องค์หญิงเว่ยหยาง The Princess Wei Young
องค์หญิงเว่ยหยาง The Princess Wei Young ปี 2016
ชื่อเรื่อง องค์หญิงเว่ยหยาง / องค์หญิงเว่ยย่ง / The Princess Wei Young จำนวนตอน 54 ตอน ออกอากาศช่อง Dragon TV ประเทศจีน
แนะนำตัวละคร
1.องค์หญิงฉินเอ๋อร์ //องค์หญิงเว่ยหยาง (ถังเยียน)
2. องค์ชายเกาหยาง //ตั้วบาจู
3. องค์ชายนาหนาน // หนานอัน //ตั้วบาอวี้
4. หลีฉางรู่
5. หลีฉางเล่อ
ลังเลอยู่เป็นสัปดาห์ว่าจะเขียนเรื่องนี้ดีมั๊ยนะ ณ วันที่เริ่มเขียนเรื่องนี้ใน blog เราดูมาถึงตอนที่ 11 ละ มันหลากหลายความรู้สึก คือจะบอกว่าในนิยายที่เป็นเล่มๆ มันเข้มข้นมากกว่าในซีรี่ย์ ....คือมันกลายเป็นเหมือนคนละเรื่องกันเลย แต่แค่มีตัวละครชื่อเดียวกัน แต่ไว้ค่อยสอดแทรกเปรียบเทียบซี่รี่ย์ก้บนิยายเป็นช่วงๆ ละกัน
ตอนที่ 1 เปิดเรื่องมาก็ว่ากันด้วยฤดูหนาว มีพระสงฆ์ (น่าจะจากเส้าหลิน) มานั่งคุกเข่าสวดมนต์กันอยู่หน้าตำหนักเพื่อรอการประสูตขององค์หญิงฉินเอ๋อร์ หลังจากฉินเอ๋อร์เกิดอากาศก็เปลี่ยนเป็นไป มีพระอาทิตย์ส่องแสงสว่าง ย่ากับอ๋องผู้เป็นพ่อก็รีบวิ่งมาดูทารก(เด็กน่ารักมากอ้วนยุ้ย) จากนั้นแม่ทัพก็มานำตัวฮ่องเต้ไปอยู่ที่อื่น คล้ายแบบเนรเทศ ส่วนเสด็จย่ากับองค์หญิงฉินเอ๋อร์ให้อยู่ในวัง เป็นตัวประกัน
เมื่อองค์หญิงฉินเอ๋อโตเป็นวัยรุ่น ก็ซุกซนตามประสา (หนังจีนอะนะเริ่มต้นต้องมีความสุขก่อน เหมือนเป็นแพทเทิร์นไปละ) หนีออกจากวังมาวิ่งซุกซนในตลาด คือมาซื้อโคมไฟที่สั่งไว้เพื่อจะเอาไปจัดวันเกิดเซอร์ไพร์สเสด็จย่า บอดี้การ์ดก็ออกมาด้วย (ฉากตลกดีคือบอดี้การ์ดฝีมือสูงส่งแต่ออกมาจากช่อง กำแพงอย่างยากลำบาก) ---มีความขำกับทรงผมขององค์หญิงฉินเอ๋อร์ ( ช่างทำผมไม่พอใจอะไรถังเยียนหรือเปล่า 5555 )
ในระหว่างที่เดินเล่นกันอยู่ในตลาด องค์หญิงให้บอดี้การ์ดเรียกตนเองว่าคุณชาย เพื่อไม่ให้เป็นจุดสังเกต บอดี้การ์ดของฉินเอ๋อร์ตั้งข้อสังเกตว่าทำไมมีทหารเดินอยู่เต็มตลาดไปหมด แต่ฉินเอ๋อร์ไม่คิดอะไรมาก แค่บอกว่าเป็นทหารของพระบิดาที่คอยมาคุ้มครองรักษาวัง พวกเขาบริสุทธิ์ไม่มีอะไรหรอก แต่บอดี้การ์ดไม่ค่อยไว้วางใจเท่าไหร่... (ลงรูปบอดี้การ์ดซักหน่อย)
จากนั้นฉากตัดมาที่บ้านของเสนาบดีหลี ในวงน้ำชาหลีฉางเล่อ กับแม่ คือฉิหยุนรั่ว กำลังพูดคุยกันอยู่ในวงน้ำชา โดยแม่ของหลีฉางเล่อบอกหลีฉางเล่อว่า "บุคคลที่เป็นเจ้าของโลกนี้ คือจักรพรรดิ์ แต่ประชาชนที่สู้เพื่อจักรพรรดิ์คือแม่ทัพ ทุกคนต่างรู้ว่าแผ่นดินเป็นของจักรพรรดิ์ แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าแผ่นดินก็เป็นของแม่ทัพเช่นเดียวกัน" แล้วนางก็ถามฉางเล่อว่าถ้าเป็นฉางเล่อเป็นแม่ทัพ ฉางเล่อจะเลือกอะไร ระหว่างรักษาป้องกัน เหลียงโจว หรือจะปล่อยเหลียงโจวไม่แยแส ฉางเล่อตอบแม่ว่า "ตนเองไม่เข้าใจ มันแตกต่างกันอย่างไรละ"
แม่ของฉางเล่อเลยตอบประมาณว่า ถ้าเจ้าสู้เพื่อเหลียงโจวนั้นหมายถึงเจ้าอยู่ใต้องค์จักรพรรดิ์ ต้องทำตามกฏหมาย แต่ถ้าเจ้าละทิ้งเหลียงโจวโดยครอบครองเหลียงโจวซะเองเจ้าจะได้ทุกอย่างในเหลียงโจว เจ้าเป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติและแผ่นดินนี้ทั้งหมด ตระกูลฉิหยุน (ฝ่ายแม่) จะยิ่งใหญ่ ลูกพี่ลูกน้องเจ้า ฉิหยุนหนาน ค้นพบเหมืองเหล็กที่ทางภาคเหนือ ถ้าตระกูลเราได้ครอบครองเหมืองแร่นี้เราจะยิ่งใหญ่ร่ำรวยมาก...ฉางเล่อทำตาลุกวาวประมาณว่าเข้าใจละ ตัวเองก็จะต้องพยายามครอบครองเหลียงโจวเพื่อจะทำให้ตระกูลหลี ยิ่งใหญ่ ....แม่นางก็บอกว่าเจ้าเป็นผู้หญิงไม่ต้องคิดถึงเรื่องนี้มากแต่ข้าคิดเรื่องนี้ให้ญาติผู้พี่เจ้า ฉางเล่อสงสัยจึงถามแม่ว่าแล้วจะทำอย่างไรให้ญาติผู้พี่ได้เป็นใหญ่ ...นางเลยเล่าแผนการณ์ให้ฉางเล่อฟังว่า ...อีกไม่กี่วัน อ๋องเห่อฉือ (พระบิดาองฉินเอ๋อร์) กำลังจะเดินทางกลับเหลียงโจวเพื่องานวันเกิดของพระมารดา หากทำให้อ๋องเห่อฉือสิ้นพระชมน์ ก็จะมีคนสนับสนุนให้ฉิหยุนหนาน เป็นผู้ดูแลเมืองเหลียงโจว....ฉางเล่อตกใจและถามแม่ต่อว่า แล้วจะรายงานจักรพรรดิ์กับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างไร (อืมมม เหมือนซีรี่ย์จะโชว์ว่าฉางเล่อโง่ หรือจะโชว์ว่าแม่ฉลาด อันนี้ก็ไม่ชัดเจน 555 แต่น่าจะเป็นทั้ง 2 อย่าง) แม่ฉางเล่อก็ตอบประมาณว่า อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับการเตรียมตัวของฉิหยุนหนาน ว่าจะโกหกสร้างเรื่องให้จักรพรรดิ์เชื่อได้อย่างไรแต่ตนคิดว่าทำได้แน่นอน...

เหมือนจะฉลาดน้อยนะฉางเล่อ
ใจคอจะเล่นร้ายทุกเรื่องเลยเหรอค่ะคุณแม่ (ฉลาดแต่โกงทุกเรื่อง)
ตัดกลับมาที่องค์หญิงฉินเอ๋อร์ มาถึงร้านโคมไฟ (เจ้าของร้านถูกนักฆ่าของฉิหยุนหนานฆ่าตายเรียบร้อยแล้ว และโรยผงพิษใส่ในโคมไฟที่เตรียมจัดส่งให้ฉินเอ๋อร์) ฉินเอ๋อร์กำลังจะนำขบวนโคมไฟกลับวัง โคมไฟกลับลอยขึ้นฟ้าไปทำให้ฉินเอ๋อร์ต้องตามเก็บ
ฉินเอ๋อร์สมาธิอยู่ที่โคมไฟอย่างเดียวพยายามกระโดดตามเก็บไม่ได้สนใจมองด้านล่าง ที่มีชายหนุ่มนั่งกินก๋วยเตี๊ยวอยู่ โฮ๊ะๆๆๆ องค์ชายเกาหยาง นั่นเองแต่คนมักเรียกว่า ตั้วบาจู (ชื่อแปลกดี) ... เห็นฉินเอ๋อร์กระโดดเหมือนจิ้งโจ้เก็บโคมไฟอยู่เลยช่วย
แพทเทิร์นซีรี่ย์จีน แหละ เปรียบเดียวกันเป๊ะ ตั๋วบาจูรู้ว่าฉินเอ๋อร์เป็นหญิงแต่ฉินเอ๋อร์ไม่ยอมรับ แถมกวนประสาทตั้วบาจูอีก พอบอดี้การ์ดของทั้ง 2 ฝ่ายมาถึงก็ต่อสู้กันเล็กน้อยแล้วก็แยกย้ายกันไป
โมเมนต์แพทเทิร์น์ซีรี่ย์จีน
หลังจากแยกย้าย
ฉากตัดไปที่แม่ทัพหลิง นำทหารมากมายต่อสู้ (น่าจะเป็นฉากเปิดตัวแม่ทัพหลิง ) จากนั้นก็เป็นฉากแม่ทัพหลิงมาส่งอ๋องเห่อฉือ กลับเหลียงโจว (ยิ้มแบบไม่ต้องเดา นายโกงมาแน่นอน)
พออ๋องเห่อฉือลงจากรถ แม่ทัพหลี (คนนี้คือฉิหยุนหนาน ญาติผู้พี่ของหลีฉางเล่อ) เข้ามาพูดกับอ๋องเห่อฉือประมาณว่า หวังว่าท่านคงไม่ทิ้งโจวเหนือ (คือจะไม่กลับไปอีกแล้วใช่มั้ยประมาณนี้) อ๋องเห่อฉือไม่ค่อยพอใจและเดินเข้าวังไป พอพบพระมารดาก็ก้มทำความเคารพกับพื้น กอดกันกลมกับพระมารดากับลูกสาว
ช่วงงานเลี้ยง ในวังก็มีเหล่าขุนนางและแม่ทัพหลีมานั่งร่วมงาน มีอ๋องเห่อฉือนั่งบนบัลลังก์ แม่ทัพหลิงได้นำทัพเดินเข้ามาในวัง แต่ไม่มีใครได้ยินเพราะเสียงดนตรีที่เล่นให้นักระบำนั้นดังมากกลบทุกเสียง....ซึ่งในขณะเดียวกันฉินเอ๋อร์ กับเสด็จย่ากำลังชมโคมไฟกันอยู่อีกที่หนึ่ง เสด็จย่าประทับใจมาก

ในวังเหตุการณ์ตรึงเครียด แม่ทัพหลี และแม่ทัพหลิงร่วมกันกำจัดอ๋องเห่อฉือและคนที่ภักดิ์ดีต่ออ๋องเห่อฉือ โดยแม่ทัพหลีอ้างว่าเป็นคำสั่งจักรพรรดิ์สั่งให้ทำ แต่อ๋องเห่อฉือไม่เชื่อต้องการสอบถามให้รู้เรื่องแต่ก็นะโ่ดนฆ่าซะ ฉินเอ๋อร์กับเสด็จย่าเห็นเหตุการณ์พอดี...ทางองครักษ์จึงอารักขาให้ออกจากวัง ....แต่มีทหารอารักขาไม่มากเพราะโคมไฟที่ลอยขึ้นฟ้าหลังจากจุดไฟแล้วพิษได้กระจายเป็นวงกว้างทำให้บ่าวไพร่ล้มตายหมด... แม่ทัพหลีต้องการให้แม่ทัพหลิงตามไปฆ่าองค์หญิงฉินเอ๋อร์กับเสด็จย่าด้วย แต่แม่ทัพหลิงไม่ไปเพราะเขาไม่ชอบฆ่าผู้หญิง มาเฉลยตรงนี้อีตาแม่ทัพหลีตะโกนพูดว่า ข้าฉิหยุนหนานไม่เคยต้องการอะไรแล้วจะไม่ได้ เลยรู้ว่าอ๋อเป็นคนคนเดียวกัน... แม่ทัพหลีเลยไปคนเดียวเพราะได้ยินมาว่าหยกที่เป็นสมบัติตกทอดของราชวงศ์มีค่า งดงามมากต้องไปชิงเอามาเพื่อจะเอาไปให้ญาติผู้น้อง หลีฉางเล่อนั่นเอง.. (มันมีจิตเผื่อแผ่ถึงญาติมันนิ อ้าวรมณ์ขึ้น 555 โทษคร๊าฟฟ)



เศร้าแล้วต้องเศร้าให้สุดๆ เสด็จย่าขอให้ฉินเอ๋อร์รีบหนีไปเพราะตัวเองจะถ่วงเนื่องจากชรามากแล้ว ขอให้ฉินเอ๋อร์จดจำวันนี้ไว้ และต้องรักษาชีวิตเพื่อเป็นผู้สืบสกุลของราชวงศ์คนสุดท้าย ต้องรอด.. แล้วแม่ทัพหลี ก็ฆ่าเสด็จย่าตาย เศร้า.... บอดี้การ์ดของฉินเอ๋อร์เอาเสื้อผ้าและหยกประจำตัวของฉินเอ๋อร์ไปใส่เพื่อจะล่อให้แม่ทัพหลีตามไป ฉินเอ๋อร์จะได้รอด..แม่ทัพหลีหลงกลตามบอดี้การ์ดไปและสู้กับบอดี้การ์ดของฉินเอ๋อร์จนฟาดบอดี้การ์ดของฉินเอ๋อร์ที่แม่ทัพหลีเข้าใจว่าเป็นองค์หญิงฉินเอ๋อร์ ตกลงไปในแม่น้ำที่ไกลเชียวกราด จึงเก็บเอาหยกประจำตัวของฉินเอ๋อร์มา เพื่อจะนำไปมอบให้ญาติผู้น้อง คือ หลีฉางเล่อนั้นเอง.......
เสด็จย่า สวย สง่าและหน้าตึงมาก
บอดี้การ์ดองค์หญิงฉินเอ๋อร์ที่ปลอมตัวเป็นองค์หญิง สู้เต็มที่ ....ไม่มีใครเคยเห็นหน้าขององค์หญิงฉินเอ๋อร์นอกจากพวกนางกำนัลซึ่งก็ตายหมดแล้ว....
ฉินเอ๋อร์หลบจากการตามล่าของทหารได้ และพลาดตกลงไปตามแนวภูเขา หญ้ากิ่งไม้ไม่เคยทำอะไรนางเอกพระเอกละครจีนได้........
จากนั้นฉากก็ตัดไปที่ โจวเหนือ ตั้วบาอวี้ ยืนอยู่บนประตูเมืองมองดูประชาชนของโจวเหนือขออพยพเข้าเมือง แต่ทหารที่รักษาประตูเมืองบอกว่าเปิดไม่ได้เพราะฉิหยุนหนานสั่งไว้ห้ามเปิดรับราษฏรของโจวเหนือเด็ดขาด ตั้วบาจูมาถึงประตูเมืองและขอให้ พี่ชายเปิดประตูเมือง เพราะจะทนเห็นทหารสังหารราษฏรผู้บริสุทธิ์ได้อย่างไร ตั้วบาอวี้ตอบว่าต้องฆ่าให้หมดเพราะไม่รู้ว่าจะมีสายลับของโจวเหนือปะปนมาด้วยหรือไม่ แล้้วชูป้ายคำสั่งให้สังหารให้หมด ตั้วบาจูยิงธนูไปถูกป้ายคำสั่งและชิงมาถือไว้ แล้วตะโกนว่าตอนนี้ตนเองมีป้ายคำสั่ง ให้เปิดประตูเมืองเดี๋ยวนี้ ทหารจึงเปิดประตูเมือง......(เส้นทางของฮีโร่นะจ๊ะ)...
ตั้วบาอวี้: "เจ้าต้องการมีเรื่องกับข้า ต่อต้านข้างั้นเหรอ? ตั้วบาจู: "ข้าขออภัยเสด็จพี่ แต่ข้าไม่มีทางเลือก ท่านสามารถลงโทษข้าได้ทีหลัง"
ตัดมาที่หน้าของตั้วบาอวี้ เอาละรังสีความเกลียดชังตั้วบาจูชัดเจนมาก ...
