Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2549
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
3 มิถุนายน 2549
 
All Blogs
 

เรื่องบังเอิญที่เหลือเชื่อ..ระหว่างไปเที่ยวที่ชุมพร

เมื่อสงกรานต์ปี 2548 ที่ผ่านมา ผมและครอบครัวพร้อมกับครอบครัวของน้องชายได้เดินทางไปเที่ยวพักผ่อนตามประสาคนทำงานที่ต้องการ
ชาร์ตแบตให้ตัวเอง โดยเลือกไปที่โรงแรมชุมพรคาบาน่า จังหวัดชุมพร ขับรถไปกัน 2 คัน ระยะทางก็เกือบ 500 กม. เดินทางแบบค่อยๆ ขับกันไปไม่ช้าไม่เร็วใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง
เมื่อไปถึง ผมก็จัดแจงเคลียร์เรื่องที่พักและเอาข้าวของไปเก็บแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลงเล่นน้ำทะเลทันทีเพราะหาดสวยน้ำก็ใสน่าเล่นมากๆ
ผมเพลิดเพลินกับการเล่นน้ำกับครอบครัวอยู่ประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง กินเวลาไปเกือบตลอดบ่ายจนถึงเวลาประมาณบ่าย 4 โมง ผมก็ขึ้นจากน้ำเดินมาหาภรรยาซึ่งนั่งรอใต้ร่มไม้
คำถามแรกที่ภรรยาถามมา เล่นเอาผมอึ้งไปเลย แล้วก็เปลี่ยนเป็นตกใจ เพราะถามมาว่า กุญแจรถอยู่ไหน?
ที่ตกใจเพราะจำได้ว่าก่อนลงน้ำได้นำของไปเก็บไว้ท้ายรถ แต่จำไม่ได้นำกุญแจไปเก็บไว้ไหน ที่สำคัญ ไม่ได้นำกุญแจสำรองไป
ผมคลำหากุญแจรถในกระเป๋ากางเกงว่ายน้ำทันที แต่ไม่มี ผมไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจกันแน่ที่กุญแจไม่ได้อยู่ในกระเป๋า
ถ้าอยู่ในนั้นคงต้องดีใจที่มันไม่หายแต่เสียใจที่เปียกน้ำทะเลแล้วจะเปิดรถไม่ได้ เพราะกุญแจเป็นระบบ immobilizer ซึ่งจะเปิดประตูรถและสตาร์ทรถด้วยกุญแจนี้เท่านั้น
แต่ถ้ามันไม่อยู่ ผมคงดีใจที่มันไม่โดนน้ำทะเลแต่ก็เสียวๆ ว่ามันจะหายไปในทะเล
นับตั้งแต่เวลาบ่าย 4 โมง ผมและครอบครัวผมกับน้องชาย ไม่เป็นอันพักผ่อนกันเลย เพราะง่วนหากุญแจรถในทุกสถานที่เท่าที่จะนึกได้ แต่...
โชคร้ายที่ไม่มีแม้แต่วี่แววเลย
ผมย้อนกลับลงไปในทะเล ดำน้ำลงไปดูตรงจุดที่ผมลงไปเล่นน้ำ แต่ไม่พบ ไม่ใช่จะหากันได้ง่ายๆเลย มันเหมือนงมเข็มในมหาสมุทรจริงๆ
ผมหากุญแจรถจนตะวันเริ่มมืด ความหวังที่จะหากุญแจรถให้เจอก็ยิ่งเลือนลางจนแทบสิ้นหวัง
หลังจากรีบๆ กินมื้อเย็นอย่างร้อนรนเสร็จตอนทุ่มกว่า ผมก็ยังไปเดินหาตามชายหาดต่อ เผื่อคลื่นจะซัดกระเป๋ากุญแจให้ขึ้นมาอยู่บนชายหาด แต่ก็อีก...ไม่มีแม้แต่เงา
คืนนั้นผมกังวลใจมาก ว่าจะทำอย่างไรต่อไปดีในเมื่อไม่มีกุญแจรถ ภรรยาผมต้องไปบนบานศาลกล่าวเจ้าที่ของโรงแรม และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยหากุญแจรถ
ส่วนผมต้องข่มใจตลอดคืนเพื่อนอนให้หลับ แต่กว่าจะหลับได้ก็เกือบตี 3 เข้าไปแล้ว หลับๆ ตื่นๆ ไปแค่ 2 ชั่วโมงก็ตื่นตาค้าง นอนไม่หลับอีกต่อไป เพราะจะรอฟ้าสว่างเพื่อจะได้ไปเดินหาที่ชายหาดอีกครั้งหนึ่ง
โชคยังไม่ดีขึ้นเลย เพราะหาเท่าไรก็ไม่เจอ และได้สอบถามพนักงานต้อนรับของโรงแรมเผื่อว่ามีคนพบกุญแจรถ ก็ได้รับการปฏิเสธ
หลังอาหารเช้าที่เร่งรีบอีกมื้อหนึ่ง ผมและภรรยาเริ่มหาทางแก้ไขปัญหา โดยโทรติดต่อศูนย์โตโยต้าที่กทม.แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะการทำกุญแจใหม่ต้องมีกุญแจเดิมใช้เป็นต้นแบบเท่านั้นจึงจะทำกุญแจใหม่ได้
เมื่อไม่ได้ผลจึงได้โทรกลับไปหาพี่สาวซึ่งอาศัยใกล้บ้านให้นำช่างกุญแจไปสะเดาะกุญแจบ้านเพื่อเข้าไปเอากุญแจรถ แล้วอาจจะวานใครสักคนนำกุญแจไปให้ที่ชุมพร แต่...แปลกที่ช่างกุญแจไม่สามารถสะเดาะกุญแจซึ่งมีอยู่ 3 ชั้นเข้าบ้านได้แม้แต่อันเดียว จึงเป็นอันว่าคงต้องใช้วิธี
สุดท้ายที่ไม่อยากทำเลย คือโดยสารรถรับจ้างกลับไปเอากุญแจสำรองที่บ้านเพื่อจะได้นำมาใช้สตาร์ทขับรถกลับบ้านได้ ความจริงแค่คิดก็เหนื่อยแล้ว เพราะไปกลับระยะทางเกือบ 1 พันกิโล ใช้เวลาอย่างน้อย 12 ชั่วโมง
9 โมงเช้าแล้ว ระหว่างที่กำลังติดต่อพนักงานโรงแรมให้ช่วยหารถรับจ้างนั้น ภรรยาได้เอ่ยปากถามพนักงานเป็นครั้งที่ 2 ว่ามีคนนำกุญแจรถหายมาฝากไว้หรือเปล่า ?
เรื่องไม่น่าเชื่อก็เริ่มเกิดขึ้น
พนักงานบอกว่ามีคนไปเล่นน้ำทะเลหน้าโรงแรมเมื่อ 7 โมงเช้าวันนั้น แล้วพบกุญแจ เลยนำมาฝากไว้ที่เคานเตอร์ แล้วคนๆนั้นก็ออกเดินทางกลับไปสุราษฏร์ธานีแล้วด้วย
พอพนักงานนำกุญแจรถมาให้ดู .... ใช่เลยครับ !!!
เป็นอันว่าปริศนาได้ถูกเฉลยแล้วว่าผมเอากุญแจรถใส่กระเป๋ากางเกงว่ายน้ำแล้วลงเล่นน้ำทะเลนั่นเอง คลื่นได้ซัดกระเป๋าจนกุญแจรถหลุดออกและจมลงในทะเล

