space
space
space
 
มีนาคม 2559
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
space
space
4 มีนาคม 2559
space
space
space

ฉันจะเป็น นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (จากประสบการณ์ชีวิตจริง) บทที่-2 ถึงจะไม่มีเงินก็ฝันใหญ่ได้
เกิดมาจน จะทำได้มั๊ย?

หลายคน คงเข้าใจผิดคิดว่า คนที่จะเป็นเจ้าของโครงการบ้านจัดสรรสักที่ จะต้องเกิดมาเป็นคนรวย จากมรดกบรรพบุรุษที่ทิ้งไว้ให้ หรือมีเงินมากมายจากการทำธุรกิจอื่นๆมาก่อน ถึงจะเข้ามาทำธุรกิจประเภทนี้ได้ ความเข้าใจของคุณไม่ผิด แต่ก็ไม่ถูกต้องไปเสียทั้งหมด

ทุกธุรกิจเริ่มต้นจากทัศนคติที่ดีต่อธุรกิจนั้นๆ  บวกความรู้ ต่อมาได้ลงมือทำจนเกิดความชำนาญ เรียกว่าทักษะ และถึงจะประสบความสำเร็จในชีวิต  

ทัศนคติ คือ ความคิดที่จะทำอะไรในสิ่งที่ทำให้เกิดผลที่ดีสำหรับตนเอง จนเกิดเป็นการกระทำในแนวที่เราคิดไว้ จนประสบความสำเร็จ   คือ ทำในสิ่งที่รัก และรักในสิ่งที่ทำ จึงจะประสบความสำเร็จ ทุกด้านในชีวิต  

หากเราสนใจธุรกิจทางด้านอสังหาริมทรัพย์ มีทัศนคติที่ดีกับธุรกิจด้านนี้ เราจะชื่นชอบ อยากมีที่ดิน อยากพัฒนาที่ดินเป็น อยากมีบ้าน อยากพัฒนาบ้าน คอนโด อาคาร สถานที่ หอพัก โรงแรม เป็นต้น เมื่อมีความต้องการที่จะทำธุรกิจด้านนี้ให้เป็น แต่ แต่เราไม่รู้เรื่องอะไรเลย จึงต้องหาความรู้เพิ่มเติม 

ความรู้ ความรู้จะเกิดขึ้นมาได้ จากการเรียนรู้ อ่านหนังสือ อ่านบทความในอินเตอร์เนต เข้าฟังอบรม สัมนาต่างๆที่เกี่ยวข้องกับโลกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีอยู่มากมาย หลายคอร์สให้เข้าไปเรียนรู้ เมื่อมีความรู้ความเข้าใจที่ดีพอในระดับหนึ่งแล้ว ให้ลงมือปฎิบัติ

ทักษะ ทักษะจะเกิดขึ้นได้ คือลงมือทำ ลงมือปฎิบัติบ่อยๆ จนเกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ จนเกิดความชำนาญ ทักษะจะเชียวชาญนั้น เกิดจากการลองผิดลองถูก ถ้าไม่ผิดเสียแล้ว เราจะรู้ได้อย่างไรว่าอะไรถูก แต่อย่าผิดบ่อยนะครับ หากผิดซ้ำๆหลายๆครั้ง ก็อย่าท้อ ต้องหาจุดบกพร่องของตนเองให้เจอ แล้วแก้ไขให้ได้

ความสำเร็จ คือผลลัพธ์ทั้งหมดที่ตามมาจากที่เราได้ตั้งเป้าหมายในการดำเนินชีวิตไว้ 


จะเริ่มต้นอย่างไรดี ในเมื่อเป็นแค่เพียงพนักงานเงินเดือนเอง?

บทที่-1 ได้กล่าวไว้แล้ว เนื้อหาในระดับเบื้องต้น ต้องกลับไปอ่านหนังสือที่ผู้เขียนได้เขียนขึ้นจากการลงทุน สำหรับผู้ที่มีรายได้ประจำ หรือเงินเดือน เพื่อความชัดเจนในเชิงปฎิบัติได้ แต่หากไม่ได้อ่านก็ไม่เป็นไร ก็ให้ติดตามอ่านทุกๆบทความให้ครบให้ได้ครับ  

