Group Blog
 
 
เมษายน 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
23 เมษายน 2552
 
All Blogs
 
ระบอบม็อบ"Mobocracy"

*การชุมนุมทางการเมืองช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา กลายเป็นเครื่องมือที่มีอานุภาพชี้เป็นชี้ตายรัฐบาลได้ อย่างไรก็ดี การชุมนุมดังกล่าวไม่ว่าของกลุ่มเสื้อเหลือง กลุ่มเสื้อแดง หรือแม้แต่กลุ่มเสื้อน้ำเงิน พบว่าล้วนกระทำการด้วยความ "ไม่สงบ" และ "ไม่ปราศจากอาวุธ" ด้วยกันทั้งสิ้น

      "พรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย" อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ อธิบายความเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า เป็นการก่อม็อบ (Mob) มากกว่าการชุมนุม (Assembly) เพราะการชุมนุมคือ การรวมตัวกันของกลุ่มบุคคลที่มีเจตจำนงเดียวกันเพื่อเรียกร้องใดๆ ซึ่งกระทำโดยสงบ (Peaceful) และปราศจากอาวุธ (Without Arms) เป็นการใช้เสรีภาพที่อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย ขณะที่ "ม็อบ" เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มบุคคลเพื่อเรียกร้องใดๆ โดยมิได้มีการคำนึงถึงกฎเกณฑ์ทางกฎหมาย

     และที่ผ่านมา เมื่อม็อบชี้เป็นชี้ตายต่อการตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งของรัฐบาลได้ จึงเป็นที่นิยมชมชอบจากกลุ่มผลประโยชน์ทางการเมือง (Interest Groups) สะท้อนผ่านม็อบหลากสี ซึ่งอาจทำให้นำไปสู่การปกครองโดยระบอบม็อบ หรือ "Ochlocracy" หรือ "Mobocracy" มีความหมายว่าการปกครองโดยกลุ่มฝูงชนที่มิได้ให้ความเคารพต่อตัวบทกฎหมาย อันส่งผลให้เกิดจลาจลและความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง...??

เมื่อประเทศใดๆ เข้าสู่ระบอบดังกล่าว หลัก "นิติรัฐ" หรือ "นิติธรรม" จะถูกปฏิเสธและต่อต้านจากกลุ่มฝูงชน อันส่งผลให้ภาครัฐมิสามารถที่จะดำเนินการบังคับใช้กฎหมายได้ มีเพียงหลักการของกลุ่มม็อบเท่านั้นที่เป็นใหญ่ (the Mob Rule is superior to the Rule of Law)

     สาเหตุสำคัญที่นำพาให้ประเทศไทยตกอยู่ในสภาวะนี้ เนื่องจากมีการสนับสนุนการกระทำการของม็อบเสื้อเหลืองโดยมีการบิดเบือนหลักกฎหมายไป จนเกินภาวะ "ปัจเจกนิยมแบบสุดโต่ง" (Extreme Individualism) ขึ้น หมายความว่า กลุ่มฝูงชนเชื่อว่าตนเองในฐานะของประชา ชนมี "เสรีภาพเต็มที่ในการชุมนุม ทั้งที่ในข้อเท็จจริงเป็นการละเมิดต่อกฎหมาย" ทางภาครัฐไม่สามารถที่จะเข้ามาขัดขวาง หรือดำเนินการจัดการกับพวกเขาได้ เนื่องจากคิดว่ากฎหมายซึ่ง ณ ที่นี้ก็คือรัฐธรรมนูญนั้นรับรองและคุ้มครองให้

     เหตุการณ์ยิ่งย่ำแย่เข้าไปอีกเมื่อฝ่ายรัฐสั่งตำรวจสลายกลุ่มม็อบในวันที่ 7 ตุลาคม 2551 เมื่อการก่อม็อบ ซึ่งมิใช่การใช้เสรีภาพการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ กลายเป็นว่าได้รับการรับรอง จึงกลายเป็นตัวอย่างของการเรียกร้องในทางการเมืองขึ้นแบบผิดๆ ต่อกลุ่มม็อบอื่นๆ ในเวลาต่อมา ซึ่งหากไม่เร่งแก้สภาวะการปกครองโดยระบอบม็อบให้หมดไปแล้วประเทศไทยคงหนีไม่พ้นที่จะเป็น "รัฐล้มเหลว" (Failed State) เพราะปรากฏการณ์ทั้งหมดจะไปบ่อนทำลายหลักสำคัญอย่างหลักนิติรัฐและระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยอันถือได้ว่าเป็น "เสาหลัก" ของประเทศเสรีประชาธิปไตย

"วันนี้ต้องเลิกอ้างเสรีภาพการชุมนุมอย่างผิดๆ เพราะเมื่อไปสนับสนุนอะไรผิดๆ มันก็สร้างเป็นประเพณีและกลายมาเป็นบรรทัดฐานที่ผิดๆ และต้องทำให้แดนการใช้อำนาจของฝ่ายรัฐ และแดนแห่งสิทธิและเสรีภาพของปัจเจกชน ไม่เหลื่อมล้ำกันแบบสุดโต่ง ต้องให้เกิดดุลยภาพ (Balance) เพราะ 1-2 ปีที่ผ่านมา บ้านเราให้ความสำคัญในปัจเจกชนนิยมมากเกินไป ทำให้รัฐแทบทำอะไรไม่ได้ รวมถึงอำนาจรัฐในการบังคับใช้กฎหมายด้วย" อ.พรสันต์ย้ำ