แต่สภาพกุญแจที่เปียกชื้นและมีเม็ดทรายแทรกเข้าไปภายในส่วนหัวของกุญแจซึ่งมีแผงวงจรเล็กอยู่ ทำให้ผมข้องใจสงสัยเป็นอย่างมาก ว่ามันยังอยู่ในสภาพที่ยังใช้งานได้อยู่หรือ ??
ผมรีบนำกุญแจไปที่รถแล้วภาวนาก่อนที่จะกดรีโมทด้วยความตื่นเต้นในการลุ้น ...ปรากฏว่ากดไปแล้ว ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมกดครั้งที่ 2 และ 3 ในเวลาต่อมา ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ผมคิดในใจว่า หมดกัน อุตส่าห์เจอกุญแจรถ แต่ใช้งานไม่ได้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร
ผมลองกดรีโมทอีกครั้งด้วยความสิ้นหวังเป็นครั้งที่ 4 ..ทันใดนั้น ปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้นอีก รถผมมีไฟกระพริบตอบ พร้อมกับปลดล๊อคประตูรถทั้ง 4 บาน !!!!
ผมขนลุกซู่อย่างไม่อยากเชื่อสายตา
รีบไปเปิดประตูรถเอาไว้ก่อนเพราะกุญแจบ้านอยู่ในรถ อย่างน้อยตอนนี้ถ้าต้องกลับบ้านไปเอากุญแจรถ จะได้ไม่ต้องทุบกระจกรถ
จากนั้นก็เป็นการลุ้นว่ากุญแจจะสามารถสตาร์ทรถได้หรือไม่ ...เรื่องไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เมื่อรถสามารถสตาร์ทได้ !!!
ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก
อย่างไรก็ตามผมก็ยังรู้สึกไม่วางใจเท่าไรนัก เพราะกุญแจรถจมอยู่ในทะเลมาตลอด 18 ชั่วโมง แม้ขณะนั้นจะยังใช้งานได้ แต่ไม่สามารถแน่ใจได้เลยว่ามันจะใช้ได้ไปตลอดการเดินทาง
เนื่องจากการบนบานศาลกล่าวต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของภรรยา ทำให้ผมและครอบครัวต้องเปลี่ยนแผนการเดินทาง แทนที่จะเดินทางกลับกทม. ผมต้องเดินทางต่อไปที่นครศรีธรรมราชเพื่อบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ได้ช่วยให้ผมรอดจากความเดือดร้อนต่างๆนานามาได้ ผมจึงได้เข้าไปยังศูนย์โตโยต้าสุราษฏร์ธานีซึ่งเป็นศูนย์ค่อนข้างใหญ่ ให้เขาตรวจเช็คกุญแจรถเพื่อความมั่นใจว่ามันจะไม่รวนระหว่างเดินทาง ช่างได้เปิดฝาส่วนที่เป็นแผงวงจรออกมา พบทรายอยู่ข้างในนั้นจำนวนหนึ่ง ช่างได้ทำความสะอาดและเอาแบตเตอรี่ซึ่งถูกน้ำทะเลกัดกร่อนไปแล้วออก แล้วให้ผมอย่าใช้รีโมทในการเปิดปิดรถ แต่ใช้ตัวกุญแจไขประตูรถอย่างเดียว เพื่อให้แน่ใจว่าจะเปิดปิดได้อย่างไม่มีปัญหาตลอดการเดินทาง
