|
สร้างฝันที่เกาะพยาม ระนอง ตอนที่ 3 คิดถึงผองเพื่อน
เล่าเรื่องราวมาสองตอนไม่มี comment จากผู้เข้ามาเยี่ยมชมเลยคิดว่าคงไม่มีใครสนใจ เลยชะแว๊บไปบอกเล่าในห้อง blue planet แล้วเผลอไประบุ blog ผลคือโดนแบนไป 1 เดือน เลยพาลหมดอารมณ์เขียนต่อ แต่ยังไงก็เป็นบันทึกของเราเลยตัดใจเขียนต่อดึกว่าเพราะตอนท้ายๆจะเล่าเรื่องแนวทางการสร้าง bar และที่พัก
วันรุ่งขึ้นที่เขาหลักเราตื่นแต่เช้า เดินเล่นรอบๆที่พัก และเดินไปซื้อของที่ร้านค้าสอบถามพูดคุยกับแม่ค้าเพื่อหาข้อมูลทั่วๆไปตามนิสัยอยากรู้อยากเห็น พบว่าแม่ค้าขายของให้ในราคาค่อนข้างถูกเมื่อเทียยบกับเหล่งท่องเที่ยวทั่วๆไป เลยออกปากชมและให้กำลังใจซึ่งแม่ค้าก็บอกว่าที่ขายถูกเพราะสงสารน้องๆที่ทำงานโรงแรมแถวนี้และเป็นลูกค้าขาประจำจะได้มีเงินเหลือเก็บ เราชื่นชมเพราะสังคมเดี๋ยวนี้คิดแต่จะกอบโกยกันลูกเดียว ในรถระหว่างเดินทางผมปล่อยใจให้ล่องลอยตามจินตนาการ และใช้เวลาทบทวนถึงความหลัง ภาพบุคคลหลายๆคนที่ได้พานพบขณะที่คลุกคลีที่เกาะพีพีผุดขึ้นมาคนแล้วคนเล่า --พี่ฉอย cracy house ศิลปินผู้มากความสามารถโดยเฉพาะด้านการออกแบบ bar ก่อนหน้านี้ก็สร้าง jungle bar ด้วยไม้ไผ่อย่างสวยงานก่อนที่barจะถูกซึนามิกลืนหายลงไปในทะเล พร้อมกับคุณอารีภรรยา ซึ่งคุณจ๊อบ บรรจบถ่ายทอดความรู้สึกออกมาอย่างเศร้าสร้อยแต่สวยงาม พี่ฉอยหลังจากนั้นก็มาสร้าง jungle bar ที่เคยเป็นบ้านร่วมกับคุณอารีในเมืองกระบี่ ตอนนี้ก็ตระเวณเล่นดนตรี กับน้าซู และ ผองเพื่อน --ตู่เมลงสาบ บุปผาชนหนุ่มขายเครื่องเงินผมยาว ล่าสุดได้ข่าวว่าทำรีสอร์ทที่ปาย --ศักดิ์ หนุม บาร์เทนเดอร์โรงแรมโอเรียนเต็ลเพื่อนซึ่งพาเด็กฝึกงานหนีเมียมาขาย bar B Qที่หน้า bar ก่อนที่ชีวิตจะผกผัน เมียใหม่ที่ใช้ชีวิตร่วมกันมาจากไป ทำให้ศักดิ์เลิกกินเหล้า ก่อนที่จะกลับมาพีพีอีกครั้งพร้อมกับมีภรรยาใหม่ ทำท่าจะรุ่ง ก่อนที่จะจบไปพร้อมกับซึนามิ และมาจบชีวิตลงหลังจากกลับไปช่วยเหลือวัดสร้างศาลาและเกิดอุบัติเหตุจนเสียชีวิต --พี่อ๊อด หมอดูขี้เมาและเป็นรุ่นแรกที่บุกเบิกพีพี แต่เมาจนเอาดีไม่ได้ ยังจำภาพที่พี่อ๊อดจุดเทียนรอบตัวยามค่ำคืนหน้า bar เพื่อโปรโมทว่าตัวเองเป็น international fortune tellerเป็นภาพที่ classic น่าดู สุดท้ายก็ตายกับเหล้า --บุญนำเด็กอิสานสู้ชิวิต มากับน้องชายมาทำงานก่อสร้างที่เกาะพีพี แล้วมาเป็นเด็กใน lazy bar ตอนนี้ผันตัวเองมาเป็นเจ้าของ bar rolling stoned และกิจการหลายอย่าง ในขณะนี้ ร่ำรวยแต่น้องชายก็จบชีวิตที่นี้ --ก้อย นักกีตาร์ ที่มีความเป็น rock ในตัวสูงฝีมอฉกาฉกรรภ์มาพร้อมๆกับอีโก้ในตัวสูงบวกกับความระห่ำ สามารถด่าผู้หญิงต่อหน้าคนได้ ฝีมือทางด้านกีต้าร์ rock บวกกับอารมณ์ที่แสดงออกมาตอนเล่นยากที่จะหาผู้ใดเสมอเหมือน ชอบเล่นกีตาร์ไฟฟ้าแต่ผมชอบดูตอนก้อยเล่นrock แบบ acoustic ตอนนี้อยู่กระบี่ขาย cd และหาเพลงขายให้แก่ผู้ที่ต้องการ คิดคิดดูชีวิตเราก็ไกล้เคียงกับเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดมาในพันธุ์หมาบ้า ของชาติ กอบจิตติ คิดเพลินเพลินก็เผลอหลับไปท่ามกลางสายฝนที่กระหน่ำมาตลอดทางสมศักดิ์ศรีของระนองเมืองแห่งฝนแปดแดดสี่ ตื่นมาก็ถึงท่าเรือพอดี
Create Date : 16 ตุลาคม 2551 | | |
Last Update : 13 พฤษภาคม 2552 21:46:33 น. |
Counter : 1441 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
สร้างฝันที่เกาะพยาม ระนอง ตอนที่ 2 Lazy house เขาหลัก
8สิงหาคม กว่าจะเคลื่อนตัวออกจาก นครศรีฯได้ก็เกือบ 6โมงเย็นเนื่องจากติดพันกับหน้าที่การงานที่สำคัญงานหนึ่ง ช่วงเดินทางไปกระบี่เพื่อไปรับโอ๊ตผมจำได้ว่าตัดสินใจหยุดรถแล้วจะหันหัวรถกลับบ้านไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง เพราะเกิดความรู้สึกที่ขัดแย้งในตัวเองบวกกับความเหนื่อยล้าจากงานที่ผจญมาทั้งวัน จำได้ว่าได้โทรศัพท์ไปบอกโอ๊ตซึ่งทำธุรกิจ guest house ที่กระบี่ และเป็นหลานของกล้วย(อยู่สวีเดน)ว่า "โอ๊ตกับแก๊บไปกันก่อนดีกว่าพี่เหนื่อย ค่อยไปเที่ยวหน้า มีความคืบหน้าอย่างไรค่อยโทรมาบอกก็แล้วกัน" แต่พอจะหันหัวกลับใจกลับบอกให้สู้ ไม่ลองไม่รู้ อารมณ์ที่ชอบอยากรู้อยากเห็นที่เป็นสันดานเดิมก็กลับมาชนะความเหนื่อยล้าดั้นด้นจนไปถึงกระบี่จนได้ ออกจากกระบี่ 2 ทุ่มก็มุ่งหน้าไปยังเขาหลัก เพื่อไปค้างคืนกับแก๊บผู้จุดกองไฟที่ไกล้จะดับให้กลับมามีเปลวประกายพร้อมที่จะลุกโชนขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง "พี่ขับมาทางสายพังงา-กะปง