เล่าประสบการณ์ท่องเที่ยวในต่างประเทศ
ตามหาโฮสเทล 5 ดาวที่ Copenhagen









วันนี้ตั้งใจออกจากสวีเดนแบบไม่รีบร้อนนัก ก็เลยนอนตื่นสายหน่อย ลงไปเช็คเอ๊าท์แล้วจัดการอาหารมื้อเช้าตุนให้อิ่มก่อนเดินทาง จากนั้นก็เดินไปสถานีรถไฟ อาการเจ็บที่ข้อมือขวาเกิดขึ้นอีกครั้งเวลาลากกระเป๋าเนื่องจากพื้นถนนที่เป็นหินขรุขระ



ฉันเข้าไปซื้อตั๋วรถไฟที่เคาน์เตอร์ ค่าตั๋วจาก Malmö ไปโคเปนฮาเกนราคา 119SEK แต่ที่เช็คมาจากอินเตอร์เน็ตเมื่อวานนี้ราคาค่าตั๋วแค่ 107SEK เท่านั้น อย่างที่บอกคือ ยิ่งซื้อใกล้หรือซื้อในวันเดินทางราคาจะสูงขึ้น อย่างกรณีนี้ถือว่าวันเดียวราคาสูงขึ้นกว่า 10% เลยทีเดียว



Malmö-Copenhagen มีรถไฟออกทุก 20 นาที ซื้อตั๋วเสร็จฉันเหลือบดูนาฬิกาเห็นเหลือเวลาอีกแค่ 8 นาทีที่รถไฟขบวนถัดไปก็จะออก เลยต้องรีบลากกระเป๋ากึ่งวิ่งกึ่งเดิน เนื่องจากชานชาลาจะอยู่อีกฟากหนึ่งของเคาน์เตอร์ขายตั๋ว ขึ้นไปหาที่นั่งเรียบร้อยก็นั่งหอบแฮ่กๆ



เส้นทางรถไฟระหว่างเมืองมาลเมอประเทศสวีเดนไปเมืองโคเปนฮาเกนประเทศเดนมาร์กนั้น มีสะพาน Oresundเชื่อมระหว่างประเทศโดยข้ามทะเลบอลติค  Oresund เป็นสะพานที่มีความสวยงามติดอันดับหนึ่งในสิบของโลก หากมองภาพทางอากาศจะเห็นว่าสะพานไปแค่กลางทะเลเท่านั้น ส่วนต่อไปก็จะเป็นการลอดอุโมงค์ใต้ทะเลข้ามไปยังฝั่งเดนมาร์ก ดูคลิปด้านล่างนะคะ



คลิปประวัติการก่อสร้างสะพาน Oresund เชื่อมความสัมพันธ์สวีเดน-เดนมาร์ก



ไม่นานนักรถไฟก็เริ่มเคลื่อนเข้าสู่ประเทศเดนมาร์ก วิ่งผ่านสถานี Kobenhavns Lufth Kastrup (สนามบินโคเปนฮาเกน) ก่อนที่จะถึงตัวเมืองของเดนมาร์ก รวมใช้เวลาเดินทางข้ามประเทศราว 35 นาทีเท่านั้น



จากสถานีรถไฟฉันมองหาป้าย Tourist Information หรือ Visitors Center แล้วก็เดินตามป้ายไป ปรากฏว่าศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอยู่นอกสถานี ต้องข้ามถนนไปอีกราวสองช่วงตึก บรรยากาศภายในดูทันสมัยน่าใช้บริการมาก มุมหนึ่งของด้านหน้าเป็นร้านกาแฟและเบเกอรี่สำหรับนักเดินทาง มีชั้นวางแผนที่และหนังสือแนะนำสถานที่เที่ยวต่างๆ ในเดนมาร์กให้เลือกหยิบ พร้อมทั้งมีอินเตอร์เน็ตให้บริการอยู่หลายเครื่อง



