Group Blog |
เลิกแล้วค่ะ หนูเลิกกับ (แพม)เพิร์สแล้วค่ะ
20 มิ.ย. 2554 น้องแซนด์ลูกรัก ไม่ได้อัพบล็อคมานาน ทั้งที่หม่าม๊าตั้งใจไว้ว่า จะอัพบ่อยๆ แต่แหม ก็มันขี้เกียจเหลือเกินนี่นา แต่ก็คิด (อีกแระ) ว่าจะพยายามอัพเรื่องสำคัญของหนูให้ได้บ่อยๆ ก็แล้วกันนะลูกนะ สิ่งที่สำคัญสำหรับหนู เมื่อไม่นานมานี้ นั่นคือ แต่นแต๊น...หนูเลิกเพิร์สได้เกือบ 100% แล้วน๊า หลังจากที่หม่าม๊าเริ่มปฏิบัติการเลิกเพิร์สให้หนู ตั้งแต่ 2 ขวบ จนตอนนี้หนูอายุ 2 ขวบ 5 เดือน 14 วัน วิธีที่หม่าม๊าใช้กับหนู ก็คือแบบค่อยเป็น ค่อยไป ไม่ได้รีบร้อนหรือบังคับอะไรหนูมากนัก ส่วนวัตุประสงค์ของการเลิกเพิร์สคือ เตรียมตัวหนูให้พร้อมที่จะเข้าเรียนอนุบาล 1 ในปีการศึกษาหน้า (2555) บางคนก็ว่าเร็ว บางคนก็ว่าช้า แต่ไม่มีใครจะรู้จักในตัวลูก ดีกว่าหม่าม๊า โดยหม่าม๊าจะดูจากความพร้อมของหนูเป็นสำคัญ หนูเริ่มบอกฉี่ บอกอึ ได้ตอนประมาณ 2 ขวบนิดๆ บางครั้งก็ทันบ้าง ไม่ทันบ้าง เลอะบ้างนิดๆ หน่อยๆ แต่หม่าม๊าก็ไม่เคยตำหนิหนูเลย ซึ่งหม่าม๊าถือว่าให้หนูได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง ว่าอะไรคือเลอะ อะไรคือเปียก เริ่มแรกสิ่งที่จะต้องเตรียม นั่นคือ - กระโถน และฝารองชักโครก ซึ่งกระโถนที่หนูใช้ ราคาแค่ 70 บาท โดยซื้อมาจากป้าจอย (ดอกหญ้าในป่าคอนกรีต) ไม่รู้ว่าป้าจอยจะจำได้มั้ยว่าขายให้เรา - สิ่งต่อมาคือสื่อสารของเรา 2 คนแม่ลูก หม่าม๊าจะสอนหนูเสมอว่าเวลาปวดฉี่หรือปวดอึอึ๊ ให้บอกหม่าม๊า ช่วงแรกเป็นช่วงเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ของเราทั้ง 2 คน บางครั้งหนูก็บอกได้ บางครั้งก็ไม่ได้ แต่อย่างน้อยๆ หนูจะรู้ตัวเสมอว่าหนูกำลังทำอะไรอยู่ โดยส่วนใหญ่ เลาที่หม่าม๊ามาทำงาน แล้วอาม่าลั้งเลี้ยงหนูอยู่ที่บ้าน หม่าม๊าก็จะไม่ค่อยซีเรียสกับเรื่องนี้สักเท่าไหร่ เพราะอาม่าเดินไม่ค่อยคล่อง ซึ่งจะไม่ค่อยทันทำให้เวลาหนูฉี่หรืออึ แต่ถ้าเวลาหนูอยู่กับหม่าม๊า เราก็จะทันกันทุกครั้ง นี่คืออีก 1 เหตุผลที่หนูใช้เวลาในการเลิกเพิร์สนานกว่าเด็กคนอื่นๆ
หม่าม๊าก็พาหนูกินนม กินยา แปรงฟัน และฉี่เหมือนทุกๆ คืน ต่างกันที่คืนนี้จะไม่มีเพิร์สเท่านั้น และหม่าม๊าก็ตื่นมาตอนตีสองครึ่ง เพื่อปลุกหนูไปฉี่ในห้องน้ำ ซึ่งหนูก็ไม่ค่อยจะให้ความร่วมมือเท่าไหร่ เพราะน่าจะง่วงนอน
Free TextEditor เมื่อลูก ถูกรังแก...