ตอนที่ 2 สวัสดีค่ะ วันนี้มาต่อตอนที่ 2 กันนะคะ เริ่มต้นด้วยคนใช้ของฉิหยุนรั่ว นำสารลับจากคนส่งสารมาให้ในสารแจ้งว่า อ๋องแห่งต้าเหลียงถูกกำจัดไปแล้ว ฉิหยุนรั่วยิ้ม แล้วพูดว่าตอนนี้เรื่องภายนอกสำเร็จลุล่วงไปแล้ว ตอนนี้ก็ต้องหันมาจัดการเรื่องภายในบ้านซะหน่อย จากนั้นภาพก็ตัดไปฉากที่ หลีเว่ยหยาง (คนนี้ตัวจริง) มาพบร่างของฉินเอ๋อร์ที่เชิงเขา เอานิ้วอังจมูกว่ายังหายใจอยู่มั้ย จากนั้น หลีเว่ยหยางพาฉินเอ๋อร์กลับไปรักษายังกระท่อมของตน ฉินเอ๋อร์ค่อยๆ รู้สึกตัวและถามหาน้ำ หลีเว่ยย่างเอาน้ำมาให้ดื่ม ฉินเอ๋อร์ถามเว่ยหยางว่าข้าอยู่ที่ไหน แล้วก็เริ่มต้นการสนทนากัน แนะนำตัว
คนนี้หลีเว่ยหยาง (องค์หญิงเว่ยหยางตัวจริง)
ทั้งคู่ต่างสนทนา และเล่าประวัติแบบคร่าวๆ ให้กันฟัง เรื่องราวเศร้าทั้งคู่ ฉินเอ๋อร์บอกว่าต่อจากนี้ตัวเองไม่มีทั้งคนที่เฝ้ารอและบ้านที่ต้องกลับ ส่วนหลีเว่ยหยางเล่าว่าตนเองก็ต้องถูกขับไล่ออกมาอยู่คนเดียวเช่นกัน เพราะตอนเกิดเกิดเดือนกุมภาพันธ์ โหรทำนายว่าเป็นกาลกิณีกับคนในบ้าน
จากนั้นมีมนุษย์ป้าโผล่มาทวงเงินค่าที่อยู่ ค่าของกับหลีเว่ยหยาง ด่าเสียๆ หายๆ แล้วก็เริ่มลงไม้ลงมือตบตีเว่ยหยาง ฉินเอ๋อร์เห็นอย่างนั้นทนไม่ไหว เดินไปเทเมล็ดถั่วลงกับพื้น ทำให้มนุษย์ป้านั้นล้มลง แล้วก็รีบจากไป ... เดินเรื่องรวดเร็วมากมาย ในที่สุดก็เป็นเพื่อนกัน..จะบอกว่าสนิทเลยได้มั้ยเพิ่งเจอกันเอง แต่เดินเรื่องเร็วมาก...2 คนแบ่งอาหารกันกิน แบ่งปันเรื่องราว เว่ยหยางบอกฉินเอ๋อร์ว่าชีวิตเราสองคนโดดเดี่ยวเหมือนกัน แต่คนละแบบกัน เว่ยหยางมีพี่น้องและคนมากมายที่บ้าน แต่กลับไปอยู่ไม่ได้ แต่ฉินเอ๋อร์ไม่เหลือใครแม้กระทั่งบ้านให้กลับ.เว่ยหลางเล่าว่าตัวเองเป็นลูกคนมีฐานะ (ยังไม่บอกว่าเป็นใครอยู่ไหน) เกิดภรรยาที่เคยเป็นบ่าวล้างเท้าให้คนในตระกูล จึงโดนดูถูก แถมตอนเกิด ฮูหยินใหญ่ของบ้านได้ให้ซินแสมาดูดวง บอกว่าตนเป็นกาลกิณีกับคนในบ้าน (หลีฉางเล่อ) ฮูหยินใหญ่เลยขอให้พ่อไล่เธอออกจากบ้านมาอยู่ข้างนอก..........เว่ยหยางไม่เคยแม้กระทั่งได้เห็นหน้าแม่เพราะออกมาตั้งแต่เป็นทารก ในชีวิตนี้สิ่งเดียวที่เธอปราถนาคือได้เห็นหน้าแม่ซักครั้ง

วันต่อมาเว่ยหยางออกไปหาของในป่าตามปกติ เดินผ่านผู้ชายคนนึงที่จ้องเธออย่างเอาเป็นเอาตาย แต่เว่ยหยางไม่รู้เรื่องรู้ราว (รังสีโหดเข้มขนาดนี้ยังไม่รู้เรื่องอีก อีตานักฆ่านี่คนเดียวกันกับที่ไปฆ่าเจ้าของร้านโคมไฟ แล้วโรยผงพิษบนโคมไฟของฉินเอ๋อร์) ...เลยเข้าใจละว่าที่ฮุหยิน ฉิหยุนรั่ว พูดเรื่องจัดการเรื่องในบ้านคืออะไร ส่งคนมาฆ่าหลีเว่ยหยางนี่เอง..
จากนั้นตัดมาที่ฉิหยุนรั่วกับหลีฉางเล่อ คุยกัน ฉิหยุนรั่วพูดเรื่องที่เธอชอบดอกโบตั๋น แล้วถามลูกสาวว่าเจ้ารู้ใช่มั้ยว่าทำไม ฉางเล่อก็ตอบประมาณว่า รู้เพราะแม่คอยบอกเสมอว่าดอกโบตั๋นคือราชินีของดอกไม้ทุกชนิด เธอก็ต้องการอยู่เหนือผู้หญิงทุกคน จะเป็นเช่นเดียวกับดอกโบตั๋น ท่านแม่ไม่ต้องกังวล ข้าเกิดในตระกูลสูงศักดิ์ขนาดนี้ ข้าจะไม่ทำให้ท่านแม่ผิดหวัง...จากนั้นฉางเล่อก็เริ่มประเด็นเว่ยหยาง ว่าใกล้วันเกิดท่านย่าแล้ว ท่านย่าส่งคนไปรับเว่ยหยางกลับมาบ้าน เราจะปล่อยให้นางกลับมาอยู่ที่บ้านจริงเหรอ นางฉิหยุนรั่ว ก็บอกว่า เว่ยหยางเรารู้อยู่เต็มอกว่าเป็นกาลกิณีกับเจ้า ข้าจะปล่อยให้เข้าบ้านได้อย่างไร แล้วก็ยิ้ม.... (แม่กับลูก สมกันอย่างกิ่งทองใบหยก เลว 555)
ทางด้านนักฆ่าที่ถูกส่งมาก็กำลังตามฆ่า วิ่งไล่เว่ยหยางอย่างเอาเป็นเอาตาย เว่ยหยางร้องให้คนช่วย พอดีฉินเอ๋อร์ออกมาตามเว่ยหยางให้ไปกินข้าว จึงเข้ามาช่วย เอากิ่งไม้ปักที่คอนักฆ่า นักฆ่าล้มลงไป (ตอนแรกเรานึกว่าตาย ) ฉินเอ๋อร์กำลังพยุงเว่ยหยางให้ลุกขึ้นและถามว่าเจ้าเป็นอะไรมั้ย จากนั้นเดินตรงจะกลับบ้านกัน ฉินเอ๋อร์ถามเกี่ยวกับนักฆ่าว่าเป็นใครมาจากไหน เว่ยหยางจึงบอกฉินเอ๋อร์ว่าตนเป็นลูกของเสนาบดี หลีเสี่ยวหราน ..ฉินเอ๋อร์อึ้ง และมีแววตาโกรธแค้น เพราะคนในราชวงศ์ถูกแม่ทัพหลี ฉิหยุนหนาน ฆ่าตาย ...เว่ยหยางบอกฉินเอ๋อร์ว่าเขาเห็นข้าเป็นศัตรู ฉินเอ๋อร์ก็รำพึงรำพันว่าพวกมันก็เป็นศัตรูข้าเช่นกัน...เว่ยหยางเข้าใจว่าฉินเอ๋อร์โกรธแค้นแทนตนจึงไม่ได้พูดอะไรต่อ จากนั้นเจ้านักฆ่าก็ทะลึ่งลุกพรวดมาพร้อมมีดสั้นตรงเข้ามาที่ฉินเอ๋อร์ เว่ยหยางเอาตัวเข้ารับมีดแทนฉินเอ๋อร์ ฉินเอ๋อร์ก็สะบัดนักฆ่าออกไปนักฆ่าล้มลงไปทับต่อไม้แหลมแทงทะลุหัวใจตาย.... เว่ยหยางขอให้ฉินเอ๋อร์ไม่ต้องเสียใจ และต้องอยู่ต่อไปให้ได้.. ฉินเอ๋อร์ร้องไห้เสียใจ จากนั้นก็จัดการฝังศพของเว่ยหยาง ในระหว่างจะกลับบ้านนั้นก็ได้เห็นขบวนเกี้ยวที่ท่านย่าของเว่ยหยางส่งมารับ แล้วก็เดินกลับบ้าน...

ที่บ้านของเว่ยหยาง มนุษย์ป้าได้มารออยู่ในห้องพร้อมกับกะวนกะวายใจเพราะหาเว่ยหยางไม่เจอ หากไม่มีคนคืนให้ตระกูลหลี ตนต้องถูกลงโทษและอาจถึงขั้นตายได้ จึงยังไม่กล้าออกไปข้างนอก เพราะเห็นขบวนเกี้ยวมาอยู่แล้ว ฉินเอ๋อร์แอบเข้ามาให้ห้องเว่ยหยางพบกับมนุษย์ป้า แล้วเล่าความจริงให้มนุษย์ป้าฟังว่าเว่ยหยางถูกฆ่าตายแล้ว และตนเองตัดสินใจไปแทนเว่ยหยาง เพื่อทำความฝันของเว่ยหยางให้เป็นจริง (ได้พบหน้าแม่) มนุษย์ป้าดีใจมาก ฉินเอ๋อร์ทวงถามมนุษย์ป้าว่ามีสิ่งของอะไรที่ติดตัวเว่ยหยางตอนมาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ บ้างให้เอามาให้เธอ ตอนแรกมนุษย์ป้าไม่อยากให้ แต่ก็ต้องให้เพราะรู้ดีว่าตอนนี้ชีวิตนางอยู่ในมือของฉินเอ๋อร์เช่นกัน.....จากนั้นฉินเอ๋อร์ก็ขึ้นเกี้ยวไปกับบ่าวของท่านย่าที่ส่งมารับ..
ตัดมาที่บ้านเสนาบดีหลี นางฉิหยุนรั่วคุยอยู่กับซินแส ซินแสดูดวงชะตาแล้วบอกว่าต่อไปนี้หลีเว่ยหยางไม่มีดวงมารบกวนหลีฉางเล่อแล้ว ฉิหยุนรั่วยิ้มและบอกว่าแน่นอนนางไม่รอดกลับมาเป็นกาลกิณีให้ลูกข้าหรอก ...ทันใดนั้นคนก็เข้ามารายงานว่าคนที่ท่านย่าส่งไปรับได้รับหลีเว่ยหยางมาเรียบร้อยแล้ว..ฉิหยุนรั่วเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงเครียดแค้นประมาณว่าข้าทำพลาดไปแต่ยังไงก็ตามข้าจะไม่ยอมให้เจ้าเข้ามาแย่งอะไรจากฉางเล่อไปได้!!...
คืนนี้ต้องพักในโรงเตี๋ยมก่อนพรุ่งนี้ถึงจะเดินทางถึงบ้านเสนาบดีหลี (ต่อไปขอเรียกฉินเอ๋อร์ว่าเว่ยหยางละนะ เพราะตอนนี้ฉินเอ๋อร์เป็นเว่ยหยางละ) โรงแรมนี้ตั้วบาจูก็เข้ามาพักและพักคนละปีกของตึกตรงข้ามกัน บ่าวใช้ของเว่ยหยาง 2 คนคือ ไป๋จือ กับซือเหยียน บอกเว่ยหยางว่าต้องพักที่นี้ 2 วันก่อนที่จะเข้าไปในตระกูลหลีได้....ตกดึกนักฆ่าที่ฉิหยุนรั่วส่งมาก็เอาน้ำมันมาราดและจุดไฟเผาห้องโรงแรมที่เว่ยหยางพัก ไฟไหม้อย่างรวดเร็ว คนรีบกลับไปรายงานฉิหยุนรั่วว่าทำเรื่องเผาโรงแรมที่พักของเว่ยหยางเรียบร้อยแล้ว แต่เกรงว่าอาจจะมีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตจากไฟไหม้มากกว่า 1 คน ฉิหยุนรั่วบอกว่าเธอไม่แคร์ ต่อให้ต้องแลกชีวิตคนมากกว่านี้ขอแค่กำจัดเว่ยหยางได้ เธอยินดี (ร้ายให้สุดเลยเจ้ )......... ไฟไหม้ทำให้ไม้หล่นมาทับร่างของไป๋จือ เว่ยหยางจึงเข้าไปยกออกด้วยแรงทั้งหมดที่มี (ส่วนคนใช้อีกคนตะลึงอย่างเดียว) เว่ยหยางผลักไป๋จือและซือเหยียนไปอีกทางหนึ่งและบอกให้รีบหนีไป บ่าวทั้ง 2 ได้รับการช่วยเหลือจากองครักษ์ของตั้วบาจู จากนั้น อะแฮ่มๆ ตั้วบาจูก็ช่วยเว่ยหยางออกมา (มีโมเมนต์ดีดี )..เว่ยหยางจำตั้วบาจูได้ (เรื่องราวตอนโคมไฟ) แต่ตั้วบาจูถามเว่ยหยางว่าจำข้าได้เหรอ กำลังจะถามต่อ เว่ยหยางบอกจำผิดคน (แป๋วๆๆ 555 แต่ตั้วบาจูจำเว่ยหยางไม่ได้นะ)..เอาละเว่ยหยางเริ่มชอบตั้วบาจู เพราะเห็นแอบคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาตลอด...

คนรับใช้ของฉิหยุนรั่วมารายงานว่า เว่ยหยางไม่ตาย ฉิหยุนรั่วโกรธมากและคิดวางแผนฆ่าเว่ยหยาง..(สมกับเป็นคนเลว 555) ...ตัดมาที่เว่ยหยางและบ่าวทั้ง 2 คน ไป๋จือและซือเหยียนสาบานว่าจะจงรักภักดีกับเว่ยหยาง เว่ยหยางบอกว่าขอให้เรารักกันเหมือนพี่น้องเพราะเราผ่านความเป็นความตายมาด้วยกัน ..คนรับใช้ถามประมาณว่าใครนะใจร้ายทำได้ เว่ยหยางรู้ดีว่าต้องเป็นฉิหยุนรั่วแน่นอน แต่ไม่พูดอะไร..
พอเว่ยหยางมาถึงหน้าประตูบ้านคนใช้ของฉิหยุนรั่วก็ออกมารับหน้าและบอกว่าเว่ยหยางต้องเดินเข้าประตูเล็กเพราะเป็นลูกบ่าวล้างเท้าในบ้าน คนรับใช้เว่ยหยางเถียงแทนเว่ยหยางว่าได้ไงละ เว่ยหยางก็เป็นลูกท่านเสนาบดีเหมือนกัน ทำไมจะเข้าประตูใหญ่ไม่ได้..นางคนใช้ของฉิหยุนรั่วก็ตบหน้าคนใช้เว่ยหยาง เว่ยหยางเห็นก็โกรธเดินเข้าไปตบหน้าคนใช้ฉิหยุนรั่วแล้วพูดประมาณว่า เจ้าทำกริยาแบบนี้คนอื่นจะมองว่าฮูหยินใหญ่สอนเจ้ามาไม่ดี (สะใจอะ 555) แล้วเว่ยหยางก็บอกว่าฉันไม่แคร์หรอกว่าจะต้องเข้าประตูเล็กหรือใหญ่แค่ฉันเข้าไปได้ก็พอ แล้วเว่ยหยางก็เดินเข้าทางประตูเล็กไป...นางคนใช้ของฉิหยุนรั่วแค้นมากและพูดว่าเจ้าจะได้เห็นดีกันฮูหยินใหญ่เตรียมการไว้รอเจ้าแล้ว (ประมาณนี้)....
หลีฉางเล่อ หลีฉางรู่ และหลีฉางซือ นั่งคุยกันอยู่ ทำงานฝีมือไปด้วย ก็สงสัยว่าหลีเว่ยหยางจะรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไรนะ หลีฉางซือก็ยกย่อหลีฉางเล่อตลอด ประมาณไม่มีใครเทียบพี่ใหญ่ได้...เว่ยหยางเข้าไปคารวะท่านย่า ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรเพราะเว่ยหยางรู้แค่ธรรมเนียมของต้าเหลียง เว่ยหยางเลยคำนับท่านย่ากับพื้นไป 3 หน ท่านย่าก็หัวเราะดีใจที่เว่ยหยางกลับบ้าน ปลอบใจเว่ยหยางที่ต้องไปใช้ชีวิตลำบากลำบน บลา บลา บลา...เว่ยหยางตอนแรกเข้าใจว่าฉิหยุนรั่วเป็นแม่ จึงเข้าไปจับมือแต่พอรู้ว่าเป็นฉิหยุนรั่ว ก็ถามท่านย่าว่าอยากไปหาท่านแม่ ย่าก็บอกว่าแม่เว่ยหยางอยู่อีกที่หนึ่ง ป่วยอยู่ ประมาณนี้...ฉิหยุนรั่วให้คนรับใช้มาคอยดูแลเว่ยหยาง (คอยสอดแนมนั่นแหละ) บอกท่านย่าว่าให้ช่วยดูแลให้เว่ยหยางอยู่อย่างสุขสบายในบ้าน....
