|
- แนวข้อสอบครูผู้ช่วย
- สังคม เศรษฐกิจการเมืองและเหตุการณ์ปัจจุบัน
- สังคม เศรษฐกิจการเมืองและเหตุการณ์ปัจจุบัน
- แนวข้อสอบครูผู้ช่วย ชุดที่4
- แนวข้อสอบวิชาความรอบรู้
- แนวข้อสอบวิชาความรอบรู้ (ครูผู้ช่วย)
- แนวข้อสอบครูผู้ช่วย,ครูผู้ช่วย,ข้อสอบบรรจุครู
- แนวข้อสอบครูผู้ช่วย,ครูผู้ช่วย,ข้อสอบบรรจุครู
- ความรอบรู้เตรียมสอบ ครูผู้ช่วย
- หลักสูตรที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
- โครงการยกระดับคุณภาพครูทั้งระบบ ตรงกับข้อใด
- อิทังเม ญาตินังโหนตุ สุขิตาโหนตุ ญาตะโย
- พรบ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542
- สรุปหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551
- ความรู้ความสามารถทั่วไป 2
- รับมือภัยพิบัติแผ่นดินไหว
- แนว...พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ฉ.3 53
- การสอบสัมภาษณ์
- มาตรฐานการศึกษาของชาติ
- สอบบรรจุครูผู้ช่วย ปี2554 แนวข้อสอบบรรจุครูผู้ช่วย ปี2554
- เฉลย
- สอบบรรจุครูผู้ช่วย ปี2554
- ข้อสอบครูชำนาญการพิเศษ ,ข้อสอบครูผู้ช่วย,สอบบรรจุครูผู้ช่วย,แนวข้อสอบครูผู้ช่วย,สอบครูผู้ช่วย,แนวข้อสอบครูผู้ช่วย,ครูผู้ช่วย,ข้อสอบบรรจุครู
- 20 บุคคลสำคัญในแวดวงการศึกษา
- ความรู้เกี่ยวกับบุคคลต่าง ๆ คับ
- ข้อสอบครูชำนาญการพิเศษ ,ข้อสอบครูผู้ช่วย,สอบบรรจุครูผู้ช่วย,แนวข้อสอบครูผู้ช่วย,สอบครูผู้ช่วย
- หลักสูตรการศึกษา
- หลักสูตรการศึกษา 1
- ผู้ที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู จะขออีกได้เมื่อใด
- จรรยาบรรณของครู
- จรรยาบรรณครูมีกี่จรรยาบรรณ
- มาตรฐานวิชาชีพทางการศึกษา
- สอบบรรจุครูผู้ช่วย ปี2554 แนวข้อสอบบรรจุครูผู้ช่วย ปี2554
- สอบบรรจุครูผู้ช่วย ปี2554 แนวข้อสอบบรรจุครูผู้ช่วย ปี2554
- ข้อสอบวิชาชีพครู
- จำๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
- ภาษาไทยที่มักจะอ่านผิด (ออกข้อสอบบ่อยมาก)
- ปฏิรูปการศึกษาในช่วงทศวรรษที่ 2 ออกแน่นอน
- การอ่านออกเสียงคำที่มักอ่านผิด
- ภาษาไทยที่มักจะอ่านผิด (ออกบ่อยมาก)
- ความรู้ความสามารถทั่วไป
- สุดาต้องการล้อมรั้วบ้าน ซึ่งมีด้านกว้าง 40 เมตร และด้านยาว 80 เมตรโดยปักเสาห่างกันแต่ละต้น 3 เมตร สุดาจะต้องใช้เสาทั้้งหมดกี่ต้น?
