..ตัวละครหลัก 02..



โนบิ โนบิตะ (Nobi Nobita)

เกิดวันที่ 7 สิงหาคม ค.ศ. 2507 ราศีสิงห์ เป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว ปกติจะใส่แว่น สวมเสื้อโปโลสีเหลืองหรือสีแดงปกขาว กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน เด็กชายที่ไม่เอาไหน ทั้งเรื่องการเรียน สอบได้ 0 คะแนน มาโรงเรียนก็สายเป็นประจำ แทบจะทุกครั้ง กีฬาก็ไม่ถนัด นิสัยขี้เกียจ ขี้แย อ่อนแอ ไม่เคยพึ่งพาตัวเอง แต่เก่งในเรื่องของการยิงปืนและเล่นพันด้าย และงานอดิเรก คือ ชอบการนอนกลางวัน กับ อ่านหนังสือการ์ตูน ถือว่าเป็นตัวละครที่ไม่เอาไหนเลย แต่ก็ใช่ว่าโนบิตะจะไม่มีข้อดีเลย เพราะอย่างน้อย ๆ เขาก็เป็นคนรักสัตว์ ขี้สงสาร รักเพื่อน อารมณ์อ่อนไหว และรักยุติธรรม ยอมเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงอันตรายเพื่อช่วยมนุษย์

ในความเป็นจริงแล้ว โนบิตะเป็นที่รัก พ่อ แม่ และย่าของเขามาก แต่ด้วยวัยและสภาพครอบครัวที่ค่อนข้างเป็นแบบยุคเก่า ทำให้การแสดงออกทางความรักต่อกันมีน้อย ในเนื้อเรื่องมักจะมีการแสดงออกถึงความรักในครอบครัวในเวลาคับขัน เช่น ใครบางคนหายออกไปจากบ้านเป็นเวลา นาน ๆ หรือว่ามีใครป่วยไข้ไม่สบาย ด้วยลักษณะนิสัยที่มีมิติความเป็นมนุษย์อยู่มากเช่นนี้ จึงทำให้ตัวละครตัวนี้สามารถเข้าไปอยู่ในใจของคนทั่วโลกได้อย่างไม่ยาก โนบิตะหลงรักชิซูกะ ซึ่งอยู่ในวัยเดียวกัน มีความหวังที่จะแต่งงานด้วยเมื่อเขาโตขึ้น แต่มักจะมีอุปสรรคและมีคู่แข่งหลายคนโดยเฉพาะ เดคิสุงิ เนื่องจากชิซูกะ เป็นเด็กที่น่ารัก และด้วยความอ่อนแอของโนบิตะเอง แต่โนบิตะได้เพื่อนรัก คือ โดราเอม่อน คอยช่วยเหลือ จากการโดนกลั่นแกล้งของไจแอน และ ซูเนโอะ ทำให้เขามีความมั่นใจมากขึ้น



**-....-**-....-**-....-**-....-**



มินาโมโตะ ชิซูกะ ( Shizuka Minamoto)

เกิดวันที่ 5 เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2507 กรุ๊ปเลือด O (แต่จากข้อมูลใน “โดราเอม่อนเฮียคคะ” ที่แต่งโดย โยจิ คาตาคุระ บอกไว้ว่า เกิดวันที่ 2 ธันวาคม) เป็นเด็กผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มอาจจะเรียกว่าเป็นนางเอกของเรื่องเลยก็ได้ ปกติจะใส่เสื้อชมพู กระโปรงสั้นสีชมพู เด็กสาวน้ำใจดี กระตือรือร้น เก่งเรื่องวาดภาพและเย็บปักถักร้อย เรียบร้อย โอบอ้อมอารี และการทำคุกกี้ เป็นที่รักของทุก ๆ คน ชอบการอาบน้ำเป็นชีวิตจิตใจ แต่เสียงไวโอลินของชิซูกะนั้นแสนจะบาดหูเหลือเกิน

ชิซูกะเป็นที่หมายปองของเด็กชายในห้องเรียน โนบิตะมีความฝันที่จะได้แต่งงานกับเธอในอนาคต ชืซูกะ ชอบทานแพนเค้กมาก ดังจะเห็นได้จากตอนพิเศษในหลาย ๆ ตอนแต่ จริง ๆ แล้วอาหารที่เป็นที่ชื่นชอบมากที่สุด คือ มันเผา ซึ่งชิซูกะมีความฝันที่จะได้กินมันเผากองโตเท่าภูเขา แต่นี่ คือ ความลับที่ชิซูกะไม่อยากให้เพื่อน ได้รู้ เพราะว่าอาย



**-....-**-....-**-....-**-....-**



โกดะ ทาเคชิ ( Takeshi Goda หรือฉายาว่า ไจแอน เกิดวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2506 (ค.ศ. 1963) กรุ๊ปเลือด B เป็นลูกชายร้านขายผัก มีรูปร่างใหญ่ หัวโจกประจำกลุ่ม ชอบแกล้งโนบิตะอยู่เสมอ ชื่อในภาษาญี่ปุ่นจริง ๆ คือ ไจแอน ไม่ใช่ ไจแอนท์ ที่แปลว่า ตัวใหญ่ยักษ์ แต่อันที่จริง ตัวไจแอนก็ใหญ่เหมือนกัน แข็งแรง และหูเบา ไจแอนมักชอบแย่งหนังสือการ์ตูน กับ ของเล่นของเพื่อน ๆ อยู่เป็นประจำ ซึ่งจะมีสุภาษิตประจำตัว ที่มาจากสุภาษิตภาษาอังกฤษ ว่า ของ ๆ นาย ก็เหมือนกับของ ๆ ฉัน ของ ๆ ฉัน ก็คือ ของ ๆ ฉัน (What’s Yours Is Mine, And What’s Mine Is Mine.)
นอกจากนั้น ไจแอนยังเป็นหัวหน้าทีมเบสบอลในละแวกหมู่บ้านอีกด้วย และรักเบสบอลมาก ๆ มักจะชอบบังคับให้โนบิตะมาเข้าร่วมทีมเสมอ เพราะว่าทีมขาดคน มีน้องสาวสุดที่รัก ชื่อ ไจโกะ เขาเป็นคนที่กลัวแม่มากที่สุด ในเรื่องการเรียน ไจแอนเรียนไม่เก่งเท่ากับซูเนโอะ แต่ก็ยังเรียนดีกว่าโนบิตะ เขาชอบร้องเพลงเป็นอย่างมาก แต่เสียงไม่เอาไหนเลย และมักจะชอบบังคับให้เพื่อน ๆ มาฟังคอนเสิร์ตของเขาอยู่เสมอ อีกทั้งไจแอนยังอยากเป็นพ่อครัว แต่ฝีมือการทำงานของเขาก็ไม่ต่างอะไร ไปจากเสียงเพลงของเขาเลย

