Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
18 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
ยุคทองของลำพู "ลำพู กันเสนาะ"



     2-3 ปีมานี้ ความจริงบางด้านของโลกอาจกำลังเดินทางเข้าสู่ยุคเสื่อมของอะไรบางอย่าง แต่โลกใบเล็กของศิลปินหญิงรุ่นใหม่ กำลังเดินทางเข้าสู่..ยุคทองของลำพู

เพราะผลงานของ ลำพู กันเสนาะ เป็นหนึ่งในบรรดาผลงานของศิลปินรุ่นใหม่ ที่แวะเวียนมาเสิร์ฟสายตาคนดูอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ผลงานของเธอเริ่มเป็นที่จดจำได้ และสามารถซื้อใจคนดูได้ด้วยความรู้สึกแบบว่า “ขบขัน จริงใจ และมีอะไรซ่อนอยู่” ผ่านภาพพอร์เทรตของคนในภาพที่ถูกยืดและหดให้มีสัดส่วนที่ผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง

     หลายชิ้นงานถูกการันตีด้วยรางวัลยอดเยี่ยมหลายรางวัล อาทิ ภาพชื่อ “นางสาวภาพยนตร์” รางวัลยอดเยี่ยมสาขาศิลปะสองมิติ จากการประกวด Young Thai Artist Award ครั้งที่ 3 โดยมูลนิธิซิเมนต์ไทย, ภาพชื่อ “สาวซำน้อย” รางวัลยอดเยี่ยม เกียรตินิยมเหรียญทอง ศิลป์ พีระศรี จากการประกวดศิลปกรรมรุ่นเยาว์ ครั้งที่ 24, ภาพชื่อ “บีบให้ยาย” รางวัลยอดเยี่ยมศิลปกรรม “ศิลปกรรมนำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต” ครั้งที่ 20 โดย กลุ่มบริษัทโตชิบา ประเทศไทย และอีกหลายรางวัลยาวเหยียด ซึ่งทำให้เราสามารถบอกต่อแก่ใครต่อใครได้อย่างไม่เคอะเขินว่า “โปรดจับตามอง”

“ไม่เคยคิดว่างานศิลปะของเรามันจะมีราคา หรือมันจะขายได้ ตอนเรียนจบปริญญาตรีใหม่ๆ ก็ทำใจแล้วว่า เราก็คงทำงานศิลปะต่อไป ถึงแม้ว่างานของเราจะขายไม่ได้ เพราะเราอยากจะทำมันต่อไป พอมันมาถึงจุดที่งานศิลปะของเรามันพอจะมีค่างวด มีราคา มันเป็นกำลังใจให้เราส่วนหนึ่ง ทำให้เราอยากจะทำงานต่อไปเรื่อยๆ

และถ้าเราสามารถเป็นศิลปินได้ โดยที่ไม่ต้องทำอาชีพอื่นเสริม เราก็พอใจอยากจะเป็นอย่างนั้นมากกว่า เพราะถ้าเราไปเป็นอาจารย์ เราก็ไม่มั่นใจว่าจะมีเวลาพอที่จะมาทำงานศิลปะหรือเปล่า”

*ขณะนี้ศิลปินสาววัย 25 ปี กำลังศึกษาในระดับปริญญาโท ที่ภาควิชาจิตรกรรม คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เธอก็ไม่ต่างจากเพื่อนอีกหลายๆคนที่เลือกเรียนต่อ เพราะต้องการลดความเสี่ยงให้กับอนาคต ที่อาจไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยการทำงานศิลปะอย่างเดียว

“คุณพ่ออยากให้เป็นอาจารย์ เพราะเขาบอกว่ามันเป็นอาชีพที่ได้บุญ เขาอยากให้เราสอนคนอื่น ให้ความรู้กับคนอื่น ซึ่งในอนาคตอาจจะทำก็ได้ แต่ก็ยังไม่เคยทำ ก็เลยไม่รู้ว่าเราจะรักมันหรือเปล่า”

     ลำพูเล่าถึงคุณพ่อของเธอ ผู้มีอาชีพเป็นครูและถือเป็นเสมือนเข็มทิศที่สำคัญในชีวิตของเธอ

“พ่ออยากเรียนศิลปะมาก แต่ว่าย่าเขาจน พ่อเขาก็เลยต้องเลือกเรียนอะไรก็ได้ที่มันใช้เงินน้อยที่สุด”