ไม่ลงไม่ได้นะรูปนี้ 5555 ตบค่ะ
หลังจากที่ได้เห็นเว่ยหยางกันแล้ว หลีฉางรู่ หลีฉางเล่อ และหลีฉางซือก็คุยกัน โดยฉางซื่อดูถูกเว่ยหยางตลอด จนฉางรู่ต้องถามว่าเจ้าเพิ่งเคยเห็นเว่ยหยางเป็นครั้งแรกทำไมถึงไปดูถูกเขา ฉางซือก็ตอบประมาณว่าในโลกนี้ไม่มีใครมีความเมตตาปราณี จิตใจดีงามเท่าพี่ใหญ่ฉางเล่อ แล้ว (ยายนี่สงสัยตาไม่ดี 5555 ) ...ฉางเล่อก็พูดประมาณว่า ต่อจากนี้ไปพวกเราพี่น้องต้องช่วยเหลือกันให้มากๆ...(แต่ก่อนหน้านี้คนใช้ของฉางเล่อมารายงานฉางเล่อว่าฉางรู่จะทำให้ของขวัญพิเศษที่ท่านย่าจะประทับใจ ฉางเล่อจึงบอกคนใช้ว่าเจ้ารู้ใช่มั้ยว่าต้องทำอย่างไร ....)
แม่ของเว่ยหยางมาแอบดูหน้าเว่ยหยางอยู่ห่างๆ เพราะไม่สามารถออกจากที่พักได้ถ้าไม่ได้รับอนุญาต จึงได้แต่แอบมองอยู่ห่างๆ
ระหว่างเดินไปห้องพัก เว่ยหยางคิดถึงเว่ยหยางตัวจริง และคิดในใจว่าเว่ยหยางไม่ต้องห่วงเธอจะจัดการแก้แค้น ทวงความยุติธรรมให้กับเว่ยหยางเอง และตัวฉันเองก็จะแก้แค้นฉิหยุนรั่วและฉิหยุนหนาน ที่ฆ่าคนในราชวงศ์เธอด้วย...
ตอนที่ 3
เริ่มด้วยคนใช้ของฉิหยุนรั่วนำเว่ยหยางไปยังห้องพัก และบอกว่าหากต้องการอะไรให้บอกได้จะจัดหามาให้..2 สาวใช้ของเว่ยหยางตื่นเต้นในความใหญ่โตของคฤหาสน์......ฮูหยิน2 และฮูหยิน 3 คุยกันสองคนว่าต่อไปคงได้ดูการแสดงดีดีในบ้าน เพราะการเข้ามาอยู่ของเว่ยหยางซึ่งไม่ค่อยมีมารยาท (ประมาณเติบโตในป่าไม่ได้รับการอบรม)
ส่วนทางด้านฉางรู่กับฉางซืออยู่ด้วยกัน ฉางรู่กำลังทำงานฝีมืออยู่ส่วนฉางซือกำลังกินขนม ฉางรู่พูดกับฉางซือประมาณว่าทำไมถึงไม่ชอบเว่ยหยางชอบพูดดูถูก ฉางซือตอบประมาณว่าเพราะเธอรู้ว่าฉางเล่อไม่ชอบเว่ยหยาง และเธอมีความสุขที่ทำให้ฉางเล่อมีความสุข ฉางเล่อสวย มีเครื่องประดับล้ำค่ามากมาย บลา บลา บลา ... ฉางรู่บอกฉางซือว่า ทำไมฉันไม่เห็นในสิ่งที่เธอเห็นในตัวฉางเล่อ หรือเป็นเพราะฉันไม่ค่อยทำอะไรให้เธอ(ฉางเล่อ) มีความสุข.... ฉางซือ "แต่สิ่งที่ฉันพูดไป มันเป็นความจริงไม่ใช่เหรอ ฉางรู่ เราเป็นพี่น้องสายเลือดพ่อเดียวกัน การจะไปดูถูกแม่ๆ ต่อหน้าคนอื่นเป็นการไม่สมควร" ฉางซือหยุดกินขนมแล้วค้อนฉางรู่เล็กๆ...
ตัดมาที่เว่ยหยาง เว่ยหยางถามคนใช้ของฉิหยุนรั่วที่ส่งมาอยู่กับตน (ฮัวเหมย) ว่าทำไมไม่เห็นฉิหยุนหนานเลย ฮัวเหมยตอบว่าตอนนี้คุณชายใหญ่ติดภาระกิจอยู่ที่ต้าเหลียง กำจัดอ๋องเห่อฉือ ที่เป็นกบฏ เว่ยหยางได้ยินก็โกรธแค้นมาก....
มาถึงบทเรียนมารยาท ฉิหยุนรั่วให้ ซุนหมิง คนใช้สนิทประจำตัวเป็นคนสอน (คนเดียวกับที่โดนเว่ยหยางตบ) เริ่มด้วยการชงชา ซุนหมิงแกล้งเว่ยหยางโดนการทิ้งชาที่เว่ยหยางชงให้
และต่อด้วยสอนการคำนับ ประมาณอยากให้เว่ยหยางคำนับตน เว่ยหยางก็นั่งลงและพยายามทำตามที่ซุนหมิงบอก แต่ซุนหมิงไม่บอกดีดี กลับเอาไม้ตีหลัง ตีแขน เว่ยหยางไม่ทน เลยจับไม้แล้วฟาดซุนหมิงไม่ยั้ง...
ซุนหมิงฟ้องฉิหยุนรั่ว ฉิหยุนรั่วฟ้องท่านย่าและเรียกสามีคือ หลีเสี่ยวหราน มาร่วมรับรู้ด้วย พอเห็นหน้าหลีเสี่ยวหราน ฉิหยุนรั่วก็แสดงละครน่าสงสารประมาณตั้งใจจะสอนมารยาทอันดีงามให้กับเว่ยหยาง แต่เว่ยหยางกลับไล่ตีคนของตน.....เว่ยหยางจึงบอกหลีเสี่ยวหรานว่า ซุนหมิงบอกตนเองว่าจะสอนมารยาทให้ดุจดั่งมารดาสั่งสอนธิดา (มองซุนหมิงแล้วถามว่าใช่มั้ย) ซุนหมิงพยายามบ่ายเบี่ยงไม่ตอบ (เพราะถ้าตอบก็จะเป็นการตีตนเสมอฮูหยิน) แต่เว่ยหยางถามย้ำบังคับให้ซุนหมิงตอบ
เว่ยหยางพูดต่อประมาณว่า หากสอนมารยาทแบบมารดาสอนให้ธิดา เหตุใดไม่สอนดีดี ถ้าทำผิดเล็กน้อยก็ถูกโบยถูกตี ข้าเพิ่งมาจากป่าเขาจะให้ทำถูกตั้งแต่แรกได้อย่างไร นี่เท่ากับเป็นตัวแทนของฮูหยินใหญ่ที่ทำหน้าที่ได้ไม่ดีเท่าท่านฮูหยินใหญ่เลย ...ประมาณนี้ ฮูหยินใหญ่ ฉิหยุนรั่วจึงให้ซุนหมิงขอโทษเว่ยหย่าง...(สายตาฟาดฟันประสานกันระหว่างฉิหยุนรั่วกับเว่ยหยาง)...
เมื่อกลับมาที่ห้องแล้วเว่ยหยางจึงคุยกับสองบ่าวใช้คนสนิทว่า ตนต้องสั่งสอนคนอื่นซะบ้างจะได้ไม่มาเหยียบหัวข้ามากเกินไป จากนั้นบ่าวคนสนิทก็บอกว่าใกล้วันเกิดท่านย่าแล้ว เว่ยหยางควรเตรียมของขวัญให้ท่านย่าด้วย เว่ยหยางถามลอยๆ ขึ้นว่าแล้วในวันเกิดท่านย่า ข้าจะได้พบกับพี่ชายข้ามั้ย ฉิหยุนหนานแล้วสายตาก็ประหนึ่งว่า รอแกกลับมาเจอกัน...

มาถึงงานวันเกิดท่านย่า ฉางซือ ฉางรู่ และฉางเล่อ ก็เข้ามาคารวะท่านย่า ฉางรู่นำของขวัญที่ใช้เวลาทำเองถึง 3 เดือน เป็นบทกลอนบนผื้นผ้าปักอย่างสวยงาม ความหมายรวมคือการมีอายุยืนยาว ท่านย่าหัวเราะชอบใจและขอบคุณหลานสาว ฉิหยุนรั่วมองฉางเล่อ แล้วทำเป็นถามว่าแล้วเจ้าละฉางเล่อ เจ้าก็มีของขวัญมามอบให้ท่านย่าเช่นกันใช่มั้ย .. ฉางเล่อก็นำของขวัญออกมา เป็นผ้าแดงปักด้วยทองคำแท้ กลอนเดียวกันกับของฉางรู่ แต่มูลค่าแพงมาก ฉางเล่อบอกท่านย่าว่า เธอใช้เวลาทำเอง นานมาก...แม่ของฉางรู่เดินออกมาดู และกำลังจะพูดแต่ฉางรู่ห้ามไว้ และพาแม่กลับไปนั่งที่ แม่ของฉางรู่พูดว่าเกลียดนัก ข้าไม่เชื่อว่าจะทำเอง ข้าไม่เคยเห็นฉางเล่อกระดิกนิ้วทำงานเองซักครั้ง...เจ้า (ฉางรู่) ตั้งใจปักประดิษฐ์ตั้ง 3 เดือน แต่ฉางเล่อนำสิ่งนี้มาเพื่อทำให้พวกเราอายขายหน้าเท่านั้น
ฉางซือถามหาพี่สาวคนที่ 2 คือ เว่ยหยางนั่นเองว่าไปไหนไม่มาให้ของขวัญอวยพรท่านย่าเหรอ ฉิหยุนรั่วให้ซุนหมิงไปตาม ..ก่อนไปก็ได้ยินเสียงกลองดังมากพร้อมสิงโตเชิด 2 ตัวอยู่หน้าคฤหาสน์ ฉางรู่และฉางซือ สนุกมากและฉางเล่อกับฉิหยุนรั่วไม่พอใจ
ในขณะเดียวกันตั้วบาอวี้และ หลีหมินเฟิง (หลีหมินเฟิง คนเดียวกันกับ ฉิหยุนหนาน และแม่ทัพหลี มีหลายชื่อจริงหนอ)..เข้ามาพอดี เว่ยหยางเห็นหน้าหลีหมินเฟิงก็จ้องผ่านหัวสิงโตและมโนว่าได้ฆ่าหลีหมินเฟิงตาย
....จนไป๋จื่อเรียกให้สติเว่ยหยางว่าต้องเชิดสิงโตต่อ เว่ยหยางจึงออกจากพะวัง จากนั้นปีนขึ้นไปบนเก้าอี้ ฉางเล่อส่งสัญญาณให้สาวใช้โยนลูกปัดลงพื้น พอเว่ยหยางกระโดดลงจากเก้าอี้ก็เสียหลักจะล้ม ตั้วบาอวี้เข้ารับร่างไว้ ............นั่นแน่ โมเมนต์อีกละ
การแสดงจบลง ท่านย่าชมเชยเว่ยหยางเป็นอย่างมาก ..ตั้วบาอวี้มาพร้อมราชโองการอวยพรวันเกิดให้ท่านย่า และประกาศเรื่องความดีความชอบที่หลีหมินเฟิง (ฉิหยุนหนาน/แม่ทัพหลี) ฆ่ากบฏอ๋องเห่อฉือ ได้สำเร็จเรียบร้อยประทานทรัพย์สินทั้งหมดรวมทั้งตำหนักอ๋องให้กับตระกูลหลี ...เว่ยหยางได้ยินก็ยิ่งแค้นมาก..... หลีหมินเฟิงเอาหยก(ที่เคยเป็นของฉินเอ๋อร์ที่เสด็จย่าให้ตอนเกิด) มามอบให้ฉางเล่อ ทุกคนต่างชมว่าสวยมาก เว่ยหยางเห็นก็จ้องไม่ยอมวางตา จ้องไม่พอเข้าไปจะแย่งมาจากมือฉางเล่อด้วย...
ฉางเล่อตกใจ ทำหน้า error ^_^
ฉิหยุนรั่วจึงไล่ให้เว่ยหยางกลับห้องไป ...ฉางรู่มองตั้วบาอวี้ไม่วางสายตาเพราะรักมาตั้งแต่เด็ก (ตาวิ้งๆ มาก)
หลังจากตั้วบาอวี้กลับไปวังแล้ว องครักษ์คนสนิทของตั้วบาอวี้ถามตั้วบาอวี้ว่าตั้งใจจะใช้หลีหมินเฟิงช่วยเหลือให้เป็นองค์รัชทายาทจริงเหรอ เพราะหลีหมินเฟิงเป็นคนทรยศอ๋องเห่อฉือและฆ่าล้างตระกูลอย่างโหดเหี้ยม จะไว้ใจคนใจคดเช่นนี้ได้อย่างไร ตั้วบาอวี้ตอบว่าข้าสนใจหลีเสี่ยวหราน มากกว่า หลีเสี่ยวหรานเป็นเสนาบดีมีคนรักและมีอำนาจมาก เราต้องเกี่ยวข้องกับหลีเสี่ยวหราน แล้วเราจะมีโอกาสได้เป็นรัชทายาท คนสนิทถามต่อว่าท่านคิดว่าใครจะเป็นคู่แข่งคนสำคัญของท่าน ตั้วบาอวี้บอกว่า มี ตงพิงหวาง และ ตั้วบาจู เพราะมีคนสนับสนุนมาก โดยเฉพาะตั้วบาจูเหตุการณ์ที่หน้าประตูเมืองทำให้ประชาชนรัก...
ตัดกลับมาที่คฤหาสน์เสนาบดีหลี ฉางรู่มาหาเว่ยหยางและนำป้ายหยกที่เธอทำเองมาให้เว่ยหยาง บอกเธอทำเองและรอคนที่เธอจะมอบให้มานานแล้ว เว่ยหยางถามว่าทำไมละประมาณท่านก็มีฉางซือ ฉางเล่อ ....ฉางรู่จึงตอบว่าตอนนี้เจ้าเข้ามาอยู่ในบ้านแล้วต่อไปเจ้าก็จะรู้เองว่าทำไม..
ฉางรู่ออกมาจากห้องของเว่ยหยางแล้ว เดินมาเจอกับฉางเล่อ ฉางเล่อมองฉางรู่ด้วยหางตาแบบยิ้มๆ และบอกฉางรู่ประมาณว่าต่อไปอย่าพยายามทำอะไรเด่นอีกเพราะยังไงก็ไม่มีวันเด่นเกินเธอ (ฉางเล่อ) ไปได้...ฉางรู่จะร้องไห้และถามว่าท่านรู้อยู่แล้วว่าข้าจะปักกลอนให้ท่านย่า แล้วทำไมท่านยังทำซ้ำอีก ฉางเล่อ ตอบแบบรู้แล้วจะทำไมล่ะ ยังไงเจ้าก็ทำอะไรข้าไม่ได้อยู่แล้ว.... (อืมมม น่าตบนะ )
ฉางรู่กับมาที่ห้องพบกับฉางซือ ก็เล่าให้ฉางซือฟัง ฉางซือบอกไม่คิดอะไรเพราะไม่เกี่ยวกับตนเอง ..(มีตัวละครตัวนี้เพื่อ??) ฉางรู่เตือนฉางซือว่าอย่าสนิทกับฉางเล่อมากเกินไปจะอันตรายในอนาคต แต่ฉางซือย้อนฉางรู่ว่าท่านนั่นแหละไปสนิทกับเว่ยหยาง แล้วท่านจะเสียใจ ..ฉางรู่บอกฉางซือว่าเธอเห็นมีเว่ยหยางคนเดียวที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของฉางเล่อและชนะ ..ฉางซือบอกฉางรู่ว่าไม่มีทาง ยังไงก็ไม่สามารถชนะฉางเล่อได้.......ฉางรู่จบด้วยบทกลอน แปลรวมๆ ประมาณว่า สงครามกำลังจะเกิดผู้ล่าที่เข้มแข็งเท่านั้นถึงจะเป็นผู้ชนะ เรากำลังจะได้ดูการแสดงกันไม่ช้านี้.....