ถึงแม้ว่าดูภายนอกไจแอนจะดูเป็นเด็กอันธพาล ชอบรังแกคนที่อ่อนแอกว่า แต่จริง ๆ แล้ว ไจแอนเป็นเด็กที่อ่อนไหวง่าย ไม่ว่าจะโกรธ ดีใจ หรือ เสียใจ ก็จะแสดงความรู้สึกออกมาตรง ๆ และมีความเข้มแข็ง ในตอนพิเศษหลาย ๆ ตอนในยามที่คับขันเขาก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเพื่อน ๆ อยู่เสมอ โดยไม่ลังเล ซึ่งส่วนใหญ่จะมีให้เห็นในโดราเอม่อนฉบับภาพยนตร์



**-....-**-....-**-....-**-....-**



โฮเนะคาวา ซูเนะโอะ (Suneo Honekawa) เกิดเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2508 (วันเกิดไม่ทราบแน่ชัด แต่ในช่วงแรกเรากำหนดให้เกิดในปี พ.ศ. 2506) กรุ๊ปเลือด AB
ซูเนโอะ ถูกออกแบบมาให้มีลักษณะของคนเจ้าเล่ห์ คล้าย ๆ กับสุนัขจิ้งจอก ปากแหลม ชอบยุให้ไจแอนรังแกโนบิตะ ซูเนโอะเป็นคนทีชอบคุยโอ้อวด เนื่องจากเป็นคนที่มีฐานนะร่ำรวย เชี่ยวชาญทางด้านการเล่นมายากลและหมุนจาน สิ่งที่เพื่อน ๆ อยากได้ เขามีครบทุกอย่าง เป็นนักสะสมของเล่น มักจะมีของเล่นแพง ๆ มาอวดเพื่อนอยู่เสมอ ๆ และมักจะหาเรื่องแกล้งโนบิตะบ่อย ๆ มีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักออกแบบเสื้อผ้า มีน้องชายชื่อ สเน็ก (Sunetsugu-ซูเนสึกุ) ซึ่งอยู่ในอุปการะของคุณลุงของเขาเองที่ นิวยอร์ก ประเทศ สหรัฐอเมริกา

ในบางตอน ซูเนโอะ ชอบแสดงความหลงตัวเองออกมาให้เห็น ด้วยการชอบส่องกระจกและชื่นชมตัวเองว่า เป็นชายที่หล่อที่สุดในโลก เนื่องจากเขามีรูปร่างที่เล็กที่สุดในกลุ่ม จึงรู้สึกว่าเป็นปมด้อยของเขาอยู่ตลอดเวลา ความลับอย่างหนึ่งของซูเนโอะ คือ เขามักจะปัสสาวะรดที่นอนอยู่เป็นประจำ ถึงแม้ว่าเขาจะโตจนเรียนระดับ ป.4 แล้วก็ตาม ซูเนโอะจึงต้องใส่ผ้าอ้อมก่อนนอน ซูเนโอะเป็นคนที่ติดแม่มาก ๆ เพราะว่าแม่ของซูเนโอะเลี้ยงเขามาอย่างตามใจ และมักจะเรียกซูเนโอะ ว่า คุณซูเนโอะ ในโดราเอม่อนฉบับภาพยนตร์หลาย ๆ ตอน เมื่อเจอเหตุการณ์ที่เลวร้าย ซูเนโอะมักจะเป็นคนแรกที่ร้องไห้หาแม่ก่อนใคร ๆ

เคยมีการตั้งข้อสังเกตว่าบ้านซูเนโอะรวยจริงหรือไม่ เพราะว่าในทุก ๆ ตอนที่บ้านของซูเนโอะไปเที่ยวตากอากาศที่ฮาวาย มักจะประสบปัญหาบังกะโลหลังคารั่ว เรือยอร์ชเสีย รถเสีย อยู่เป็นประจำ และพ่อกับแม่ของซูเนโอะ ที่อยู่ในเหตุการณ์นั้น ๆ ก็มักจะบ่นออกว่า “ของถูก ๆ ก็อย่างนี้แหล่ะ“ ซึ่งก็อดคิดไม่ได้ว่าบ้านโฮเนคาวา รวยจริงหรือไม่



**-....-**-....-**-....-**-....-**


ขอขอบคุณข้อมูลดีดีอย่างโลกอินเตอร์เนต

ผิดพลาดประการใดช่วยชี้แนะด้วยนะคะ




 

Create Date : 08 กันยายน 2552    
Last Update : 11 กันยายน 2552 14:36:04 น.
Counter : 6584 Pageviews.  

..ตัวละครหลัก 01..



1. โดราเอม่อน ( Doraemon ) หุ่นยนต์แมวจากโลกอนาคต ในยุค ค.ศ. 22 เกิดวันที่ 3 กันยายน พ.ศ.2655 (ค.ศ. 2112) ลักษณะตัวอ้วนกลม สีฟ้า (แต่ตอนแรกเกิดมีสีเหลือง) ไม่มีใบหู เนื่องมาจากโดนหนูแทะ มีหน้าที่เป็นหุ่นยนต์พี่เลี้ยงซึ่งคนที่ซื้อมา คือ เซวาชิ เหลนของโนบิตะ วันหนึ่งเซวาชิ เกิดอยากรู้สาเหตุที่ฐานนะทางบ้านยากจน จึงได้เดินทางกลับไปยังอดีตด้วย ไทม์แมชชีน จึงได้รู้ว่า โนบิตะ (ผู้เป็นทวด) เป็นตัวต้นเหตุนั่นเอง เซวาชิจึงได้ตัดสินใจให้โดราเอม่อนย้อนเวลา มาคอยช่วยเหลือดูแลโนบิตะ เวลาที่โนบิตะโดนแกล้ง ด้วยของวิเศษจากกระเป๋า 4 มิติ


ข้อมูลจำเพาะของโดราเอม่อน
เป็นความตั้งใจของผู้วาดโดราเอม่อนที่ใช้ตัวเลข 3-9-12 กับตัวละครนี้ โดราเอม่อนจึงมีอะไรหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับเลขชุดนี้



1. มีน้ำหนัก 129.3 กิโลกรัม



2. ความสูง 129.3 เซนติเมตร (แต่เวลานั่งจะเหลือ 100 เซนติเมตร)



3. กระโดดได้สูง 129.3 เซนติเมตร (เวลาเจอหนู)
4. มีพละกำลัง 129.3 แรงม้า



5. วัดรอบหัว รอบอก รอบเอว ได้ 129.3 เซนติเมตร



6. วิ่งปกติในระยะทาง 50 เมตร ใช้เวลา 15 วินาที แต่ถ้าเจอหนูจะสามารถวิ่งได้เร็วถึง 129.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
7. วันที่ผลิตคือ ปีที่ 12 เดือน 9 วันที่ 3 (เรียงแบบปฏิทินญี่ปุ่น)


ส่วนประกอบในร่างกาย



เนื่องจากเป็นหุ่นยนต์แมวที่ผลิตขึ้นมาในอนาคต คือ คริสศตวรรษที่ 22 ตามจินตนาการของผู้แต่งและผู้วาด โดราเอม่อนจึงถูกผลิตขึ้นมาด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้



1. ตา (EYES)
ตาแสงอินฟราเรด สามารถมองเห็นได้ แม้แต่ในที่มืด

2. จมูก (NOSE)
มีลักษณะเป็นลูกกลม ๆ สีแดงเหมือนกับปลายทาง มีความไวในการรับรู้กลิ่นได้ไวกว่ามนุษย์ 20 เท่า แต่ปัจจุบันชำรุด จึงสามารถดมกลิ่นได้เท่ามนุษย์เท่านั้น

3. หนวด (WHISKERS)
มีอยู่ 6 เส้น ซึ่งเป็นหนวดเรดาร์ สามารถจับวัตถุระยะไกได้ แต่อยู่ระหว่างซ่อมแซม

4. ร่างกาย (BODY)
ผิวหนัง ซึ่งเป็นโลหะผสมพิเศษที่มีการต้านแรงดึงดูด จึงทำให้ฝุ่นละอองไม่สามารถจับเกาะได้ นอกจากนี้ยังมีความทนทานสูงมาก แม้ว่าจะอยู่ในอวกาศหรือใต้ท้องทะเลลึกก็ไม่มีปัญหา (จากตอนพิเศษ “ตะลุยปราสาทใต้สมุทร“) โดนของเหลวคล้ายกรดสาดก็ไม่ละลาย (จากตอนพิเศษ “ไซอิ๋ว“) แต่มีข้อเสียหลายอย่างเช่นกัน คือ แพ้อากาศร้อน (จากตอนพิเศษ “ตะลุยปราสาทใต้สมุทร“) และแพ้อากาศหนาว จนถึงเป็นไข้หวัดได้ (จากตอน “นางฟ้านำทาง“) หากโดนไฟฟ้าช๊อตก็จะเสียหาย (จากตอนพิเศษ “บุกอาณาจักรเมฆ“ และ “ฝ่าด่านเขาวงกต“)

5. มือ (HAND)
รูปร่างกลมสีขาวไม่มีนิ้วมือ จึงไม่สามารถเล่นพันด้าย และ เป่ายิ้งฉุบ ได้ แต่ก็สามารถดูดจับสิ่งของได้ทุกอย่าง จริง ๆ แล้วโดราเอม่อนถนัดทั้ง 2 มือ แต่ส่วนใหญ่มักจะใช้แต่มือขวา ไม่ค่อยจะใช้มือซ้ายเท่าไหร่นัก

6. ปาก (MOUTH)
ปากขนาดกว้าง สามารถรับประทานได้ทุกอย่าง โดยจะเปลี่ยนเป็นพลังงานปรมาณู ภายในปากจะมีฟันที่เรียกว่า “ฟู้ดคัตเตอร์” ซึ่งปรากฏให้เห็นเฉพาะเวลาที่โดราเอม่อนโกรธจนต้องยิงฟันเท่านั้น แต่ในตอนพิเศษ “ไดโนเสาร์ของโนบิตะ 2006” โดราเอม่อนกลับถูกวาดให้มองเห็นซี่ฟันอย่างชัดเจน