*จากความจำเป็นในชีวิตของพ่อที่ถูกปิดโอกาสให้ได้ทำในสิ่งที่ชอบ ลำพูและพี่ชายของเธอจึงถูกเลี้ยงให้อยู่ท่ามกลางกิจกรรมที่เกี่ยวกับศิลปะเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเธอเชื่อว่าส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะพ่อต้องการทดแทนในสิ่งที่ตัวเองขาดหาย

“ที่บ้านสวนไม่ค่อยมีของเล่นไฮเทคอะไร นอกจากวาดรูป ปั้นดินเหนียว มันก็เลยกลายเป็นกิจกรรมที่ทำกันมาเรื่อยๆ บางทีก็นั่งเขียนการ์ตูนกันที่ข้างบ้าน บางทีก็นั่งเขียนตุ๊กตากระดาษ ตัดชุดเล่นกัน มีกิจกรรมศิลปะให้ทำเยอะมาก เพราะไม่มีของเล่นอื่น

พ่อเขาก็ไม่ได้บังคับอะไร อยากเรียนอะไรก็เรียน ไม่เคยบังคับให้ไปเรียนพิเศษ หรือต้องเรียนเก่ง หนูกับพี่เป็นคนเรียนไม่ดีมาตั้งแต่เด็ก อันดับที่สอบได้ไม่เคยสอบได้เลขตัวเดียว พ่อเขาเป็นคนที่ไม่เครียด ไม่เคยตั้งความหวังกับลูก”

เด็กบ้านสวนริมคลองอัมพวา จ.สมุทรสงคราม เล่าถึงความทรงจำในวัยเด็กของตัวเอง พร้อมกับเล่าให้ฟังถึงที่มาของชื่อ “ลำพู” ที่เธอคิดว่าเชยและสร้างปมด้อยให้กับชีวิตในช่วงหนึ่ง

“ต้นลำพูแถวบ้านมันเยอะ พ่อเลยตั้งชื่อว่าลำพู ตอนเด็กๆเพื่อนล้อประจำ อายเพื่อน บอกพ่อว่าอยากเปลี่ยนชื่อ เพราะคนส่วนใหญ่แถวบ้านเขาจะตั้งชื่อลูกสาวประมาณว่า สาวิตรี วราภรณ์ วรารัตน์ ฯลฯ

ตอนเรียนประถมอยากเปลี่ยนชื่อมากๆ แต่พ่อเขาเคยพูดมาครั้งหนึ่งว่า วันหนึ่งจะภูมิใจในชื่อนี้ ซึ่งพ่อเขาคงคิดไปถึงอนาคตว่า มันจะไม่มีคนชื่อแบบนี้แล้ว ประเภทที่ตั้งชื่อให้ลูกว่าลำพู หรือลำไย”

ลำพูเริ่มพอใจในชื่อของตัวเองมากขึ้น เมื่อเธอกลายเป็นเด็กหญิงลำพูที่อยู่ท่ามกลางเพื่อนนักเรียนระดับมัธยมเป็นพันคน ที่ไม่ใครชื่อซ้ำเธอแม้แต่คนเดียว และวันนี้เธอแอบรู้สึกดีอยู่ลึกๆ เพราะมันมีส่วนทำให้ผู้ชมจำนวนไม่น้อยจดจำผลงานศิลปะของเธอได้

“คนทำงานศิลปะ ยังไม่เห็นมีใครที่ชื่อลำพูเหมือนเราเลย คิดว่ามันเป็นความโชคดี เพราะบางทีคนที่มาดูงานเราเขาก็จะพูดกันว่า อ๋อ.. งานของลำพู ”

เพราะคิดว่าศิลปะน่าจะเป็นวิชาที่เรียนง่ายที่สุดสำหรับตัวเอง ทันทีที่เรียนจบมัธยมต้น ลำพูสอบเข้าเรียนต่อที่วิทยาลัยช่างศิลป์ ลาดกระบัง เช่นเดียวกับพี่ชายของกระทั่งเธอสามารถสอบเข้าเรียนต่อในระดับปริญญาตรีที่คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

*เธอเคยมีความตั้งใจที่จะเลือกเรียนวิชาเอกด้านประติมากรรม เพราะฝันอยากเห็นผลงานของตัวเองติดตั้งอยู่ในที่สาธารณะให้ผู้คนสะดุดตาบ้าง แต่ที่สุดเธอก็ตัดสินใจเรียนเพนต์ เพราะไม่แน่ใจว่าความสามารถที่ตัวเองมีจะพาความฝันไปได้สุดทางหรือไม่