(ได้เวลาร่วมตัว ทริปเปิ้ลเลว) ฉิหยุนรั่วพูดกับหลีหมินเฟิงประมาณว่า ขัดใจมากที่เว่ยหยางดึงความสนใจไปจากทุกคนโดยเฉพาะท่านย่า และดูเหมือนท่านย่าจะโปรดเว่ยหยางมาก หลีหมินเฟิงบอกฉิหยุนรั่วอย่ากังวลมาก แค่เด็กสาวบ้านนอกเข้าเมืองคนหนึ่ง กำจัดไม่ยาก ..ฉิหยุนรั่วคิดแตกต่าง เว่ยหยางจะเป็นปัญหามากขึ้น มีความเป็นไปได้มั้ยว่าเป็นเว่ยหยางตัวปลอม?? (ฉลาดแท้คุณแม่) เธอให้เหตุผลว่าเธอเลือกที่จะส่งเว่ยหยางไปอยู่ในถิ่นกันดาล ลำบากลำบน แต่พอเธอจับมือเว่ยหยาง ทำไมมือเว่ยหยางเหมือนคนไม่เคยทำงานอะไรเลย ผิวพรรณสวยงาม นางจะต้องสืบให้ชัดเจนให้ได้.....แล้วก็หันไปพูดกับฉางเล่อว่าเจ้ารู้ใช่มั้ยว่าเหล่าพระมเหสีจะไปไหว้พระที่วัด เจ้าจงเตรียมตัวให้ดี....ฉางเล่อบอกอย่ากังวลนางรู้ว่าต้องทำอย่างไร
ฉางเล่อมาดักรอ (ประมาณทำเป็นเรื่องบังเอิญ) มเหสีที่วัด มเหสีจำฉางเล่อได้จึงเรียกมาคุยด้วย ฉางเล่อพูดอ้อมๆ ทำนองว่ามีวิธีให้ตั้วบาจูกลับมาวังเร็วขึ้น (ชอบออกไปนอกวัง) มเหสีชอบใจและบอกฉางเล่อว่าจะบอกตั้วบาจูว่าเจ้าคิดถึงเขามากๆ ...ฉางเล่อยิ้ม (สมใจ)
..มาที่เว่ยหยางบ้าง ไป๋จื่อมารายงานเว่ยหยางว่างานที่ให้ไปสืบชื่อคนช่วยชีวิตตอนไฟไหม้ว่าเป็นใครอยู่ที่ไหน ไป๋จื่อบอกสืบอะไรไม่ได้เลยไม่มีใครรู้ เว่ยหยางได้แต่คิดถึงช่วงเวลาที่นั้นที่เธอคิดว่าเธอต้องตายแน่แล้ว ไม่มีใครเลย ..สรุปว่าตกหลุมรักตั้วบาจูละ..แต่แล้วเว่ยหยางก็สลัดความคิดทิ้ง เพราะคิดต่อว่าตนเองมาเป็นเว่ยหยางเพราะต้องการมาล้างแค้น จะมามัวแต่คิดถึงเรื่องความรักได้อย่างไร..
ตอนที่ 4
เว่ยหยางได้ยินเสียงขลุ่ย เดินตามเสียงไป ผู้ชายคนที่เป่าขลุ่ยได้ยินคนเดินมาจึงหันหลังไปพบเว่ยหยาง ก็บอกเว่ยหยางว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ที่เจ้าจะเข้ามา และอย่าแตะต้อง นกของข้า เว่ยหยางก็ประมาณว่าข้าจะทำทุกอย่างที่เจ้าห้ามไม่ให้ข้าทำ (คงเห็นว่าเด็กกว่าเว่ยหยางเลยไม่กลัวอะไร)
เว่ยหยางจะจับนกอีก หลีหมินเต๋อ จึงจับมือเว่ยหยางว่าห้ามจ้บนะ แต่ดันเขินซะเอง (อืมม พี่น้องกันเขินกันขนาดนี่เลยเหรอ) เว่ยหยางยิ่งได้ใจก็แกล้ง แล้วก็โดนหลีหมินเต๋อไล่ออกมา ..(แต่ตอนนี้เว่ยหยางยังไม่รู้ว่าชื่ออะไร)... เว่ยหยางกลับมาที่ห้องและถามไป๋จื่อว่าผู้ชายเจ้าของนกเป็นใคร ไป๋จื่อจึงบอกว่าเป็นคุณชายรอง ชื่อ หลีหมินเต๋อ เป็นลูกที่ฮูหยิน 3 ไปขอมาเลี้ยง (ลูกเลี้ยง) เว่ยหยางบอกไป๋จื่อให้หาหนังสะติ๊กให้หน่อยเพราะจะเอาไปยิงหลีหมินเต๋อที่บังอาจเรียกเธอว่าโจรขโมยนก

หลังจากได้หนังสติ๊กแล้ว เว่ยหยางวิ่งกลับมาที่ที่พักของหลีหมินเต๋ออีกแต่ก็ต้องหลบซ่อนก่อนเพราะเห็นหลีหมินเฟิงกำลังคุยกับหลีหมินเต๋ออยู่ หมินเฟิงว่าหมินเต๋อเป็นลูกแหง มีแต่ประจบแม่ไปวันๆ (ทุกวันหลีหมินเต๋อต้องไปทำความเคารพฮูหยิน 3 แม่เลี้ยงตน ...เด็กดี) หมินเฟิงข่มหมินเต๋อว่าตนเองได้รับพระราชทานตำแหน่งใหญ่โตตอนนี้เป็นคนสนิทขององค์ชายนาหนาน (ตั้วบาอวี้) แล้ว ขอร้องข้าซิข้าจะช่วยพูดให้เจ้าจะได้ตำแหน่งใหญ่โตบ้าง หมินเต๋อก็บอกหมินเฟิงว่า ข้าไม่ต้องการหากข้าจะได้ตำแหน่งข้าต้องมีความสามารถ ทำมันด้วยตนเอง แล้วก็เดินจากไป...แต่หมินเฟิงตะโกน ดังมากว่าหมินเต๋อเจ้ายังไปไม่ได้ ข้ายังพูดไม่จบ เจ้าไม่เห็นข้าซึ่งเป็นพี่ใหญ่อยู่ในสายตาใช่มั้ย.... หมินเต๋อ "ท่านรู้ดีว่าการกระทำดังกว่าคำพูดเสมอ (ประชดนั่นแหละประมาณว่าเจ้าเคยเห็นข้าเป็นน้องชายเหรอ) แล้วก็ผลักหมินเฟิงไปชนกับคนใช้ หมินเฟิงก็หันไปตบหน้าคนใช้ (เลวจริงจัง )...หมินเต๋อโกรธหมินเฟิงมากแต่หมินเฟิงไม่สนใจ ดูถูกทุกคนตนเองสูงศักดิ์จะทำอะไรก็ได้ หมินเต๋อกำลังจะกระชากเสื้อหมินเฟิง.... เว่ยหยางออกมาจากที่ซ่อนเข้าไปพยุงคนใช้ และห้ามไม่ให้หมินเต๋อทำร้ายหมินเฟิง....แล้วหมินเฟิงก็พูดอาฆาตทิ้งไว้แล้วก็รีบออกไป
เว่ยหยางถามหมินเต๋อว่าทะเลาะกับหมินเฟิงบ่อยเหรอ หมินเต๋อบอกใช่บ่อยมากแต่ไม่อยากมีเรื่อง หลบได้จะหลบเพราะไม่อยากให้ท่านแม่ไม่สบายใจ แล้วหมินเต๋อก็ชายตามองเว่ยหยางเจ้าสนใจแต่เรื่องของเจ้าเถอะ ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของข้า มองหน้าเว่ยหยางแล้วเขิน หน้าแดง (อืมมมม) เว่ยหยางก็แกล้งหมินเต๋อเรียกน้องชายรอง น้องชายรอง หมินเต๋อเดินหนี....
เว่ยหยางเข้าไปนวดให้ท่านย่าและพยายามถามถึงแม่ เพราะยังไม่ได้เจอแม่เลย ย่าจึงบอกว่าแม่ป่วยพักอยู่อีกที่หนึ่ง เว่ยหยางขออนุญาตท่านย่าไปหาแม่ ท่านย่าเลยอนุญาต
...ฉิหยุนรั่วพูดในที่พักประมาณว่าต้องดูแลแม่เว่ยหยางให้ดี เพราะมีแต่แม่เว่ยหยางจะบอกได้ว่าเว่ยหยางคนนี้เป็นตัวจริงหรือตัวปลอม ทุกอย่างจะต้องชัดเจน...แล้วก็ยิ้ม(แบบโหด)
เว่ยหยางรีบตรงไปยังที่พักของแม่โดยมีฮัวเหมยนำทางให้ ในขณะเดียวกัน ซุนหมิงคนรับใช้ของฉิหยุนรั่วเอายามากรอกให้แม่ของเว่ยหยางดื่ม แม่ของเว่ยหยางกระอักเลือด เว่ยหยางมาถึงพอดีก็ตกใจ
จริงพยายามเรียกคนมาช่วย ฉิหยุนรั่ว และหลีเสี่ยวหราน ก็มาพร้อมกัน เว่ยหยางบอกว่าซุนหมิงนำยามาบังคับให้แม่ดื่มต้องมีพิษแน่ๆ พอหมอมาตรวจพิษก็พบว่าไม่มีพิษ ฉิหยุนรั่วก็ดราม่าใส่สามีว่าเว่ยหยางปลักปล่ำตนเองต้องลงโทษเพราะกล่าวโทษผู้อาวุโส...แต่แม่เว่ยหย่างฟื้นขึ้นมาและบอกว่าเธอดื่มยาแล้วเวียนหัว สลบไปเอง หลีเสี่ยวหรานเลยบอกว่าให้เรื่องจบแค่นี้.......ฉิหยุนรั่วขัดใจเพราะไม่ได้ลงโทษเว่ยหยาง
จากนั้นก็ได้ยินเสียงคนรับใช้ในบ้านโวยวายว่าเกิดเหตุที่สระน้ำ ปลาทุกตัวลอยตายหมด ฉิหยุนรั่ว(วางแผนไว้เยอะมาก) .ฉิหยุนรั่วพยายามชักจูงให้หลีเสี่ยวหรานเชื่อว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเว่ยหยาง แต่เว่ยหยางก็บอกว่าตนทำผิดอะไร ตนไม่ได้ทำอะไรเลย...แล้วอยู่ๆ ฉางซือก็ตกลงไปในสระน้ำ (ตอนนี้งงๆ อยู่ๆวิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามาแล้วตกลงไปในน้ำเฉยเลย) หมินเต๋อช่วยฉางซือขึ้นมา ใบหน้าของฉางซือมีบาดแผลด้วย .ซินแสมาทำนายว่าเป็นแบบนี้เพราะรังสีความซวยของเว่ยหยาง ที่เป็นกาลกิณี ...ซินแสคนของฉิหยุนรั่วก็บอกว่ามีวิธีแก้เคล็ด ดับรังสีความกาลกิณี โดยการเอาน้ำผสมเลือดหมาดำมาโบยใส่เว่ยหยาง
ฉิหยุนรั่วตอนแรกคิดว่าฉางเล่อวางแผนไว้ เรื่องที่ฉางซือตกน้ำ แต่ฉางเล่อบอกเธอไม่รู้เรื่องทั้งคู่เลยงงและสรุปว่าฉางซือคงลื่นและหล่นลงไปในสระเอง.... (คนดูก็งงจ้า แต่มันน่าจะมีอะไรๆ นะ) เว่ยหยางถูกนำไปขังไว้ ฉางรู่แอบเอาอาหารไปให้เว่ยหยางกิน
ซินแสบอกทุกคนว่าต้องโบยเว่ยหยาง 50 ที่ด้วยแซ่ที่แช่ในนำ้ผสมเลือดหมาดำ เพื่อล้างอาถรรพ์ ฉิหยุนรั่วกับฉางเล่อแอบยิ้ม แต่คนอื่นๆ ทำหน้ากังวล ฉิหยุนรั่วให้คนเอายาพิษใส่ลงไปในน้ำด้วย ยาชนิดนี้ถ้าซึมเข้าร่างกายแล้ว แผลจะไม่มีวันหาย และจะเจ็บปวดมากขึ้นทุกวัน...
ฉางรู่กับหลีหมินเต๋อสงสารเว่ยหยางและพยายามห้ามซินแสให้หยุดตี
แม่เว่ยหยางวิ่งมาหาลูก ร้องไห้หนักมาก และขอร้องให้หยุด แต่ฉิหยุนรั่วก็ขอให้ทำให้ครบเพื่อความสบายใจและความโชคดีของตระกูล ดูสภาพเว่ยหยาง
ฉิหยุนรั่วสั่งให้คนเอาเว่ยหยางไปทิ้งในป่า เพราะยังไงก็ตายแน่นอนจะให้ตัวซวยตายในบ้านได้อย่างไร .......คุณแม่แรงและเลวมากค่ะ ชมเชย....
ตอนแรกคนใช้ของเว่ยหยาง ซือเหยียนไม่ยอมให้คนของฉิหยุนรั่วเอาตัวเว่ยหยางไป แต่โดนขู่เลยต้องยอม (ปกตินิสัยของซือเหยียนเป็นคนขี้กลัว ขี้ตกใจ และขี้ขลาดอยู่แล้ว ไม่ได้เรื่องนะคนนี้) ส่วนไป๋จื่อไม่อยู่ ตามไปขอให้หลีหมินเต๋อช่วยหาทางรักษาเว่ยหยางอยู่...คนของฉิหยุนรั่วลากเว่ยหยางไปทิ้งไว้ในป่า....ชีวิตนางเอกเน้อะ....เว่ยหยางพยายามตะเกียกตะกายตัวขึ้นมาและเดินโซเซไปเจอถ้ำหนึ่งเลยเข้าไปพัก บังเอิญแท้ ตั้วบาจูออกมาท่องเที่ยวกับองครักษ์ีคนสนิทกำลังจะกลับวัง มาเจอพวกนักฆ่า (ไม่รู้ใครส่งมา)
สู้ไปสู้มา พวกนักฆ่าเยอะกว่าตั้วบาจูสู้ไม่ไหวจึงหนี และเข้าไปหลบในถ้ำเดียวกันกับเว่ยหยาง เว่ยหยางเห็นก็ตกใจจะตะโกน ตั้วบาจูจึงเอามือปิดปากเว่ยหยางไว้
จบด้วยภาพ ณ โมเมนต์นี้
ตอนที่ 5
องค์ชายไอพอด (iPod) สวัสดีค่ะ (ฉายาของติ่งจีนในเว่ยป๋อ สังเกตทรงผมข้างหู 555)
หลังจากที่พวกนักฆ่าที่มาตามฆ่าตั้วบาจูไปแล้ว เว่ยหยางผลักตั้วบาจูออกไปแล้วสลบไป ตั้วบาจูจำเว่ยหยางได้ว่าเป็นผู้หญิงที่ตัวเองช่วยไว้ตอนไฟไหม้โรงแรม
เว่ยหยางสลบใส่ซะงั้น
ตั้วบาจูให้หมอมาตรวจอาการของเว่ยหยาง ...ในขณะที่หมอตรวจอาการอยู่นั้น คนสนิทของตั้วบาจูก็วิ่งเข้ามากอดตั้วบาจู บอกเป็นห่วงมากตามหาท่านไม่เจอข้าหัวใจแทบวาย ท่านไม่เป็นไรใช่มั้ย (น่ารักดีคู่นายบ่าวคู่นี้) ตั้วบาจูดันคนสนิทออกไปแล้วบอกให้เงียบอย่ารบกวนหมอเพราะกำลังตรวจอาการอยู่...คนสนิทแซ่วว่าท่านถูกตามล่าแต่ดันกลับมาพร้อมได้ผู้หญิงมาด้วย....แล้วก็โดนตั้วบาจูมองด้วยสายตาแบบว่าถ้าพูดอีก โดนแน่
หมอรายงานตั้วบาจูว่าเว่ยหยางป่วยเพราะถูกยาพิษ และพิษได้ซึมไปทั่วร่างมาระยะหนึ่งแล้วและถ้าหากพิษเข้าสู่หัวใจ เว่ยหยางก็จะเสียชีวิต วิธีรักษาคือต้องฝังเข็มแต่ว่าวิธีนี้หมอเองเรียนมาแต่ไม่เคยใช้กับผู้หญิงและเจ็บปวดมากคนไข้อาจทนไม่ไหวเจ็บจนตาย...เว่ยหยางได้ยินจึงจับแขนหมอแล้วบอกว่าทำเลย ข้าต้องมีชีวิตอยู่....
หมอเริ่มการฝังเข็ม ฝังไม่ใกล้ไม่ไกลแค่ฝังลงไปบนศรีษะของเว่ยหยางนั่นเอง พอฝังไปได้ 2 เข็มเว่ยหยางเจ็บปวดมากแต่ไม่ร้องออกมา ปวดจนจะล้มลงตั้วบาจูจึงรีบเข้ามาประคอง หมอถามเว่ยหยางว่าไหวมั้ย เว่ยหยางบอกจัดเลย หมอจึงฝังเข็มที่ 3 ซึ่งเป็นเข็มที่จะต้องปักตำแหน่งที่ทำให้เจ็บปวดมากที่สุด แล้วหมอก็ฝังเข็มลงไป เว่ยหยางจับมือตั้วบาจูบีบอย่างแน่น ตั้วบาจูก็ให้กำลังใจกอดเว่ยหยางไว้ในอ้อมแขน เว่ยหยางทนปวดไม่ไหวจึงสลบไป...แต่ไม่ยอมปล่อยมือของตั้วบาจู ตั้วบาจูเลยต้องนั่งกอดเว่ยหยางทั้งคืน ...(กรี๊ดดดค่ะ)..