     นอกจากนี้ต้องเร่ง "ปฏิรูปการชุมนุม" ด้วยการตรากฎหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะ (Peaceful Assembly Act) ขึ้นมา เพื่ออธิบายว่าการชุมนุมแบบใดถือได้ว่าเป็นการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 บ้าง


สุวิมล เชื้อชาญวงศ์: รายงาน

ขอขอบคุณ
ที่มา :
มติชนออนไลน์ 15 เมษายน 2552 หน้า 11
รูป : www.strike-the-root.com


H O M E



Create Date : 23 เมษายน 2552
Last Update : 23 เมษายน 2552 2:12:03 น. 3 comments
Counter : 1231 Pageviews.

 
Photobucket


โดย: hiansoon วันที่: 25 เมษายน 2552 เวลา:15:31:18 น.  

 
เป็นบทความที่ดีครับแสดงให้เห็นว่ากฎหมู่เหนือกฎหมายมากทุกที ทำให้คนไม่พอใจอะไรหรือตนเองโดนขัดผลประโยชน์ก็เกณฑ์คนมาประท้วงทั้งที่เป็นเรื่องส่วนตัวแล้วลากจนเป็นปัญหาประเทศได้ เหมือนเป็นบรรทัดฐานใหม่ของสังคมและการเมืองไปเสียแล้ว แต่จะมีกี่คนที่เปิดใจยอมรับว่ามันคือความจริงในสังคม
ตอนนี้ชาวบ้านชาวช่องต่างต้องการเชื่อในสิ่งที่ตนเองอยากได้ยิน เช่น ผู้นำเสื้อเหลืองพูดอะไร ก็เชื่อหมด หรือ ผู้นำเสื้อแดงพูดอะไร ก็เชื่อหมด ฝ่ายที่เห็นไม่เหมือนตน ก็จะกลายเป็นอีกฝ่าย ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นเลยที่ต้องเลือกเป็นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ต้องยอมรับจริงว่าเป็นผลิตผลจากการที่หลายฝ่ายเห็นดีเห็นงามกับพวกที่อ้างเอาสีประจำวันประสูติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาใช้เป็นสัญลักษณ์ของตนเพื่อเหตุผลทางจิตวิทตยา ทั้งที่หลายอย่างก็เป็นการกระทำผิดจริงๆ แดงก็ไม่ต่างกัน (ก่อนหน้านี้มีการรณรงค์ใส่เสื้อสีเหลืองเป็นการถวายพระพรในการครองราชย์ครบ 60ปีและสีนี้ก็เป็นสีสัญลักษณ์ของงานด้วย จริงๆแล้วการรณรงค์ใส่เสื้อสีเหลืองเป็นการถวายพระพรก็มีมาก่อนหน้านั้นอีกด้วยซ้ำ หวังว่าคงจะเข้าใจนะครับ)


โดย: คนไทยคนหนึ่ง IP: 125.26.139.110 วันที่: 25 เมษายน 2552 เวลา:18:39:45 น.  

 
มาสไตล์เหมารวมอีกแล้ว จะพูดว่าเสื้อเหลืองเสื้อแดงเป็นม็อบเหมือนกันน่ะใช่ บางครั้งอาจทำผิดกฎหมายเลยเถิดไปบ้างก็ใช่ แต่พันธมิตรฯยอมรับเสมอว่าตนทำผิดกฎหมาย เขาเรียกว่าอารยะขัดขืน ยอมทำผิดกฎหมายเพื่อความเป็นธรรมในสังคม ต่างจากอีกกลุ่มที่ทำผิดแล้วไม่เคยยอมรับผิด หาว่ารัฐบาลจัดฉาก เรื่อง 7 ตุลาก็เอามาเล่นกันอีกแล้ว พันธมิตรฯแค่ไปชุมนุมหน้าสภา แต่โดนตำรวจยิงจนเจ็บ พิการ ตาย พวกคุณก็ยังให้ท้ายตำรวจที่ฆ่าประชาชนอย่างนี้สมควรหรือ ส่วนความเห็นของคุณคนไทยคนหนึ่ง คุณมาพูดว่าเสื้อเหลืองเสื้อแดงแกนนำพูดอะไรก็เชื่อหมด คุณเป็นเค้าหรือไงถึงมาตัดสินง่ายๆแบบนี้ คุณอ่านใจเค้าออกเหรอ แล้วเรื่องเสื้อเหลืองน่ะขอโทษนะ พันธมิตรฯไม่เรียกตัวเองว่ากลุ่มเสื้อเหลือง พันธมิตรฯคือพันธมิตรฯ คำว่าคนเสื้อเหลืองคือคำที่คนเป็นกลางอย่างพวกคุณทั้งหลายยัดเยียดให้เราต่างหากเพียงเพราะแค่เราชอบเสื้อเหลือง แล้วก็มาหาว่าเราแอบอ้างเสื้อเหลืองทั้งๆที่เราไม่เคยอ้างเลยครับ


โดย: ความจริงพันธมิตรฯ IP: 203.144.144.164 วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:16:08:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.