Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2560
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
11 พฤษภาคม 2560
 
All Blogs
 
Point Of View : กว่าจะเป็นนักสิทธิมนุษยชนในวันนี้





















                  กลิ่นกาแฟสดที่อบอวนในร้านกาแฟในตึกพลีนิคที่มีการตกแต่งร้านและการวางโต๊ะเก้าอี้ได้อย่างลงตัว คำว่า ลงตัวของฉันในที่นี้หมายถึง ระยะการวางเก้าอี้ไม่ใกล้ไม่ไกลเกินไปที่จะทำให้ฉันและ คู่สนทนาสามารถพูดคุยได้อย่างสบาย ไม่อึดอัดและไม่ห่างเหินจนเกินไปเวลาผ่านไปเพียงไม่นาน น้ำเสาวรสปั่นและน้ำชาเขียวเสริฟบนโต๊ะประจำการของเราในวันนี้รสชาติที่เตะลิ้นชวนให้นึกถึงตอนที่กำลังแกะผลเสาวรสสดๆแล้วเอาเข้าปากเพื่อให้ลิ้นได้สัมผัสถึงขั้นต้องอุทานว่า “ นี่แหละ น้ำที่ฉันต้องการ” การเคลื่อนไหวในร้านทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบไม่เร่งรีบอาจจะเป็นเพราะลูกค้าที่มาเสพสุขในร้านแห่งนี้ ต่างก็ไม่รีบร้อนเพราะตรงกับวันหยุดทำงาน เช่นเดียวกับฉัน

 คู่สนทนาของฉันรอบนี้เธอชื่อ นูรฮายาตี มอลอ หรือ “นุ”  สาวที่มี ดวงตาสีน้ำตาล รูปร่างเล็ก ริมฝีปากถูกแต่งเติมด้วยลิปสติ๊กสีหวานเธอที่เต็มไปด้วยประสบการณ์การใช้ชีวิตวัยรุ่นอย่างโชกโชนเธอผู้ที่มีความสามารถในการรังสรรค์กิจกรรมต่างๆทั้งในมหาวิทยาลัย และในชุมชนของเธอเอง

เธอได้เล่าชีวิตของตนในวัยเด็กว่า“ชีวิตเด็กสาวที่เกิดในหมู่บ้านเล็กๆซึ่งไม่ห่างไกลจากตัวเมืองมากนักจะมีชีวิตที่เหมือนเด็กทั่วไป เรียนหนังสือประถม เรียนตาดีกา เรียนอัลกรุอ่าน และช่วยพ่อแม่ทำงาน ชีวิตดำเนินอย่างนี้ตลอดหลายสิบปี จนเธอรู้สึกว่า รสชาติของชีวิตของเธอในตอนนั้นแทบไม่มีความท้ายทายเกิดขึ้นตอนนั้นเลยอาจจะเป็นเพราะช่วงวัยเด็กไม่มีเวลามานั่งคิดหาวิธีการที่จะทำให้ชีวิตมีความสนุกจากการท้าทายของตัวเองมากหรอก“

ลมพัดจากข้างนอกหน้าต่างเราไม่อาจรับรู้ได้ว่า มันเป็นลมพัดที่มาพร้อมกับฝุ่นหรือเป็นลมพัดที่มาพร้อมกับแสงแดด เพราะบรรยากาศตอนนี้ฉันและคู่สนทนาสัมผัสถึงความเย็นจากเครื่องปรับอากาศที่มนุษย์รังสรรค์ขึ้นมา และบวกกับน้ำดื่มบนโต๊ะที่เป็นเสมือนเพื่อนที่คอยรินให้ฉันเมื่อกระหาย

“ชีวิตของฉันเริ่มมีการเปลี่ยนทิศทางเกิดขึ้นในวัยมัธยมปลายช่วงนั้น ฉันคิดเพียงว่า ฉันต้องการที่จะลองทำในสิ่งที่ฉันไม่เคยทำมาก่อนฉันต้องการที่จะแหกกฎของโรงเรียน แหกกฎคำสั่งสอนของผู้เป็นพ่อและแม่ ฉันต้องการเพียงแค่นั้นจริงๆและที่ท้าทายอารมรณ์ตอนนั้นที่สุดคือ ฉันต้องการจะมีแฟนเหมือนคนอื่นๆเขาแต่ความคิดนั้นทำให้ฉันกลับมามองตัวเองว่า ฉันไม่ได้สวย แถมมีสีผิวไม่กระจ่างใสเหมือนคนอื่นๆที่เขามีแฟนกันฉันจึงเปลี่ยนคบกลุ่มเพื่อนที่เคยกอดคอตั้งแต่มัยธมปีที่ 1  แล้วไปคบกับกลุ่มเพื่อนที่หน้าตาดี และ มีแฟน เพราะฉันเชื่อว่าการที่เราไปคบกับเพื่อนที่มีแฟน จะทำให้เราพลอยมีแฟนเหมือนเขาไปด้วย”