ไม่เป็นไรนะเดี๋ยวเจ้าก็หาย เข็มเล็กนิดเดียว ---
พอตื่นเช้าเว่ยหยางตื่นก่อนเห็นว่าตั้วบาจูกอดตนอยู่จึงผลักตั้วบาจูตกเตียง และถามว่าเจ้าเป็นใคร ตั้วบาจูตกใจเพราะตกลงพื้นจึงบอกเว่ยหยางประมาณว่า ข้าก็คนที่ช่วยชีวิตเจ้าไง เจ้าตอบแทนผู้มีบุญคุณแบบนี้เลย ตอนนี้ข้าช่วยเจ้า 2 ตรั้งละนะ เว่ยหยางถามว่าช่วย 2 ครั้งเหรอ ตั้วบาจูเลยบอกว่าก็ข้าช่วยเจ้าตอนไฟไหม้ไง..เว่ยหยางตาเป็นประกายและเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มอ่อนหวานทันที จนตั้วบาจูแซวว่าเจ้านี่เปลี่ยนสีหน้าได้เร็วจริงนะ.... เว่ยหยางจะคำนับขอบคุณตั้วบาจูที่ช่วยชีวิต "ท่านเป็นเทพเจ้าที่คอยช่วยชีวิตข้า" แต่ตั้วบาจูห้ามไว้และบอกว่าเจ้ายังไม่หายดีต้องพักเยอะๆ เว่ยหยางจึงนอนลงและคิดในใจ ประมาณว่าพระเจ้าท่านได้ยินที่ข้าสวดอธิษฐานใช่มั้ย ท่านถึงส่งข้ามาหาเขา (ตั้วบาจู) อีกแล้วก็ยิ้ม.. ตั้วบาจูนำพิณออกมาและโม้บอกเว่ยหยางว่าในเมืองผิงนี้ เขาคือมือพิณอันดับหนึ่ง ไม่มีใครสู้ได้ แล้วก็บรรเลงพิณ (เริ่มต้นด้วยเล่นมั่วๆ จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นเพลงเพราะๆ) เว่ยหยางหลับไปอย่างมีความสุข
มโนไปอย่างมีความสุข ณ วินาทีแห่งความเป็นความตาย ท่านคือเทพบุตรของข้า...
แล้วภาพก็บรรยายถึงความดูแลเอาใจใส่เว่ยหยางของตั้วบาจู ต้มยาให้ (สังเกตพัดที่ใช้ต้มยา) ป้อนยา เล่นพิณ เฝ้าไข้ ..จนกระทั่งเว่ยหยางรู้สึกตัวและอาการดีขึ้นมาก เว่ยหยางมาจับพิณ ตั้วบาจูมาเห็นพอดีเลยบอกว่าถ้าอยากเล่นข้าจะสอนให้ แล้วก็นะ โมเมนต์ดีดี ^_^
ต้มยาคร๊าฟฟฟ ..
ตั้วบาจูบอกเว่ยหยางว่าถ้าเดินไหวจะพาไปชมสถานที่หนึ่งในบริเวณโรงแรมนี้มันสวยมาก เผื่อเจ้าจะได้รับอากาศดี สดชื่นขึ้น เว่ยหยางตกลง ตั้วบาจูพาเว่ยหยางมาชมดอกไม้และผีเสื้อ มาแล้วแพทเทิร์นละครจีน เว่ยหยางวิ่งสะดุด ตั้วบาจูรับตัวไว้ได้ จิกตากันไปมา (5555) แล้วเว่ยหยางก็เล่นกับผีเสื้อ ตั้วบาจูก็ตะลึงจังงัง รักจุงเบยยยยย -----เอาละสรุปความว่าทั้งสองมีใจให้ต่อกันแต่ทั้งคู่ต่างไม่รู้ว่าเป็นใครกันแน่ รู้แต่ชื่อเท่านั้น ...
โมเมนต์สะดุด... เป็นเรื่องราวดีดี
ฮ่าวเซียงอ้าาาา
ตะลึง ณ จุดจุดนี้
ในขณะเวลาเดียวกันกับที่ตั้วบาจูดูแลเว่ยหยางนั้น หลีหมินเต๋อกับคนสนิทก็พยายามจะหายาถอนพิษเพื่อจะนำไปช่วยเว่ยหยาง (หมินเต๋อไม่รู้ว่าฉิหยุนรั่วสั่งคนเอาเว่ยหยางไปทิ้งในป่าแล้ว แค่รู้ว่าถูกไล่ให้ไปอยู่ที่อื่น) คนสนิทเตือนหลีหมินเต๋อว่าถ้าโดนจับได้ หมินเฟิงต้องฆ่าแน่ แต่หมินเต๋อบอกว่าไม่กลัว ยังไงก็ต้องช่วยเว่ยหยางให้ได้ ...พอซินแสกลับมาที่พักหมินเต๋อกับคนสนิทก็ตามเข้าไปเผื่อจะค้นหายาถอนพิษ หมินเต๋อเห็นซินแสเปิดห้องลับ และเห็นว่าขังเด็กไว้ทำทารุณกรรม (ไม่แน่ใจว่าขังไว้เพื่อกามรมณ์ หรือขังไว้ทรมานทดลองยา หรืออะไร) ยามที่ดูแลคฤหาสน์เข้ามาเห็นหมินเต๋อกับคนสนิท(คลุมโม่งใส่ชุดดำ) จึงสู้กัน หมินเต๋อถูกฟันแขนบาดเจ็บ กำลังจะเสียทีเพราะถูกล้อมไว้แล้ว ก็มีคนชุดดำกลุ่มหนึ่งเข้ามาช่วยไว้ (ยิงธนูใส่พวกยาม) จากนั้นกลุ่มชุดดำก็จากไป พอดีกลับพวกทหารเข้ามาพอดีทำให้ซินแสถูกจับกักขังเด็กไว้ทำมิดีมิร้าย...
หลีหมินเต๋อ นายกล้ามาก
เปิดห้องลับ นึกว่าจะเป็นห้องเก็บยา ดันเป็นห้องปฏิบัติกิจ
ตรงนี้ขอให้จดจำไว้จุดหนึ่งนะคะ ตรงกลุ่มชายกลุ่มดำที่มาช่วยหมินเต๋อ คนกลุ่มนี้เป็นคนที่คอยแอบติดตามและอารักขาหลีหมินเต๋อตลอดเวลา แต่หลีหมินเต๋อไม่รู้ เดี๋ยวจะไปเฉลยช่วงกลางๆ เรื่อง (ถ้าเหมือนในนิยายนะ แต่อย่าหวังอะไรมาก เพราะเกริ่นตั้งแต่ต้นเรื่องแล้วว่า ฉบับซีรี่ย์แทบจะต่างจากนิยายโดยสิ้นเชิง เหลือไว้เพียงชื่อตัวละครเท่านั้นที่เหมือนกัน)
ข้าคือใคร ใครคือข้า? ---บอกดีมั้ยนะ
หมินเต๋อนั่งอยู่กับแม่มีคนสนิทกำลังพันแผลให้ ฮูหยินก็ร้องไห้สงสารหมินเต๋อ โอ้วลูกแม่เจ้าไปมีเรื่องอะไรมาทำไมบาดเจ็บขนาดนี้ ตั้งแต่เด็กเจ้าไม่เคยต่อสู้กับใครหนักขนาดนี้ บลาบลาๆ แล้วไปมีเรื่องกับซินแสซึ่งเป็นคนของป้ารั่ว เจ้าต้องมีปัญหาตามมาแน่ หมินเต๋อบอกแม่ว่าไม่ต้องเป็นห่วงเคลียร์ได้...ไม่ทันขาดคำ หมินเฟิงก็เข้ามาด่าหมินเต๋อและจะทำร้ายหมินเต๋อหมินเต๋อกระชากแย่งแส้มาจากหมินเฟิงได้ กำลังจะตีหมินเฟิงแต่แม่ห้ามไว้ก่อน...หมินเฟิงจึงไปฟ้องพ่อ ..ทุกคนเลยมาประชุมกันที่โถงของคฤหาสน์
หมินเต๋อสู้สู้..
หลีเสี่ยวหราน (ประมุขบ้าน/ เสนาบดีหลี --อีตานี่แย่มากคุ้มครองคนในบ้านไม่ได้เลยแถมหูเบาเชื่อแต่ฉิหยุนรั่ว ) ก็สอบสวนหมินเต๋อว่าเข้าไปทำอะไรที่ห้องพักซินแส หมินเต๋อก็บอกว่าไปเพราะต้องการหายาถอนพิษช่วยเว่ยหยาง แต่กลับไปพบความจริงเรื่องความเลวของซินแส เพราะฉะนั้นซินแสที่เลวแบบนี้ คำพูดต่างๆ จะเชื่อถือได้อย่างไร..เว่ยหยางไม่มีความผิด ... หมินเฟิงโกรธหมินเต๋อกำลังเข้าไปตะลุมบอน ท่านย่าก็เข้ามาพอดี และประกาศว่าทำกับเว่ยหยางอย่างนี้ได้อย่างไรทำไมไม่มีใครบอกคนหัวหงอกคนนี้เลย ต้องไปรับเว่ยหยางกลับบ้าน ส่งคนไปรับเดี๋ยวนี้....ฉิหยุนรั่วยิ้มไม่พูดอะไร (เพราะคิดว่ายังไงก็สายไปแล้วละ เว่ยหยางตายแล้วชัวร์ๆ ) หมินเต๋อหันมาเห็นสีหน้าของฉิหยุนรั่ว ก็หวั่นใจและคิดว่าเว่ยหยางต้องเกิดอันตรายแน่นอน........
ท่านย่ามา หลบค่ะ!
วันนี้ข้ายิ้ม ข้าสวย ข้านางงาม ---ฉิหยุนรั่วตอนนี้เลวน้อยหน่อย
ทางด้านตั้วบาจูกับเว่ยหยาง คนสนิทของตั้วบาจูนำอาวุธที่เก็บได้จากพวกมือสังหารมาให้ตั้วบาจู ทั้งคู่เห็นว่าเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มทหารคนสนิทขององค์ชายตงผิง คนสนิทของตั้วบาจูกำลังจะพูดประมาณว่าหรือองค์ชายตงผิงจะส่งคนมาฆ่าตั้วบาจู แต่ตั้วบาจูรีบพูดว่าไม่หรอกเราเป็นพี่น้องกันคงไม่ใช่ ต้องสืบให้แน่ชัดก่อน....จากนั้นคนสนิทก็เตือนตั้วบาจูว่าเราต้องรีบกลับนะเพราะพระมเหสีป่วยหนัก (อันนี้เองที่เป็นความคิดอันดีดีของนางฉางเล่อ ที่บอกมเหสีว่ามีวิธีทำให้องค์ชายเกาหยางกลับวังได้เร็ว )
มาที่ตั้วบาอวี้ กำลังให้อาหารปลาอยู่ในสวน คนสนิทก็รีบเข้ามาบอกว่าได้ทำตามแผนแล้ว ทิ้งอาวุธของนักฆ่าไว้ ตั้วบาอวี้ถามคนสนิทว่าเจ้ารู้มั้ยทำไมข้าชอบให้อาหารปลา...เพราะข้ารู้ว่าเวลาที่ข้าให้อาหารปลาที่กำลังหิวๆ มันจะต้องต่อสู้กันเพื่อแย่งอาหาร.....(ไม่มีอะไรเกี่ยวกับความเมตตาปราณีเลยนะ 5555 แหม ท่าน)...จากนั้นมีคนเข้ามารายงานว่าองค์ชายตงผิงมาพบรออยู่ที่ห้องโถง ตั้วบาอวี้จึงไปหาและถามว่าท่านพี่เสด็จมาถึงที่นี่มีเรื่องอะไรด่วน..องค์ชายตงผิงก็เอารายงานของอำมาตย์คนหนึ่งมาให้ตั้วบาอวี้อ่าน และบอกว่าแค้นมากมันอยากส่งข้าออกไปนอกวัง....เอาละตั้วบาอวี้เลยยุว่าในช่วงเวลานี้ พระบิดาอาจจะแต่งตั้งรัชทายาท ได้ตลอดเวลา หากท่านไม่อยู่ในวังคงพลาดโอกาสการเป็นรัชทายาท และยุว่าอำมาตย์คนที่เขียนเรื่องขอให้องค์ชายตงผิงไปจัดการงานที่นอกวังเป็นคนของพระมเหสีแม่ของตั้วบาจูนั่นเอง องค์ชายตงผิงโกรธมากและพุ่งประเด็นไปที่พระมเหสีต้องการให้ตั้วบาจูได้เป็นรัชทายาทนั่นเองถึงส่งตนไปนอกวัง ...ตั้วบาอวี้บอกให้องค์ชายตงผิงติดสินบนอำมาตย์คนอื่นๆให้ช่วยคัดค้าน...องค์ชายตงผิงเห็นด้วย.....ตั้วบาอวี้ยิ้ม ..
ตั้วบาอวี้ให้อาหารปลา ถึงแม้ไม่ได้ให้ด้วยความเมตตาซักกะติ๊ด ข้าก็ยังอยากลงรูปท่าน--
องค์ชายตง หนอ องค์ชายตง
ไม่ได้ยุ แค่ใส่ไฟ...
วันที่ต้องจากไปตั้วบาจูเข้ามาหาเว่ยหยาง แต่ก็รู้ว่าเว่ยหยางเพิ่งดื่มยาไปซึ่งยาจะทำให้หลับยาว จึงวางห่อผ้าไว้ข้างเตียง และจ้างคนมาดูแลอย่างใกล้ชิด...พอรุ่งเช้า คนดูแลถืออ่างน้ำเข้ามาวางข้างเตียงเว่ยหยาง แล้วก็นะ ทำห่อผ้าที่ตั้วบาจูวางไว้ให้เว่ยหยางหล่นตกน้ำ เปียก เว่ยหยางกำลังจะลืมตาตื่นพอดี คนดูแลกลัวความผิดว่าทำของเปียก เลยแอบเอาม้วนผ้านั้นสอดใส่ไว้ในแขนเสื้อตัวเอง.......
ห่อผ้านี้ให้เธอ เธอก็ไม่ได้รับ...
เว่ยหยางถามหาตั้วบาจู เพราะเห็นว่าคนที่เข้ามาไม่ใช่ คนที่ดูแลเลยบอกว่าตั้วบาจูไปแล้ว เว่ยหยางถามว่าเขาได้ทิ้งข้อความอะไรไว้ให้เว่ยหยางมั้ย คนดูแลบอกไม่มี (คือตั้วบาจูก็ไม่ได้บอกอะไรนางไว้นั่นแหละ) เว่ยหยางเลยนึกเสียใจว่าทำไมจากไปไม่บอกลาและไม่ทิ้งข้อความอะไรไว้เลย หรือว่าเราเป็นแค่คนแปลกหน้าผ่านมาเจอเท่านั้น ไม่ได้มีความหมายหมายอะไรกับท่านเลย.....แล้วก็ปลงว่าอย่าคิดเรื่องความรักเพราะตนยังมีสิ่งที่ต้องทำ...
ก็ยังดี เหลือพัดต้มยาไว้ให้ดูต่างหน้า ..
ด้านตั้วบาจูกลับถึงวังก็ตรงดิ่งไปหาเสด็จแม่ แต่พบว่าเสด็จแม่ปลอดภัยดี แข็งแรงไม่ป่วย ก็ตามว่าอ้าวทำไมในจดหมายบอกป่วย แม่เลยบอกว่าเป็นความคิดดีดี ของฉางเล่อ...ตั้วบาจูนึกว่าใครนะฉางเล่อ แล้วก็นึกออกว่าเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลเสนาบดีหลี เสด็จแม่จึงย้ำว่าเรียกคุณหนูใหญ่ตระกูลหลี เรียกซะทางการเชียว ตอนเจ้าเด็กๆ เจ้าบอกแม่ว่าเจ้าอยากแต่งงานกับนาง ..(อีกแล้วกิมมิกแบบนี้) ตั้วบาจูตอบว่าตอนนั้นเด็กมากไม่รู้เรื่องรู้ราวท่านจะถือเป็นจริงเป็นจังได้อย่างไร..แต่อย่างไรก็ตามต่อจากนี้ข้าจะอยู่เป็นเพื่อนท่านมีดูแลท่านแม่อย่างดี...มเหสียิ้มดีใจ (ฮ่าว!)
จูเอ๋อไล๋ล่า ----มาแล้วลูกจูของแม่...
จับเสด็จแม่หมุนซักสองสามรอบ
ไป๋จื่อกลับมาถึงบ้านก็รีบวิ่งเข้าไปตามหาเว่ยหยาง แต่ซือเหยียนบอกไป๋จื่อว่าฉิหยุนรั่วให้คนมาเอาตัวเว่ยหยางไปทิ้งในป่าแล้ว ไป๋จื่อเสียใจโกรธซือเหยียนมากว่าทำไมปล่อยให้คนเอาตัวเว่ยหยางไป ต่อให้ต้องใช้ชีวิตปกป้องเว่ยหยางเราก็ต้องทำ เพราะเว่ยหยางเคยชั่วชีวิตพวกเราไว้ ซือเหยียนร้องไห้เสียใจบอกว่าตกใจมากตอนนั้นทำอะไรไม่ถูก (กรรมของเจ้านายที่มีสาวใช้อย่างเธอนะ ซือเหยียน)...คนของท่านย่ามาถึงพอดีเพื่อจะมารับตัวเว่ยหยางกลับ ไป๋จื่อร้องไห้บอกกับคนของท่านย่าว่ามีคนเอาตัวเว่ยหยางไปทิ้งในป่าแล้ว ...พอดีกับกลุ่มคนใช้ที่พาตัวเว่ยหยางไปเดินมาพอดี ซือเหยียนเลยชี้ตัวบอกคนของท่านย่า ...คนดูเลยได้รู้ว่าหัวหน้ากลุ่มสาวใช้ที่มานำตัวเว่ยหยางไปคือแม่นมเก่าแก่ของตระกูลหลี...นางแม่นมรีบแก้ตัวว่าที่ต้องเอาตัวเว่ยหยางไปทิ้งเพราะไม่ต้องการให้ตัวกาลกิณีมาตายในบ้านซึ่งจะเป็นลางไม่ดีกับท่านย่า....แต่คนสนิทของท่านย่าบอกว่าตามกฏของตระกูลหลีใครที่เป็นภัยและทำอันตรายต่อลูกหลานตระกูลหลีจะต้องตาย...จึงสั่งคนให้เอาตัวแม่นมไปฆ่า.....
