก้ปลาช่อนต้องปล่อยปลาช่อน ๑ ตัว หลังจากใส่บาตร กรวดน้ำแล้วทำให้เสร็จวันเดียวกัน หาหมอเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ ผลช้า ถ้านั่งสมาธิกรรมฐาน สติปัฏฐาน ๔ แก้ได้เร็ว และหายขาดที่ยังไม่หายขาดเพราะเจ้ากรรมนายเวรชุดใหม่จะเข้ามาแทนที่ ก่อนแก้กรรมใส่บาตร ให้จุดธูป ๓ ดอกกลางแจ้ง สวดนะโม ๓ จบ ข้าพเจ้าขอขมากรรมเจ้ากรรมนายเวร ขอให้อโหสิกรรมให้ขาดจากกัน กรณีที่ดวงตกมากขอแผ่บุญให้ตนเองให้มาก ๆ ควรสวดมนต์เท่าอายุ เลยอายุ มีเวลาไปปฏิบัติด้วย วัดมหาธาตุ ยุบหนอ พองหนอ จะเกิดผลเร็ว โทสะน้อยลง ควรแผ่เมตตาให้มาก ๆ วันละ ๑๐ - ๓๐ ครั้ง ดังนี้ การแผ่เมตตาที่ได้ผลต้องกรวดน้ำลงดินทุกครั้ง วันละ ๑๐๐ ครั้ง เจ้ากรรมนายเวรจะหาย ๑๐๐ เท่า ๑๐๐ วิญญาณ เวลาทำบุญทุกครั้ง ตั้งนะโม ๓ จบ กุศลที่ลูกได้ทำแล้วขอถวายแด่พระสัมมา สัมพุทธะเจ้า ๕ พระองค์ขอให้ทุกพระองค์นำส่งบุญให้ข้าพเจ้า มีเดช ปัญญา โภคะ ขอให้สมหวังสมปรารถนาทุกเรื่อง ขอให้มีบุญบารมีเต็มขั้น เกิดสภาวธรรม ตามบุญวาสนา ได้ทำมาจากทุกภพทุกชาติ โดยเร็วเทอญ และอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรทุกภพชาติ (วิญญาณ) ศัตรูหมู่มารหมู่พาล มนุษย์ หุ้นส่วน เพื่อน ๆ ในครอบครัว ทุกภพทุกชาติ เอ่ยชื่อได้ยิ่งดี ขอให้อโหสิกรรม ขอให้ขาดจากกัน ณ เดี๋ยวนี้เทอญ ขอให้อุปถัมภ์ค้ำจุนข้าพเจ้า ถ้าปวดหลัง อาจจะเกิดจากกรรมที่เคยตีหลังหมา หรือตีตะขาบกลางหลังให้แก้โดยจุดธูป ๓ ดอก ขอขมากรรมกลางแจ้ง ตั้งนะโม ๓ จบ ขอขมากรรมว่าจะใส่บาตร ๑ ชุด พร้อมพระเงินพระทอง อย่างละ ๑ องค์ ดอกไม้ธูปเทียนให้ไปเกิดบนศาลา ขออโหสิกรรมให้ขาดจากกันเดี๋ยวนี้ ให้หายเจ็บป่วย    กรวดน้ำทุกครั้ง หลังจากใส่บาตรทันที วิญญาณคอยรับอยู่ ตั้งนะโม ๓ จบ ข้าพเจ้าได้ทำบุญใส่บาตรด้วยพระเงินพระทอง ขออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร คือ หมา หรือตะขาบ อย่างใดอย่างหนึ่งแก้เฉพาะอย่าง ห้ามให้รวม เดี๋ยวจะไม่ได้รับ จะยังคงเจ็บป่วยให้แก้ทีละอย่าง ทีละครั้ง ถ้าจำได้เคยทำอะไรไว้ ก็ให้แก้ก่อนล่วงหน้าก็ดี เจ้ากรรมนายเวร วิญญาณ จะได้ขึ้นไปบนศาลา กรรมนี้อาจจะตามมาทันชาตินี้อีก ๑๐ ปี หรือ ๒๐ ปี หรือภพหน้า ถ้าเป็นโรคหัวใจ ชอบกินปูทะเลเป็น ๆ แก้กรรมด้วยปูทะเล ใส่บาตรแล้ว ไปปล่อยปู ๑ ตัวที่ชายทะเล หมายเหตุ ถ้าเป็นโรคเบาหวาน ให้เพิ่มน้ำตาล ๑ ถุง ใส่บาตรพร้อม พระสะดุ้งมาร อุทิศให้เฉพาะวิญญาณที่ อาฆาตเกี่ยวกับโรคเบาหวาน เพราะฉะนั้น ก่อนทำบุญทุกครั้ง เช่น จบเงิน หรือ เครื่องบวช แค่ฟังผู้อื่นทำบุญ ก็ได้บุญไปกับเขาด้วย เพียงน้อมจิตอนุโมทนาบุญกับเขาด้วย ก่อนทำบุญก็ตั้งนะโม ๓ จบ และบุญทุกอย่างที่เป็นปัจจัย วัตถุสิ่งของ หรือแผ่บุญภายใน ก็ขอถวายบุญนี้แด่พระสัมมาพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ก่อน ถ้าเป็นสิ่งของควรจะวางไว้ที่หิ้งพระ และจุดธูปหรือใช้จิตถวายพระพุทธที่บ้านก่อนก็ได้ และขอให้บุญกุศลทั้งหมดส่งมายังข้าพเจ้าก่อน ขอให้ข้าพเจ้ามีพลังแก่กล้ามีเดชปัญญา โภคะ แล้วจึงนำส่งให้ผู้มีพระคุณ บิดามารดา ครูอุปัชฌาย์ บุตร ธิดา สามี ภรรยา บริวารทุกภพทุกชาติ ผู้ที่มีชีวิตอยู่ ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว เอ่ยชื่อได้ก็ดี เจ้ากรรมนายเวร เจ้าเวรนายกรรม ดวงวิญญาณ ศัตรูหมู่มาร หรือหมู่พาล มนุษย์ที่มีชีวิตอยู่ อาจจะเป็นคู่หุ้นส่วนงาน หรือหุ้นส่วนชีวิต บุตร ธิดา ฯลฯ ผู้มีพระคุณต่อประเทศชาติ องค์มหาราช หรือองค์วีรสตรีไทย เอ่ยชื่อเจ้าหนี้ และลูกหนี้ธนาคารให้เจริญรุ่งเรือง ห้ามสาป    แช่งเขาดี เราก็ดี กระแสบุญจะทำให้เรามีความสุข และสำนึกความผิดชอบชั่วดี และจะยินดีชื่นชมในตัวเราเป็นพิเศษ เป็นภายในลึก ๆ ของความรู้สึกที่ดีต่อผู้แผ่เมตตาให้ ทุกอย่างจะสำเร็จดีอย่างไร อยู่ที่บุญวาสนาบารมีของเรา อุทิศให้อาหารที่เรารับประทาน หมู เป็ด ไก่ กุ้ง ปู ปลา สัตว์เหล่านี้เขามีอายุขัยการตายก่อนอายุขัย เขาก็ทุกข์ทรมานใจ เพราะยังใช้กรรมไม่หมด สัตว์เล็กใหญ่น้อย ถ้าให้แล้วจะเป็นการอโหสิกรรมไม่ต่อภพชาติ และพวกเขาจะไปเกิดใหม่ ภพที่ดีอาจเป็นเทวดา หมดกรรมเวร เป็นการช่วยทางอ้อมกรวดน้ำตั้งนะโม ๓ จบ ขอให้พระแม่ธรณีเป็นทิพย์ญาณ วิธีการแก้กรรมหรือตัดกรรม ของทุกชาติทุกภพ อาจจะเป็น ๑ ล้าน วิญญาณหรือแสนแสนล้านวิญญาณ เพราะเราตายเกิดก็ล้านล้านชาติภพ เจ้ากรรมนายเวร วิบากกรรมของทุกชาติภพจะตามเรามาวินาทีแรกที่ปฏิสนธิในท้องแม่ บุญและบาปกี่ล้านวิญญาณ กี่ล้านมหากุศลก็จะมาเสวยในภพที่เกิดมาเป็นมนุษย์ ขณะที่เรามีความสุขสบายก็เสวยบุญ ขณะที่ทุกข์ระทมก็เสวยบาปของภพชาติก่อน ๆ กี่ล้านชาติก็หารู้ไม่ อาจเกิดในสมัยชมพูทวีป พระสัมมาพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๑ ก็ได้ อาจจะเป็นกี่แสนมหากัลป์ ตาย   ว่ายเวียนเกิดไม่จบสิ้น เพราะมนุษย์เป็นผู้มีจิตใจอ่อนแอ หวั่นไหว ต่อโลกธรรม ๘ เพราะฉะนั้นบุญและบาปของชาตินี้ ชาติปัจจุบันอาจจะเสวยอีก ๑๐๐ ชาติข้างหน้าก็ได้ เพราะต้องจบสิ้นบุญและกรรมของชาติภพก่อน เป็นลำดับ ตามขั้นตอนจะมาแซงคิวก็ไม่ได้ ผู้รู้มีปัญญาจะพยายามทำกุศลต่อเนื่อง และสร้างบุญบารมีไม่ขาดสาย ทำได้เท่าที่ทำได้ โอกาสพร้อม และควรทำบุญด้วยปัญญา ทำบุญมากอาจได้บุญน้อยก็ได้เรียกว่า หลงบุญ ทำบุญด้วยคุณภาพ คือ ปัญญาทางธรรมก็เกิดเป็นมหากุศลต่อเนื่อง จบสิ้นถึงขั้นพระอรหันต์ผลได้ บุญบารมีที่ขึ้นไปเรื่อย ๆ ก็ยากเหมือนกัน ให้ดู ๓๑ ภพภูมิวัฏฏะสงสาร   Create Date : 27 พฤษภาคม 2551     2 comment Last Update : 28 เมษายน 2564 16:33:21 น.     Counter : 1062 Pageviews.   Share Tweet

ถ้วยไม่เต็ม   ตอนอวสานของละครเกาหลี อิมซังอ๊ก ในตอนท้ายสุดของเรื่อง อิมซังอ๊กได้ หยิบถ้วยใบหนึ่งซึ่ง ไต้ซือ องหนึ่งได้มอบถ้วยใบนี้ให้ อิมซังอ๊ก ถ้วยใบนี้ ไต้ซือมอบให้ อิมซังอ๊ก เก็บไว้ดูเมื่อยามประสบเคราะห์กรรม – คับขัน บทสรุปในละคร ในขณะที่ อิมซังอ๊ก ในรับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าการที่เมือง ๆ หนึ่งโดย องค์เหนือหัว ขณะที่ อิมซังอ๊ก หยิบถ้วยขึ้นมาดู เลขาคนคู่ใจได้ถาม อิมซังอ๊กว่า นี้คือ ถ้วยอะไร? อิมซังอ๊ก ตอบว่าถ้วยใบนี้ คือ ถ้วยไม่เต็ม เลขา ถามอีกว่า ถ้วยไม่เต็ม ก็เหมือนถ้วยธรรมดาทั่วไป ทำไมถึงตั้งชื่อว่า ถ้วยไม่เต็ม อิมซังอ๊ก อธิบายว่า ไต้ซือ มอบให้ไว้ขณะที่ อิมซังอ๊ก หลบหนีจากการเป็นทาส ไต้ซือกำชับว่า ยามเมื่อคับขันให้หยิบถ้วยใบนี้ขึ้นมาดู อิมซังอ๊ก บอกอีกว่า ถ้วยไม่เต็มคือ อย่ารินน้ำ ให้เต็มถ้วย ถ้าเต็มถ้วยก็เกินความ พอดี (ความไม่รู้จักพอ) ในลาภ ยศ สรรเสริญ ดังนั้น อิมซังอ๊กจึงตัดสินใจลาออกจากราชการ ใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสงบสุข ข้อคิดให้คติเตือนใจมากหากรู้จักพอ แล้วชีวิตก็จะพบกับความสุขที่แท้จริง ๆ เป็นแนวคิด แบบ ZEN เกิดเป็นคนต้องรู้จักคำว่า พอ ในขณะที่ อิมซังอ๊ก กำลังมีความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงาน แต่กลับลาออกจากราชการโดยไม่สนใจลาภ ยศ เลยแม้แต่น้อย คำคมที่ได้จากละคร       Create Date : 14 เมษายน 2551     0 comment Last Update : 28 เมษายน 2564 16:42:43 น.     Counter : 1358 Pageviews.   Share Tweet

ทุกสิ่งจบลงด้วยความตายวุ่นวายทำไม? เมื่อใดที่จิตวุ่นวายเพราะได้รับสัมผัส นั่นเรียกว่าจิตมันไหวหรือมันไม่นิ่งแต่ถ้าสัมผัสแล้วไม่วุ่นวายเพราะจิตมันคลายทั้งความไหวและความไม่นิ่งก็จะหายไปหมด การเดินทางของชีวิต นำเราฝ่าเข้าไปในความหรรษาและความโศกเศร้ามากครั้ง-หลายคราเรารำลึกแต่ช่วงเวลาแห่งความหรรษา เป้นความอิ่มเอมทางอารมณ์ชั่วครั้ง - ชั่วคราวเท่านั้น แต่ทว่าช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้าก็ไม่ได้อยู่ห่างไกลเช่นกัน เพียงแต่มันยังมาไม่ถึงเราเท่านั้นเอง ฉะนั้นไม่ควรประมาท จงเพ่ง - พินิจ และตรึกตรองว่าตั้งแต่เราเกิดมาเราได้ทำอะไรให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคมส่วนรวมบ้าง     Create Date : 28 พฤศจิกายน 2550     1 comment Last Update : 27 เมษายน 2564 16:24:37 น.     Counter : 956 Pageviews.   Share Tweet

มุมมองของชีวิต ชีวิตมีหลายมิติแล้วแต่เราจะมอง ชีวิตมีจุดเริ่มต้นแล้วก็มีจุดจบ ของชีวิต จุดเริ่มต้นของชีวิตอยู่ในช่วงวัยทารก - วัยเด็ก วัยรุ่น แต่พอถึงวัยกลางคนประมาณอายุ 40 - 50 ปี นั่นคือวัยทองของชีวิต และจากนั้นก็คือใกล้จุดจบของชีวิตแล้ว ชีวิตเฉกเช่นละครเล่นไปตามบทบาทที่โดนกำหนดมาแล้วและอะไร เป็นตัวกำหนด ก็กรรมการกระทำของเราเป็นตัวกำหนด บทบาทของ แต่ละคน แตกต่างกันออกไป บ้างก็รับบทเป็น คนรวย บ้างก็รับบทเป็นคนจน พอถึงตอนจบของละครทุก ๆ คนจะได้รับสิ่งที่เท่าเทียมกันหมดนั่น คือความตาย ธรรมชาติสร้างมายุติธรรมดีแล้ว เอโกว ชายเต กุเล (หาคำแปลเอาเอง) แล้วท่านจะพบความจริงของชีวิต และแก่นสารของชีวิตที่แท้จริง 29 พฤษภาคม 50 แสงทองส่องฟ้าคือชีวิต แสงทองของชีวิตคือตัวเรา   Create Date : 29 พฤษภาคม 2550     1 comment Last Update : 1 พฤษภาคม 2564 17:17:25 น.     Counter : 2364 Pageviews.   Share Tweet