หลังจากเลือกหยิบแผนที่ที่ต้องการได้แล้ว ก็มองหา Danhostel Copenhagen City ที่ฉันจองเอาไว้แล้วในแผนที่ หาไม่ยากค่ะ แต่เพื่อความแน่ใจก็จะเข้าไปขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ว่าควรใช้เส้นทางไหน เพราะฉันตรวจสอบมาคร่าวๆ ว่าระยะทางห่างจากสถานีรถไฟราวหนึ่งกิโลเมตร จึงตรงเข้าไปกดบัตรคิว ยืนคอยนานพอสมควร เนื่องจากนักท่องเที่ยวบางคนสอบถามนานกว่า 10 นาที แต่เจ้าหน้าที่ก็ดูอัธยาศัยดี ยิ้มแย้มและพยายามตอบทุกคำถามอย่างใจเย็น




พอถึงคิว ฉันก็ยื่นแผนที่ให้เจ้าหน้าที่พร้อมกับชี้จุดให้ดูว่า จากที่นี่จะไป Danhostel Copenhagen City ได้อย่างไร ต้องนั่งรถฝั่งไหน เจ้าหน้าที่สาวได้ยินก็แค่เหลือบมองแล้วบอกว่า ให้นั่งรถเมล์สาย 30 โดยไปขึ้นที่หน้าสถานีรถไฟ พร้อมกันนั้นฉันก็ขอซื้อบัตร Copenhagen Card 24 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ก็ถามว่าจะเริ่มใช้วันไหน เวลากี่โมง ตอนนั้นราว 11.20 น. พอฉันบอกว่า "now" เธอก็ย้อนถามว่า 11 โมง หรือ 12 โมง ให้เลือกเวลาใดเวลาหนึ่ง ...



โอ๊ย!!! ทำไมการท่องเที่ยวเดนมาร์กเขี้ยวจังเลยเนี่ย นี่ถ้าจะใช้ในทันทีก็ต้องเลือก 11 โมง ขาดทุนไปเกือบครึ่งชั่วโมงแน่ะ ...เท่าที่ผ่านมาบัตรของประเทศอื่นๆ มักจะลงเป็นนาทีไว้ด้วย ทำให้นักท่องเที่ยวไม่ขาดทุนชั่วโมงการใช้งาน ...อิอิ บ่นไปอย่างนั้นแหละค่ะ เพราะอย่างไรเสียฉันก็ควักบัตรเครดิตจ่ายไป 229DKK อยู่ดี




บัตร Copenhagen Card 24 ชม. 


จากจุดบริการนักท่องเที่ยวก็เดินย้อนกลับไปที่สถานีรถไฟใหม่ เพื่อรอรถเมล์สาย 30 ตามที่เจ้าหน้าที่บอก ...เอาล่ะสิ!! ที่จุดรอรถเมล์ปรากฏว่ามันเป็นเกาะกลางที่มีรถเมล์วิ่งมาทั้งสองฝั่ง จะขึ้นฝั่งไหนล่ะ เพราะไม่รู้ว่าสาย 30 ต้นสายปลายสายอยู่ทางไหน แอบไปยืนดูแผนที่ที่ติดอยู่บริเวณป้ายรถเมล์ ดูไม่ออกจริงๆ ค่ะ ก็เลยตัดสินใจถามสองสาวที่เข็นรถเด็กน้อยมาด้วย เพราะคิดแล้วว่าน่าจะเป็นคนในพื้นที่มากกว่าคนรอที่หิ้วกระเป๋าเดินทาง ปรากฏว่าเดาผิดค่ะ เพราะเธอทั้งคู่ไม่รู้เหมือนกัน แต่น่ารักมาก เพราะพยายามมองหาว่าตรงจุดที่เรายืนเป็นถนนช่วงไหน ชี้ไปตรงโน้นบอกว่าเป็นสวนสนุกทิโวลี เพราะฉะนั้นฉันน่าจะขึ้นฝั่งที่หันหน้าเข้าหาสถานี แต่เธอก็บอกว่าไม่แน่ใจในคำตอบสักเท่าไหร่นะ SmileySmiley