หลายคนทั้งชีวิต ทัศนคติที่ได้ปลูกฝังมาจากการศึกษา หรือคนรุ่นเก่าๆ นั้นคือ เป็นลูกจ้างที่ดี ชีวิตลูกจ้างนั้นแน่นอน สิ้นเดือนมารับเงิน ไม่ต้องเสี่ยง ไม่ต้องกลัวว่าจะขาดทุน ใช้ชีวิตเป็นลูกจ้างที่ดี หางานทำ เปลี่ยนงานใหม่หาที่เงินเดือนเยอะๆ เงินเดือนขึ้นทุกๆปี ชีวิตติดภาพลวงจนมองไม่ออกว่า สิ่งที่ทำอยู่นั้น ไม่ใช่ธุรกิจของเรา เราเพียงแค่ได้รับเงินค่าจ้าง เป็นหนึ่งในฟันเฟืองของธุรกิจ หากวันใดที่โชคไม่ดี ต้องถูกเปลี่ยนด้วยการถูกแทนที่จากคนอื่น มาแย่งงาน แย่งตำแหน่ง ธุรกิจนายจ้างนั้นยังคงอยู่ แต่ตัวเองสิจะอยู่อย่างไร ในเมื่อเขาไม่จ้างเราแล้ว 

บางคนยึดติดกับอำนาจ หลงติดกับตำแหน่ง จนถูกบังตาไปหมดจนไม่เคยคิดถึงตัวเอง จนอายุล่วงเลยใกล้วัยเกษียณ ก็ยังไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำมาทั้งหมด นั้นคือทำให้กับธุรกิจของคนอื่นเขา แต่ตัวเราเองได้เพียงผลงาน และคำขอบคุณ 

การมีรายได้ประจำเป็นสิ่งที่ดี สามารถทำให้เรามีเงินใช้จ่าย มีเงินเก็บได้ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่อยู่ในนั้น คือเครดิตจากฐานเงินเดือน คือ โอกาสที่เราจะใช้ต่อรองกับนายทุน เพื่อกู้เงินมาทำธุรกิจลงทุน หรือซื้อบ้านที่ดินได้ แต่สิ่งที่จะตามมาคือ ภาระหนี้สิน ภาระหนี้เป็นเหมือนดาบสองคม หากคนใช้ในทางที่ผิด ก็ทำให้ชีวิตย่ำแย่ได้ทั้งชีวิตที่เหลือ แต่สำหรับบางคน ใช้สิ่งที่คนอื่นไม่มีตรงนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับชีวิตได้ 

บางท่านอาจจะแย้งว่า ไปก่อหนี้ก่อสินทำไม ใช้จ่ายเท่าที่มีสิ ผู้เขียนจะขอยกตัวอย่าง ในการก่อหนี้ก่อสินนี้ ว่าเราจะก่อหนี้ก่อสินดีหรือไม่ เช่น การซื้อบ้านของบุคคลสองคนนี้

คนแรกไม่ก่อหนี้ก่อสิน การซื้อบ้าน ขยันทำงาน เก็บสะสมเงินสดจากเดือนที่ได้ อายุครบ 60ปี ไม่รู้ว่าจะซื้อบ้านได้หรือไม่สักหลังในปัจจุบันนี้ สมมุติว่าสามารถซื้อบ้านด้วยเงินสดได้ ตอนอายุสัก 60ปี หลังจากซื้อบ้านได้แล้ว ก็ได้อยู่อาศัยพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว อย่างมีความสุข แล้วจะอยู่ได้อีกกี่ปีก่อนเสียชีวิต 

แต่คนที่สอง ได้ซื้อบ้านพร้อมเป็นหนี้สินเมื่อเริ่มทำงานอายุ 22ปี ได้กู้เงินซื้อบ้าน เพื่ออยู่อาศัย แต่งานสร้างครอบครัว มีลูกๆ ได้อยู่อาศัยอยู่ร่วมกัน ใช้ชีวิตร่วมกัน อย่างมีความสุขพร้อมสภาพการเป็นหนี้ ในช่วงแรกๆ พออายุ 60ปี ผ่อนค่าบ้านจนหมดปลดหนี้ หมดสินได้ แต่เขาได้อยู่อาศัยบ้านหลังนี้เป็นเวลา 40กว่าปีบวกกับที่เหลือก่อนเสียชีวิต พร้อมครอบครัว 

การใช่ชีวิตของบุคคลทั้งสองคนนี้ ก็คงต้องนำมาชั่งน้ำหนังเปรียบเทียบกัน ว่าใครชื่นชอบแนวคิดแบบไหน 

สำหรับผู้เขียน ชื่นชอบแนวชีวิตของบุคคลที่สอง ถึงจะมีหนี้ แต่ก็ยังสร้าง มูลค่าหนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับชีวิตเราได้ เพราะชีวิตคนมันสั้นนัก ความสุขควรที่จะมีตั้งแต่ ณ วันนี้ของชีวิต  

นักเขียน อาร์ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทั่วไทย
Website  : www.thehome.co.th
ID Line   : r_pache




Create Date : 04 มีนาคม 2559
Last Update : 5 มีนาคม 2559 8:29:39 น. 0 comments
Counter : 732 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

สมาชิกหมายเลข 3023201
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ถ้าอยู่กับที่ จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ชีวิตจึงต้องก้าวเดิน

space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 3023201's blog to your web]
space
space
space
space
space