ในขณะที่ไป๋จื่อ ซือเหยียนและคนของท่านย่ากำลังเสียใจกันอยู่นั้น เว่ยหยางก็ปรากฏตัวและบอกว่าข้าอยู่ที่นี่แล้วทุกคนดีใจมาก คนของท่านย่าบอกจะรีบไปรายงานท่านย่าเดี๋ยวนี้ เว่ยหยางไม่กล่าวโทษซือเหยียนบอกว่ารู้ดีว่ายังไงซือเหยียนก็ขัดพวกนั้นไม่ได้ และบอกไป๋จื่อกับซือเหยียนว่ากลับไปครั้งนี้ พวกเราต้องเจอศึกหนักกว่าเดิม พวกเราต้องเตรียมตัวไว้ให้ดี และการกลับไปครั้งนี้ข้าจะไม่เดินกลับ........
เรารักกัน เรารักกัน
เว่ยหยางกลับบ้านด้วยขบวนนำใหญ่โตมีการตีฆ้องป่าวประกาศว่าเป็นขบวนเดินทางของเว่ยหยาง ลูกสาวคนที่ 2 (คุณหนูรอง) แห่งเสนาบดีหลี ทำให้คนทั่วเมืองผิง รู้ว่าเสนาบดีหลีมีคุณหนูรอง (ไม่มีใครเคยรู้มาก่อน)....พอมาถึงหน้าคฤหาสน์ มีขบวนต้อนรับของคนรับใช้ในบ้านออกมาต้อนรับ นางซุนหมิง (คนใช้ของฉิหยุนรั่วก็มา ถูกส่งมาเพื่อแสดงความจริงใจของฉิหยุนรั่ว) บอกเว่ยหยางประมาณว่า ยินดีต้อนรับกลับบ้าน.....เว่ยหยางมองขึ้นไปที่ป้ายตระกูลหลี แล้วก็เชิดหน้าขึ้น .... (ประมาณว่ามาเลย ข้าพร้อมสู้----เว่ยหยางไม่ได้กล่าวไว้ )
เว่ยหยางกลับมาแบบสวยๆ สมเกียรติคหนูตระกูลหลี
ตอนที่ 6
เว่ยหยางบอกซุนหมิงว่าตนต้องเดินเข้าทางประตูเล็กเช่นเคยใช่มั้ย ซุนหมิงบอกไม่ต้องคุณหนูเข้าประตูใหญ่ได้เลย เว่ยหยางเลยให้ซุนหมิงนำเดินเข้าทางประตูใหญ่ (รอบๆมีประชาชนมารอบวงดูมากมายถ้าให้เว่ยหยางเข้าประตูเล็ก เสนาบดีตระกูลหลีก็จะถูกนินทา) เว่ยหยางมาที่ห้องโถง ก็ทำความเคารพท่านย่า และฮูหยินทุกๆ คน ท่านย่าดีใจที่เว่ยหยางปลอดภัย
ฉิหยุนรั่ว หน้าก็ไม่อยากมองเว่ยหยาง ---
เว่ยหยางประจบท่านย่า ท่านย่าก็ขอบคุณเว่ยหยางที่ขนาดเว่ยหยางป่วยยังส่งไป๋จื่อมาไว้ให้คอยนวด คอยดูแลย่า เว่ยหยางได้รับคำชม ได้หน้าไปเต็มๆ แล้วท่านย่าก็หันไปมองฉิหยุนรั่ว ฮูหยินใหญ่เจ้าติดค้างเว่ยหยางแล้วนะ เจ้าเข้าใจผิดเว่ยหยาง (ไปหลงเชื่อคำทำนายผิดๆ) เจ้าควรทำเช่นใด
โหมดประจบ ของเว่ยหยาง
นางฉิหยุนรั่วก็เลยต้องลุกแล้วเดินมาหาเว่ยหยาง แล้วก็ปั้นยิ้มเป็นมิตรเต็มที่ บอกว่าต้องทำให้เว่ยหยางลำบากแล้ว ข้าต้องขอโทษเจ้าด้วย ..เว่ยหยางได้ทีเลยถามฉิหยุนรั่วว่าท่านขอโทษข้าท่านทำผิดเรื่องอะไรเหรอ?? ...ฉิหยุนรั่วทำหน้าแบบ หึ นี่ฉันต้องประกาศความผิดของฉันต่อหน้าคนอื่นเหรอ....แต่ก็ต้องพูด ฉิหยุนรั่วบอกเว่ยหยางประมาณว่าก็ผิดที่ไปหลงเชื่อซินแสไม่ดีคนนั้น แล้วยังสั่งคนให้เอาเว่ยหยางไปทิ้งในป่าอีก.......ฮูหยินอื่นๆ ได้ยินก็อมยิ้มแบบสะใจ...เว่ยหยางเลยบอกฉิหยุนรั่วว่า ไม่เป็นไรเว่ยหยางให้อภัยท่าน...
หน้านางตอนแสดงละครว่าสำนึกผิด ต้องลงไว้ซะหน่อย --ภาพหายาก
คนในครอบครัวปรองดองกัน คฤหาสน์ของเรามีความสุข โฮ๊ะ โฮ๊ะ โฮ๊ะ ---ท่านย่าแฮปปี้
พอทุกคนออกจากห้องโถงแล้ว เว่ยหยางก็ไปคุกเข่ากราบขอบคุณท่านย่าอีกครั้ง และอวยพรขอให้ท่านย่ามีความสุขและอายุยืนยาว เพราะมีท่านย่าคนเดียวที่รักและสามารถปกป้องเว่ยหยางได้ ท่านย่าก็รับปาก (แต่ไม่น่าจะอยู่นานนะท่านย่า ละครจีน) ท่านย่าบอกให้เว่ยหยางไปหาแม่ เพราะแม่เป็นห่วงมาก
จากนั้นเว่ยหยางก็รีบไปหาแม่ นำอาหารที่ท่านย่าให้เอามาให้แม่ทั้งหมด จนแม่เว่ยหยางต้องบอกว่าให้เว่ยหยางเอาไปเก็บไว้กินบำรุงเถิด แล้วทั้งคู่ก็กอดกันดีใจที่ปลอดภัย เว่ยหยางบอกแม่ว่าจะดูแลแม่ให้ดี รักแม่ที่สุด...
ทางด้านฉิหยุนรั่วหลังจากกลับถึงที่พักก็แสดงออกว่าโมโหสุดฤทธิ์ แล้วคุยกับซุนหมิงประมาณว่าเว่ยหยางดูกล้ามากเกินกว่าจะเป็นหญิงสาวที่มาจากบ้านนอก ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าตัวจริงหรือตัวปลอม
เว่ยหยางกำลังเดินออกมาจากที่พักของแม่ (น่าจะตั้งใจไปหาหลีหมินเต๋อ) พบหลีหมินเต๋อกำลังเดินมาพอดีจึงรีบเข้าไปขอบคุณ แต่หมินเต๋อบอกเว่ยหยางประมาณว่าจะมาขอบคุณทำไม ข้าไม่ได้จะช่วยเจ้า ถ้าช่วยตระกูลหลีต่างหาก แต่เว่ยหยางรู้ว่าจริงๆ แล้วหมินเต๋อตั้งใจช่วยเว่ยหยาง...เว่ยหยางพยายามจะถูกตัวหมินเต๋อแต่หมินเต๋อไม่ยอม แล้วก็เขิน รีบเดินออกไป...เว่ยหยางหัวเราะแล้วก็พูดว่า หมินเต๋อน่ารัก....หมินเต๋อเดินไปบ่นไปกับบ่าวคนสนิทว่า ที่เว่ยหยางส่งไป๋จื่อมาอยู่ดูแลท่านย่าที่นี่เพราะเป็นทางรอดเดียวที่จะเว่ยหยางมี ผู้หญิงคนนี้ฉลาดมาก.............

จากนั้นเว่ยหยางแวะไปเยี่ยมฉางซือ แม่ของฉางซือก็ต่อว่าเวยหยางว่าเป็นต้นเหตุให้ฉางซือมีบาดแผลที่หน้า และแผลยังรักษาไม่หายเลย ฉางซือมาถึงก็ขวางของนำมาก่อนเลย เพราะจะไล่เว่ยหยางว่าเว่ยหยางว่าไม่ต้องตีสองหน้า ตนเป็นแบบนี้ก็เพราะเว่ยหยาง แม่ฉางซือจึงให้คนพาฉางซือกลับเข้าไปข้างใน......แม่ของฉางซือบ่นว่าขนาดได้ครีมอย่างดีฉิหยุนรั่วให้มายังไม่สามารถรักษาแผลที่หน้าของฉางซือได้ เว่ยหยางรีบมองไปที่ครีม แล้วไปหยิบมาขวางแตกต่อหน้าแม่ฉางซือ แล้วบอกแม่ฉางซือว่า ถึงท่านจะไม่ชอบข้าแต่ถ้าท่านไม่ให้ฉางซือใช้ครีมนี้ (ที่ฉิหยุนรั่ว) ให้มาแผลบนหน้าของฉางซือจะค่อยๆแห้งและหายไป ขอให้ท่านเชื่อข้า เรามาพิสูจน์กัน.......แม่ฉางซือทำหน้าคิด
เว่ยหยางเดินออกมาจากที่พักของฉางซือก็คุยกับคนใช้ว่า เรื่องนี้ฉิหยุนรั่วให้ครีมฉางซือมาเพื่อไม่ต้องการให้แผลบนหน้าฉางซือหาย จะได้ทำให้ฉางซือและแม่ฉางซือเกลียดเว่ยหยาง จะได้มีพวกเพิ่มขึ้น...
เว่ยหยางเดินกลับห้องแต่ระหว่างทางพบฉางรู่มารออยู่ ทั้งคู่ดีใจกอดกันและถามสารทุกข์สุขดิบ...จากนั้นซุนหมิงมาตามเว่ยหยางบอกว่าฉิหยุนรั่วเชิญให้ไปพบ เว่ยหยางมองหน้าฉางรู่ตอนแรกก็นั่งไม่ขยับ ซุนหมิงต้องบอกว่าเชิญทางนี้ แล้วก็นำทางไปเว่ยหยางเดินตามซุนหมิงไป ซุนหมิงห้ามคนรับใช้ของเว่ยหยางตามไปเพราะเชิญคนเดียว
ขนาดคนรับใช้ของฉางรู่ยังรู้เลยว่าฉิหยุนรั่วเป็นคนบ่งการทุกอย่าง ที่เป็นภัยคุกคามต่อเว่ยหยาง (ทำไมฉางซือถึงซื่อบื่อกว่าคนใช้นะ ฉางซือน้องของฉางรู่)
ฉางรู่ก็พูดลอยๆ ประมาณว่าตอนนี้ป้ารั่วได้พบคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อกันแล้ว...แล้วก็ยิ้ม
ฉางเล่อกับฉิหยุนรั่วนั่งรอเว่ยหยางอยู่แล้ว (พร้อม) พยายามถามเว่ยหยางเกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตที่ผ่านมา อยู่หมู่บ้านหลิวเป็นอย่างไร ถามถึงเทศกาลเก็บเกี่ยว เทศกาลขอฝน ถามถึงแม่บ้านที่เลี้ยงดูว่าดูแลดีมั้ย เว่ยหยางตอบได้ดีคือตอบว่าไม่ค่อยได้ไปไหน ปกติจะเก็บตัวอยู่ในบ้านตลอดเรื่องต่างๆ จึงไม่ค่อยได้รู้และเห็น และไม่มีเพื่อน..
แม่นางฉางเล่อ แผนกคาดคั้นและช่วยกระแหนะกระแหน...ฉิหยุนรั่วถามเว่ยหยางประมาณว่าเจ้าไปอยู่หมู่บ้านเล็กๆ แบบนั้น ดินฟ้าอากาศก็ไม่ดีทำไมมีผิวพรรณดีสวยเช่นนี้ เว่ยหยางตอบว่าเพราะท่านแม่ของข้าเป็นคนที่สวยมาก เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดทำให้ข้าถึงแม้จะลำบากแค่ไหนก็ยังสวยอยู่ ฉิหยุนรั่วทำหน้าแบบไม่พอใจ เพราะไม่อยากได้ยินว่าใครสวยกว่าตัวเอง...
.ฉิหยุนรั่วเห็นว่าถามไปก็ไม่ได้อะไรจึงบอกให้เว่ยหยางกลับไปพัก เว่ยหยางจึงขอตัวกลับ แต่เหลือบไปเห็นหยกของตัวเองที่อยู่กับฉางเล่อก็จ้อง.... ฉันต้องเอาคืน
ทางด้านตั้วบาจูมาทำความเคารพป้ายวิญญาณพระบิดา (องค์ชายจิงมู่ อดีตองค์รัชทายาท) รำพึงรำพันประมาณว่า พระบิดามีอำนาจล้นฟ้าแต่อำนาจนั้นก็กลับมาทำร้ายพระองค์เอง (โดนลอบสังหาร) ทำไมพี่น้องต้องฆ่ากันเพียงเพื่อแย่งอำนาจ ข้าคงต้องทำให้ท่านพ่อผิดหวังข้าไม่ต้องการอำนาจ ข้าจะไม่เป็นรัชทายาท......
ตั้วบาจูนึกถึงสมัยเป็นเด็ก พระบิดาพาไปเที่ยวและชี้ให้ดูว่าแผ่นดินนี้ทั้งหมดต่อไปก็จะเป็นของพ่อ แล้วพ่อก็จะส่งต่อให้เป็นของเจ้า เราต้องดูแลและทำให้เจริญ เจ้าต้องเรียนการต่อสู้ (ธนูก่อนเลย) สอนวิธีการยิงธนูแล้วก็ประมาณว่าอย่าหันอาวุธเข้าหาประชาชน ต้องใช้มันปกป้องประชาชน...
ตัดมาที่ตำหนักพระมเหสี พระมเหสีคุยกับคนสนิทว่า ถ้าตั้วบาจูได้เป็นองค์รัชทายาทเมื่อไหร่ (รอปู่แต่งตั้ง) ตนคงนอนตายตาหลับและมีหน้าไปพบกับองค์ชายจิงมู่ (สวามี) ในสวรรค์ ต้องหาทางช่วยให้ตั้วบาจูได้เป็นองค์รัชทายาท โดยต้องหาหญิงที่จะมาเป็นพระชายาที่จะมาช่วยสนับสนุนให้ซะละ...
.....ตั้วบาจูมารอเว่ยหยางในสวนที่เคยมาชมดอกไม้ด้วยกัน ตามจดหมายที่ห่อผ้าไว้ให้กับเว่ยหยาง (แต่เว่ยหยางไม่ได้รับ) มารอ 5 วันละ เว่ยหยางก็ยังไม่มา คนสนิทของตั้วบาจูพยายามบอกตั้วบาจูว่านางคงไม่มาแล้ว...ตั้วบาจูบอกว่าข้าจะรอ..เจ้าไม่เข้าใจหรอก..
ทางด้านเว่ยหยาง (ผู้ไม่รู้เรื่องจดหมาย) เดินตามเสียงขลุ่ยมา พบกับหลีหมินเต๋อ หลีหมินเต๋อว่าเว่ยหยางประมาณว่ามารบกวน เว่ยหยางบอกหมินเต๋อทำไมชอบอารมณ์เสีย งั้นข้าไปก็ได้ หมินเต๋อรีบห้ามไว้ เว่ยหยางเลยหัวเราะบอกข้ารู้ว่าเจ้าไม่ได้หมายความอย่างที่เจ้าพูด แล้วก็เข้าไปแย่งขลุ่ยของหมินเต๋อมาถือ
หมินเต๋อไล่ตามเพราะต้องการขลุ่ยคืน เว่ยหยางไม่ยอมคืน หมินเต๋อเลยตะโกนให้คืนเดี๋ยวนี้ ขลุ่ยนี้เป็นส่ิงเดียวที่พ่อแม่ที่แท้จริงของหมินเต๋อให้ไว้ดูต่างหน้า..เว่ยหยางขอโทษหมินเต๋อเพราะไม่รู้มาก่อน คืนขลุ่ยให้หมินเต๋อ...หมินเต๋อจึงยื่นขลุ่ยให้เว่ยหยางดูบอกให้ดูเฉยๆ อย่าทำแตกเสียหาย...
เว่ยหยางจับขลุ่ยมาพิจารณาก็เห็นว่าทำมาจากหยกขาวมีค่ามาก จึงบอกหมินเต๋อว่าหมินเต๋อต้องมาจากตระกูลใหญ่แน่ๆ เพราะขลุ่ยมีค่ามาก หมินเต๋อบอกไม่สนใจหรอกเพราะอย่างไรพ่อแม่ที่แท้จริงพวกเขาไม่ต้องการข้า เว่ยหยางให้สติหมินเต๋อว่าพวกท่านอาจจะมีเหตุผลที่สำคัญที่ทำให้ไม่สามารถเลี้ยงหมินเต๋อได้ หมินเต๋อโกรธและบอกว่าข้ามีท่านแม่คนเดียว (แม่เลี้ยง --น้องสาวของหลีเสี่ยวหราน) ท่านอดทนเลี้ยงดูข้ามา...