- ความรู้ความสามารถทั่วไป
- เกิดปรากฎการณ์ดวงจันทร์เข้าใกล้โลกมากที่สุด ("ซูเปอร์มูน") นับตั้งแต่ พ.ศ. 2536
- ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ
- อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีชื่อเล่นว่า "มาร์ค"
- อานิสงส์การสร้างพระพุทธรูป
- ประวัติอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
- นายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 27
- สอบบรรจุครูผู้ช่วย ปี2554 แนวข้อสอบบรรจุครูผู้ช่วย ปี2554
- การเข้าสู่อาชีพครู
- สพม ที่อยู่
- สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา รวมทั้งหมด
- สพม. ๔๒ แห่ง
- ประเทศไทยมีกี่จังหวัด
- ข้อสอบครูชำนาญการพิเศษ ,ข้อสอบครูผู้ช่วย,สอบบรรจุครูผู้ช่วย,แนวข้อสอบครูผู้ช่วย,สอบครูผู้ช่วย
- 3 เสาหลักการปฏิรูปการศึกษา รอบ2
- สอบบรรจุครูผู้ช่วย ปี2554 แนวข้อสอบบรรจุครูผู้ช่วย ปี2554
- ปฏิรูปการศึกษาในช่วงทศวรรษที่ 2
- ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
- สังคม เศรษฐกิจ การเมือง และเหตุการณ์ปัจจุบัน
- ข้อสอบครูชำนาญการพิเศษ ,ข้อสอบครูผู้ช่วย,สอบบรรจุครูผู้ช่วย,แนวข้อสอบครูผู้ช่วย,สอบครูผู้ช่วย
- ข้อสอบครูดอทคอม
- รับสมัครครูวิทยาศาสตร์ 1 อัตรา
- เก็งข้อสอบครูผู้ช่วย 2554
- ข้อสอบครูชำนาญการพิเศษ ,ข้อสอบครูผู้ช่วย,สอบบรรจุครูผู้ช่วย,แนวข้อสอบครูผู้ช่วย,สอบครูผู้ช่วย
- แนวข้อสอบเตรียมสอบครูผู้ช่วย ปี 2554
- รายชื่อ สพป./สพม.ที่เปิดสอบครูปีนี้
- จิตวิทยาการศึกษา
- ส่งข้อสอบเยียวยามาให้หน่อยน่ะครับ
- แนวข้อสอบครูผู้ช่วยวิชาความรอบรู้ (เตรียมสอบ 2554)
- อ่านซะ
- สำหรับ 48 เขตที่จะเปิดสอบแข่งขัน มีดังนี้
- สอบบรรจุครูผู้ช่วย ปี2554 แนวข้อสอบบรรจุครูผู้ช่วย ปี2554 ข้อสอบบรรจุครูผู้ช่วย ปี2554
- นำเรื่องสั้น มาให้อ่านกัน
- แนวข้อสอบวิชาการศึกษา30ข้อ
- นำเรื่องสั้น มาให้อ่านกัน สุดยอดครับ
- ตัวตนที่แท้จริง "นายภูมิ"
- รวมพูดคุย สนทนา ข่าวสาร การสอบบรรจุครูผู้ช่วย ปี 2554 http://www.facebook.com/home.php?sk=group_197576703600604
- แบบฟอร์มต่างๆ สำหรับคุณครู
- อ่านอย่างไรให้จำได้
|
|
|
|
|
สรุปหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551
สรุปหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 การพัฒนาหลักสูตรการศึกษาของชาติ ถือเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา เพื่อสร้างคนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข และมีศักยภาพพร้อมที่จะแข่งขันในเวทีโลก ไม่ว่าจะหลักสูตรใดก็ตาม หากนำไปใช้แล้วพบว่ามีข้อจำกัดบางประการก็จำเป็นต้องมีการปรับปรุง หรือเปลี่ยนแปลงหลักสูตรที่มีอยู่ให้ดีขึ้น เช่นเดียวกับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 หลังการนำไปใช้ระยะหนึ่ง จากการศึกษาวิจัยพบว่า มีปัญหาบางประการ เช่น ด้านตัวชี้วัดหรือคุณลักษณะความรู้ความสามารถของผู้เรียนภายหลังจากเรียนจบแต่ละช่วงชั้นแล้วยังขาดความชัดเจน อีกทั้งครูผู้สอนโดยเฉพาะครูในโรงเรียนขนาดเล็กซึ่งมีอยู่จำนวนมากไม่สามารถออกแบบการจัดการเรียนรู้ที่สามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณสมบัติตามที่หลักสูตรกำหนดไว้ได้ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 จัดทําขึ้นเพื่อใหเขตพื้นที่การศึกษา หน่วยงานระดับท้องถิ่นและสถานศึกษานําไปเปนกรอบและทิศทางพัฒนาหลักสูตรและจัดการเรียนการสอน จากข้อค้นพบในการศึกษาวิจัยและติดตามผล การใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 ที่กล่าวถึง ประกอบกับข้อมูลจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 10 เกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาคนในสังคมไทย และจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการในการพัฒนาเยาวชนสู่ศตวรรษที่ 1 จึงเกิดการทบทวนหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 เพื่อนำไปสู่การพัฒนาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ที่มีความเหมาะสม ชัดเจน ทั้งเป้าหมายของหลักสูตรในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน พัฒนาเศรษฐกิจและสังคมพัฒนาประเทศพื้นฐานในการดำรงชีวิต การพัฒนาสมรรถนะและทักและกระบวนการนำหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติในระดับเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา โดยได้มีการกำหนดวิสัยทัศน์ จุดหมาย สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดที่ชัดเจน เพื่อใช้เป็นทิศทางในการจัดทำหลักสูตร การเรียนการสอนในแต่ละระดับ นอกจากนั้นได้กำหนดโครงสร้างเวลาเรียนขั้นต่ำของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ในแต่ละชั้นปีไว้ในหลักสูตรแกนกลาง และเปิดโอกาสให้สถานศึกษาเพิ่มเติมเวลาเรียนได้ตามความพร้อมและจุดเน้น อีกทั้งได้ปรับกระบวนการวัดและประเมินผลผู้เรียน เกณฑ์การจบการศึกษาแต่ละระดับ และเอกสารแสดงหลักฐานทางการศึกษาให้มีความสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ และมีความชัดเจนต่อการนำไปปฏิบัติดังนั้นสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จึงได้ปรับเปลี่ยนหลักสูตรเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการนำไปสู่การปฏิบัติแต่ยังคงยึดมาตรฐานการเรียนรู้และหลักการเดิม หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 เปลี่ยนแปลงมาจากหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2544 ซึ่งกําหนดจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีคุณภาพชีวิตดี มีความสามารถแข่งขันในเวทีโลก ให้สถานศึกษามีสวนรวมในการพัฒนาหลักสูตร โดยมีประเด็นสำคัญ ดังนี้ 1. เพิ่มวิสัยทัศน์ หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานที่ใช้อยู่ในปัจจุบันและปรับจุดมุ่งหมายหลักสูตรให้ชัดเจนขึ้น ซึ่งแต่เดิมกำหนดให้สถานศึกษาจัดทำวิสัยทัศน์ของหลักสูตรในระดับสถานศึกษา แต่ขาดการกำหนดวิสัยทัศน์ในระดับชาติ ทำให้เป้าหมายทิศทางของการจัดการศึกษาขาดความเป็นเอกภาพ ในการปรับปรุงจึงมีการกำหนดวิสัยทัศน์หลักสูตรในระดับชาติขึ้นเพื่อให้เป็นเป้าหมายที่ชัดเจนตรงกันในการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาเยาชนของชาติ ดังนี้ หลักสูตรแกกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคน ซึ่งเป็นกำลังของชาติให้เป็นมนุษย์ที่มีความสมดุลทั้งด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและเป็นพลโลก ยึดมั่นในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความรู้และทักษะพื้นฐาน รวมทั้ง เจตคติ ที่จำเป็นต่อการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวิต โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญบนพื้นฐานความเชื่อว่า ทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้เต็มตามศักยภาพ โดยมีจุดมุ่งหมายพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข มีศักยภาพในการศึกษาต่อ และประกอบอาชีพ จึงกำหนดเป็นจุดหมายเมื่อจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน คือ การมีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง มีวินัยและปฏิบัติตนตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนับถือ ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การมีความรู้ ความสามารถในการสื่อสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้เทคโนโลยี และมีทักษะชีวิต การมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี มีสุขนิสัย และรักการออกกำลังกาย การมีความรักชาติ มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดมั่นในวิถีชีวิตและการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย การอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม มีจิตสาธารณะที่มุ่งทำประโยชน์และสร้างสิ่งที่ดีงามในสังคม และอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข 2. หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานเดิมไมมีการกล่าวถึงสมรรถนะ หลักสูตรใหม เพิ่มสมรรถนะสำคัญในการพัฒนาผู้เรียน มุ่งเน้นให้มีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๕ ด้าน คือ ความสามารถในการสื่อสาร การคิดการแก้ปัญหา การใช้ทักษะชีวิต และการใช้เทคโนโลยี โดยครูผู้สอนต้องปลูกฝังและพัฒนาให้เกิดกับผู้เรียนทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ 3. ปรับคุณลักษณะอันพึงประสงค์ หลักสูตรเดิมไม่มีการกล่าวถึง หลักสูตรใหมมุ่งให้ผู้เรียนสามารถอยูร่วมกับผู้อื่นในสังคมไดอย่างมีความสุข ลักษณะอันพึงประสงคประกอบด้วย รักชาติ ศาสน กษัตริย, ซื่อสัตยสุจริต,มีวินัย, ใฝ่เรียนรู, อยูอย่างพอเพียง, มุ่งในการทํางาน, รักความเป็นไทย, มีจิตสาธารณะสถานศึกษาสามารถกําหนดลักษณะอันพึงประสงคเพิ่มเติมไดโดยมุ่งพัฒนาให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุขในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก คือ รักชาติศาสน์กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง รักความเป็นไทย และมีจิตสาธารณะ 4. ปรับตัวชี้วัดช่วงชั้น เป็นตัวชี้วัดชั้นปี ระบุสิ่งที่ผู้เรียนพึงรู ปฏิบัติได รวมทั้งลักษณะของผู้เรียนใน แตละระดับชั้นตัวชี้วัดนําไปใชในการกําหนดเนื้อหา จัดทําหนวยการเรียนรู้การจัดการสอนเป็นเกณฑ์สําคัญสําหรับวัดผลเพื่อตรวจสอบคุณภาพผู้เรียน ตัวชี้วัดมี 2 อย่างคือ ตัวชี้วัดชั้นปและตัวชี้วัดช่วงชั้น ตัวชี้วัดชั้นปีใชกับ ป.1 -ม.3 ตัวชี้วัดชวงชั้นใชกับ ม.4- ม.6 โดยการกำหนดตัวชี้วัดชั้นปีสำหรับการศึกษาภาคบังคับ ซึ่งช่วยให้เกิดความเป็นเอกภาพ และมีความชัดเจนในการจัดการเรียนรู้และการประเมินผลในแต่ละระดับชั้น รวมทั้งช่วยแก้ปัญหาการเทียบโอนระหว่างสถานศึกษา เพราะเดิมมีการกำหนดมาตรฐานช่วงชั้นกว้าง ๆ แล้วให้โรงเรียนกำหนดผลการเรียนรู้ที่คาดหวังแต่ละปีเอง ทำให้เกิดความซ้ำซ้อนและมีความแตกต่างระหว่างหลักสูตรของสถานศึกษาแต่ละแห่งเป็นอย่างมาก 5. การกำหนดกลุ่มสาระการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เกิดความสมดุล โดยคำนึงถึงหลักพัฒนาการทางสมองและพหุปัญญา หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงกำหนดหลักสูตรใหมมี 8 กลุมสาระ และ 67 มาตรฐาน 6. กิจกรรมพัฒนาผูเรียนมุ่งใหผู้เรียนพัฒนาตนเองตามศักยภาพ เสริมใหเป็นผูมีศีลธรรม จริยธรรม ระเบียบวินัยสรางจิตสํานึก อยู่ร่วมกับผูอื่นไดอยางมีความสุข กิจกรรมพัฒนาผูเรียน มี 3 ลักษณะ คือ กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียน กิจกรรมพัฒนาสังคมและสาธารณะประโยชน กิจกรรมแนะแนว เป็นกิจกรรมที่สงเสริมและพัฒนาผูเรียนกิจกรรมนักเรียน ส่งเสริมใหผู้เรียนมีวินัย เป็นผู้นําและผูตามที่ดี เช่น ลูกเสือ เนตรนารียุวกาชาด นักศึกษาวิชาทหาร กิจกรรมชุมนุมหรือชมรมกิจกรรมพัฒนาสังคมและสาธารณะประโยชน เปนกิจกรรมที่ส่งเสริมใหผู้เรียนมีจิตสาธารณะ เช่นกิจกรรมอาสาพัฒนาต่างๆ การมุ่งเน้นแตละระดับป.1-ป.6 เน้นทักษะพื้นฐานด้านการอ่าน การเขียน การคิดคํานวณ การคิดพื้นฐานการติดต่อสื่อสาร กระบวนการเรียนรูทางสังคมและพื้นฐานการเป็นมนุษย เน้นการเรียนรูแบบบูรณาการ 7. เวลาเรียน ป.1-ป.6 จัดการเรียนเปนรายป เรียนวันละไม่เกิน 5 ชั่วโมง กําหนดให้กิจกรรมพัฒนา ผู้เรียนทั้ง 3 กิจกรรมในชั้นป. 1-ม.3 ปละ 120 ชั่วโมง และกําหนดใหสถานศึกษาจัดสรรเวลากิจกรรมพัฒนาสังคมและสาธารณะประโยชน ในขั้น ป.1-ป.6 รวม 60 ชั่วโมง(ปละ 10 ชั่วโมง) การจัดการเรียน รู้เป็นกระบวนการสําคัญนําหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติผู้สอนต้องพยายามคัดสรรการเรียนรูโดยช่วยให ผู้เรียนเรียนผ่านสาระที่กําหนดไวในหลักสูตรประกอบด้วย 1. หลักการจัดการเรียนรู เน้นผู้เรียนสําคัญที่สุด โดยคํานึงถึงความแตกต่างระหว่าง บุคคล และการพัฒนาสมองเน้นใหความรูและคุณธรรม 2. กระบวนการเรียนรู ในการจัดการผู้เรียนควรไดรับการฝึกฝนพัฒนา ผู้สอนต้องทํา ความเข้าใจในกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ และสามารถเลือกใช้ไดอย่างมีประสิทธิภาพ 3. การออกแบบการจัดการเรียนรูผู้สอนต้องศึกษาหลักสูตรใหเข้าใจ แล้วพิจารณาออกแบบการจัดการเรียนรู้ใหเหมาะสม เพื่อให้ผูเรียนพัฒนาเต็มตามศักยภาพ 8. การวัดและประเมินผลการเรียนรูตั้งอยูบนพื้นฐาน 2 ประการคือ ประเมินเพื่อพัฒนาผูเรียน และตัดสินผลการเรียนการประเมินตามตัวชี้วัดจะสะทอนสมรรถนะผูเรียน การประเมินมี 4 ระดับ คือ ชั้นเรียนสถานศึกษา เขตพื้นที่การศึกษาและชาติการประเมินในชั้นเรียนจะประเมินโดยครู ผู้เรียน เพื่อน หรือผู้ปกครองก็ได้ต้องใชเทคนิคประสบการณหลากหลายและสม่ำเสมอ เชน การซักถาม การสังเกต การตรวจการ บ้านการใชแบบทดสอบ ฯลฯ 9. เกณฑการวัดและการประเมินผลการเรียนผูสอนต้องคํานึงถึงการพัฒนาผูเรียนแต่ละคน เก็บข้อมูลสม่ำเสมอและต่อเนื่องระดับประถมศึกษาผูเรียนต้องมีเวลาเรียนไมน้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนทั้งหมดผู้เรียนต้องไดรับการประเมินทุกตัวชี้วัด และผ่านตามเกณฑที่สถานศึกษากําหนดผู้เรียน ต้องไดรับการตัดสินผลการเรียนทุกรายวิชาผูเรียนต้องไดรับการประเมิน และมีผลการประเมินผ่านตามเกณฑที่สถานศึกษากําหนด ในการอ่าน คิดวิเคราะหและเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค และกิจกรรมพัฒนาผูเรียนการตัดสินผลจะให้เป็นตัวเลข ตัวอักษร หรือร้อยละก็ได การประเมินการอ่าน คิด วิเคราะหและเขียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค ให้ระดับ ดีเยี่ยม ดี และ ผ่านการประเมินกิจกรรมและพัฒนาผูเรียน ผ่านไมผ่านการรายงานผลการเรียน ต้องรายงานให ผู้ปกครองทราบ เป็นระยะๆ อย่างน้อยภาคเรียนละครั้ง บรรณานุกรม หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 (online) แหล่งที่มา //www.science.cmru.ac.th/admin/blog/file/80609161006.pdf ;สิงหาคม . 2552 หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 (online) แหล่งที่มา //learners.in.th/blog/natthita-eti5301/245956 ;สิงหาคม .2552 หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 (online) แหล่งที่มา //www.khaotalom.com/images/sub_1218591375/intro_mid_2551.pdf;สิงหาคม .2552 หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 (online) แหล่งที่มา //www.ci.cmru.ac.th/lesson_teacher/teacher_15.ppt#5 ;สิงหาคม .2552 หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 (online) แหล่งที่มา //www.iadth.com/ideakru/?tag ;สิงหาคม .2552
Create Date : 04 เมษายน 2554 |
Last Update : 4 เมษายน 2554 1:16:55 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1299 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|