แล้วไปออกทุ่งมะพร้าวแล้วต่อมาเขาหลักเลย รอผมที่บาร์นะผมจะตามไปสมทบ ช่วงนี้หน้าโลว์ผมขอเล่นดนตรีที่โรงแรมหาเงินก่อน แล้วเจอกันนะพี่" แก๊บแจ้งมาทาง mobile หลังจากหลงทางได้สักพักผมและโอ๊ตก็กระเสือกกระสนมาถึงเขาหลักจนได้เมื่อเวลาล่วงเลย 4ทุ่มมาพอสมควร ผมอ่านป้ายหน้าร้าน Lazy House พร้อมกับถือโอกาศสำรวจร้านรอบๆ "อืม ซกมกแต่ก็ยังขายดี นะโอ๊ต"ผมว่าพร้อมยิ้มให้กับโอ๊ตซึ่งพยักหน้าเห็นด้วย แต่เราก็เข้าใจเพราะค่าเช่าที่แพงและงบประมาณที่น้อยของแก๊บทำมาได้ขนาดนี้ก็หรูแล้ว ดูดูแล้วก็ยังมีกลิ่นอายของ Lazy bar ที่พีพีอยู่บ้าง มองไปในบาร์เห็นฝรั่งประมาณ 10คนพูดดุยและดื่มกันอย่างสนุกสนาน นับว่าเป้นร้านที่เรียกแขกได้ดีร้านหนึ่งท่ามกล่างบรรยกาศที่ซบเซาของช่วง low season
"หวัดดีครับพี่ มาถึงกันนานแล้วยัง คืนนี้ต้อง drink กันหน่อย นานๆเจอกันที" แก๊บฝอยต่อ "ร้านผมพวก ฝรั่ง NGO และอาสาสมัครเยอะ พวกนี้ยังมาช่วยเขาหลักหลังซึนามิอยู่เรื่อยๆ ไม่รู้มันติดใจอะไรร้านผมหนักหนาสงสัยคงคอเดียวกันกับผม"แก๊บคุยฟุ้ง
ผมเห็นด้วยกับเเก๊บ คงเพราะเบรรยากาศ เสียงเพลงและฝีมือการเล่นกีต้าร์ folk ตลอดจนประสบการณ์จากเกาะพีพีและ กทม.ของมันที่ผ่านการเพาะบ่มจนได้ที่จึงดึงดูดฝรั่งให้มาออกันอยู่ที่นี่ทุกคืนจนร้านอื่นอิจฉา "ผมบอกเพื่อนๆ ฝรั่งว่าจะไปทำบาร์และรีสอร์ทที่เกาะพยาม มันบอกจะตามไปเที่ยวกัน."ผมใจชื้นประหนึ่งได้รับ order ล่วงหน้า
คืนนั้นแก๊บเล่นกีต้าร์เป็นกรณีพิเศษให้กับ Ngo และอาสาสมัครที่ถึงกำหนดกลับบ้านผู้หนึ่ง เสียงเพลงจากกีต้าร์โฟลค์ที่หลั่งไหลออกมา ไม่ว่าจะเป็น The beatles,John denver,Pink Floyd,Tracy chapman ตลอดจน จ๊อบบรรจบ ต่างเต็มไปด้วยความซึ้ง สนุกสนานและเป็นกันเอง แม้ว่าจะเป็นการเล่น acoustic แบบ unplug ก็ตาม บางคนก็ร้องตามอย่างเป็นกันเอง สุดท้ายจบลงด้วยเพลงประจำของอาสาสมัครซึ่งก็นำความซาบซึ้งมาให้ทุกคน ผมนั่งมองภาพด้วยความซาบซึ้งดื่มด่ำกับความรู้สึกเก่าๆที่หวนกลับมาอย่างอื่มเอิบใจ การทำ bar ที่ประสบความสำเร็จนั้นไม่ใช่ว่าจะต้องสร้างอย่างเลิศหรูหรือมีวงดนตรีใหญ่ที่เล่นกันหลายๆวงเสมอไป ความเข้าใจต่ออารมณ์ของฝรั่งนักท่องเที่ยว การสรางสรร์และแสดงออกต่อการเคารพธรรมชาติ และการเข้าถึงจิตวิญญานของผู้คนผ่านบรรยากาศและเพลงตลอดจนอารมณ์การแสดงออกของนักดนตรีและทีมงาน ถึงมิตรภาพคือสิ่งที่ขายได้เสมอ
