เวลากับงาน VS งานกับเวลา
ครานี้มาลองดู ทฤษฎีวัตถุในถัง ของขงเบ้ง มั่งดีก่า ถ้าใครนำไปใช้แล้วรวย การงานก้าวหน้า ถ้าเป็นนักศึกษาก็จาได้เกรดดีๆ ไม่ต้องมาขอบคุณนะค๊า ให้บอกต่อคนอื่นละกัน
เอาละนะ อะแฮ่ม... ฮุ ฮุ ... ยังๆๆ ยังไม่บอก ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณท่านผู้เขียนเป็นอย่างสูงไว้ ณ ที่นี้ด้วย เนื้อหาและรูปภาพที่นำมาลงนี้มาจากเรื่อง เทคนิคการบริหารเวลาของขงเบ้ง ที่ท่านเจ้าของเรื่องเขียนไว้เป็นสไลด์ ขออนุญาตนำมาบอกต่อด้วยค่ะ เมื่อขงเบ้ง สอนเล่าปี่เกี่ยวกับเทคนิคการบริหารเวลา ทุกวันทุกคนบนโลกใบนี้มีเวลาเท่าเทียมกันคือ 24 ชม. อย่างไรก็ดี มองจากแง่มุมของเศรษฐศาสตร์เวลาของทุกคนมีคุณค่าไม่เท่ากัน การบริหารเวลาของแต่ละคนจึงหมายถึงความแตกต่างระหว่างความสำเร็จกับความพ่ายแพ้ ค่าของเวลาเกี่ยวข้องกับสมรรถภาพ ซึ่งในแง่ธุรกิจคือต้นทุน ฉะนั้นสถาบันศึกษาทุกแห่งที่สอนวิชาการบริหารธุรกิจจึงมีหลักสูตรเกี่ยวกับการบริหารเวลา
ครั้งหนึ่ง เล่าปี่ ขอขงเบ้งให้แนะนำวิธีสร้างตนเป็นอภิมหาเศรษฐีแห่งดินแดน ขงเบ้ง ว่างานใหญ่เช่นนี้ต้องวางแผนและรู้จักบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ เล่าปี่ กล่าวว่า ข้าฯเห็นด้วยในหลักการแต่ทว่าข้าฯมีงานมากมายที่ต้องทำทุกวัน จนเวียนเกล้าเวียนศีรษะไม่เคยมีเวลาพอที่จะจัดการกับทุกสิ่งทุกอย่างได้เลย ขงเบ้ง บอกให้ลูกน้องไปเตรียมก้อนหิน ก้อนกรวด ก้อนทราย และน้ำจำนวนหนึ่ง พร้อมถังเหล็กใหญ่หนึ่งใบ เล่าปี่ถามด้วยความแปลกใจ ท่านเตรียมสิ่งเหล่านี้ไว้เพื่ออะไร? ขงเบ้งยิ้มอย่างมีเลศนัย พร้อมกับตอบด้วยคำถามว่า ท่านบริหารเวลาด้วยวิธีใด?
เล่าปี่ตอบว่า ข้าฯเคยคิดว่า ข้าฯมีเทคนิคที่ดีอยู่แล้ว คือใช้วิธีมอบหมาย ข้าฯมีผู้ช่วยอยู่รอบด้านตั้งแต่ กวนอู เตียวหุย เจ้าหยุน ฯลฯ ซึ่งช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่ด้านต่างๆ แต่งานทั้งหลายก็ยังพันกันอีรุงตุงนัง ไม่สามารถปรับให้ประสิทธิภาพและประสิทธิผลดีขึ้นได้ เดิมข้าฯคิดว่าคือแมลงวันไม่มีหัวอยู่ตัวเดียว แต่หลังการใช้ระบบมอบหมายงาน กลับกลายเป็นว่าปัจจุบันบริษัทมีแมลงวันหัวขาดเป็นฝูง!! ขงเบ้งฟังแล้วจึงเริ่มอธิบายว่า