7. กระพรวน (BELL)
ไว้ห้อยคอ มีสีเหลือง ส่วนสายคาดมีสีแดง เมื่อสั่นกระพรวนจะสามารถเรียกแมวที่อยู่ใกล้เคียงชุมนุมกันได้ โดยจะปล่อยคลื่นเสียงพิเศษ แต่น่าเสียดายตอนนี้ยังใช้งานไม่ได้

8. กระเป๋าหน้าท้อง (POCKET)
กระเป๋า 4 มิติ ไว้สำหรับเก็บของวิเศษ พื้นที่ในการเก็บของมีอย่างไม่จำกัด สามารถถอดออกไปทำความสะอาดได้ โดยระหว่างนั้น จะนำเอากระเป๋า 4 มิติ ใบสำรอง หรือมักจะเรียกว่า “กระเป๋าสำรอง” ซึ่งกระเป๋าทั้งสองใบนั้น จะมีมิติที่เชื่อมต่อกัน ของที่เอาใส่ใบหนึ่ง จะสามารถนำออกมาจากกระเป๋าอีกใบหนึ่งได้
9. เท้า (FEET)
ลักษณะแบนเรียบ สีขาว มีพลังต้านแรงดึงดูด ส่งผลให้เท้าลอยจากพื้น 3 มิลลิเมตร เลยไม่จำเป็นที่จะต้องใส่รองเท้า เพราะว่าไม่มีผงฝุ่นติดเท้า เดิมทีเท้าโดราเอม่อนนั้นจะเป็นแบบที่เดินได้ โดยไม่มีเสียงเหมือนกับแมวย่อง แต่ปัจจุบันชำรุดไปแล้ว ทำให้เวลาเดินจึงมีเสียง ซึ่งเกิดจากแรงเสียดสีกับอากาศ
เวลาขี่จักรยาน ต้องใช้ปากจับแฮนด์ และใช้มือถีบที่ปั่นแทน เนื่องจากขาหยั่งไม่ถึง (จากตอน “จิโซ เทพเด็กทิ่มสวรรค์“)

10. หาง (TAIL)
เป็นสวิตซ์ปิด–เปิด ถ้าถูกดึง ทุกอย่างจะหยุดทำงาน โดราเอม่อนสามารถดึงหางเพื่อเป็นการปิดสวิตซ์ตัวเอง แต่ก็ไม่สามารถดึงเพื่อเป็นการเปิดได้


สิ่งที่ชอบ และ สิ่งที่เกลียด
สิ่งที่ชอบมากที่สุด คือ ขนมหวานญี่ปุ่นที่เรียกกันว่า โดรายากิ (แป้งทอด) โดยจะสามารถกินโดรายากิ ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก (ขนาดใหญ่เท่าห้องของโนบิตะ) ได้คนเดียวหมด และเคยชนะเลิศการแข่งขันกินโดรายากิเร็วมาแล้วด้วย สาเหตุที่ชอบกินโดรายากินั้น เป็นเพราะสมัยอยู่ในศตวรรษที่ 22 โดราเอม่อนเคยได้รับโดรายากิจากแมวสาว “โนราเมียโกะ” มันจึงกลายเป็นของโปรดตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา เขาสามารถทำได้ทุกอย่าง โดยไม่เลือกวิธีการเพื่อให้ได้โดรายากิมา หากได้ยินว่าร้านไหนมีขายโดรายากิลดราคาก็จะรีบบึ่งไปซื้อมาในทันที ซึ่งจากความชอบจนกลายเป็นของโปรดนี่เอง จึงทำให้โดราเอม่อนจะให้ความสำคัญกับเรื่องรสชาติความหวานของโดรายากิเป็นอย่างมาก เขามักจะมีเรื่องถกเถียงกับเจ้าของร้านขนมบ่อยครั้ง ในเวลาที่ร้านทำโดรายากิออกมาหวานเกินไป
นอกจากโดรายากิแล้ว อาหารอย่างอื่นที่โดราเอม่อนชอบ ก็คือ ขนมโมจิ ซึ่งเคยได้กินในตอนแรกสุด ที่เพิ่งเดินทางมาหาโนบิตะด้วยไทม์แมชชีน โดยเมื่อโดราเอม่อนได้กิน ก็บอกว่าอร่อยมาก ขนาดกินจนหมดแล้ว ยังถึงกับเลียจานเลยทีเดียว
ส่วนสิ่งที่โดราเอม่อนเกลียดและกลัวที่สุด ก็คือ หนู เพราะว่าเคยโดยหนูกัดจนหูแหว่งไปทั้ง 2 ข้าง ตอนที่หลับอยู่ นอกจากนั้นก็ยังกลัว แฮมสเตอร์ ด้วย (จากตอนพิเศษ “กำเนิดประเทศญี่ปุ่น”) เพราะว่าโดราเอม่อนถือว่าเป็นสัตว์ในตระกูลเดียวกับหนู


ขอขอบคุณ ข้อมูลดี ๆ จากโลกอินเตอร์เน็ต

ผิดพลาดตรงไหนช่วยบอกด้วยนะคะ




 

Create Date : 26 สิงหาคม 2552    
Last Update : 26 สิงหาคม 2552 11:19:14 น.
Counter : 2998 Pageviews.  

..ต้นกำเนิดโดราเอมอน ภาค การ์ตูน..

ต้นกำเนิด
โดราเอม่อน ถูกผลิตขึ้นมา ในโรงงานสร้างหุ่นยนต์ที่เมืองโตเกียว เมื่อวันที่ 3 กันยายน ค.ศ. 2112 (พ.ศ. 2655)



โดยโดราเอม่อนนั้น เป็นหุ่นยนต์ที่สร้างมาเพื่อเลี้ยงเด็ก ๆ เท่านั้น แต่ในระหว่างการผลิตเกิดข้อผิดพลาดขึ้น คือ ในขณะที่ทำการผลิตอยู่นั้นได้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรขึ้น จึงทำให้โดราเอม่อนจะหล่นลงไปในเตาหลอมขยะ แต่ก็ได้รับการความช่วยเหลือจาก โดราเนียโกะ



และโดราเนียโกะได้มอบขนมแป้งทอด หรือ โดรายากิ ให้กับโดราเอม่อน



เพื่อเป็นการฉลองวันที่โดราเอม่อนถือกำเนิดขึ้นมา (ซึ่งเหตุนี้เอง ที่ทำให้โดราเอม่อนชื่นชอบโดรายากิเป็นอย่างมาก)

หุ่นยนต์ที่ถูกผลิตขึ้นมานั้น ต้องผ่านการเรียนรู้ขั้นพื้นฐานก่อน ต้องเข้ารับการฝึกอบรม แต่เนื่องจากอุบัติเหตุครั้งนั้น จึงทำให้โดราเอม่อนมีคุณสมบัติไม่เหมือนหุ่นยนต์แมวตัวอื่น ๆ และได้ถูกครูใหญ่เรียกตัวเข้าพบ และให้ย้ายไปห้องเรียนคลาสพิเศษของโรงเรียนหุ่นยนต์ เป็นห้องที่รวบรวมหุ่นยนต์ที่มีปัญหาเอาไว้ (และได้พบกับเพื่อน ๆ แก๊ง ขบวนการโดราเอม่อน ที่นั่น)
และต่อมา โดราเอม่อนและเพื่อนทั้ง 6 คน ก็ได้รวมพลังกัน เป็นโดราเอม่อน ทีม และมีการ์ดแห่งเพื่อนอยู่ เพื่อสามารถติดต่อถึงกันได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ยุคใดก็ตาม (ซึ่งหาอ่านได้จาก หนังสือการ์ตูนของ Line Art Planning (ไม่มีลิขสิทธิ์) และของเนชั่น)



จนกระทั่งวันหนึ่ง ในงาน “โรบอท ออดิชั่น” ซึ่งเป็นานที่จัดให้มีการแสดงความสามารถของหุ่นยนต์ที่ผ่านการฝึกอบรมมาแล้ว เพื่อที่จะรับการติดต่อไปทำงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่ต้องการ เพื่อน ๆ ในชั้นเรียน มีคนมาติดต่อไปหมด



เหลือแต่โดราเอม่อนเป็นคนสุดท้าย เมื่อโดราเอม่อนแสดงจบ



ได้มีสัญญาณจากเด็กคนหนึ่ง ซึ่งเกิดจากความซุกซนของเซวาชิในวัยเด็ก เขาจึงได้กดปุ่มเลือกซื้อโดราเอม่อนมาไว้ที่บ้าน



ด้วยเหตุนี้เอง โดราเอม่อนจึงได้มาอยู่อาศัยที่บ้านของเซวาชิ ในฐานนะหุ่นยนต์พี่เลี้ยงเด็ก (จากตอนพิเศษ “กำเนิดโดราเอม่อน ปี 2112“) แต่ในต้นฉบับดั้งเดิมนั้นจะแตกต่างกัน คือ โดราเอม่อนได้ถูกนำไปทอดตลาด เพราะเป็นสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ จากนั้นพ่อแม่ของเซวาชิจึงมาซื้อโดราเอม่อนไปไว้ที่บ้าน
แต่เดิมนั้น โดราเอม่อนมีสีเหลือง และมีหู แต่แล้วในวันที่ 30 สิงหาคม ค.ศ. 2122



ขณะที่ เชวาชิอยู่ชั้นประถม ครูได้สั่งให้ปั้นดินน้ำมันส่ง เซวาชิจึงตัดสินใจ ปั้นโดราเอม่อนขึ้นมา แต่ก็ปั้นพลาดตรงหู จึงได้ใช้ให้หุ่นยนต์หนู ไปทำให้หูของรูปปั้นเหมือนกับของโดราเอม่อน



แต่หุ่นยนต์เข้าใจผิด กลับไปกัดหูโดราเอม่อนซึ่งนอนหลับอยู่ ก็โดนหนูแทะใบหูจนแหว่งไปทั้ง 2 ข้าง และไม่สามารถซ่อมแซมให้ได้เหมือนเดิม



หลังจากรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล



หุ่นยนต์แมว “โดราเนียโกะ“ แฟนสาวของโดราเอม่อนได้มาเยี่ยม แต่พอทราบว่าโดราเอม่อนไม่มีหู เหลือแต่หูกลม ๆ โดราเนียโกะถึงกับหัวเราะเป็นการใหญ่



ทำให้โดราเอม่อนเสียใจเป็นอย่างมาก แต่พยายามทำใจด้วยการกินยาเสริมกำลังใจ แต่ว่าโดราเอม่อนหยิบผิด กินยาโศกเศร้าแทน ทำให้ยิ่งโศกเศร้ากว่าเดิม และเริ่มร้องไห้ไม่หยุด



จนสีลอกเปลี่ยนเป็นสีฟ้า อย่างที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบัน หลังจากนั้นโดราเอม่อนจึงเกลียดและกลัวหนูเป็นอย่างมาก และไม่ค่อยมีความมั่นใจในเรื่องความรัก และโดรามี ก็ออกมาปลอบใจและบอกกับโดราเอม่อนว่าตัวเองเป็นน้องสาวของโดราเอม่อน (โดรามี ที่จริงก็แค่ใช้เศษเหล็กแบบเดียวกัน กับโดราเอม่อนในการผลิต แต่ว่าโดรามีใช้น้ำมันรุ่นใหม่กว่า)