ตี 2 ผมรีบชวนพวกเรากลับที่พักเพราะพรุ่งนี้มีภารกิจที่ต้องเดินทาง ถึงที่พักนั่งคุยกันต่อนิดหนึ่งผมก็ขอตัวนอนเนื่องจากเจียมสังขาร ก่อนจะหลับตาผมครุ่นคิดถึงเรื่องข้างหน้าแต่ยังหาข้อสรุบด้วยตัวเองไม่ได้เลยหลับไปโดยยังไม่มีข้อสรุบ
Create Date : 06 ตุลาคม 2551 | | |
Last Update : 13 พฤษภาคม 2552 21:46:44 น. |
Counter : 968 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
สร้างฝันที่เกาะพยาม ระนอง ตอนที่ 1
จำได้ว่าเมื่อหลังซึนามิ ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวที่เกาะพยาม ระนองมาครั้งหนึ่งด้วยความประทับใจแม้ว่าจะเป็นช่วง low season แล้วก็ตาม แต่ได้สัมผัสถึงความมีเสน่ห์ลึกๆและมิตรภาพของเกาะแห่งนี้ ผมได้รู้จักกับธง หนุ่มมอเตอร์ไซด์รับจ้างและยังเป็นผู้ดูและรีสอร์ทเล็กๆให้พี่ชายซึ่งเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่ กทม.แม้มีเวลาน้อยแต่ธงก็ได้พาผมไปดูสถานที่ต่างๆเมื่อผมบอกจุดประสงค์ว่าจะมาหาที่เช่าทำอะไรสักอย่าง ในเวลาอันน้อยนิดผมจึงได้ไปแค่อ่าวที่สำคัญที่สุดคืออ่าวใหญ่ที่มีความยาวประมาณ 4 กม. หลังจากขี่มอเตอร์ไซด์วนดูรีสอร์ทที่สร้างขึ้นอย่างง่ายๆประมาณสมุยเมื่อ 30ปีที่แล้ว
"ขี้เหร่เหมือนคอกไก่ยังงี้ ฝรั่งเต็มตลอดนะพี่ คืนละ200ครับ"ผมนึกขำ เลยขอไปดูสอร์ทเล็กๆที่ธงดูแลอยู่ เป็นบังกะโลที่อยู่ซ้ายสุดและอยู่บนเนินอันสวยงามต้องเดินขึ้นบันไดไต่หน้าผาขึ้นไปซึ่งจะพบกับลานโล่งด้านบน
"ผมกับพี่ทุนน้อยค่อยๆทำครับ"ธงบอก ด้วยแววตาที่บ่งบอกถึงความเหนื่อยล้า ซึ่งผมก็เข้าใจความรู้สึก เพราะที่ตรงนี้เป็นเนินสวยและเป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังที่สำคัญแต่ลักษณะภูมิประเทศแบบนี้ต้องทุ่มเงินเป็นจำนวนมากเพื่อเนรมิตจินตนาการให้ออกมาสวยงม ผมนิ่งเงียบเพราะเข้าใจดีอยู่แล้วว่า ทุกคนมีโอกาศ แต่คนมีเงินมักจะฉกฉวยโอกาสไว้ได้ก่อนเสมอ "ถ้าจะเช่าเอาที่นี่ก็ได้นะเดี๋ยวโทรหาพี่ชายผมก็ได้ แกคงคิดไม่แพงหรอกครับ"