เทคนิคการบริหารเวลาสามารถแบ่งเป็นสามขั้น สูง กลาง และต่ำ ขั้นต่ำ เน้นการใช้เศษกระดาษบันทึก ขั้นกลาง ใช้ตารางและโปรแกรมประจำวันซึ่งสะท้อนความสำคัญของการวางแผน ส่วนขั้นสูง เน้นการจัดการโดยแบ่งแยกประเภทของหน้าที่การงานตามดีกรี ควรเน้นการใช้แผนดำเนินงาน ตามความสำคัญของงานเพื่อพิจารณาลำดับความเร่งด่วนในการจัดการงานดังกล่าว ทั้งสามขั้นอันดับ ต่างมีเรื่องการมอบหมายงานเกี่ยวข้องอยู่ด้วยตามความต้องการของปริมาณและลักษณะเฉพาะของงานแต่ละชิ้น เล่าปี่สารภาพว่า หากพิจารณาตามการแบ่งขั้นของเทคนิคการบริหารเวลาแล้ว ข้าฯยอมรับว่าวิธีของข้าฯอยู่ที่ขั้นต่ำ เพราะใช้แค่การส่งใบ slip บันทึก ขงเบ้งชี้ไปที่ถังเหล็กกับกองวัสดุที่ผู้ช่วยได้เตรียมเสร็จไว้มุมห้องพร้อมกล่าวว่า คำตอบของการบริหารขั้นสูงอยู่ในถังเหล็กใบใหญ่นี้แหละ! ความจุของถังนี้เปรียบเสมือนขีดความสามารถของคนๆ หนึ่งในช่วงเวลาหนึ่ง ก้อนกรวด เปรียบได้กับงานที่สำคัญและเร่งด่วน ก้อนหิน คือ ภาระที่สำคัญแต่ไม่เร่งด่วน เม็ดทรายเปรียบได้กับภาระที่เร่งด่วนแต่ไม่สำคัญ และน้ำ คือหน้าที่ที่ไม่สำคัญและไม่เร่งด่วน ขงเบ้ง อธิบายพรางวาดผังประกอบคำอธิบาย ดังในตารางประกอบ ปกติท่านเน้นงานประเภทใด? ขงเบ้งถาม ก็ต้องเป็นประเภท ก. เล่าปี่ตอบอย่างไม่ลังเล แล้วงานประเภท ข. ล่ะ? ขงเบ้งถามต่อไป เล่าปี่ตอบว่า ข้าฯตระหนักถึงความสำคัญของงานประเภท ข. แต่ก็ไม่มีเวลาพอที่สนใจมัน เป็นอย่างนี้ใช่ไหม ขงเบ้งถาม พรางใส่กรวดลงไปในถังเหล็กจนเต็มแล้วพยายามใส่ก้อนหินเข้าไปซึ่งใส่ไม่ได้ เล่าปี่ตอบว่า ใช่! และหากเปลี่ยนวิธีบรรจุใหม่ล่ะ? ขงเบ้งถามต่อพลางใส่ก้อนหินทีละก้อนเข้าไปในถังก่อนจนใส่ไม่ได้แล้ว จึงถามเล่าปี่อีกว่า ตอนนี้ถังเหล็กเต็มแล้วจะใส่อะไรลงไปอีกไม่ได้ใช่ไหม? ซึ่งเล่าปี่ตอบว่า ใช่ จริงหรือ? ขงเบ้งถามแล้วหยิบก้อนกรวดใส่เข้าไปข้างบนถังแล้วเขย่าให้ก้อนกรวดตกลงไปในถังจนหมด บัดนี้ถังเหล็กใบนี้ใส่อะไรลงไปอีกได้หรือไม่? ขงเบ้งพูดพรางเทเม็ดทรายลงไปอีกจนหมด แล้วทีนี้ล่ะ? ใส่อะไรลงไปอีกได้ไหม? ขงเบ้งถามต่อไป แต่ก่อนที่เล่าปี่มีโอกาสตอบ ขงเบ้งก็ตักน้ำที่เตรียมไว้ใส่ลงไปในถังเหล็กอีกจนหมด ตอนนี้ท่านเข้าใจความหมายของการทดลองนี้แล้วหรือยัง?