รั้วด้านหลังของโรงเรียนถูกปิดอย่างถาวรเพื่อกั้นไม่ให้นักเรียนในโรงเรียนหนีออกไปได้แต่คงไม่ลำบากสำหรับเธอสักนิด ขณะที่ฉันฟังวิธีการหนีเรียนของเธอแอบสะดุ้งเล็กน้อยเพราะมันเป็นวิธีที่ฉันเคยจะลองใช้ สมัยเรียนแต่ไม่ประสบความสำเร็จ

“ ฉันแหกกฎของโรงเรียนทุกวิธีทาง ทั้งโดดรั้วโรงเรียนทั้งพังประตูที่โรงเรียนปิดไว้ แต่ที่ร้ายแรงที่สุดสำหรับฉันตอนนั้นคือ  ฉันสามารถขุดทรายที่อยู่ใต้รั้วให้มีความลึกลงไปเพื่อให้ฉันได้ลอดออกไปจากโรงเรียนได้  ช่วงเวลาที่ฉันมักจะหนีออกจากโรงเรียนเป็นช่วงเวลาที่นักเรียนจะเข้าไปนั่งเรียนในห้อง ซึ่งไม่มีนักเรียนคนใดที่จะสามารถเห็นพฤติกรรมของฉันอีกทั้ง ครูก็ย่อมไม่เห็นพฤติกรรมดังกล่าวของฉันเช่นกัน เมื่อหนีออกจากโรงเรียนได้ฉันจะเดินไป ณ จุดนัดพบที่ฉัน เพื่อน และแฟนของฉันได้ตกลงกันผ่านโทรศัพท์ “

ตอนนั้นที่บ้านรู้เรื่องการหนีเรียนของเธอไหม?

“รู้ เพราะพี่ชายเป็นฝ่ายปกครองของโรงเรียนแห่งนี้พ่อก็ย่อมรู้เป็นเรื่องธรรมดา ทุกครั้งที่ฉันหนีออกจากโรงเรียน พี่ชายจะไล่ตามฉันแทบไม่ทันเพราะฉันคิดว่าฉันไหวกว่าเขา(เธอเผลอหัวเราะออกมา)  แต่ทุกครั้งที่พี่ชายฉันรู้ว่าฉันหนีเรียนพี่ชายมักจะโทรหาพ่อ พ่อก็จะโทรตามฉัน พ่ออ้อนวอนทุกวิธีทางเพื่อให้ฉันกลับมาเรียนหากไม่ต้องการเรียนให้กลับมาบ้าน ฉันหนีเรียนอยู่อย่างนั้น สาม ถึง สี่ครั้งจนมาถึงครั้งที่ฉันเจ็บใจตัวเองที่สุดคือเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ฉันฝั่งใจจนถึงปัจจุบัน เป็นเหตุการณ์ที่ฉันมักจะเล่าให้กับน้องๆ

