รักเรียน รักเล่น รักสนุก รักเสียงเพลง รัก "iPod"
Group Blog
 
All blogs
 

"Spirit" เดี๋ยวนี้ อยู่ที่ไหน??

ครับ จากเมื่อวันพุธที่ผ่านมา UEFA Champions League แมตช์แรกได้เสร็จสิ้นลงไปตามๆกัน บางคู่ก็ตามคาดอยู่แล้วครับ ส่วน Manchester United ยังคลำเป้าไม่เจอ อันนี้ต้องดูกันต่อไป ลิเวอร์พูลก็สวมบท Last Shot At Last Minute กำชัยชนะมาได้

แต่ประเด็นที่จะเขียนในวันนี้คือ สปิริตของการเล่นกีฬามันหายไปไหนกัน?


ใครที่ดูคู่ระหว่าง Fiorentina และ Lyon คงจะทราบกันดีนะครับว่าเป็นอย่างไร ตอนนี้คงอื้อฉาวไปทั่วโลกละครับ เพราะเกิดขึ้นในเวทีรายการใหญ่ที่ทุกคนก็รู้จักดี

เรื่องมันมีอยู่ว่า

นาทีที่ 73 (Fiorentina นำอยู่ 2-1) นั้น Zauri ของ Fiorentina นอนเจ็บอยู่ใกล้กับประตูตนเอง เนื่องจากถูกชนกับตัวประกบของทีมตนเอง นอนลงไปเจ็บกับพื้น (เจ็บจริงครับ ทราบภายหลังว่า มึนจนไม่ได้สติเลย ต้องหามออก)

พอลียงได้บอลปุ๊ป จึงต่อบอลสั้นๆ ไปปากประตู โดยจูนินโญ่จ่ายทะลุช่องให้คาริม เบนเซม่า และจ่ายให้กับเฟรเดริกแปเข้าไปเน้นๆ


ตอนแรกผมนึกว่าล้ำหน้าไปแล้ว เพราะวิ่งรอบอลแบบเด็กอนุบาลรอบอลมาเลยครับ แต่ผมเห็น Zauri ของฟิออนอนอยู่ อ๊าว ทำไมไม่เตะทิ้ง ? แล้วกรรมการทำอะไร ? ทำไมไม่เป่าหยุดเกม

สุดท้าย ลียงเสมอกับฟิออเรนตินา 2-2 1แต้มกับความอัปยศที่ประกาศให้ชาวโลกเห็น





จากนั้นคาริม เบนเซม่า และพวกพ้องก็ได้แสดงอาการดีใจและสะใจแบบเกินหน้าเกินตา นี่หรือสปิริต ?

คือมองได้ 2 แบบครับ

ถ้าสปิริต:


ทำไม ลียงเห็น เซารี่นอนเจ็บอยู่ จึงไม่เตะทิ้งหยุดเก็ม ทั้งๆที่กรรมการไม่เป่า ก็ควรจะแสดงน้ำใจนักกีฬาออกมา เจ็บจริง ไม่ใช่แกล้งเจ็บ เกิดเขาหัวใจวายขึ้น ประตูที่ได้มันน่าดีใจนักหรือ? ของแบบนี้ ไม่ใช่รอกรรมการ นักกีฬาทั่วโลก เขาเตะทิ้งหยุดเกม เป็นการแสดงสปิริตมีน้ำใจนักกีฬา ผมขอไม่เหมารวมเบนเซม่าคนเดียว ต้องทั้งทีมละครับ แต่เบนเซม่าแสดงอาการดีใจออกนอกหน้าเหมือนเยาะเย้ยฝ่ายตรงข้าม เป็นการกระทำที่น่าเกลียดมากๆ อย่าอ้างว่าเขาอายุน้อย จิตสำนึกไม่ได้อยู่ที่อายุครับ



โฉมหน้าเจ้าเบนเซม่า (เสื้อเหลือง)



ถ้ามองที่กรรมการ และกฎ :

ตามกฎ การหยุดเกมไม่หยุดเกม อยู่ที่ดุลยพินิจของกรรมการ แต่จังหวะนี้ เซารี่นอนเจ็บนานแล้ว ทำไมจึงไม่หยุด ? เหมือนเป็นการให้ความได้เปรียบลียงซึ่งเป็นเจ้าบ้านไปเต็มๆ เป็นการตัดสินที่น่าเกลียดมาก พลิกแฟ้มปูมหลังกรรมการคนนี้ เคยตัดสินให้ ฟาน นิสเตอรอย ยืนล้ำหน้า ในยูโร 2008 ทั้งๆทีทำประตูเข้าไปแล้ว

บางที คำจำกัดความของกีฬา อาจเป็นเพียงแค่คำว่า "ชัยชนะ" โดยไม่สนว่า สปิริตจะมีไว้เพื่ออะไร โลกเดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปเยอะจริงๆ

แล้วธง Fair Play ที่กางโทงๆกลางสนามก่อนเริ่มแข่ง จะกางเพื่ออะไรหละครับ ในเมื่อนักกีฬายังไม่มีสปิริต ธงก็คือผ้าสีเหลืองธรรมดาผืนหนึ่ง