หลังจากได้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วผมก็ได้เดินทางกลับกทม. เมื่อถึงบ้านตอนประมาณ 5 โมงเย็น ก็พบว่าประตูบ้านไม่สามารถเปิดด้วยกุญแจบ้านได้ เพราะช่างสะเดาะกุญแจได้งัดจนกุญแจบิดเบี้ยวไป ผมจึงต้องเรียกช่างแอร์ใกล้บ้านนำเครื่องมือมาทำลายล๊อคเพื่อจะได้เข้าบ้านเสียที ช่างก็ใช้จานเจียร์มาตัดล๊อคของลูกบิดออก แต่ก็ยังเปิดประตูไม่ได้อีก ภรรยาผมนึกขึ้นมาได้ว่าก่อนออกจากบ้านไปเที่ยว ได้ขอเจ้าที่เอาไว้ให้ช่วยเฝ้าบ้านด้วย เขาจึงได้อธิษฐานบอกเจ้าที่ว่ากลับมาแล้วจะขอเข้าบ้าน
ไม่ถึงสองนาทีถัดมา ช่างก็เปิดประตูบ้านได้ และประตูอื่นก็เปิดด้วยกุญแจได้ตามปกติ ไม่เป็นปัญหาอีก
กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย ก็ปาเข้าไปเกือบ 2 ทุ่มแล้ว
ตลอด 5 วันในช่วงนั้น นับว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและไม่น่าเชื่อระคนกันไปอย่างที่ผมจะไม่มีวันลืมเลย
สิ่งที่ผมคิดว่าเหลือเชื่อและโชคดีเอามากๆ ที่ผมสามารถผ่านพ้นปัญหาวุ่นวายต่างๆ มาได้ มีโดยสรุปดังนี้
1. กุญแจรถที่สูญหายไปในทะเล มีโอกาสน้อยมากๆ ที่จะมีคนไปพบ แต่ก็มีคนไปพบจนได้ทั้งๆ ที่จากการโทรศัพท์ไปสอบถามคนที่พบ(ซึ่งผมไม่รู้ว่าจะขอบคุณและตอบแทนอย่างไร จึงได้มอบแพ๊คเกตเที่ยวภูเก็ตมูลค่าเจ็ดพันกว่าบาทให้ผู้มีพระคุณท่านนี้ไปเป็นสิ่งตอนแทนเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาไม่ดูดายต่อความเดือดร้อนของเพื่อนมนุษย์) ทราบว่าเขาไปดำน้ำเล่นในเช้าวันนั้น ในจุดที่น้ำลึกถึงระดับมิดหัว !!! ซึ่งปกติคนที่ไปว่ายน้ำจะไม่ไปลึกขนาดนั้น ถ้าไม่ใช่เป็นการดำน้ำ จะไม่มีทางพบเลย ที่แปลกคือเขาเหยียบถูกกระเป๋ากุญแจ ไม่ใช่มองเห็นในน้ำ แล้วพอเขาเก็บได้ตอนแรกเขาก็คิดว่าจะทิ้งไป แต่เขาคิดว่าคนที่ทำกุญแจหายคงเดือดร้อนแน่ เขาจึงตัดสินใจนำกุญแจรถไปฝากไว้ที่เคานเตอร์โรงแรม
2. ลำพังการพบกุญแจรถนั้นก็ถือว่าบังเอิญจนเหลือเชื่ออยู่แล้ว แต่จังหวะเวลาก็เป็นเรื่องเหลือเชื่ออีกด้วย เพราะถ้ากุญแจนั้นไม่ได้ถูกพบในเช้าวันนั้น ทุกอย่างคงเลวร้ายสุดไปแล้ว ถึงแม้จะพบในเวลาต่อมา อาจจะสายเกินไป หรือกุญแจนั้นอาจจะถูกน้ำทะเลทำลายไปแล้ว
3. กุญแจระบบอิเลคโทรนิคที่จมอยู่ในน้ำทะเลมาเกือบ 1 วัน 1 คืนเต็ม ใครจะไปเชื่อว่ายังสามารถใช้งานได้ ไม่ใช่เฉพาะตอนนั้นหรือระหว่างเดินทาง แต่ยังใช้งานได้จนถึงทุกวันนี้เลยครับ !!!