 “ว่าพฤติกรรมเหล่านี้ฉันอย่าเลียนแบบ เพราะกะนุ(พี่สาว) เคยทำมาแล้วสัมผัสด้วยตัวเองแล้วพบว่ามันไม่ดีเลย”  เป็นครั้งที่ฉันไม่กลับบ้าน โดยไปค้างคืนหอเพื่อนทำให้พ่อ แม่ และ ชาย ต้องนั่งรถยนต์ส่วนตัว ตามหาฉันในยะลา ทุกๆครึ่งชั่วโมงพ่อจะโทรมาถามฉันว่าอยู่ส่วนไหนของยะลา พ่อจะไปรับ ซึ่งสถานที่แรกที่ฉันบอกพ่อไป คือ ตลาดเก่าแต่ความจริงในเวลานั้น ฉันผังเมืองสี่ ฉันโกหกพวกเขาเพราะไม่ต้องการกลับบ้านจนพ่อต้องโทรมาหาฉันอีกครั้งแล้วถามว่า “นุ อยู่ไหน “ พ่อหาไม่เจอน้ำเสียงของท่านในตอนนั้นเริ่มไม่ดีแล้ว ฉันรับรู้ได้ว่าเสียงตอนนั้นเต็มไปด้วยความกังวล และ ความเป็นห่วงที่กลัวจะหาฉันไม่เจอจนฉันตัดสินใจบอกความจริงว่าฉันอยู่ที่ไหน ซึ่งก่อนหน้าที่ฉันจะบอกท่านว่าฉันอยู่ไหน กลุ่มเพื่อนที่โดดเรียนมาด้วยกัน ตัดสินใจทิ้งฉันที่ผังเมืองสี่เพราะกลัวจะเสียหายกันหมด ฉันจึงจำใจลงจากมอเตอร์ไซค์

น้ำตาของเธอไหล ฉันเองในฐานะคู่สนทนาของเธอ ก็หวั่นไหวไม่ใช่น้อยเพราะเรื่องราวที่เธอเล่าคงจะสะเทือนใจเธอไม่น้อย เธอรีบหยิบกระดาษทิชชูที่วางอยู่ข้างหน้า มาเช็ดน้ำตา

”  วินาทีที่ล้อรถกระบะจอดอย่างสนิทต่อหน้าฉัน  ฉันไม่กล้าแม้ที่จะเงยหน้าขึ้น หัวใจของฉันตอนนั้นเต้นแรงมากกว่าปกติเพราะสิ่งที่ฉันคิดไว้ คือ พวกท่านทั้งสามต้องลากฉันและตีฉันริมถนนนี้เป็นแน่  ฉันกับแม่นั่งในกระบะรถความรู้สึกฉันในตอนนั้น ฉันไม่ต้องการกลับบ้านฉันต้องการโดดจากรถเพื่อเอาตัวรอดจากวินาทีที่อึดอัดนี้  แต่แม่ก็รั้งมือฉัน ขณะที่ฉันกำลังจะลุกขึ้นเพื่อที่จะโดดออกจากรถพฤติกรรมมันสวนทางกัน ระหว่างพฤติกรรมของแม่ กับ พฤติกรรมของฉัน แต่ท่านก็ยังคงดึงมือฉันแล้วสวมกอดฉันทั้งน้ำตาน้ำตาของแม่ในตอนนั้นเป็นน้ำตาที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเป็นน้ำตาที่ฉันตั้งคำถามกับตัวเองว่า ฉันทำอะไรลงไป ฉันทำอะไรลงไป ฉันทำอะไรลงไป ? คำห้าพยางค์นี้ยังวนเวียนในหัวซ้ำไปซ้ำมา ฉันไม่กล้าที่จะเอ่ยถามท่านว่าท่านร้องไห้ทำไม

“ นุ เป็นลูกแม่ทำไมแม่จะไม่รักลูก ไม่มีใครไม่รักลูกของตัวเองหรอกนะ กลับบ้านเรานะ “ แม้ว่าตอนนั้น แม่จะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนสักเพียงไหน  ฉันก็ยังคิดว่า นั้นเป็นคำพูดที่ไม่จริงไม่จีรัง  เพราะอารมรณ์วัยรุ่นตอนนั้นฉันจะเชื่อเพื่อน ไว้ใจเพื่อน และชอบคิดว่า คนที่บ้านไม่เคยรักตัวฉันเลย  ขณะที่พูดกับแม่อยู่นั้นสมองฉันไม่รับรู้ในสิ่งที่แม่พูดสวนทางกันสมองฉันกลับจินตนาการถึงวิธีการที่พ่อและแม่จะลงโทษฉัน ไม่ว่าจะเป็น การถูกเฆี่ยนตีต้องโดนขัง ต้องถูกล่ามโซ่ วิธีการลงโทษที่ฉันนึกตอนนั้น เหมือนฉันเป็นตัวเอกที่อยู่ในละครแล้วหลุดออกมาแสดงละครในชีวิตจริง 