เมื่อวานก่อนกลับจากทำงาน แวะไปซื้อโดนัท KK ไม่ใช่เพราะเห่อ แต่แค่อยากซื้อให้ ลูก พ่อ แม่ พี่ชาย และสามี ได้ลองทานกัน เพราะตั้งแต่เค้าเปิดขายมาหลายเดือน พวกเรายังไม่มีโอกาสได้ลองลิ้มรสมันเลยซักครั้ง ดังนั้นจึงไปต่อคิวซื้อ โดยใช้เวลาทั้งต่อคิว และชำระเงินไม่เกิน 5 นาที ซึ่งอาจเรียกได้ว่า เป็นคิวที่สั้นมากๆ ก็ว่าได้
นุชก็ถามแม่ว่าน้องแซนด์หกล้มเหรอ แม่เราก็พยักหน้า แต่น้องแซนด์พูดออกมาว่า "พี่เมฆผลัก" เราก็ถามแม่ว่าเมฆผลักเหรอ เพราะเราไม่อยากฟังความจากลูกข้างเดียว ซึ่งแม่เราก็ตอบว่าใช่ แม่กำลังจะพาแซนด์เข้าบ้าน ยายของเมฆก็บอกให้เมฆไปส่งน้อง เค้าก็ดันๆๆ ผลักๆๆ จนน้องแซนด์ล้มหน้ากระแทกพื้น" ซึ่งยายเค้าก็ไม่ได้ว่ากล่าว ตักเตือนหลานเค้ามากนัก เมฆ อายุ 7 ขวบ เป็นเด็กข้างบ้าน ที่เรารัก และเคยช่วยแม่เค้าเลี้ยงมาแต่อ้อน แต่ออก แต่เนื่องจาก เราและแม่ของเค้ามีเรื่องที่ทำให้เราไม่พูดกัน และเลิกคบกันไปในที่สุด แต่เราไม่เคยเอาความโกรธ และเกลียดของผู้ใหญ่มาลงที่เด็ก เพราะเด็ก จะอย่างไรก็เป็นเด็ก เค้าบริสุทธิ์เกินกว่าจะรับรู้ความบาดหมางของผู้ใหญ่ แต่แม่เค้า มักจะสอนลูกเสมอว่า เราและสามีของเรา ไม่ใช่เพื่อนเค้าอีกต่อไป ดังนั้นไม่ต้องพูดคุย หรือทักทายกับเราอีก (ทราบเพราะ เด็กเล่าให้ฟัง เพราะเค้าอยากเข้ามาเล่นที่บ้านเรา) ขออนุญาตเกริ่นเรื่อง "เมฆ" เท่านี้พอนะคะ กลับมาที่เรื่องน้องแซนด์ เค้าก็ยังพูดตลอดว่า "พี่เมฆผลัก เจ็บๆ" เราไม่ได้บอกเรื่องนี้กับสามี เพราะเราเข้าใจดีว่า สามีเป็นคนอย่างไร ถ้าบอกไปต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ เพราะสามีเราก็ไม่ชอบหน้าแม่เค้าเท่าไรนัก และเราก็แก้ไขปัญหานี้ด้วยการสอนลูกว่า อย่าไปเล่นกับเค้าอีก และอย่ารังแกคนอื่น แต่ก็อย่ายอม ให้สู้ ถ้าคนอื่นมารังแก และก็จบปัญหานี้ไปด้วยการไม่ไปโวยวายกับพ่อ แม่เค้า ก็จบกันไปเท่านี้ และประมาณ 2 ทุมครึ่ง อยู่ดีๆ น้องแซนด์ก็อาเจียรออกมาค่ะ ซึ่งเราไม่แน่ใจว่า สมองเค้าจะกระทบ กระเทือนหรือเปล่า เพราะเราไม่รู้ว่าตอนล้มนั้นล้มแรงไหม วันนี้ต้องก็ให้แม่ช่วยสังเกตอาการ ว่าเค้าซึมไหม ทานข้าวได้ไหม และอาเจียรอีกไหม ถ้ามีอาการอีก คงต้องรีบพาไปหาหมอ