ผมขอบคุณธงที่เปิดโอกาศให้ "แล้วผมจะโทรไปทีหลัง เดี๋ยวเราไปดูที่อื่นกันต่อเพราะผมมีเวลาน้อยเดี๋ยวต้องกลับวันนี้" ธงพาผมไปดูอีกที่"ตรงนี้กลางอ่าวเลยนะ หน้าติดทะเล 40เมตรเจ้าของขายไร่ละ 4แสน" ผมได้แต่รับรู้เพราะที่ตั้ง 12ไร่คงไม่มีปัญญา อีกทั้งทราบมาเบื้องต้นแล้วว่าที่ทางส่วนใหญ่ที่นี่ไม่มีโฉนด ส่วนใหญ่จะเป็น ภทบ5 และบางส่วนเป็น สปก.4-01 และทางอุทธยานก็พยามที่จะประกาศเป็นอุทธยานให้ได้ท่ามกลางการคัดค้านจากชาวบ้านอย่างไม่ลดราวาศอก
ธงนำผมกลบไปยังท่าเรือเพื่อเดินทางกลับ ตลอดทางผ่านสวนกาหยูต้นยักษ์ซึ่งขึ้นเรียงราย ก่อให้เกิดคำถามในใจว่า ที่ที่ชาวบ้านอยู่มานมนานอย่างยากจนพอทำท่าจะลืมตาอ้าปากได้ ทางราชการจะเริ่มมาเอี่ยวด้วยทุกที แต่ที่ไหนที่มีนายทุนหรือนักการเมืองเข้าไปครอบครอง แล้วกลับมองไม่เห็นซะงั้น
//www.toursabuy.com/kohpayam.asp
กลับมาถึงบ้าน ผมรีบโทรไปรายงานกล้วยเพื่อนที่ไปตั้งรกรากที่ sweden ทันทีเพื่อรายงานสิ่งที่ได้ไปพบมา แต่ก็สรุบว่าน่าสนใจแต่เรายังไม่พร้อม ผมเห็นใจเพราะเพื่อนได้รับสิทธิ์เป็นพลเมืองและมีงานราชการอันมั่นคงแถมมีลูกอีก 3 จากแม่พันธิ์ สวิเดน3 อนงค์ ถึงแมใจจะถวิลหาอยากจะกลับมาอยู่เมืองไทยใจจะขาด ทำให้เกิดโครงการตามล่าฝันจะหาที่สร้าง บาร์และรีสอร์ทที่ไหนสักแห่ง หลังจากเลิกบาร์ที่เกาะพีพีและเผ่นไปสวีเดนเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งตอนนี้เป็นหน้าที่ของผมที่จะสนองความอยากของเราทั้งสอง
เพื่อนผมคนนี้ตอนเรียนเป็นนักกิจกรรมออกค่ายตัวยง และผันตัวเองมาเป็นนักดนตรีเพื่อชีวิตที่ร้านพรรคกะยาจก และเป็นผู้จุดประกายให้นักเที่ยวนักฟังหลายท่านได้ริเริ่มกำเนิดร้าน ตะวันแดงสาดแสงเดือนต่อมา และเพื่อนผมก็ได้รับเกียรติจากทีมงานตะวันแดงบางท่านเสมอเมือกลับมาเมืองไทย และต่อมาเพื่อนผมคนนี้ก็ได้ไปเช่าบาร์ที่เลิกร้างที่เกาะพีพี เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว และได้ก่อกำเนิดบาร์ ปะการ์กะญอ ซึ่งฝรั่งรู้จักกันในนาม Lazy bar บาร์ที่ทั้งกินทั้งนอน อันลือลั่นโดยมีแก๊บขึ้นไปช่วยเล่นดนตรีอยู่ด้วยหลายปี ส่วนผมซึ่งตอนนั้นอยู่ภูเก็ตก็ได้ไปเยี่ยมเยียนและช่วยพัฒนาเป็นบางส่วนในภายหลัง ตามมุมมองของผู้บริโภค ภายหลังความเจริญรุกคืบเข้ามาที่จึงถูกเอาคืนเพื่อขายให้นายทุนจึงต้องเลิกราและไปตั้งรกรากที่โน่นตั้งแต่นั้นมา