และมันเป็นจริงเหมือนที่ฉันคิด เพราะภาพที่ฉันเห็นหน้าบ้าน มีเชือกเป็นม้วนกองไว้  ไม้เรี่ยว ถูกวางใกล้ๆกองเชือกนั้น ฉากหลังจากนี้คงไม่พ้นในสิ่งที่ฉันคิดฉันโดนตีแน่ๆ แต่เชื่อใหม กลับไม่เป็นอย่างที่ฉันคิดเลย

“ นุ กินข้าวหรือยังเดี่ยวขึ้นไปอาบน้ำ แล้วลงมากินข้าว แล้วพ่อก็โอบกอดฉัน หอมฉัน และพูดใกล้หูฉันว่า นุ เป็นลูกของพ่อ ทำไม พ่อจะไม่รักหนูละ” คำพูดที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน คำพูดที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองปลอดภัย คำพูดฉันไม่อาจจะอธิบายให้ถูกต้องตามความหวังดีของท่านอย่างไรวิธีการที่ท่านทั้งสองเลือกใช้ ไม่ใช่วิธีการ ที่ต้องใช้ความรุนแรงเพื่อสอนฉัน  แต่เป็นวิธีการที่อ่อนโยน ที่ประกอบด้วยคำพูดและ การสวมกอดจากท่านทั้งสอง ตอนนั้นปฎิกิริยาของฉัน นิ่ง ไม่โต้ตอบใดๆทั้งสิ้นฉันเลือกที่จะเดินเข้าไปในห้อง โดยไม่ยอมลงมาทานข้าวกับท่าน เพราะกลัวเสียฟอร์ม วินาทีที่ฉันอยู่ในห้อง ฉันทบทวนพฤติกรรมของฉัน และตั้งคำถามกับตัวเองว่าเหตุใด ที่ท่านทั้งสองไม่เลือกวิธีการตี หรือ ล่ามฉันกับเชือกไว้ในบ้าน สวนทางกัน ท่านกลับใช้คำพูดที่วิเศษเพื่อสยบคนอย่างฉัน ซึ่งแม้ตัวฉันจะทบทวนกับตัวเองมากเท่าไร แต่นั่นก็ยังไม่สามารถที่จะทำให้ฉันทิ้งพฤติกรรมหนีเรียนเสียทีเดียว

จนมาถึง จุดที่ตอกย้ำให้ฉันเปลี่ยนจริงๆ คือ

ค่ายจริยธรรมของโรงเรียนเริ่มขึ้นตอนที่ฉันศึกษาอยู่ชั้นมัธยมปีที่ ค่ายครั้งนี้ฉันมีหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงประจำกลุ่ม หน้าที่หลักๆ ก็เล่นกิจกรรมกับน้องๆ พาน้องๆเวียนฐานที่ถูกจัดขึ้น จนมาถึงฐาน พ่อแม่พี่ประจำฐานได้สั่งให้น้องๆทุกคน รวมถึงฉัน ให้หลับตา ขณะที่หลับตานั้น  บรรยายธรรมจากรุ่นพี่เกี่ยวกับเรื่องพ่อแม่ถูกเอ่ยขึ้น การบรรยายของเขาในวันนั้น มันสะกิดใจฉันเป็นอย่างมาก ฉันร้องไห้ร้องจนไม่อายใคร ร้องเหมือนคนขาดสติเพราะที่ผ่านมา ฉันทำไม่ดีกับ พ่อแม่ฉันมากถือว่าเป็นคนเลวคนหนึ่งก็ว่าได้  สำนึกผิดทุกสิ่งอย่าง ความรู้สึกผิดติดตรึงในหัวใจ วันนั้นทั้งวัน ฉันถึงกับทำอะไรไม่ถูก รู้สึกชาไปหมด 