ในด้านเซวาชิได้ออกตามหาโดราเอมอน ในขณะที่ตามหาอยู่นั้น ได้มีผู้ก่อการร้ายซึ่งกำลังหนีตำรวจจับเป็นตัวประกันไว้ โดราเอมอนก็ได้ไปช่วยออกมา (จริง ๆ แล้วไม่ได้ช่วยหรอก หลังจากที่หนีออกมา โดราเอมอนตั้งใจจะดื่มน้ำยาร่าเริง แต่หยิบผิดเป็นน้ำยาเศร้าโศก และเมื่อพบกลับโดรามีก็จะกินน้ำยาร่าเริงอีกครั้ง แต่ดันกลายเป็น น้ำยาเร่งความเร็ว ทำให้ต้องวิ่งไปเรื่อย ๆ จนไปชนยานของผู้ก่อการร้ายพัง) หลังจากจับผู้ร้ายได้แล้ว ทางครูใหญ่ได้จัดการฉลองให้โดราเอมอน และมอบหุ่นยนต์มินิโดราให้เพื่อเป็นเกียรติแก่โดราเอมอนที่จับผู้ร้ายได้



โดราเอมอนตั้งใจจะให้ของขวัญแก่เซวาชิบ้าง จึงคิดที่จะกลับไปโลกอดีตเพื่อแก้ไขบรรพบุรุษของเซวาชิให้ดีขึ้น และที่นี่เอง โดราเอมอนกับ โนบิตะ ได้พบกันเป็นครั้งแรก


ขอขอบคุณ ข้อมูลดีดีจากโลกอินตอร์เนตค่ะ

มีตรงไหนผิดพลาด รบกวนช่วยบอกด้วยนะคะ




 

Create Date : 18 มิถุนายน 2552    
Last Update : 18 มิถุนายน 2552 17:46:18 น.
Counter : 2125 Pageviews.  

..ผลงานของ อ.ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ 03..

..ต่อค่ะ ต่อ..

21. ท็อปปี้ ยอดสุนัขอวกาศ (1978-1979; the boyhood; 少年時代)



ท็อปปี้เป็นสัตว์เลี้ยงต่างดาวที่ถูกนำมาทิ้งไว้ยังโลกเพราะพ่อแม่ของเจ้าของไม่ให้เลี้ยง ท็อปปี้จึงต้องออกหาเจ้านายและที่อยู่ใหม่ และได้พบกับโคซากุ เด็กหนุ่มที่ชอบประดิษฐ์สิ่งของ ทั้งสองถูกชะตากัน โคซากุจึงนำท็อปปี้มาเลี้ยงที่บ้านโดยท็อปปี้เป็นคนสอนวิทยาการในการสร้างสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ ให้กับโคซากุเป็นการตอบแทน

22. กัปตันบอง



กัปตันบอง เป็นลูกชายคนเดียวของ ด.ร.มารุยามะ อัจฉริยะนักประดิษฐ์แต่ก็มีนิสัยเหมือนเด็ก ๆ ดร.ได้สร้างอุปกรณ์วิเศษให้กัปตันบองลูกชายของตน กับสามสหายสิ่งประดิษฐ์ คือ นกฮัมมิ่งเบิร์ด มุก สัตว์เลี้ยงหน้าตาคล้ายสุนัข และกรบองวิเศษมีชีวิต กัปตันบองและสามสหายพร้อมด้วย ไม เพื่อนหญิงจึงช่วยกันปราบปรามผู้ร้าย

23. จูโปโกะ



จูโปโกะ เป็นสิ่งมีชีวิตหน้าตาคล้ายมังกร เดินทางออกมาท่องเที่ยวในวันหยุดเรียนจนมาพบโลก และได้พบกับซึโตมุ เด็กชายที่กำลังหาสัตว์เลี้ยงอยู่แต่แม่ไม่ให้เลี้ยง แต่พ่อของซึโตมุเป็นคนชอบสัตว์ประหลาดจึงอนุญาตให้จูโปโกะอยู่ด้วย

24. รวมเรื่องสั้นชุดกล้องมหัศจรรย์



โยโคบะ เซลแมนขายกล้องจากโลกอนาคต เดินทางกับทัวร์ในอนาคตที่ชื่อ “กู๊ด โอลด์ เดย์” เพื่อมาท่องเที่ยวโลกในอดีต โดยมาอาศัยอยู่ที่แมนชั่นที่กำลังจะทุบทิ้งกับฟุโตมิชายตกงานที่ไม่มีที่ไป หลายวันผ่านไป โยโคบะ เกิดเป็นโรคเพราะไม่มีภูมิต้านทานโรคในอดีตทำให้ต้องนอนโรงพยาบาลนานหลายเดือน ทำให้ไม่สามารถกลับโลกอนาคตได้ เขาจึงต้องขายกล้องจากโลกอนาคตประทังชีวิตไปในแต่ละวัน ซึ่งกล้องแต่แบบที่เขาขายล้วนแต่มีอำนาจมหัศจรรย์แตกต่างกันทั้งสิ้น

25. เจ้าป่าคุโรเบ้



คุโรเบ้ ลูกชายหัวหน้าเผ่าจากประเทศปิริมี่ ได้เกาะเครื่องบินมาจากแอฟริกาแล้วเกิดตกลงบนหลังคาบ้านของชิชิโอะ ชิชิโอะจึงปฐมพยาบาลและให้อาหาร ซึ่งคุโรเบ้ต้องทดแทนบุญคุณให้กับชิชิโอะก่อยจึงจะสามารถเดินทางกลับบ้านได้ คุโรเบ้จึงใช้เวทย์มนต์ของตนช่วยเหลือชิชิโอะเพื่อตอบแทนบุญคุณแต่ดูเหมือนจะสร้างความวุ่นวายให้กับชิชิโอะมากกว่า