เว่ยหยางบอกหมินเต๋อว่าไหนๆ วันนี้ก็เป็นวันพิเศษ (วันอะไร?? ไม่ได้ยินว่าเป็นวันอะไร) ข้าจะเป่าขลุ่ยให้ฟัง แล้วเว่ยหยางก็เป่าขลุ่ย (เพลงนี้เพราะมากๆ ชอบ)...ช่วงเพลงขลุ่ยก็ถ่ายสลับกับตั้วบาจูที่รอเว่ยหยางอยู่ จนกระทั่งฝนตก
ตั้วบาจูจึงบอกกับคนสนิทว่าเจ้าพูดถูก นางไม่มา พวกเราไปกันเถอะ
ชอบมุมนี้ อารมณ์นี้มาก คือถึงจะมั่นใจละว่าเว่ยหยางไม่มา แต่ข้าก็ยังหันกลับมามองทาง...
ทางนี้ก็ยังเป่าขลุ่ยต่อไป (นั่นแหน่ พวกคอซีรี่ย์จีนอย่างพวกเรา คิดว่ามีอะไรมะ คู่นี้?? เราคิดว่ามันจะต้องมีอะไรอะไรตามมาอีกมากมายแน่นอน ถึงซีรี่ย์จะไม่เหมือนในนิยายแต่มันต้องมีเกี่ยวโยงกันบ้างแหละ ลุ้นนน)
ส่วนทางนี้ก็ดีใจเกิน --- เรื่องเดียวที่ทำให้ยิ้มขนาดนี้ เรื่องผู้ชาย...องค์ชายเกาหยางกลับมาวังแล้วหลังจากออกจากวังไปอยู่ที่อื่นเป็นปี แล้วทางพระมเหสียังจัดงานเลี้ยงในวังด้วย เชิญข้า(ฉางเล่อ) ด้วย ดีใจจังเลยยยย...
ทางตั้วบาอวี้คุยกับคนสนิทเรื่องพระมเหสีจัดงานเลี้ยง ตั้วบาอวี้ดูออกว่าจัดเพื่อเลือกสะไภ้ ที่จะมาเป็นฐานอำนาจให้ตั้วบาจูได้ตำแหน่งรัชทายาท..คนสนิทบอกตั้วบาอวี้ว่ามเหสีเล็งหลีฉางเล่อไว้ให้ตั้วบาจู ซึ่งองค์ชายตงผิงก็พยายามอยากได้หลีฉางเล่อ มาเป็นชายาเช่นกัน แล้วก็ถามตั้วบาอวี้ว่าแล้วองค์ชายไม่คิดจะทำบ้างเหรอ .. ตั้วบาอวี้ไม่ตอบแต่ทำหน้าดุมาก.. (คือก็จะทำใช่มัีย? หรืออารมณ์ประมาณว่าข้ามีศักดิ์ศรีบัลลังก์ข้าสามารถได้มาด้วยตัวเอง หรือจะอารมณ์นี้? )


ทางด้านคฤหาสน์เสนาบดีหลี ฉางเล่อ ฉางรู่ ฉางซือ ต่างก็เตรียมตัวไปงานเลี้ยงทั้งเลือกเสื้อผ้า เครื่องประดับ ฉางเล่อคาดหวังว่าตนเองจะต้องเด่น ต้องสวยที่สุดในงาน ..เว่ยหยางไม่มีทางเทียบได้ (อย่าได้คิดแม้แต่จะเทียบ ประมาณนี้)...ส่วนฉางรู่บอกฉางซือว่าตนไม่ได้แต่งตัวใหงามเพื่อองค์ชายเกาหยาง (ในใจคิด แต่งเพื่อให้องค์ชายหนานอัน ชมต่างหาก) ฉางซือบอกฉางรู่ว่าจะแต่งทำไมมากมายเพราะถึงแต่งตัวงามแค่ไหน เวลายืนคู่กับฉางเล่อ ทุกสายตาก็มองแต่ฉางเล่อเท่านั้น ไม่เหลือตาข้างไหนมามองฉางรู่หรอก.....ฉางรู่ก็รำพึงรำพันว่าจริง ถึงข้าจะแต่งตัวสวยแค่ไหนเวลายืนกับฉางเล่อ ก็ไม่มีใครมอง แล้วก็ทำหน้าเศร้า...
ทางด้านเว่ยหยางไม่อยากไปงานเลี้ยง นั่งคิดในใจประมาณว่าพรุ่งนี้ข้าต้องเข้าวัง ข้าต้องได้พบหน้าจักรพรรดิ์ที่อนุญาตให้คนชั่วไปฆ่าพระราชบิดาและครอบครัวของเว่ยหยางที่ต้าเหลียง แล้วจะทนได้ยังไง ไม่อยากเจอ ไม่อยากไป ...เว่ยหยางจึงบอกแม่ว่าไม่อยากไปแต่แม่เว่ยหยางขอให้เว่ยหยางไป เพราะเผื่อจะได้เจอคุณชายตระกูลสูงศักดิ์จะได้มีอนาคตที่ดี..แล้วก็ให้คนรับใช้เว่ยหยางจับเว่ยหยางมาช่วยกันแต่งตัว....อันนั้นก็สวยอันนี้ก็สวย เลยออกมาเป็นเครื่องหัวแบบนี้.......เว่ยหยางมองกระจกอย่างเซ็งๆ แม่เว่ยหยางมองเว่ยหยางแล้วบอกว่าเครื่องประดับมันมากชิ้นไปนะแม่ว่า (จริงค่ะคุณแม่)...
แม่ของเว่ยหยางนำปิ่นปักผมมุกมาให้เว่ยหยางบอกว่าเป็นของที่ท่านเสนาบดี (พ่อเว่ยหยาง) ให้ตอนแม่สาวๆ อาจจะดูล้าสมัยไปหน่อย เว่ยหยางรีบบอกว่าเธอขอใส่ปิ่นมุกอันนี้ไปงานเลี้ยงแค่ชิ้นเดียวก็พอ เครื่องประดับอย่างอื่นไม่ใส่ เพราะมันแสดงถึงความรักของพ่อและแม่...
เว่ยหยางเดินออกมาจากห้องแม่มาเจอฉางเล่อโดยบังเอิญ ฉางเล่อเห็นเว่ยหยางปักปิ่นมุกเก่า จึงดูถูกเว่ยหยางว่าถ้าไม่มีเครื่องประดับจะให้ยืม เพราะใส่แค่ปิ่นมุกนี้ไปคนจะดูถูกตระกูลหลีได้ เว่ยหยางไม่สนใจบอกจะใส่แค่นี้เพราะมันมีค่ามาก ท่านพ่อให้ท่านแม่มา ฉางเล่อทำหน้าหงุดหงิด เว่ยหยางก็จะเดินกลับห้องแต่นางฉางเล่อเอาเท้าขัดขาเว่ยหยาง เว่ยหยางกำลังจะล้ม แต่หมินเต๋อมาช่วยไว้ทัน (ทำไมไม่มีโมเมนต์อะ เร็วเกิน)..หมินเต๋อต่อว่าฉางเล่อว่ากริยาและการกระทำแบบนี้ถ้าองค์ชายเกาหยางรู้คงไม่เลือกฉางเล่อแน่นอน ฉางเล่อโกรธมาก ว่าหมินเต๋อว่าเป็นลูกพ่อแม่ทิ้ง ให้สำนึกด้วยว่าอยู่ในฐานะอะไรในบ้านนี้ หมินเต๋อเลยสวนกลับประมาณว่าเรื่องนี้ท่านก็รุ้ดีอยู่แล้วว่าท่าน(ฉางเล่อ) ไม่อยู่ในฐานะที่จะวิจารณ์ท่านแม่ (น้องสาวพ่อฉางเล่อ)ได้....ฉางเล่อจึงเดินออกไป


เว่ยหยางกลับมาที่ห้องแล้วนั่งคิดคนเดียวถึงเรื่องต้องหาวิธีเอาหยกคืนมาจากฉางเล่อให้ได้ จะทำไงดีน๊า...แล้วคนสนิทเข้ามาเห็นมีแมลงสาบก็ร้องโวยวาย ไป๋จื่อเอาเท้าเหยียบแมลงสาบตาย แล้วก็บ่นประมาณว่าผู้หญิงทุกคนกลัวแมลงสาบทั้งนั้น.. เว่ยหยางจึงนำแมลงสาบไปปล่อยในห้องอาบน้ำของฉางเล่อ ที่กำลังอาบน้ำ..
ฉางเล่อเห็นแมลงสาบก็กรี๊ดสนั่น พวกสาวใช้ร่วมทั้งเว่ยหยางที่ปลอมตัวเข้ามาแฝงด้้วยก็รีบเข้าไปในห้องอาบน้ำ เว่ยหยางตรงไปที่หยกแล้วนำหยกปลอม มาวางแทนที่หยกจริง แล้วซ่อนหยกจริงไว้ในแขนเสื้อ...ฉางเล่อรู้สึกหนาวจึงบอกให้สาวใช้ (เว่ยหยาง) เอาเสื้อผ้าที่กองอยู่มาให้....เว่ยหยางมองกองเสื้อผ้าแล้วคิด...
ตอนที่ 7
เว่ยหยางที่ปลอมเป็นบ่าวรับใช้ ยกเสื้อผ้าของฉางเล่อมาให้ฉางเล่อ ฉางเล่อบอกให้เงยหน้าขึ้น เว่ยหยางเลยทำเป็นตกใจกลัวแมลงสาบโยนเสื้อผ้าของฉางเล่อขึ้นไปปิดหน้าฉางเล่อแล้วรีบวิ่งออกไป...รอด..เว่ยหยางรีบกลับไปที่พัก แล้วก็ลูบไล้หยกอย่างสุดรัก..ข้าได้มันคืนมาแล้ว (ดวงตามุ่งมั่นอย่างอื่นข้าก็ต้องเอาคืนมาเช่นกัน---ผู้เขียนบล๊อกกล่าวเอง)
ตัดมาทางด้านพระราชวังที่ต้าเหลียง (เมืองของพ่อฉินเอ๋อร์) มีคนชุดดำ (หน้าคุ้นๆ เป็นท่านแม่ทัพที่เป็นพ่อขององครักษ์ขององค์หญิงฉินเอ๋อร์) แอบเข้ามาในวัง (จะมาเอาอะไร? หรือจะเข้ามาสังหารแม่ทัพหลิง?)
บังเอิญมาเห็นคนสนิทของแม่ทัพหลิง บังเอิญพบบันทึกซ่อนอยู่ในแจกัน (เพราะบังเอิญทำแจกันหล่นแล้วบันทึกมันโผล่ออกมา)
..แต่ดันพูดออกมาดัง ท่านแม่ทัพชุดดำที่เข้ามาซ่อนตัวอยู่เลยได้ยิน ออกมาชิงบันทึกไปได้ (แต่ใครเป็นคนเขียนอะ?)
มีทัพหลิงเข้ามาถามคนสนิทว่าเกิดอะไรขึ้น ทหารคนสนิทรายงานว่าพบบันทึกลับเรื่องราวและรายชื่อผู้ร่วมก่อจลาจลล่มล้างอ๋องเห่อฉือ แม่ทัพหลิงโกรธมากต้องไปตามเอาคืนให้ได้ ถ้าตกถึงมือจักรพรรดิ์ ต้องตายกันหมดแน่...แสดงว่าต้องมีคนของเห่อฉือรอดชีวิตไปได้ ต้องตามหาให้เจอ ส่วนตัวนี้สั่งทุกด่านทุกประตูเมืองปิดให้หมด ห้ามคนเข้า-ออก..
ชอบถุงมือของแม่ทัพหลิงจัง ......
ต้องตามฆ่าให้ตายหมดทุกคน---(ความสวยของถุงมือไม่ได้ช่วยอะไร ท่านก็ยังเลวอยู่เหมือนเดิม)
ตัดมาที่ที่พักเว่ยหยาง ซือเหยียน เดินมาพบคนใช้บ้างคนไม่ทำงานมัวแต่นั่งคุยกันจึงดุให้ทำงานสั่งเสร็จก็เดินไปแต่ยังได้ยินสองคนนั้นพูดนินทาตนว่า เว่ยหยางรักไป๋จื่อมากกว่าซือเหยียน เพราะไป๋จื่อฉลาดกว่าน่ารักกว่า...ซือเหยียนได้ยินจึงโกรธคราวนี้กลับมาด่า ทั้งสองคนถ้ายังไม่เลิกพูดโดนแน่.... แล้วซือเหยียนก็คิดตามที่ได้ยินสองคนนั้นพูด (นอกจากจะไม่ได้เรื่องละยังหูเบาอีก ยายคนนี้
วันงานเลี้ยงในวังของมเหสีก็มาถึง เว่ยหยางขอร้องฮูหยิน 3 แม่ของหมินเต๋อให้หมินเต๋อเข้าวังไปร่่วมงานเลี้ยงด้วย หมินเต๋อเลยต้องไปเพราะไม่อยากขัดใจแม่ แล้วก็บ่นเว่ยหยางว่าจุ้นจัง ดึงข้าไปทำไม (ประมาณนี้) งานเป็นงานของพวกเหล่าผู้หญิงน่าเบื่อจะตาย...เว่ยหยางเลยบอกว่าอยากให้หมินเต๋อไปเพราะเป็นโอกาสดีที่จะได้พบกับคนในราชวงศ์ อาจจะได้ทำงานมีตำแหน่งในวัง หมินเต๋อก็ประมาณใครอยากได้ตำแหน่งด้วยวิธีนี้ เว่ยหยางก็บอกไปเถอะขึ้นเกี้ยวมานั่งกับพี่มา...หมินเต๋อไม่นั่งแต่เดินไปขี่ม้านำขบวนแทน.... พอมาถึงหน้าวัง เว่ยหยางเปิดม่านดู แล้วก็นึกถึงครอบครัวตัวเอง นี่เรากำลังจะเข้าไปในวังของต้าเว่ย ศัตรูฆ่าพ่อและย่าเรา...
ด้านองค์หญิง 8 คนใช้มารายงานว่างานเลี้ยงของมเหสีเริ่มต้นแล้วมีลูกหลานขุนนางทั้งหญิงทั้งชายมาร่วมงานมากมาย ไม่แน่ว่าคุณชายหลิว (คนที่องค์หญิง 8 ต้องแต่งงานด้วย) ก็มาร่วมงานนะ องค์หญิง 8 เลยบอกจะไปสั่งสอนให้เข็ดจะได้กลัวไม่คิดมาแต่งงานกับข้า...
ภายในงานเลี้ยงก็มีดนตรีมีนางรำ ทุกคนก็ชื่นมื่น เว่ยหยางนั่งเซ็งๆ มเหสีบอกคนสนิทว่าในบรรดาสาวๆ ที่มาในวันนี้ ไม่มีใครสวยและมีสง่าเท่าหลีฉางเล่อ บุตรีท่านเสนาบดีหลีเลย คนสนิทเห็นด้วย...
ทางด้านองค์หญิง 8 ปลอมตัวเป็นคนรับใช้ชาย วิ่งเอาน้ำล้างเท้าขององค์หญิงมาสาดหลีหมินเต๋อ เพราะเข้าใจว่าเป็นคุณชายหลิว หลีหมินเต๋อโกรธมากแต่น้ำล้างเท้ามันเหม็นก็เลยต้องไปอาบน้ำ องค์หญิง 8 จึงพาไปห้องอาบน้ำ...ตอนหมินเต๋ออาบน้ำอยู่องค์หญิง 8 ก็เอาเสื้อผาของหมินเต๋อไปทิ้ง หมินเต๋อจึงไม่มีเสื้อผ้าใส่มีแต่ชุดกระโปรงผู้หญิง หมินเต๋อได้หยินคนแอบหน้าห้องเลยเปิดประตูและดึงองค์หญิงเข้ามาพร้อมกับไล่จะถอดชุดผู้ชายที่องค์หญิงใส่ปลอมตัวมาใส่ องค์หญิงเลยต้องบอกให้คนเอาเสื้อผ้ามาให้หมินเต๋อ หมินเต๋อปลดผ้าที่ปิดครึ่งร่างตัวไว้ออก..........องค์หญิงเห็น จุดจุดจุด เลยวิ่งหนีป่าราบไป...หมินเต๋อบ่น คนพวกนี้เป็นบ้ากันไปแล้วแน่เลย...
ตัดมางานเลี้ยง มเหสีเปรยขึ้นประมาณว่า การร่ายรำสวยงามและดนตรีจบไปแล้ว ตอนนี้หากมีใครสามารถร้องเพลงให้ฟังได้ก็คงจะดี
เว่ยหยางรีบส่งสัญญาณให้ฉางรู่ ฉางรู่ลุกขึ้น ฉางเล่อก็ลุก มเหสีจึงเรียกฉางเล่อมาร้องเพลงเพราะต้องการฟังฉางเล่อร้องเพลง ฉางเล่อยิ้มแบบเหยียดๆ ให้ฉางรู่แบบไม่มอง แล้วเดินออกไปบรรเลงพิณและร้องเพลง...