[ด้านล่างคือลิงค์ของคลิปคู่นี้ครับ]
//www.totalkickoff.com/video.php?vid=131




ส่วนนี่เป็นอีกตัวอย่าง ที่ความไร้สปิริตเกิดขึ้นที่บอลโลก ที่เกาหลีใต้ได้เป็นที่4 ในครั้งนั้น แล้วคุณจะได้รู้ว่า บอลโลก 2002 ที่เกาหลีได้ที่4 มันน่าอัปยศจริงๆ ไม่ขอเล่า โปรดดูด้วยตัวเอง แล้วคำตอบจะบอกตัวมันเอง [คลิปตามลิงค์ข้างล่างครับ]

https://www.youtube.com/watch?v=tEjI_6q9B_8&eurl=//www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=106684&postdays=0&postorder=asc&start=30




กรรมการอ่อนแอ นักกีฬาไร้สปิริต แล้วความหมายของคำว่า กีฬาคือ รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย มีน้ำใจนักกีฬาคืออะไร?

แล้วว่างๆ ผมจะให้ดูคลิปที่มีสปิริตมาลงนะครับ




 

Create Date : 19 กันยายน 2551    
Last Update : 19 กันยายน 2551 19:37:14 น.
Counter : 454 Pageviews.  

ปฏิวัติ ในแมนเชสเตอร์ ซิตี้

ถอดรหัส จัดระเบียบ
โดย Ben Freekick



กระแสการเข้ามาเทคโอเวอร์ของเศรษฐีนักธุรกิจเคยเงียบๆไปพักนึงหลังการมาของโรมัน อับราโมวิชและดูโอมะกันแต่ตอนนี้ชื่อของดร.ซุไลมาน อัล ฟาฮิมกลายเป็นที่รู้จักทั่วโลกหลังเข้ามากว้านกิจการ"เรือใบ"แมนเชสเตอร์ ซิตี้ต่อจากเศรษฐีที่รวย(น้อยกว่า)อย่างพ.ต.ท.ดร. ทักษิณ ชินวัตร

หลายคนเริ่มหวั่นใจกันถ้วนหน้าเพราะหากคนรวยที่มีเงินเหลือใช้จนถึงชาติหน้านึกสนุกแห่กันมาครอบครองสโมสรในอังกฤษหรือทั่วยุโรปมันก็จะกลายเป็นสงคราม"เงินตรา"มากกว่าเรื่องกลไกลของฟุตบอลที่ดำเนินมาช้านานตั้งแต่ยุคขาวดำ



สุดท้ายแล้วผลกระทบตามมามันไม่ใช่ผลดีแน่นอน นักเตะรับค่าเหนื่อยเกินจริงทั้งๆที่ปัจจุบันเรตแสนปอนด์ต้นๆก็น่าจะเพียงพอแล้วและอีกไม่ช้าพวกดาวรุ่งที่ต้องการเวลาพัฒนาฝีเท้าก่อนขึ้นยึดตำแหน่งตัวจริงอย่างสม่ำเสมออาจไม่เป็นที่ต้องการเพราะส่งลงสนามก็เท่ากับส่งไปตายเมื่อเจอกับแข้งทองคำ 20-30 ล้านปอนด์ซึ่งเป็นสินค้าสำเร็จรูปที่พวกเศรษฐีกว้านซื้อเข้ามา

ความโกลาหลจะเกิดขึ้นแน่หากแต่ละสโมสรมองว่าอยู่ต่อไปอาจพ่ายแพ้ถูกลอยแพจากทีม"นายทุน"และอ้าแขนรับนายทุนอย่างเต็มใจ

ถึงเวลานั้นฟุตบอลอาจไม่ใช่ฟุตบอลที่เราเคยรู้จึกอีกต่อไปครับ....



//////////////////////////////////


โทนี่ คาสคาริโน่ : คนรวยแห่ซื้อทีมฟุตบอล...มันจะไปหยุดตรงไหน?

ผมขับรถไปเที่ยว Cote d’Azur (รีสอร์ทชั้นนำของโลกติดทะเลในฝรั่งเศส)กับภรรยาและเราก็คุยกันถึงเรื่องการเป็นเจ้าของบ้านซักหลังแถวนี้ เธอก็บอกผมว่าเมื่อไม่นานมีชาวรัสเซียคนนึงซื้อบ้านหลังนึงทางตอนใต้ของฝรั่งเศสในราคา 400 ล้านปอนด์ ตลกน่าใครจะจ่ายเงินเยอะขนาดนั้นฟ่ะ?

