เพราะคำว่า “ให้” มีความหมายที่ยิ่งใหญ่โดยเฉพาะเมื่อเราให้กับคนที่ต้องการความช่วยเหลือ เว็บไซต์ ไทยกิฟวิ่งจึงเป็นศูนย์รวมของกลุ่มคนและองค์กรที่ทำงานเพื่อสังคมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยโดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นจุดนับพบระหว่างผู้ให้และผู้รับ เพื่อสร้างเสริมจิตอาสาและส่งต่อการ“ให้” ที่ไม่หวังผลตอบแทนใดๆ ให้งอกงามและยั่งยืนในสังคมไทย  

มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวโฉมใหม่เว็บไซต์การให้เพื่อสังคมไทยwww.ThaiGiving.org หรือ “ไทยกิฟวิ่ง” ศูนย์รวมข้อมูลองค์กรเพื่อสังคมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยโดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างชุมชนออนไลน์ขององค์กรเพื่อสังคม ส่งเสริมสังคมจิตอาสาและการให้ในสังคมไทย ซึ่งเว็บไซต์ดังกล่าวได้รับการสนับสนุนโดย มูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ โดยมีหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์หลัก 2 องค์กร คือ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และมูลนิธิสยามกัมมาจล ร่วมแถลงข่าวด้วย

คุณมรกต กุลธรรมโยธิน กรรมการบริหารมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทยกล่าวว่า เว็บไซต์ ThaiGiving.org ได้พัฒนาสู่การเป็นฐานข้อมูลขององค์กรเพื่อสังคมในประเทศไทยที่ใหญ่ที่สุดสามารถเข้าถึงได้ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตและเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลขององค์กรเพื่อสังคมในต่างประเทศด้วยมาตรฐานเดียวกันในระบบ 2 ภาษา กลุ่มบุคคลหรือองค์กรที่ทำงานเพื่อสังคมในประเทศไทยสามารถสมัครเข้าเป็นสมาชิกได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

“นอกจากการเป็นส่วนหนึ่งของฐานข้อมูลขององค์กรเพื่อสังคมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยแล้วสมาชิกสามารถโพสต์อัพเดทข่าวสาร โครงการ และกิจกรรมเพื่อสังคม เพื่อขอระดมเงินทุนและทรัพยากรการทำงานเข้ามาแบ่งปันสื่อความรู้ แผ่นพับ โปสเตอร์ต่างๆ ที่ต้องการเผยแพร่สู่ประชาชนโพสต์ขายสินค้าออนไลน์ ประกาศรับสมัครงานตลอดจนติดต่อสื่อสารและสร้างกิจกรรมจิตอาสาระหว่างองค์กรเพื่อสังคมด้วยกัน”คุณมรกต กล่าว

คุณมรกตยังกล่าวเสริมอีกว่า เว็บไซต์ ThaiGiving ในระยะแรก ใช้ระบบธุรกรรมการเงินของ PayPal ซึ่งเป็นสถาบันทางการเงินในระดับสากลที่มีความปลอดภัยสูงมีผู้ใช้งานทั่วโลก แต่ก็เปิดกว้างสำหรับธนาคารและสถาบันการเงินอื่นๆของไทยที่จะเข้ามาเป็นหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์กับไทยกิฟวิ่ง ในระยะต่อไป ขณะนี้เป็นช่วงของการประชาสัมพันธ์เชิญชวนองค์กรเพื่อสังคมในประเทศไทยเข้าสู่ระบบของ ThaiGivingซึ่งทีมงานก็จะเดินทางไปจัดกิจกรรมใน 6 ภูมิภาคของประเทศThaiGiving ยังจะทำงานร่วมกับองค์กรภาคีเครือข่ายอื่นๆในการพัฒนาศักยภาพขององค์กรเพื่อสังคมในประเทศไทย ได้แก่การฝึกอบรมให้ความรู้ด้านไอที การเขียนโครงการเพื่อขอรับทุนอุดหนุนการทำการตลาดออนไลน์ รวมถึงการพัฒนาองค์กรเพื่อสังคมอย่างยั่งยืน อีกด้วย