คุณแม่พร้อมเครื่องหัวตะเกียบ มีความภูมิใจยิ่งนัก---
ฉางเล่อร้องเพลง น้ำเสียงไพเราะมาก ...เนื้อเพลงก็บรรยายประมาณว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งทุกวันๆ ก็บรรเลงเพลง รอคนรักกลับมา คิดถึงคนรัก รอวันได้พบ...(5555 เข้าท่าดี)..มเหสีก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ (น่าจะเข้าใจแหละว่าฉางเล่อพร้อมเป็นสะไภ้มาก) แขกร่วมงานคนอื่นๆ ก็ชื่นชมน้ำเสียงฉางเล่อ...(ผู้เขียนบล๊อกก็ชื่นชมเสียงนางค่ะ เพราะดี)
พอเพลงจบลงมเหสีเรียกฉางเล่อไปให้รางวัล แล้วเหลือบไปเห็นหยกที่ฉางเล่อห้อย เลยจำได้ว่านี่คล้ายเป็นหยกล้ำค่าขององค์ไทเฮา (ย่าของฉินเอ๋อร์) แห่งต้าเหลียงนี่ ตอนเป็นเด็กข้าเคยเห็นครั้งหนึ่ง แล้วก็ขอฉางเล่อชม ฉางเล่อเลยถอดหยกส่งให้กับมเหสี พอมเหสีจับและพิจารณาดู ก็เปรยว่ามันควรจะมีเส้นสีดำคาดผ่านต้องกลาง เพราะเกิดขึ้นจากความซนขององค์หญิง (จำชื่อไม่ได้รุ่นลูกย่าก่อนจะถึงรุ่นฉินเอ๋อร์) ... แขกที่ร่วมงานเลยพูดกันให้แส่ดว่างั้นอันนี้ต้องเป็นของปลอมแน่แล้ว ...เว่ยหยาง(ฉินเอ๋อร์) แอบหัวเราะ ส่วนฉางเล่อทำหน้าแบบ...อืมม มันปลอมเหรอ..........

เว่ยหยาง (น่าจะเบื่องานเลี้ยง) ออกมาตามหาหมินเต๋อเพราะไม่เห็นในงาน แล้วบังเอิญเดินมาพบกับองค์ชายหนานอัน องค์ชายทักเว่ยหยางและบอกว่าได้ยินชื่อเสียงมา (ตอนกลับบ้านครั้งล่าสุดตีฆ้องประกาศ) แล้วก็ถามว่าแล้วพี่น้องคนอื่นๆไม่มาด้วยหรือ..พอดีฉางเล่อ กับฉางรู่มาพอดี เว่ยหยางเลยบอกว่านั่นไงมาแล้ว.. ฉางรู่แอบมององค์ชายหนานอันตาวิ้งวิ้ง แต่องค์ชายหนานอันชวนฉางเล่อไปชมดอกไม้ในวัง......ฉางรู่เสียใจเว่ยหยางเห็นอาการของฉางรู่เลยถามฉางรู่ว่าฉางรู่ก็อยากเป็นเดือนฉายเด่นอย่างนั้นเหรอ ฉางรู่ตอบว่าเปล่า เว่ยหยางเลยบอกว่าดีแล้วถ้าเราไม่เป็นดาวเด่น เราจะเที่ยวได้สนุกมากกว่าแล้วก็ดึงฉางรู่ไป....
องค์หญิง 8 เปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ก็ยังปลอมเป็นชายอยู่ บังเอิญมาเจอหมินเต๋ออยู่ที่ลานอาวุธ (ธนู) เลยตามหาเรื่องหมินเต๋อหมินเต๋อท้าให้บอกว่าเป็นใคร องค์หญิงไม่อยากบอกว่าเป็นองค์หญิงเพราะเข้าใจว่าหมินเต๋อเป็นคุณชายหลิว....พอดีได้ยินเสียงพิณที่องค์ชายเกาหยางกำลังเล่น ......."เขากลับมาแล้ว ไปหาดีกว่า".. แล้วก็วิ่งหนีหมินเต๋อไป หมินเต๋อก็วิ่งตามเพราะเห็นว่าตัวเองก็ไม่มีอะไรทำเหมือนกันไปดูดีกว่าว่าใครเล่นพิณ
ทางด้านเว่ยหยางที่อยู่กับฉางรู่พอได้ยินเสียงพิณที่ดังกังวาน เสียงใสและหนักแน่นก็นึกถึงตั้วบาจู และวิ่งตามเสียงพิณไป..
ทางด้านฉางเล่อกำลังชมสวนอยู่กับองค์ชายหนานอัน พอได้ยินเสียงพิณก็รำพึงรำพัน โอ้ววองค์ชายเกาหยางกลับมาวังแล้ว ข้าจะได้พบองค์ชายแล้ว ดีใจจุง...เลยหันมาลาองค์ชายหนานอันว่ากิจต้องทำ....
องค์ชายหนานอันถูกฉางเล่อเท...
เว่ยหยางมาถึงก่อนคนแรก ตั้วบาจูหันมาทั้งคู่ดีใจมากวิ่งมาจับมือกัน พูดพร้อมกันเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง......เว่ยหยางนึกได้จะดึงมือออกตั้วบาจูไม่ยอมปล่อย ฉางเล่อมาเห็นพอดี
ส่วนฉางรู่พอมาถึงก็ถวายบังคมองค์ชายเกาหยาง...เว่ยหยางตกใจว่านี่คือองค์ชายเกาหยางหลานของจักรพรรดิ์ต้าเว่ย ที่สั่งฆ่าพ่อเว่ยหยาง(ฉินเอ๋อร์) เลยดึงมือออกและเปลี่ยนท่าที เป็นเหินห่าง....
องค์หญิง 8 วิ่งมาถึงก็เข้าไปทักทายองค์ชายเกาหยางแล้วพูดเบ่งๆ ประมาณว่าเจ้ากลับมาละเหรอหลานข้า คิดถึงลุง 8 มั้ย องค์ชายเกาหยางทำหน้างงๆ แล้วก็ตลกขำว่าทำอะไร องค์หญิงขอให้ร่วมเล่นละครหลอกหมินเต๋อ องค์ชายเลยตามน้ำแบบขำๆ ไป.. จับท่านลุงหมุนอีกละ

จากนั้นองค์ชายตงผิงมาถึงเห็นทุกคนร่วมตัวกันอยู่ที่นี่เลยชวนกันไปเล่นเกมส์ ทุกคนมาที่ลานประลอง เกมส์คือใครที่ยิงลูกแพร์ได้มากสุดเป็นผู้ชนะ...(องค์ชายตงผิงกะโชว์สาวนั่นแหละ) องค์ชายตงผิให้องค์ชายหนานอันยิงก่อน องค์ชายหนานอันบอกว่าข้าไม่แข่งเกมส์นี้หรอก เพราะข้ารู้ตัวเองดีว่าฝีมือข้าเทียบกับเสด็จพี่ตงผิงไม่ได้ องค์ชายตงผิงหัวเราะแล้วหันไปบอกองค์ชายเกาหยางว่าเจ้าต้องเล่นเกมส์นี้นะ เกาหยางตกลง..ตงผิงยิงลูกแพร้ทุกลูกในแถวไปเข้าเป้า ฉางเล่อตบมือชื่นชม ตงผิงหน้าบาน...ตาเกาหยางยิง เกาหยางเหลือบมองไปที่เว่ยหยางแล้วหันกลับมายิง ลูกธนูของเกาหยางทะลุลูกแพร้ทุกลูกแล้วไปเข้าเป้าพอดี ทุกคนต่างประหลาดใจและชมเกาหยางว่าฝีมือล้ำลึกมาก...ตงผิงโกรธมาก ...ถึงตาคนต่อไปยิงธนู (น่าจะเป็นคุณชายหลิวตัวจริง เดา) ตงผิงโยนคันธนูแรงมากไปให้คนรับใช้ แต่ด้วยความแรงทำให้คนรับใช้เซไปชนกับคุณชายที่กำลังจะยิงธนู ลูกธนูเลยเปลี่ยนทิศตรงไปหาเว่ยหยาง
(แคปรูปได้พอดิบพอดี) .......ลูกธนูพุ่งตรงมาที่ศรีษะของเว่ยหยาง ในความชุลมุนอยู่นั้น...
เห็นกันมั้ยเอ่ยยยย.....หมินเต๋อยิงธนุมาปัดลูกธนูออกจากเว่ยหยางทันที...... (ในสายตาของหมินเต๋อมีเว่ยหยางอยู่ตลอด alert มาก ^_^).....ตงผิงเลยแต่งตั้งหมินเต๋อให้เป็นองครักษ์ในวัง.....(หมินเต๋อไม่อยากเป็นแต่เว่ยหยางส่งสัญญาณให้รับตำแหน่ง หมินเต๋อเลยจำใจรับ)
องค์หญิง 8 บ่นว่าเกมส์อะไรอันตรายจะตาย เปลี่ยนเกมส์เถอะ...ทุกคนเลยเปลี่ยนมาเล่นเกมส์จับคู่ปาลูกธนูใส่กระป๋อง (ที่ใส่ธนู) ...เว่ยหยางได้คู่กับเกาหยาง เกาหยางบอกเว่ยหยางว่าเราสองคนนี่เป็นคู่บุพเพสันนิวาสกันจริงๆ เล่นเกมส์ยังได้คู่กันเลย เว่ยหยางเลยบอกรู้สึกป่วย ไปก่อนนะแล้วก็เดินออกไป เกาหยางรีบวิ่งตามเว่ยหยางไป.....ฉางเล่อมองตามตาละห้อยแต่ก็ทิ้งตงผิงไปไม่ได้เพราะได้เล่นเกมส์คู่กัน ส่วนหนานอันคู่กับฉางรู่ฉางรู่ดีใจมากบอกกับหนานอันว่าจะทำให้ดีที่สุดจะไม่ทำให้หนานอันผิดหวัง...
เกาหยางวิ่งตามเว่ยหยางทันแล้วพูดกับเว่ยหยางประมาณว่าเจ้าบอกไม่สบายให้ข้าตามหมอหลวงให้นะ เว่ยหยางบอกไม่ต้อง เกาหยางบอกทำไมเว่ยหยางดูแปลกๆ เว่ยหยางไม่ตอบเดินจากไปเลย.....องค์ชายเกาหยางก็โดนเท..
ส่วนหมินเต๋อกับองค์หญิง 8 เล่นเกมส์คู่กันแต่ทะเลาะกันตลอด ด้วยความที่มัดมือไว้ข้างหนึ่งทำให้ทะเลาะกันแล้วล้ม...มีโมเมนต์ (แต่โมเมนต์ขององค์หญิง 8 คนเดียว ฆมินเต๋อหลับตา 555) คู่หนานอันกับฉางรู่ชนะเกมส์หยอดลูกธนู....
ฉางเล่อรีบตามออกมาหาเกาหยาง เกาหยางเรียกฉางเล่อว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลหลี ฉางเล่อขอร้องให้เกาหยางเรียกฉางเล่อเหมือนเมื่อก่อน แต่เกาหยางปฏิเสธบอกว่าตอนนี้โตแล้วเรียกอย่างนั้นไม่เหมาะสม แล้วก็เดินจากไป...ฉางเล่อก็เสียใจที่โดนองค์ชายเกาหยางเท..
ทางด้านฉางรู่ตามหนานอันออกมาคุยด้วย ทำให้หนานอันรู้ว่าฉางรู่มีใจให้หนานอัน แล้วก็คิดอะไรได้.....
คำพูดของสองคนนี้น่าสนใจมาก
หนานอัน : ข้าคิดไม่ถึงว่าแม่นางฉางรู่จะมีทักษะในเกมส์โยนลูกธนูมากขนาดนี้ธนูทั้ง 9 ลูกเข้าซองหมดเลย
ฉางรู่ : มิกล้า ข้าไม่ได้เก่งหรอก แต่ขึ้นอยู่กับพระองค์ต่างหากที่นำพาหม่อมฉันเล่นเกมส์
หนานอัน : เกมส์นี้ต้องเล่น 2 คน ทำไมถึงให้ข้าเป็นผู้ได้รับคำชมว่าเก่งคนเดียว?
ฉางรู่ : เกมส์นี้ขึ้นอยู่กับผู้เล่นทั้ง 2 คน ความประสานงานกันที่ดีระหว่าง 2 คน ถึงแม้จะมีผู้เล่นคนหนึ่งเก่งมากแต่ถ้าไม่ร่วมประสานกันให้ดีต่างคนต่างโยนตามใจตน ย่อมไม่มีทางประสบความสำเร็จ..องค์ชายหนานอันและองค์ชายอื่นๆ มีความสามารถในการเล่นเกมส์ที่เก่งกาจ..ดังนั้นกลยุทธ์ที่จะเอาชนะได้ จะต้องขึ้นอยู่กับผู้เล่นเกมส์ที่อ่อนทักษะกว่า ว่าจะสนับสนุนคู่เล่นอย่างไร ทำไมองค์ชายไม่เลือกคนที่เราสามารถไว้ใจได้อย่างสมบูรณ์ และเป็นผู้ตามที่ดีล่ะ??...ข้าเพียงแค่อยู่อย่างเงียบๆ ข้างกายท่านและให้ท่านได้เป็นผู้เปล่งประกายเจิดจ้าออกมา
หนานอัน : ทุกคนล้วนโลภต้องการอยู่จุดสูงสุด แล้วทำไมเจ้าถึงต้องการที่จะมาอยู่แค่เบื้องหลังล่ะ??
ฉางรู่ : ความสมบูรณ์แบบคือความไม่สมบูรณ์แบบ ความไม่สมบูรณ์แบบ คือความสมบูรณ์แบบ .. (จากประโยคนี้ ฉางรู่คนนี้นิสัยไม่แบ๋วเหมือนหน้าตานะ คิดลึกร้ายลึกเชียว)
หนานอัน : เจ้าต้องการให้ข้าสนใจเจ้าใช่มั้ย
ฉางรู่: ข้าน้อยมิกล้า ข้าพูดตามที่ข้าคิดเกี่ยวกับเรื่องเกมส์โยนลูกธนูเท่านั้น องค์ชายไม่ต้องกังวลโปรดอย่าเข้าใจผิด
หนานอัน : หากเป็นอย่างที่เจ้าพูดจริง แล้วเจ้าจะอธิบายให้ข้าฟังเรื่องการจะแข่งขันให้ชนะได้อย่างไร?
ฉางรู่ : ข้าไม่กล้าพูดปด อย่างไรก็ตามองค์ชายมีความสามารถและยืนอยู่เหนือผู้ชายคนอื่นๆ อยู่แล้ว ดังนั้นถึงแม้จะเป็นเกมส์อื่นๆ (ตำแหน่งรัชทายาท) ท่านต้องสนใจอะไรด้วยเล่า...
หนานอันคิดตามและเป็นจุดที่เปลี่ยนความคิดว่าไม่เอาฉางเล่อละ แต่จะฉางรู่มั้ย? หนานอันยังไม่พูด รอต่อไป....
(ฉางรู่นางมีความสิบเอ็ดเงียบนะฉางรู่เนี้ย ณ จุดนี้ชอบฉางเล่อมากกว่าฉางรู่ตรงที่ฉางเล่อนางรักนางเกลียดนางแสดงออกเต็มที่ ไม่มีแอ็บแบบฉางรู่)
ทางด้านเว่ยหยางกับเกาหยางต่างคนต่างคิดถึงเวลาเก่าๆ โมเมนต์ดีดี ......(เกาหยางน่าจะรักเว่ยหยางตอนที่พาเว่ยหยางมารักษานี่แหละ ส่วนเว่ยหยางรักเกาหยางตอนช่่วยชีวิตในเปลวไฟ)
เหม่อไป....รักนะแต่คงต้องหยุด พระบิดาเสด็จย่า ----ข้าขอโทษ
ทางนี้เหม่อจนโดนน้ำร้อนลวก...
ส่วนทางนี้ทริปเปิ้ลเลว...มาคุยกันเรื่องหยกว่ามันเป็นของปลอมแสดงว่าองค์หญิงที่ตายก็ต้องตัวปลอม ต้องตามหาตัวจริงให้เจอ.....ฉากนี้ยืนยันได้ว่าฉิหยุนรั่ว ฉลาดตัวแม่
ตัดมาที่คฤหาสน์เสนาบดีหลี เว่ยหยางมาหาหมินเต๋อมาแสดงความยินดี แม่หมินเต๋อเห็นหน้าเว่ยหยางไม่ค่อยดีจึงถามว่าไม่สบายหรือเปล่า (ใครเห็นสายตาของหมินเต๋อบ้าง? ชอบอะแสดงดี) เว่ยหยางบอกไม่ค่อยสบายแต่อาการดีขึ้นแล้ว...ยินดีกับหมินเต๋อที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นองครักษ์ในวัง หมินเต๋อบอกไม่อยากเป็นเพราะต้องการเป็นทหารออกรบปอ้งกันประเทศมากกว่า...แต่แม่หมินเต๋อดีใจมากขอบคุณเว่ยหยางที่พาหมินเต๋อเข้าวังไปด้วย....
ไปต่อตอนที่ 8 ที่ (ต่อ) องค์หญิงเว่ยหยาง Princess Wei Young นะคะ ^_^
Link: //www.bloggang.com/viewblog.php?id=waan&date=21-11-2016&group=4&gblog=8
Create Date : 17 พฤศจิกายน 2559 | | |
Last Update : 4 ธันวาคม 2559 16:59:49 น. |
Counter : 49031 Pageviews. |
| |
|
|
|