ระยะเวลา การทำค่ายจริยธรรมจบลง ฉันจึงตัดสินใจโทรหาพ่อ และสารภาพผิด ขอโทษทุกสิ่งทุกอย่างสัญญาใจกับพ่อและแม่ว่าจะไม่ทำตัวเหมือนที่ผ่านมาอีก ตั้งแต่วันนั้น ฉันจึงสลัดทิ้งทุกอย่างทั้งแฟน และการหนีเรียน กลับตัวกลับใจ ตั้งใจเรียนมากกว่าเดิม และอยู่ในโอวาทของพ่อและแม่อีกครั้ง ถ้าถามว่า แรงบันดาลที่ทำให้ฉันตัดสินใจจะเปลี่ยนตัวเองคงจะเป็นเพราะ“คำพูดของพ่อแม่ วิธีการที่พ่อแม่เลือกใช้กับฉัน เป็นคำพูดแทนไม้เรี่ยวหรือ เชือก และค่ายจริยธรรม และสิ่งหนึ่งที่ลืมไม่ได้ คือ ต้องขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าและ ขออภัยโทษบาปต่างๆที่ผ่านมา ด้วยการยืนละหมาดและขอดุอาต่อพระเจ้า  หลังจากที่เปลี่ยนพฤติกรรมในวันนั้นทุกอย่างที่ฉันทำ หรือสิ้นสุดความพยายาม ก็จะมอบหมายต่อพระเจ้าการเยียวยาด้วยหลักคำสอนของศาสนาเป็นวิธีการที่ยิ่งใหญ่มากที่จะสามารถทำให้เราสำนึกตัวได้เร็วขึ้นและปัจจุบันนี้ด้วยการสำนึกผิดของฉันทุกครั้งที่ฉันได้เจอท่านทั้งสองฉันจะสลามสวมกอด และกล่าวขอโทษท่านทั้งสองเพราะชีวิตแต่ละวันฉันไม่อาจรับรู้ได้เลยว่าการกระทำของฉันจะทำให้ท่านสองเสียใจบ้างหรือไหม ฉันจึงเลือกวิธีการดังกล่าวเพื่อขออภัยโทษต่อท่านเป็นประจำ

เพราะค่ายจริยธรรมในวันนั้นทำให้ฉันต้องการจะเป็นเด็กดีต้องการทำสิ่งดีๆให้กับพ่อแม่ ต้องการทำสิ่งดีๆเพื่อสังคมฉันจึงตัดสินใจเดินสายนักกิจกรรมด้วยการทำ ค่ายจริยธรรม เพื่อให้ น้องๆที่เข้าค่ายรักครอบครัว รักพ่อกับแม่ ทำดีกับพ่อและแม่ แบ่งปันความสุข ความเสียสละสู่สังคมโดยเลือกเครื่องมือ การทำค่ายจริยธรรมในชุมชน เพราะสามารถทำให้น้องๆที่เข้าร่วมกิจกรรมสัมผัสถึงวิธีการเข้าถึงเนื้อหาต่างๆในรูปแบบของค่าย                                                              

ฉันเริ่มทำกิจกรรมตั้งแต่ มัธยมปลาย มหาวิทยาลัยตลอดจนกิจกรรมในชุมชน ซึ่งการกิจกรรมในตอนนั้นจะเพื่อนๆน้องๆนักศึกษามาช่วยเป็นพี่เลี้ยง ช่วยการออกแบบรูปแบบต่างๆ ของค่ายให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ ส่วนใหญ่หากเป็นกิจกรรมค่ายจริยธรรม ระยะเวลาที่ใช้ประมาณ 2-3 วัน การทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัยมันจะต่างกับการทำกิจกรรมในชุมชนเพราะการลงชุมชนเราไม่สามารถรับรู้ได้ว่า ชาวบ้านที่เข้ามาร่วมกับเราเขาคิดอย่างไรแต่นั้นก็ไม่ใช่ประเด็นใหญ่ เพราะ เมื่อใดก็ตามที่เราลงทำกิจกรรมกับชุมชนเราต้องวางตัวให้เป็น โดยการไม่โอ้อวดความรู้ของตนเอง เพราะเมื่อใดก็ตามที่ลงชุมชนชาวบ้านเป็นครูให้กับเรา ยังมีอีกหลายศาสตร์ในชีวิตที่เราไม่รู้ ดังนั้นแล้วชาวบ้านที่เราทำกิจกรรมด้วย  คือครูที่ดีที่สุดที่เราต้องเรียนรู้จากเขา

ทุกวันนี้ฉันก็ยังคงเดินสายนักกิจกรรมโดยการทำงานด้านสิทธิมนุษยชนทำงานการให้ความรู้ด้านสิทธิมนุษยชน และ จัดรายการวิทยุเพื่อแบ่งปันเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในพื้นที่แบ่งปันความห่วงใยผ่านสาระน่ารู้เกี่ยวกับการดูแลสุขสุขภาพอีกทั้งการจัดการายการวิทยุสำหรับฉัน ฉันไม่ได้หวังจะให้คนเป็นร้อยเป็นพันคนฟังเสียงของฉัน แต่ถ้ามีเพียงหนึ่งคนที่สามารถนำเอาความรู้จากรายการไปปรับใช้เพียงแค่นั้นก็สามารถเป็นยาชูกำลังให้กับฉันทำงานวิทยุต่อไปได้อย่างมีพลัง