26. บีลีเก้น



บีลีเก้นเป็นสุนัขประหลาดที่สามารถบินได้ ได้มาพบกับทัตซึโอะและเท็ตซึโอะสองพี่น้องที่กำลังอยากได้สัตว์เลี้ยง บีลีเก้นถูกชะตากับสองพี่น้องจึงขออาศัยอยู่ที่บ้านนี้และคอยช่วยเหลือทัตซึโอะด้วยอำนาจวิเศษ

27. โดบินสันผจญภัย

โดบินสันเป็นมนุษย์ต่างดาวที่เดินทางไปยังอวกาศเพื่อทำการบ้านช่วงปิดเทอมแต่ยานที่เดินทางกลับประสบอุบัติเหตุ โดบินสันจึงอาศัยยานขนาดเล็กที่เป็นหุ่นยนต์ในตัวชื่อโรโบโตะหนีออกมาได้และถูกแรงดึงดูดของโลกดูดลงมาตกยังหลังคาบ้านของมาซารุ โดบินสันจึงต้องอาศัยอยู่กับมาซารุชั่วคราวเพื่อรอยานมารับกลับดาวบ้านเกิด

28. อุลตร้าบี



อุลตร้าบี เด็กทารกใส่แว่นกันแดดจากอวกาศได้ปรากฏตัวขึ้นและอาศัยอยู่ที่บ้านของมิจิโอะ อุลตร้าบีมีพลังพิเศษที่เอาไว้คอยช่วยเหลือมิจิโอะ อุลต้าบีมีความสามารถพิเศษอีกอย่างคือการเล่นไพ่ซึ่งไม่เคยแพ้ใครเลยแต่มีจุดอ่อนตรงที่กลัวแมวดำ

29. รวมเรื่องสั้นของ ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ



ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ ได้เขียนเรื่องสั้นเอาไว้มากมายหลายสิบเรื่อง มีทั้งเรื่องราวของความเชื่อ วิทยาศาสตร์ อวกาศ วิญญาณ มนุษย์ต่างดาว ซึ่งเรื่องสั้นแต่ละเรื่องนั้นก็แฝงด้วยแง่คิดต่างๆ มากมายและเต็มไปด้วยสาระอีกด้วย


ขอขอบคุณข้อมูลดีดีจากโลกอินเตอร์เนตค่ะ

หากมีข้อผิดพลาดก็ขออภัย หากใครมีอะไรเพิ่มเติมบอกนะคะ




 

Create Date : 29 พฤษภาคม 2552    
Last Update : 31 พฤษภาคม 2552 3:25:41 น.
Counter : 1396 Pageviews.  

..ผลงานของ อ.ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ 02..

11. มามิ สาวน้อยมหัศจรรย์ (1977-1982; エスパー魔美)



ซากุระ มามิ เด็กหญิงที่มีพลังจิต (เอสเปอร์) ซึ่งถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษ แต่เจ้าตัวเองไม่รู้ตัวว่ามีพลังพิเศษนี้ แต่ด้วยความช่วยเหลือจาก ทาคาฮาตะ เพื่อนชายหัวดี และกลมป๊อก สุนัขหน้าตาเหมือนแรคคูนสัตว์เลี้ยงของเธอ ทำให้เธอเองได้ค้นพบพลังนี้และพัฒนาพลังของเธอเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นที่เดือดร้อน

12.ตำรวจกาลเวลา



นามิฮิร่า ปอง ได้ล่วงรู้ความลับของ ตำรวจกาลเวลา เข้าโดยบังเอิญ แต่ด้วยเหตุการณ์ไม่คาดฝันทำให้เขาเองต้องมาเป็นหนึ่งในสมาชิกขององค์กรนี้ องค์กรที่ต้องทำหน้าที่เข้าไปสู่ช่วงเวลาต่าง ๆ ทั้งในอดีตและอนาคตเพื่อช่วยเหลือผู้คนในประวัติศาสตร์โดยต้องไม่ทำให้ประวัติศาสตร์เปลี่ยนแปลงไป โดยมี รีม สาวน้อยรุ่นพี่เป็นพี่เลี้ยงปองในการปฎิบัติภารกิจนี้

13. จิมปุย (1985, 1987-1988; チンプイ)

href="//www.bloggang.com/data/k/kookjung/picture/1243590467.gif" target=_blank>

เอริ เด็กหญิงธรรมดาคนหนึ่งได้ถูกรับเลือกให้เป็นเจ้าหญิงดาวมาลเจ้าชายแห่งดาวมาลจึงได้ส่งทูตจากดาวมาลมาชื่อจินปุย โดยจินปุยเป็นพ่อมดวิเศษที่สามารถใช้เวทย์มนต์วิทยาศาสตร์ได้ จินปุยพยายามใช้เวทย์มนต์ช่วยเหลือเอริหลายต่อหลายครั้ง สำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้างเพื่อให้เอาชนะใจเอริให้ไปดาวมาลเพื่อเป็นราชินี


ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ (เอ.)

14. นินจาฮัตโตริ (1964-1968, 1981-1988; 忍者ハットリくん)



ฮาโตริ คันโซ เดินทางจากบ้านเกิดที่อิงะเพื่อออกมาฝึกวิชาในโลกกว้าง เขาได้มาขออาศัยกับเคนอิจิ เด็กชายที่จิตใจดีแต่ไม่ค่อยได้เรื่องได้ราวเท่าไหร่ ฮาโตริจึงต้องเป็นทั้งเพื่อนและพี่เลี้ยงคอยดูแลเคนอิจิโดยใช้วิชานินจาสารพัดแบบ รวมถึงน้องชายอย่างชินโซ และสุนัขชิชิมารุที่มาขอร่วมอาศัยอยู่ที่บ้านของเคนอิจิด้วย

15. ไคบุตสึ (1965-1969, 1980-1982; 1972; 怪物くん)

//www.bloggang.com/data/k/kookjung/picture/1243590548.gif>

ไคบุซึ ทาโร่เจ้าชายจากโลกปีศาจ พร้อมด้วยสมุนอย่าง แฟรงค์เกนสไตน์, แดร็กคิวล่าและมนุษย์หมาป่า ได้เดินทางจากโลกปีศาจมาตามคำสั่งของราชาแห่งปีศาจเพื่อมาศึกษาโลกมนุษย์ ไคบุซึได้พักอยู่ที่ปราสาทร้างใกล้ๆ กับห้องเช่าของฮิโรชิ ทั้งสองจึงเป็นเพื่อนกันโดยที่ฮิโรชิต้องเจอกับปีศาจ และสัตว์ประหลาดมากมายที่แวะเวียนเข้ามาหาไคบุซึ

16. ฟูตะ ลูกจ้างยอดอัจฉริยะ (1968-1971, 1989-1996; smiling salesman; 笑ゥせえるすまん)



ฟูตะ ออกเดินทางเพื่อรับจ้างหาเงินเลี้ยงชีพโดยตั้งเป้าไว้ที่ หนึ่งล้านเยน ฟูตะต้องรับจ้างงานสารพัดทั้งงานแปลกๆ พิสดาร บางครั้งก็มีทั้งที่ต้องเสียเงินแทนที่จะได้ค่าจ้าง แต่จากการทำงานแต่ละครั้งก็ช่วยให้ฟูตะ เป็นผู้ใหญ่ยิ่งขึ้น

17. เฮนดายูแห่งเมืองมาโบโร่ (1970-1972, 1977-1982, 1986; 1986-1988; 1989-1990, 1995 - ; the road to a comic artist;まんが道)



ครอบครัวของอะคุโอะ กำลังเดินทางไปเยี่ยมญาติที่ต่างจังหวัดแต่พ่อได้ขับรถหลงทางเข้าสู่เมืองประหลาดเมืองหนึ่ง เมืองมาโบโร่ เมืองที่ไม่มีทางออกมองไปทางไหนก็มีแต่บ้านสุดลูกหูลูกตา ที่เมืองมาโบโร่ อะคุโอะได้พบกับเฮนดายูตัวประหลาดที่สามารถหายตัวไปมาด้วยร่มได้และหมาบินได้โกซานน์ เมื่อหาทางออกไม่ได้ครอบครัวของอะคุโอะจึงจำยอมที่จะอาศัยอยู่ที่เมืองนี้ การ์ตูนเรื่องนี้คือต้นแบบการ์ตูนเรื่องเฮนเบะกับร่มวิเศษในยุคต่อมา

18. เฮนเบะ กับร่มวิเศษ (1972-1975; Mataro is coming;魔太郎がくる!!)



เฮนเบะ เป็นสิ่งมีชีวิตในโลกพาราเรลเวิร์ล ซึ่งเป็นอีกมิติหนึ่ง วันหนึ่งเฮนเบะได้พลัดตกลงมาตามน้ำตกในโลกพาราเรลเวิร์ลซึ่งเชื่อมโยงมาสู่โลกมนุษย์โดยผ่านทางตู้เสื้อผ้าในห้องของ เมเงรุ เฮนเบะจึงขออาศัยอยู่ที่บ้านเมเงรุชั่วคราวจนกว่าจะหาทางเปิดประตูมิติเวลาในตู้เสื้อผ้าเพื่อกลับไปยังโลกของตน เฮนเบะมีพลังพิเศษจากร่มของเขาทั้งใช้บินและล่องหนไปที่อื่นได้ด้วย

19. มิราเคิล วัน (1974-1980; 1982-1988; 1989; 1999 - ; プロゴルファー猿)



มนุษย์ต่างดาวจากดาวดวงหนึ่งเกิดอุบัติเหตุขณะเดินทาง ตกลงมายังโลกมนุษย์ จึงได้ยืมร่างของ วัน สุนัขของ มิราอิ เพื่อใช้ติดต่อสื่อสารกับมิราอิ วันได้มองอุปกรณ์วิเศษที่ช่วยให้มิราอิและคุรุมิ เพื่อนหญิงของมิราอิ สามารถเหาะได้และมีพลังพิเศษ ทั้งสามจึงร่วมมือกันช่วยเหลือผู้เดือดร้อนภายใต้ชื่อว่า มิราเคิลวัน

20. ป๊ะป๋าซุปเปอร์แมน (1976-1977; Henkiro's Shadow Company; シャドウ商会変奇郎)



ซาเอไน ซุปเปอร์ไวเซอร์ คุณพ่อลูกหนึ่งพนักงานกินเงินเดือนธรรมดาๆ ของบริษัทแห่งหนึ่ง ได้พบกับชายแปลกหน้าที่มอบชุดซุปเปอร์แมนให้ เพื่อปราบปรามเหล่าร้าย ซึ่งเป็นการมอบภารกิจสืบทอดกันมาตั้งแต่อดีต ซึ่งซาเอไนเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะมารับบทบาทนี้ เขาเองก็ไม่ได้ยินดีที่จะรับบทบาทนี้แต่ด้วยจิตใจอันดีงามของเขาเองที่ยอมเหนื่อยเพื่อปกป้องผู้ที่กำลังเดือดร้อน

..มีต่อตอนที่ 3 ค่ะ..

ขอขอบคุณ ข้อมูลจากโลกอินเตอร์เนตค่ะ




 

Create Date : 29 พฤษภาคม 2552    
Last Update : 31 พฤษภาคม 2552 3:04:30 น.
Counter : 1770 Pageviews.  

1  2  

kookjung
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




รักโดราเอมอน รักอาราเล่ รักกงยู รักคอฟฟี่ ปริ้นซ์ รัก Avenged Sevenfold รักการท่องเที่ยว
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kookjung's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.