และนี่ค่ะ รูปประสบการณ์ครั้งแรกกับ KK ทั้งๆ ที่เลือกลบปากของ "แซนด์แสนซน" Free TextEditor หนู 2 ขวบแล้วค่ะ
น้องแซนด์ VS ปฏิบัติการเลิกขวด ตอนที่ 2 : ชัยชนะนั้น ไม่ได้มาง่ายๆ แต่ก็ไม่ยากเกินจะพยายาม
ความเดิมตอนที่แล้ว
หลังจากคุณหมอ กำชับให้เด็กหญิงแซนด์ เลิกขวดนมให้ได้ โดยภารกิจฟิชโช่ ก็เกิดขึ้นในคืนวันที่ 7 ต.ค. 2553 โดยผ่านไปด้วยดี เริ่มต้นเช้าวันที่ 8 ต.ค. 2553 ก่อนที่นุชจะออกมาทำงาน ภารกิจก็ผ่านพ้นด้วยดี อาจมีอิดออดบ้าง แต่ตกช่วงบ่าย อาม่าทนแรงเว้าวอนของเด็กหญิงแซนด์ไม่สำเร็จ ก็เลยต้องปล่อยเลยตามเลยค่ะ ประกอบกับ นมของเด็กหญิงแซนด์ยังไม่หมด ก็เลยต้องรอให้นมหมดก่อน แล้วค่อยเริ่มต้นใหม่ 14 ต.ค. 2553 : เริ่มต้นปฏิบัติการเลิกขวดอีกครั้ง โดยในครั้งนี้ นุชเก็บอุปกรณ์ทุกสิ่งอย่างที่เกี่ยวข้องกับนมขวด โดยต้องซ่อนทั้งเด็กหญิงแซนด์ และอาม่าด้วยค่ะ -_-" วันนี้ก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ เด็กหญิงแซนด์ดูดนมจากกล่องได้ ไม่มีปัญหาค่ะ วันที่ 1 ผ่านไปด้วยดี, วันที่ 2, วันที่ 3, และวันต่อๆ มา ก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ จนถึงวันนี้ ซึ่งนับเป็นวันที่ 6 แล้ว ที่น้องแซนด์ไม่ได้ดูดขวดนม แม้แต่ก่อนนอนก็ไม่ต้องดูดเช่นกันค่ะ ซึ่งต้องบอกก่อนว่า นุชค่อนข้างที่จะโชคดี ที่เด็กหญิงแซนด์ เค้ารู้กินรู้อยู่ค่อนข้างจะเร็วน่ะค่ะ โดยเค้าเลิกนมมื้อดึกได้ตอนประมาณ 5 เดือน ซึ่งก็ลดปัญหานมมื้อดึกไปอีก 1 ข้อ โดยรวมแล้ว นุชคิดว่า การเลิกขวดนมนั้น ไม่ได้ยากลำบากเลยค่ะ เพียงแค่พ่อ แม่ ผู้ปกครองต้องมีความตั้งใจจริง เตรียมพร้อมที่จะรับมือกับปัญหาที่จะเกิดขึ้น ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรเลย เพียงแค่ทนฟังลูกร้องงอแงนิดหน่อย ผลัดกันรับมือคุณลูก เพราะถ้าเด็กงอแงมาก แม่อาจมีอารมณ์ยั๊วะได้ค่ะ 555 เพราะฉะนั้นคุณพ่อต้องพร้อมด้วยเช่นกัน ขอเอาใจช่วยนะคะ สำหรับคุณพ่อ คุณแม่ที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน 19 ต.ค. 2553 : 1 ขวบ 9 เดือน 13 วัน : ปฏิบัติการเลิกขวดสำเร็จแล้วค่ะ ![]() ![]() ![]() น้องแซนด์ VS ปฏิบัติการเลิกขวด ตอนที่ 1