ชีวิตแต่ละเส้นทางที่เต็มไปด้วยขวากหนามของชีวิตเธอฉันนึกสภาพตัวเองไม่ออก หากกลายเป็นฉัน ฉันจะผ่านแต่ละเส้นทางเหล่านั้นได้อย่างไรช่วยเล่าหน่อยได้ไหมว่า เธอมีวิธีคิดอย่างไรให้ผ่านเรื่องราวที่เผชิญในวันนั้น ให้มีวันนี้ได้

“ต้องกล่าวก่อนว่าเรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิตถือเป็นเรื่องราวที่เลวร้ายที่สุดจากพฤติกรรมของฉันซึ่งฉันเป็นคนหนึ่งที่พระเจ้าเปิดใจและให้โอกาสในการกลับตัวกลับใจแต่ฉันเองก็ไม่สามารถที่จะฟันธงได้ว่าทุกคนที่หลงผิดจะได้รับการเปิดใจจากพระเจ้าหรือเปล่าวิธีทางที่ดีที่สุด เราควรห่างจากการกระทำที่ไม่ดีและห่างไกลจากการกระทำที่จะก่อให้เกิดการเนรคุณต่อท่านทั้งสองดีกว่า บางประสบการณ์บางความท้าทาย เราไม่จำเป็นจะต้องลองแค่เรารับฟังบทเรียนจากคนที่เคยหลงผิดแล้วนำมาเป็นอุทาหรณ์ก็เพียงพอ

ทุกครั้งที่เจอปัญหาให้เราตั้งสติเป็นอันดับแรก ค่อยๆแก้ปัญหาทีละเรื่องทุกปัญหาย่อมมีทางออกและสิ่งที่สำคัญมากคือ อย่าละเลยบุพการีเพราะถ้าเราทำดีกับบุพการี ไม่ทรยศต่อท่าน ไม่ทำให้ท่านเจ็บใจกับการกระทำของเราเราจะไม่ลำบากแน่นอน เพราะพรของเขาทั้งสองเป็นพรที่เล่อค่าและวิเศษที่สุดที่จะสามารถทำให้เราผ่านเรื่องราวร้ายๆเหล่านั้นได้ง่ายขึ้นบวกกับการขอดุอา และ มอบหมายกับพระผู้เป็นเจ้าแต่การที่เราจะมอบหมายต่อพระเจ้าเราก็จะต้องพยายามแก้ปัญหาให้ถึงที่สุดก่อน  

ท้ายสุดอาจจะฝากให้กับน้องๆที่กำลังอยู่ในวัยหัวเลี้ยวหัวต่อว่า ส่วนตัว เข้าใจอารมรณ์ของวัยรุ่นถ้าอามรณ์ร้อนก็สามารถทำให้ปรอทฟาเรนไฮต์แตกได้แต่สิ่งหนึ่งที่สามารถช่วยน้องๆได้คือ การปรึกษา พูดคุยกับ พ่อแม่ ปรึกษากับท่านหากไม่กล้าปรึกษากับท่าน ก็สามารถปรึกษากับรุ่นพี่ที่เราเคารพเพราะเชื่อว่าพวกเขาเหล่านั้นสามารถชี้แนะให้กับน้องๆได้ “




Create Date : 11 พฤษภาคม 2560
Last Update : 17 พฤษภาคม 2560 23:36:05 น. 1 comments
Counter : 7191 Pageviews.

 
แวะมาทักทายจ้าา ^__^ อิอิ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน ร้อยไหม adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้วถาวร สักคิ้ว 6 มิติ Cover Paint สักไรผม 3D Eyebrow ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ


โดย: สมาชิกหมายเลข 4507140 วันที่: 3 พฤษภาคม 2561 เวลา:14:29:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กัลปังหา ที่รอคอย
Location :
ปัตตานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Friends' blogs
[Add กัลปังหา ที่รอคอย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.