เรื่องที่เกิดตอนช่างสะเดาะกุญแจและช่างแอร์พังประตูเข้าบ้านไม่สำเร็จ ก็เป็นเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าที่เจ้าทางซึ่งถ้าไม่เชื่อก็ห้ามลบหลู่เด็ดขาด

อุทธาหรณ์สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ เป็นบทเรียนซึ่งทำให้ผมต้องพกกุญแจรถสำรองเวลาไปเที่ยวในเวลาต่อมา
การไปเที่ยวของผมในครั้งนั้นทำให้ครอบครัวผมและน้อยชาย หมดสนุกตลอด 5 วันนั้นไปเลย

ดังนั้นเมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมา ผมและน้องชายจึงกลับไปเที่ยวที่ชุมพรอีกครั้งหนึ่งเป็นการระลึกถึงความหลัง

แน่นอน คราวนี้ผมไม่ลืมที่จะฝากกุญแจรถไว้กับทางโรงแรมและพกกุญแจสำรองไปด้วย ทำให้การไปเที่ยวในครั้งนี้เต็มไปด้วยความสุขและสนุกสนาน

ทั้งหมดที่เล่ามาเป็นเรื่องจริง ลองถามพนักงานต้อนรับของโรงแรมดูก็ได้ครับ
ถ้าเป็นคุณเจออย่างผม คุณจะโชคดีซ้ำ 3 ชั้นในโชคร้ายอย่างผมหรือเปล่า ?
แม้แต่ผมเอง ถ้าเจออย่างนั้นอีก คงไม่ได้โชคดีอย่างนั้นแน่
ดังนั้น ภาวนาขออย่าเจอเหตุการณ์อย่างนี้อีกจะดีที่สุดครับ






 

Create Date : 03 มิถุนายน 2549
2 comments
Last Update : 8 มิถุนายน 2549 19:47:15 น.
Counter : 1849 Pageviews.

 

ยินดีด้วยที่ผ่านเรื่องร้าย ๆ มาได้ด้วยดี และคิดว่าครอบครัวของคุณคงเป็นคนดี ไม่อย่างนั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คงไม่คุ้มครองคุณอย่างนี้

 

โดย: อ้อ IP: 125.24.82.148 8 มิถุนายน 2549 12:59:27 น.  

 

จากเหตุการณ์ครั้งนั้นยิ่งทำให้ผมเชื่อเรื่องเวรเรื่องกรรมมากขึ้น
ผมคงโชคดีก็เพราะชาติก่อนทำกรรมดีไว้เยอะ
ดังนั้นเพื่อให้ชาติหน้ามีโชคดีต่อไป..ชาตินี้ก็ต้องทำกรรมดีให้มากไว้

 

โดย: วรภัค (วรภัค ) 8 มิถุนายน 2549 19:49:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


วรภัค
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add วรภัค's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.