ประเด็นคือมีพวกร่ำรวยเหลือกินเหลือใช้ล้นโลกไปหมด พวกเขากลัวขี้หดตดหายว่าเดี๋ยวจะไม่ได้ใช้เงินและพวกเขามีหลักในชีวิตไม่เหมือนอย่างเราๆท่านๆ คุณคิดว่าอหังสาริมทรัพย์มันอยู่ในช่วงพีคก็คงต้องปล่อยให้มันเป็นไป

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเดี๋ยวก็ต้องมีใครซักคนต้องใช้เงินมากกว่าคนรัสเซียที่ว่าซื้อบ้านซักหลังในแถบนั้น โรมัน อับราโมวิชก็เพิ่งถูกเขี่ยตกกระป๋องด้วยการถูกเกทับซื้อนักเตะด้วยเงินที่มากกว่าเป็นครั้งแรก

รออีกไม่นานจะมีคนที่รวยกว่าและมีอำนาจมากกว่าคุณเข้ามาแทนที่ นี่คือสาเหตุที่ทำให้ระดับของฟุตบอลชั้นนำสืบสานแผ่กว้างออกไปและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ

นี่คือสัปดาห์ที่บ้าคลั่งที่สุดของวงการลูกหนังเท่าที่ผมจำได้เลยล่ะ....แมนเชสเตอร์ ซิตี้,เควิน คีแกน,อลัน เคอร์บิชลีย์ เหลืออีกอย่างที่จะทำให้มันเพอร์เฟคไปเลยนั่นคืออันดอร์ร่าพลิกล็อกเอาชนะอังกฤษ ฮา

ถ้าซิตี้สโมสรดาดๆของพรีเมียร์ลีกสามารถยกระดับตัวเองเป็นเชลซีทีมใหม่แล้วแบบนี้มันจะไปจบที่ตรงไหนกันหว่า? เอฟเวอร์ตันจะเป็นรายต่อไปที่ถูกนักธุรกิจพันล้านเข้ามาเทคโอเวอร์เพื่อเป็นแมนนซิตี้ทีมใหม่ด้วยหรือเปล่า?

มันน่าอัศจรรย์นะ...สิ่งหนึ่งที่แน่ๆคือพวกสโมสรใหญ่ๆของยุโรปคงหวั่นใจกันไม่น้อย ถ้าเราต้องได้ดูรอบชิงแชมเปียนส์ลกที่อังกฤษเจออังกฤษกันอีกรอบผมว่ายูฟ่าคงจะอยู่ภายใต้ความกดดันที่ต้องทำอะไรซักอย่างไม่ว่าจะการบังคับใช้กฏเพื่อลิมิตอำนาจของแต่ละสโมสรในพรีเมียร์ลีก

สโมสรอื่นๆในยุโรปจะเอาอะไรมาสู้ในเมื่อพวกเศรษฐีไม่อยากไปลงทุนกับพวกเขาแต่หันมาเลือกทีมในอังกฤษกันหมด? ถ้ามองในทางกลับกันหากมันเกิดขึ้นในลีกอิตาลี เราเองก็คงว้าวุ่นใจเหมือนกันแน่นอน

มีหลายคนเคยพูดไว้หลายปีแล้วล่ะว่าฟุตบอลจะเกิดฟองสบู่แตกจนกลับมาเผชิญหน้ากับความเป็นจริงอีกครั้งแต่ผมไม่ยักกะเห็นสัญญาณที่ว่าเลย ไม่เห็นจะใกล้เคียงอะไรเลย มันยิ่งกลายเป็นเทรนด์ที่หลายคนตามกันมาอย่างสนุกสนาน

ผมเคยเขียนคอลัมน์เมื่อไม่นานนี้บอกก่อนปี 2010 เราจะมีผู้เล่นที่ได้รับค่าเหนื่อย 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ลองดูตอนนี้สิมันอาจเกิดขึ้นได้ในต้นปีหน้านี้ด้วยซ้ำ ทุกๆคนต่างมีราคาค่างวดในตัวเองทั้งนั้นและถ้าซิตี้ซิวตั๋วไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกซีซั่นหน้าได้ล่ะพวกซูเปอร์สตาร์จะตบเท้าสตั๊ดเรียงคิวมาแจมโรบินโญ่แน่นอน

และวันนึง,ลองนึกภาพกันดูนะ อับราโมวิชตัดสินใจขายเชลซี เขาคงมองว่าคงพาทีมมาได้ไกลแค่นี้แล้ว เขามองหาคนที่รวยกว่าเพื่อมาต่อกรกับซิตี้

ถ้าอับราโมวิชลดบทบาทเป็นเจ้าของสโมสรที่ถูกจำกัดอยู่ในวงแคบซึ่งเหมือนกับบิล เคนไรท์กับเอฟเวอร์ตัน? ทำไมมันจะเกิดขึ้นไมได้ นั่นคือสิ่งที่กำลังจะเดินไปในทิศทางนั้น



อ้างอิง: //www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=104842




 

Create Date : 08 กันยายน 2551    
Last Update : 8 กันยายน 2551 13:39:44 น.
Counter : 309 Pageviews.  


iKD
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชอบเล่น ชอบเที่ยว ชอบอยู่กับเพื่อน เรียนก็เต็มที่ สนุกก็สุดขีด รักเสียงเพลง รักดนตรี และ สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ "iPod"
DoOm8Kendo
Friends' blogs
[Add iKD's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.