พอรถเมล์สาย 30 มาจอดปุ๊บ ฉันก็เลยลากกระเป๋าวิ่งไปหาคนขับรถเมล์ กางแผนที่ให้ดูและบอกว่าจะไป Danhostel คนขับบอกว่าต้องขึ้นอีกฝั่งนึง อิอิ เกือบไปแล้วสิคะ พอหันมายืนรออีกฝั่งก็ต้องรออีกพักไหญ่เลยค่ะ สงสัยว่ารถเมล์สาย 30 นี่ ชั่วโมงนึงคงจะวิ่งแค่ไม่กี่คัน เพราะสายอื่นๆ ไม่กี่นาทีก็มาคันนึงแล้ว สักพักรถเมล์สาย 30 ก็วิ่งมาเทียบป้าย สองสาวเมื่อสักครู่ก็ขึ้นก่อน (อ้าว! ไปไหนกันล่ะเนี่ย) ฉันขึ้นตามก็จ๊ะเอ๋กับหนุ่มคนขับรถเมล์คันเมื่อกี้นี้เอง คงวนเข้าอู่แล้ววิ่งวนมาอีกฝั่งมั้ง ...แต่เพื่อความแน่ใจฉันก็บอกคนขับว่าถ้าถึงแล้วให้ช่วยบอกด้วย หนุ่มคนขับก็บอกว่าเดี๋ยวให้ลงที่ป้าย Bella Center 



อืมมม... ทำไมมันนานและไกลจังแฮะ



ฉันแอบคิดในใจ เพราะระยะทางจากสถานีรถไฟไปโฮสเทล มันแค่หนึ่งกิโลเมตรเอง น่าจะนั่งไม่เกิน 10 นาที แต่นี่รู้สึกเหมือนรถวิ่งออกนอกเมือง นึกแง่ดีในใจไว้ก่อนว่า รถเมล์มันคงวิ่งอ้อมรับคนมั้ง นี่ถ้าเดินจากจุดบริการนักท่องเที่ยวไปโฮสเทลก็คงใช้เวลาไม่เกิน 20 นาทีแหละ



เอ๊ะ!! เริ่มเหลียวไปมองผู้โดยสารคนอื่นในรถ ลงกันเกือบหมดคันแล้วนี่นา แอบบ่นคนขับหนุ่มในใจว่า "ลืมเรารึเปล่าหว่า!!" ก็พอดีเห็นป้าย Bella Center คนขับจอดและเหลือบมองหน้าฉันผ่านกระจกรถเหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้ ฉันก็เลยรีบลุกลงทันที



โครงการก่อสร้างบริเวณ Bella Center


โอ๋ยยย!!! ใจหายค่ะ เพราะก้าวลงจากรถเมล์ไปแล้ว อดรู้สึกตำหนิตัวเองไม่ได้ว่ามัวแต่คิดประหยัดค่าโรงแรมจะมาพักโฮสเทล นี่เจอดีแล้วกระมังเนี่ย ใจก็เต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ หันซ้ายหันขวา มันไม่มีผู้คนเลยนะ มองเห็นแต่ไซต์งานก่อสร้าง เออ...แล้วจะไปซ้ายไปขวาล่ะเนี่ย



พยายามนึกว่า เมื่อสักครู่รถเมล์คันที่นั่งมาวิ่งต่อไปทางขวา เพราะงั้นก็ควรจะเดินต่อไปทางซ้ายละกัน เดินผ่านไซต์งานก่อสร้างเห็นมีคนงานผู้ชายอยู่เยอะ แต่ไม่กล้าเดินเข้าไปถามค่ะ ตัดสินใจมั่วเอาดีกว่า มองหาถนนใหญ่ ก็เห็นรถบรรทุกวิ่งมาหลายคัน ค่อยยังชั่วหน่อย เริ่มใจชื้นขึ้นล่ะค่ะ แต่จะไปทางซ้ายหรือไปทางขวาดี ...มองเท่าไหร่ก็ไม่เห็นตึกสูงๆ ของแดนโฮสเทลระดับ 5 ดาวที่จองไว้


...กำลังถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก็เจอหญิงชายชราคู่นึงเดินผ่านมา นึกดีใจว่าคุณพระช่วยทันเวลาจริงๆ พอบอกว่ากำลังมองหา Danhostel Copenhagen City อยู่ ทั้งคู่ก็บอกว่าอยู่อีกฝั่งหนึ่งของถนนใหญ่ ฉันรีบขอบคุณพร้อมกับจ้ำอ้าว เพราะแดดหลังเที่ยงค่อนข้างแรงแม้ว่าจะอากาศจะหนาวก็ตามที



เดินออกไปถึงถนนสายหลักก็เห็นป้ายสัญลักษณ์สามเหลี่ยมสีฟ้าของ International Hostel แล้ว แต่พยายามมองหาตึกสูงก็ยังไม่เห็นเลย ยิ่งเดินเข้าไปก็ยิ่งรู้ว่าไม่ใช่โฮสเทลที่จองมา น่าจะเป็นคนละที่กัน แล้วก็เริ่มมองเห็นป้าย Danhostel Copenhagen Amager แต่ตอนนั้นก็ตัดสินใจเดินเข้าไปพักเหนื่อยด้านในก่อนล่ะ เพราะเหงื่อท่วมตัวจนนึกว่าอยู่ในฤดูร้อนเสียอีก


นี่ล่ะค่ะ รสชาติของการท่องเที่ยวด้วยตัวคนเดียวแบบนี้ เรียนรู้ผิดถูกเองทุกอย่าง



Danhostel Copenhagen Amager เป็นโฮสเทลระดับสามดาว หนึ่งในสี่ของแดนโฮสเทลโคเปนฮาเกน แต่อยู่นอกเมืองออกมา บรรยากาศที่นี่เงียบมากเลยค่ะ พอเดินเข้าไปด้านในเจ้าหน้าที่แผนกต้อนรับก็เปิดหน้าต่างบานพับขึ้นทักทาย ฉันพักหอบให้หายใจคล่องหน่อยแล้วก็บอกกับเขาว่า จองที่พักไว้กับ Danhostel Copenhagen City คิดว่าน่าจะเป็นคนละแห่งกับที่นี่ จะหาทางไปได้ยังไง อยู่ไกลรึเปล่า



หนุ่มแดนโคนมให้คำตอบแบบที่ฉันรู้อยู่แล้วว่าโฮสเทลที่มองหาอยู่ไม่ใช่ที่นี่จริงๆ ด้วย เพราะที่ฉันจองมามันอยู่ในเมือง ...แฮ่ะๆ ไม่ต้องย้ำก็ได้ สงสัยตั้งแต่นั่งรถเมล์แล้วว่าทำไมมันไกลจัง ...พอบอกว่าเจ้าหน้าที่ที่จุดบริการนักท่องเที่ยวเป็นคนบอกให้ขึ้นรถเมล์สาย 30 ไป Danhostel Copenhagen City หนุ่มคนนี้ก็น่ารักมากค่ะ ขอโทษขอโพยแทนที่ฉันต้องลำบาก แต่พอถามว่าต้องนั่งรถเมล์สายอะไรไป หนุ่มคนนี้ก็บอกไม่แน่ใจ แต่ให้ออกไปขึ้นรถเมล์ที่ถนนสายหลักแล้วนั่งเข้าเมืองไปก่อน



เทียบระยะทางไป Danhostel Copenhagen City



ฉันนั่งรถเมล์ย้อนกลับไปตั้งหลักที่สถานีรถไฟ นั่งรถเมล์สาย 5A (ภาพบนขวา) แล้วเดินอีกนิดหน่อยก็ถึงโฮสเทล ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีก็มองเห็นตึกสูงของ Danhostel Copenhagen City ตั้งตระหง่านอยู่ ส่วนภาพบนซ้ายเป็นเส้นทางจากสถานีรถไฟไปยัง Bella Center จะเห็นว่าห่างไกลออกไปนอกเมืองเยอะเลย