7 ต.ค. 2553 :
พาน้องแซนด์ไปฉีดวัคซีนมาค่ะ พัฒนาการของเธอชนะเลิศค่ะ หมดก็ทดสอบอะไรหลายๆ อย่าง เธอก็ทำได้ แต่ที่เด็ดสุดคือ หมอให้โยนลูกบอล ก็โยนได้ค่ะ โยนบอลแล้วมันกระดอนไปไกล หมอก็บอกให้น้องแซนด์ไปเก็บ เจ้าตัวไม่เก็บ แต่กลับพูดกับหมดว่า "พี่ไปเก็บ" เล่นเอาหมอหัวเราะกร๊ากเลยค่ะ อยู่ดีๆ จะใช้หมอให้ไปเก็บบอลซะนี่ โอ๊ยลูกช้านนน...แสบจริงๆ ทำนู่น นี่ นั่น สักพัก ก็ขอดูฟัน หมอบอกว่าฟันสวยค่ะ ไม่มีผุเลย แต่ฟันล่างเริ่มยื่นนิดๆ แล้ว ก็เลยถามถึงเรื่องนมขวด แล้วติงว่าให้เลิกโดยเร็ว มิฉะนั้น เตรียมเก็บเงินค่าจัดฟันได้เลย เราก็นะ รู้ทั้งรู้ แต่ยังใจไม่แข็งพอค่ะ เนื่องจากเคยลองครั้งนึง ตอนเค้าประมาณ 1.2 ขวบ เจ้าแซนด์เศร้าไปเลยค่ะ เลยต้องพับโครงการเก็บไว้ แต่มาเมื่อคืน ก็เลยลองใหม่ค่ะ ให้เค้าดูดนมกล่อง เจ้าแซนด์เหมือนจะรู้ชะตากรรมตัวเอง ดูดได้ครึ่งกล่องหันมาบอกนุชว่า "หม่าม๊าจ๋า หมดแล้ว" พูดเสร็จก็ยื่นกล่องนมมาให้ พร้อมขอขวดนมค่ะ แต่มีรึว่าเราจะยอม ก็บอกเค้าว่า วันนี้น้องแซนด์ตกลงกับคุณหมอแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าไม่เอาขวดแล้ว เค้าก็พยักหน้า แต่ตา...ละห้อยเชียว ว่าแล้วก็ดูดนมกล่อง จนเกือบหมดค่ะ พอดูดนมเสร็จก็ไปแปรงฟัน แล้วเข้านอน ก็มีดิ้นบ้างค่ะนิดหน่อยตามสไตล์คุณเธอ สักพักก็หลับ เย้...เย้...เย้ ปฏิบัติการขั้นแรก สำเร็จไปได้ 1 ขั้น พอเมื่อเช้า เอานมกล่องให้ดูด ปรากฎว่า เหมือนเดิม มุขเดิมค่ะ ได้แค่ครึ่งกล่อง แล้วก็ไม่เอาแล้ว หันไปทานข้าวแทน ก็นะ ดีใจค่ะ ผ่านไปได้อีก 1 ขั้น ...................................................... แต่...แต่...แต่ แต่เดี๋ยวก่อน เมื่อสักครู่อยาก follow up ผลค่ะ ก็เลยโทรไปหาอาม่า ปรากฎว่า อาม่าหลงกลเจ้าแซนด์อ่ะ ทนคำอ้อนของเจ้าแซนด์ไม่ไหวอ่ะค่ะ ก็เลยชงนมใส่ขวดให้ ตอนนี้เจ๊แซนด์หลับสบาย ไปเฝ้าพระอินทร์แล้วค่ะ เฮ้อ อาม่านะ อาม่า ใจอ่อนจริงๆ เดี๋ยวนะลูก คืนนี้เราเจอกัน แล้วจะมาแจ้งผลให้ทราบเป็นระยะนะคะ พี่ ป้า น้า อา ทุกท่านขา....ช่วยเป็นกำลังใจให้น้องแซนด์กับภารกิจเลิกขวดด้วยนะคะ ![]()
|
Nuchy_Sand_A
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() Link |