คุณแพรรุ้ง อุนนาทรวรางกูร ผู้ดูแลโครงการสนับสนุนเว็บไซต์ไทยกิฟวิ่งของมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ กล่าวว่า ” ตลอด 100 ปีที่ผ่านมา ทางร็อกกี้เฟลเลอร์ได้สนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆที่ส่งเสริมการสร้างเครือข่ายการทำงาน การจัดหาทรัพยากร และเทคโนโลยีที่จะช่วยสร้างปรากฏการณ์ที่ดีในสังคมเว็บไซต์ ThaiGiving จะเป็นกลไกสำคัญในการระดมทรัพยากรที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนการทำงานเพื่อพัฒนาสู่สังคมที่ดีขึ้นให้กับมูลนิธิสมาคม ชมรมต่างๆ การนำไทยกิฟวิ่งเข้าเชื่อมโยงกับระบบฐานข้อมูลไกด์สตาร์ (GuideStar)ของต่างประเทศ และการสนับสนุนจากบริษัท TechSoup Global ซึ่งเป็นองค์กรธุรกิจสัญชาติอเมริกัน ที่ทำงานส่งเสริมการใช้ไอซีทีในกลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชนทั่วโลกจะทำให้องค์กรเพื่อสังคมของเราซึ่งมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ชัดอยู่แล้วเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นในต่างประเทศไอซีทีจะเป็นเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับองค์กร การได้รับสิทธิประโยชน์จากการซื้อซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ในราคาถูกเป็นพิเศษสำหรับองค์กรพัฒนาเอกชนที่ได้มาตรฐานของสหรัฐอเมริกาจะช่วยทำให้องค์กรเพื่อสังคมของไทยเข้าถึงไอซีทีมากยิ่งขึ้นซึ่งทางร็อกกี้เฟลเลอร์ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในประเทศไทยด้วย ก็หวังจะได้เห็นสิ่งดีๆเกิดขึ้นในสังคมไทยเช่นเดียวกัน”

คุณปิยาภรณ์มัณฑะจิตร ผู้จัดการมูลนิธิสยามกัมมาจล กล่าวว่า “มูลนิธิสยามกัมมาจลมุ่งทำงานกับองค์กรภาคีที่ทำงานพัฒนาเยาวชน และ มุ่งทำงานกับเยาวชน เพื่อสร้าง ChangeAgent ในวงการพัฒนาเยาวชน วิธีการทำงานของมูลนิธิฯ คือสนับสนุนองค์กรที่ทำดีอยู่แล้วให้ขยายผลการทำงานและสามารถทำงานอย่างยั่งยืนเราสนับสนุนด้านการเติมงบประมาณหรือหนุนด้านจัดการและพัฒนาขีดความสามารถของคนทำงาน”

“มูลนิธิฯร่วมเป็นหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์กับไทยกิฟวิ่ง ในลักษณะของการสนับสนุนให้เกิดการใช้เว็บไซต์เพื่อการ “สื่อสาร” และ “ระดมทุน” ขององค์กรต่างๆโดยเฉพาะองค์กรพัฒนาเยาวชนในเครือข่ายภาคีพูนพลังเยาวชนกว่า 100 องค์กรที่เป็นเครือข่ายร่วมกับมูลนิธิฯ ให้มีช่องทางการเผยแพร่ผลงานและการระดมทุนอีกช่องทางหนึ่ง” คุณปิยาภรณ์กล่าว

คุณเบญจมาภรณ์ จันทพัฒน์ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการเรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) กล่าวว่า “ทาง สสส. เองก็เล็งเห็นถึงประโยชน์ของระบบฐานข้อมูลขององค์กรเพื่อสังคมในประเทศไทยเนื่องจาก สสส. เอง ก็ให้ทุนองค์กรต่างๆ ไปขับเคลื่อนงานพัฒนาสังคมอยู่หลายพันโครงการงานหลักอีกอย่างหนึ่งของ สสส. ที่กำลังดำเนินการได้แก่การเสริมสร้างความเข้มแข็งและความยั่งยืนให้กับองค์กรเพื่อสังคมระบบฐานข้อมูลและบริการต่างๆ บนไทยกิฟวิ่งจะทำให้ผู้ให้ทุนมองเห็นผู้รับทุนชัดเจนยิ่งขึ้นว่ามีหน่วยงานไหน ทำงานด้านใด ทำงานกับกลุ่มเป้าหมายใด ในเขตพื้นที่ดำเนินการใด เห็นประวัติและรายละเอียดการทำงานของแต่ละหน่วยงานรวมถึงประวัติการรับทุน ทำให้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจที่จะให้ทุนทำงานแก่หน่วยงานที่ต้องการความช่วยเหลือได้อย่างเหมาะสม หน่วยงานให้ทุนต่างๆ ก็ไม่ต้องสร้างฐานข้อมูลผู้รับทุนให้ซ้ำซ้อนกันแต่มาแชร์ใช้ไทยกิฟวิ่งได้เลย สสส. อาจมีแผนงานร่วมกับไทยกิฟวิ่งสำหรับบริการจับคู่ระหว่างผู้ให้ทุนกับผู้รับทุน และกิจกรรมพัฒนาศักยภาพองค์กรสู่ธุรกิจเพื่อสังคมซึ่งอยู่ระหว่างหารือในรายละเอียดของความร่วมมือต่อไป”