Danhostel Copenhagen City โฮสเทลระดับ 5 ดาว ที่มองหา


เข้าเช็คอินกับเจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์ก็เกือบจะบ่ายโมงแล้วค่ะ ฉันจองและชำระเงินล่วงหน้ามาเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ขอดูเพียงพาสปอร์ตและขอเก็บบัตรสมาชิก Hostelling International เอาไว้ก่อน จะคืนให้ตอนเช็คเอ๊าท์ จากนั้นก็รับถุงพลาสติกมาหนึ่งถุง ของข้างในมีผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ปลอกผ้านวมและผ้าเช็ดตัว สะอาดสะอ้าน ไม่มีกลิ่นดีค่ะ พูดถึงการสวมปลอกผ้านวมตามโฮสเทลต่างๆ นี่ เที่ยวเองครั้งแรกดูจะเป็นอุปสรรคอยู่บ้างเพราะใส่ไม่เป็น แต่นี่ทริปที่สามแล้วดูเหมือนจะเป็นเรื่องปลอกกล้วยเข้าปากไปเลยค่ะ  



ส่วนบัตรสมาชิกของสมาคมบ้านพักเยาวชนนี่ คนที่คิดเที่ยวเอง อาจจะนอนโรงแรมบ้าง นอนโฮสเทลบ้าง ฉันว่าการสมัครสมาชิกตลอดชีพโดยจ่ายเพียงแค่ 1,500 บาทเนี่ย ก็ยังคุ้มค่าแก่การลงทุนอย่างมากนะคะ




คราวนี้ฉันไม่มีปัญหาเรื่องห้องนอนรวมเหมือนวันแรกที่เช็คอินโฮสเทลในสตอกโฮมแล้วค่ะ เพราะที่นี่ระบุชัดเจนว่าแยกห้องชายหญิง ฉันจองมาแบบห้อง 6 เตียง ห้องพักอยู่ชั้น 6 ระบบรักษาความปลอดภัยที่นี่ค่อนข้างสูง เพราะแม้กระทั่งลิฟท์โดยสารก็ต้องใช้คีย์การ์ด ในห้องนอนก็สะอาด ดูสบายตา มีห้องน้ำในตัว ตอนฉันเช็คอินยังไม่มีคนอื่นเข้าพักในห้อง เลยสามารถเลือกเตียงนอนได้ก่อน ...ล็อคเกอร์ที่นี่ต้องใช้กุญแจดอกใหญ่คล้องนะคะ ถ้าไม่ได้เตรียมมา ก็เช่าได้ที่เคาน์เตอร์ด้านล่าง



บริเวณโถงทางเดินก่อนเข้าห้องพัก 



สภาพห้องพักรวมขนาด 6 เตียงของ Danhostel Copenhagen City


ไว้จัดการทำธุระส่วนตัวและพักผ่อนให้หายเหนื่อยก่อน ค่อยออกไปเที่ยวกันต่อนะคะ








Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 2 มีนาคม 2554 0:15:49 น. 3 comments
Counter : 3104 Pageviews.

 
ห้องตกแต่งกะทัดรัดดีจังค่ะ....น่านอนเหมือกันนะเนี่ย


โดย: auau_py วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:7:20:07 น.  

 
ห้องน่ารักดีค่ะ


โดย: Junenaka1 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:11:13:09 น.  

 
@auau_py คห.1

@Junenaka1 คห.2

ขอบคุณที่แวะมาดูห้องของแดนโฮสเทลนะคะ ห้องสะอาดสะอ้าน กว้างขวาง ไม่อึดอัด
บรรยากาศโดยรวมน่าพักมากๆ ค่ะ


โดย: แฮปปี้มีนา วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:19:47:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แฮปปี้มีนา
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]









ทำงานในองค์กรภาครัฐ ใช้เวลาพักร้อนในแต่ละปีออกไปเปิดรับและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ในโลกใบนี้ตามลำพัง ...การออกไปเผชิญโลกภายนอกที่กว้างใหญ่ไม่จำเป็นต้องเก่งภาษามากมายขอแค่มีใจที่พร้อมจะเปิดรับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่างเดินทาง ทั้งสุข สนุก ตื่นเต้น การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้น จะทำให้เรามีโอกาสสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่มีในหนังสือท่องเที่ยวเล่มไหนสอนไว้


New Comments
Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2554
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
20 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แฮปปี้มีนา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.