ผมโทรไปหาพี่ชายธงตามสัญญาหลังจากพูดคุยแนะนำตัวกันเรียบร้อบแล้ว ก็ได้รับคำตอบที่น่าตะลึง "เอาอย่างนี้ก็ได้ พี่เห็นความตั้งใจของน้องและเพื่อน ตลอดจนประสบการ์ณของน้องและทีมงานแล้วพี่เชื่อว่าน่าจะเกิดการพัฒนาที่เป็นประโยชน์ต่อเกาะพยาม พี่ให้น้องทำฟรีไม่คิดค่าเช่าจะเอาสักกี่ปีว่ามา หลังจากน้องอยู่ได้แล้วค่อยว่ากันพี่ไม่ซีเรียส" ผมขอบคุณและสารภาพไปตามตรงว่าเรายังไม่พร้อม ยังไงขอเตรียมความพร้อมก่อนแล้วเราจะไปแน่แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ ผมเก็บมันไว้เป็นความฝันด้วยความหวังเพราะมันเป็นความใฝ่ฝันและความชอบลึกๆของผมซึ่งเก็บเกี่ยวประสบการณ์มานับ 10ปี(ประสบการ์ณ กิน เที่ยว ดู เสือก) ที่จะมีรีสอร์ทที่ classic ราคาถูก มี bar ที่สวยงามสนุกสนาน และร้านอาหารที่ดี แต่ก็เก็บความฝันนี้ไว้หลายปี จนกระทั่ง
สิงหาคม 2551 ผมโทรไปหาโอ๊ตที่กระบี่เพื่อถามทุกข์ สุก ดิบ โอ๊ตเล่าให้ฟังว่าแก๊บเพื่อนรุ่นน้องอีกคนที่ตอนนี้ทำ bar เล็กๆอยู่เขาหลักหลักโทรมาเล่าให้ฟังว่าได้ไปเกาะพยาม พบว่าน่าสนใจตอนนี้ได้ติดต่อเช่าที่ไว้แล้ว กำลังหาเวลาจะไปอีก กะจะไปเร็วๆนี้ โอ๊ตเลยถือโอกาสชวนผมไปด้วย "โทรไปหาพี่แก๊บเพื่อถามรายละเอียดก่อนก็ได้ครับ" ช่วงบ่ายผมโทรไปหาแก๊บ เลยได้ข้อมูลมาพอสังเขบ "พี่ ผมไปเกาะพยามมา มีที่จะให้เช่าติดหน้าหาดไม่แพงด้วย อาทิตย์หน้าผมจะไปอีก พี่จะไปด้วยไม๊ เผื่อมีอะไรดีๆ จะได้ลงทุนทำอะไรกันบ้าง" ผมตื่นจากพวังค์ เพราะหลังจากเริ่มลงมือสร้างบ้านเมื่อปีที่แล้ว ผมทิ้ง ความใฝ่ฝันด้านอื่นหมด หันมาทุ่มเทกับมันจนอ่อนล้าว่าจะอยู่นิ่งนิ่งสักปีสองปี เป็นอันต้องต้องลุยอีกแล้วหรือนี่ "โอเคไอ้น้องอาทิตย์หน้าเราจะไปเกาะพยามกัน"
//www.toursabuy.com/kohpayam.asp
Create Date : 05 ตุลาคม 2551 | | |
Last Update : 13 พฤษภาคม 2552 21:46:55 น. |
Counter : 1054 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|
Location :
นครศรีธรรมราช Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
เป็นคนที่ปรารถนาดีต่อผู้อื่น จนบางครั้งลืมนึกถึงตัวเอง ตอนนี้กำลังจะมีบ้านเป็นของตัวเองสักที ดีใจและขอบคุณที่มาเยี่ยมครับ
|
|
|
|
|
|
|
|