     และหลังจากที่ได้เรียนกับศิลปินผู้มีชื่อเสียงในการเขียนภาพพอร์เทรต
อย่าง ศักย ขุนพลพิทักษ์ ทำให้เธอเกิดความรู้สึกอยากเพ้นท์ใบหน้าคน เธอไม่ได้มองหาใบหน้าของคนอื่นไกล แต่ใช้ใบหน้าของเพื่อนร่วมคณะที่เธอบอกว่าหน้าดูโหดแต่มีความน่ารักซ่อนอยู่เป็นแบบในการเขียน และขยายสู่ใบหน้าของคนอื่นๆ ที่ผู้ชมสามารถรู้สึกร่วมได้มากขึ้น

“บางทีความตลกขบขัน มันกลบเกลื่อนความเลวร้าย ความดุดัน และลบเปลือกนอกของคนออกไปได้”

ศิลปินสาวแสดงความเห็น และเล่าต่อถึงที่มาที่ทำให้ภาพของเธอสามารถเรียกรอยยิ้มจากผู้ชมได้เสมอ

“เราชอบสัดส่วนอะไรที่มันเพี้ยนๆ และไม่ต้องเครียดกับสัดส่วนที่แท้จริง มันสามารถย่อหรือขยาย ได้ตามใจเรา มันดูสนุกมากกว่าเขียนภาพเหมือนเฉยๆ”

     และเธอเห็นว่าการนำเสนองานในลักษณะนี้ สอดรับกับเนื้อหาบางอย่างที่เธอต้องการสื่อกับผู้ชม นั่นคือเป็นตัวกลางนำผู้ชมไปสู่ความตลก ขบขัน ความน่ารัก และความจริงใจซึ่งไม่ถูกปรุงแต่ง ที่ตัวละครในภาพของเธอมีอยู่

“มาเข้าเรียนที่คณะจิตรกรรมฯ เพื่อนส่วนใหญ่จะมาจากต่างจังหวัด เป็นลูกหลานของชาวนา ลูกหลานข้าราชการ ตั้งแต่ชนชั้นล่างไปจนถึงชนชั้นกลาง เพื่อนแต่ละคนดูดิบๆ เดินเข้ามาชวนให้สงสัยว่า เฮ้ย..ใช่นักศึกษาหรือเปล่า แต่พอคบกันไปรู้สึกดี เป็นอะไรที่จริงใจและจริงแท้ที่สุด ก็เลยทำให้อยากถ่ายทอดงานออกมาให้คนได้เห็นถึงเรื่องราวเล็กๆน้อยๆของชนชั้นธรรมดาทั่วๆไป ที่มันขัดแย้งกับคนอื่นๆในสังคมกรุงเทพฯ ที่มันต้องดิ้นรน ต้องมีฟอร์ม”

     เราเคยได้เห็นผ่านตากันมาบ้างแล้วสำหรับผลงานที่เคยได้รับรางวัลในหลายเวที และล่าสุดเธอกำลังจะมีงานแสดงเดี่ยวผลงานศิลปะ ณ หอศิลป์ร่วมสมัยอาร์เดล ถนนบรมราชชนนี (ระหว่างวันที่ 14 มกราคม – 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2551 สอบถาม โทร. 0 - 2422-2092 ) ในชื่อชุด “ไร้สาระ สู่สาระ” ซึ่งเป็นการรวบรวมผลงานที่ไม่เคยส่งประกวดที่ไหนมาจัดแสดง

“ แนวคิดในการนำเสนอประมวลจากเนื้อหาโดยรวมของงานทั้งหมด ที่แม้จะเป็นภาพที่ดูแล้วตลกขบขันเพียงชั่วคราว หรือเหมือนว่าเอาคนมาล้อ แต่ถ้ามองลึกเข้าไป มันเป็นภาพที่แฝงคุณค่าชีวิต และคุณธรรมของคน อยู่ในผลงานเหล่านี้”


***เรื่องโดย...ฮักก้า***


สุวิมล เชื้อชาญวงศ์: รายงาน

ขอขอบคุณ
ที่มา :
ASTVผู้จัดการรายวัน 9 มกราคม 2552

H O M E



Create Date : 18 มกราคม 2552
Last Update : 18 มกราคม 2552 23:25:32 น. 2 comments
Counter : 4214 Pageviews.

 
ฌะฮฌฑ็ฯ?ืฌฏ๋.๗ณฺ.๐
แปลว่าเธอเพ้นท์เก่งจริงๆ


โดย: (@-@) (ตาพรานบุญ ) วันที่: 24 มกราคม 2552 เวลา:1:49:56 น.  

 
ชอบพี่ลำพู


โดย: bomb IP: 117.47.14.208 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:23:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.