เล่าปี่ตอบว่า เข้าใจแล้ว พร้อมกับถามต่อว่า นี่คือสิ่งที่ท่านกล่าวถึงเมื่อสักครู่เกี่ยวกับการจัดการแบบแยกประเภท และเลือกการจัดการก่อนหลังใช่ไหม? ขงเบ้งตอบว่า ใช่แล้ว การทดลองชี้ให้เห็นว่าหากถังเหล็กตั้งแต่แรกก็เติมเต็มไปด้วยก้อนกรวด ทรายและน้ำ ก็คงไม่มีโอกาสใส่ก้อนหินลงไปได้ แต่ถ้าใส่ก้อนหินลงไปก่อนในถังยังมีเนื้อที่ที่จะใส่สิ่งอื่นๆ เข้าไปได้อีก ดังนั้น การบริหารเวลาที่ได้ผลต้องดูว่า อะไรคือก้อนหิน อะไรคือก้อนกรวด เม็ดทราย และน้ำฯลฯ และไม่ว่าจะเป็นประการใดก็ต้องใส่ก้อนหินลงไปในถังเป็นอันดับแรก
เล่าปี่ยังถามว่า แล้วการวิเคราะห์แยกแยะเรื่องต่างๆ ออกเป็นสี่หมวดนี้มีผลอย่างไรล่ะ? ขงเบ้งตอบว่า บุคคลจำพวกที่ว้าวุ่นอยู่กับเรื่องราวประเภทก้อนกรวด ย่อมมีความรู้สึกถูกเวลากดดันและวนเวียนอยู่ในแดนวิกฤต จนอ่อนล้า พวกที่เน้นเรื่องประเภทเม็ดทรายจะขาดพลังสร้างสรรค์ ชอบฟังคำพูดเพราะหู คบคนแบบผิวเผิน พวกที่นิยมเรื่องราวประเภทน้ำมักบกพร่องเรื่องสำนึกรับผิดชอบ แม้กระทั่งเรื่องสารทุกข์สุกดิบของตนเอง เล่าปี่ถามว่า เป็นไปได้ไหมที่ว่าถ้าเน้นก้อนหินมากเกินไปจะมองข้ามก้อนกรวด เพราะก้อนกรวดมากับความเร่งด่วน? ขงเบ้งตอบ ท่านทราบไหมว่าก้อนกรวดมาจากไหน? ก็มาจากก้อนหินที่แตกสลายไง! และเสริมว่า คนที่ให้ความสำคัญกับเรื่องประเภทก้อนหินจะมีก้อนกรวดน้อย คนที่เน้นก้อนกรวดก็จะมีก้อนกรวดเยอะตลอด
ขงเบ้ง สอนต่อไปว่า คนที่อิงเรื่องประเภทก้อนหินเป็นคนมีประสิทธิภาพเพราะเขาจะเก่งในการวิเคราะห์สถานการณ์ เวลา และสิ่งแวดล้อม สามารถจับประเด็นหลักของปัญหา สามารถจัดการกับเรื่องเร่งด่วน และควบคุมสถานการณ์ไม่ให้เกินกว่าเหตุ กล้าฟันธงและใช้มาตรการป้องปราม บุคคลจำพวกนี้จะมีวิสัยทัศน์ มีอุดมการณ์ เคารพระเบียบ สามารถควบคุมตัวเอง ดำเนินชีวิตอย่างมีวินัย และสามารถทำงานชิ้นใหญ่ได้
เล่าปี่ชื่นชอบทฤษฎี วัตถุในถัง ของขงเบ้งเป็นอย่างมาก พร้อมกับสารภาพว่า มาวันนี้ข้าฯถึงเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่า การต่อสู้ของข้าฯทำไมจึงยังลุ่มๆ ดอนๆ เพราะแม้ว่าข้าฯมีขุนพลเก่งๆ เช่น กวนอูและเตียวหุย แต่พวกเขาจะก้าวหน้าได้อย่างไร ตราบใดที่คนที่มีประสิทธิภาพสูงอย่างพวกเขาจมปลักอยู่กับเรื่องจิ๊บจ๊อย กับทำงานลักษณะ เก็บเม็ดงาแต่ทิ้งแตงโม (เจี่ยนเลอจือหมาติวเลอซีกวา) ขืนดำเนินตามวิธีนี้ต่อไป ความพยายามของข้าฯที่จะเป็นอภิมหาเศรษฐีนัมเบอร์วันในแผ่นดินก็คงเป็นได้แค่ ความฝัน!
แล้วคุณละ..จัดการกับตัวเองและงานที่ทำแบบไหน? ลองนำบทเรียนเทคนิคการบริหารเวลาของขงเบ้ง ไปใช้ดูสิค่ะ ฉันเชื่อว่าจะสามารถช่วยให้เวลาของคุณมีคุณค่ามากกว่าวิธีเดิมๆเยอะเลย แล้วก็จะได้ประสบความสำเร็จเป็นอภิมหาเศรษฐีในเร็ววัน มันจะไม่ใช่แค่ฝันอีกต่อไป แต่มันคือความจริง จริงๆนะค่ะ ######## จบแล้วค๊า ทฤษฎีวัตถุในถัง ของขงเบ้ง #########
Create Date : 17 มกราคม 2552 |
Last Update : 17 มกราคม 2552 14:29:11 น. |
|
7 comments
|
Counter : 2087 Pageviews. |
|
|
อ่านแล้วได้ข้อคิดดีๆมากมาย
ขออนุญาตนำไปบอกต่อนะคะ