|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
สาวป.โทแฉชีวิตในตลาดสด ตอนที่ 9
ตอนที่ 9 ข้อดีของการเป็นแม่ค้า
จากที่พูดๆมาไม่ใช่ว่าการเป็นแม่ค้า ไม่มีอะไรดีเลย เพราะต้องรบรากับแม่ค้าอื่นๆ ซึ่งจริงๆแล้วมันก็ไม่ได้ถึงขนาดนั้น ข้อดีของการเป็นแม่ค้าในตลาดสด น่ามีอยู่หลายอย่าง อย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัด คือ ซื้อของได้ถูกและดีกว่าชาวบ้าน หรือคนจ่ายตลาด
ถ้าใช้ชีวิตในตลาดสด หรือตลาดนัดนานๆ จะทำให้รู้ทริกของการซื้อของ รวมทั้งรู้ว่าร้านไหนขายอะไรดีๆ ควรซื้ออะไรจากร้านไหน เพราะอะไรนะเหรอ เพราะมันเห็นทุกกระบวนการ ตั้งแต่ยกของ ลงของ จนกระทั่งตั้งแผงและเก็บแผง บางร้านเราเห็นเลยว่าโอ้โห ของมันตกลงมาตกลงบนพื้น เจ็แกยังโกยกลับไปบนแผงได้ ทั้งๆที่ตอนลงพื้นมันลงไปอยู่ในน้ำเน่านะนั่น อย่างทริกการซื้อผัก เป็นต้น หลายคนที่ไปเดินในตลาด จะเห็นมีแผงขายผักอยู่เป็นจำนวนมาก แล้วจะเห็นว่ามีการวางผักแบบว่าจานละ 10 บาทๆ อยู่ บางร้านก็ไม่ได้มีวางให้หยิบชั่งเอา บางร้านก็ตะโกนบอก 3 อย่าง 10 บาทรวมได้ๆ ผักร้านที่วางเป็นจานๆ เราอาจสงสัยว่า ทำไมถูกจัง 10 บาทเอง อยากจะบอกว่า ขายเป็นจานแม่ค้าได้กำไรมากกว่าขายเป็นกิโลอีก เนื่องจากไม่ได้ชั่ง แต่ใช้วิธีกะๆเอา และโดยมากจะกะเอาน้อยๆนะ นอกจากนั้นยังเอาผักที่กำลังเน่าไว้ล่างๆของจาน เพื่อขายรวมๆกัน ส่วนร้านที่ชั่งเป็นกิโล เราจะได้ของดีเพราะเราเลือกได้ (ไม่ได้ถูกบังคับให้ซื้อบนจาน) แต่ข้อเสียของการชั่งกิโล คือ ค่อนข้างมั่ว ใครซื้อร้านมั่วน้อยก็โชคดีไป ใครซื้อร้านมั่วมากก็เป็นเรื่องธรรมดา ถ้าอยากลองเช็คดู พอแม่ค้าชั่งกิโลแล้วลองถามกลับสิว่า โลละเท่าไร และนี่มันกี่กิโล ถ้าลองคำนวณแล้วจะรู้ว่ามั่วๆและปัดขึ้นโดยส่วนมาก สังเกตได้จากร้านที่ตาชั่งของแม่ค้าจะมีด้านเดียว เพราะโดยปกติตาชั่งจะมีสองด้าน ถ้ามีด้านเดียว แบบว่าอีกด้านเสีย เตรียมตัวได้เลยว่าโดนโกงแน่ๆ
ข้อดีของการเป็นแม่ค้า คือนอกจากแม่ค้าจะไม่โกงแม่ค้าด้วยกันแล้ว (เพราะอาจโดนด่าครั้งหน้า เนื่องจากต้องเห็นหน้ากันตลอด ถ้าไม่ยกแผงหนีไปก่อน) แม่ค้าด้วยกัน ยังให้ของดีแก่กัน ด้วยสาเหตุที่บอก นอกจากนั้น แม่ค้ายังคิดราคาพิเศษให้ ลดแลกแจกแถม เพราะเห็นเราใส่ผ้ากันเปื้อน (เลยรู้ว่าเป็นแม่ค้า) ตัวอย่าง เห็นได้จาก วันก่อนได้ไปซื้อพริก มีวางเป็นจานๆละ 10 บาท ระหว่างที่กำลังเล็งๆว่าเอาจานไหนดี ก็คิดได้ว่า ทำพริกน้ำปลาถ้วยเดียว ซื้อพริก 10 บาทเยอะไป ที่เหลือก็ต้องไปเน่าคาตู้เย็นอีก เลยพุดไปว่า ซื้อพริก 5 บาทพอป้า ป้าใจดี หันไปหยิบพริกใหม่ๆใส่ถุง 2 กำมือใหญ่ เราก็เฮ้ย ป้าเอา 5 บาทนะ เดี๋ยวกินไม่หมด ป้าก็ตอบรับ อืม 5 บาท เออ..ดีแฮะ ได้เยอะว่า 2 จานรวมกันอีก
มะนาวก็เหมือนกัน ตอนนี้ขายลูกละ 1 บาท ถ้าเราไปซื้อ บอกป้า มะนาว10 บาท ก็จะได้มะนาวมาเกือบ 20 ลูกทุกครั้ง เคยได้ยินว่าพวกผักกำไรเยอะ เยอะไม่เยอะเห็นทุกครั้งเจ๊แกจะมาปอกผัก แล้วเอาเปลือกมาทิ้งถมน้ำเน่า ก็คือ เอาผักมาทำทางเดินให้คนข้ามน้ำเน่าไปหาแผงแกได้เลยละกัน
อย่างอื่นที่ได้กำไรเยอะไม่แพ้ผัก และกำไรแบบเห็นๆแบบเนื้อๆ เห็นจะเป็น ทุเรียน ในตลาดจะมีบังคนนึงขายทุเรียนอยู่ ทุเรียนของบังจะไม่เหมือนเจ้าอิ่น ของเค้าจะคัดและเนื้อดี และยังใจปล้ำ ถ้าเนื้อไม่โดนใจคนซื้อ ก็จะทิ้งทันที ไม่บังคับให้เอาไปเหมือนเจ้าอื่นๆ ในปนึ่งปี บังจะมาขายของ 1 ครั้ง ในหน้าทุเรียน พอหมดหน้าก็จะหายสาบสูญไป (ได้ยินว่านอนอยู่บ้านเฉยๆ)แต่ทุกครั้งที่ก่อนจะหมดหน้าทุเรียน บังจะถอยรถป้ายแดงใหม่ตลอด คนในตลาดลือกันว่า ขายทุเรียนกำไรดีมากจนออกป้ายแดงได้ ทุเรียน จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ฉันจะทำต่อไปถ้าของที่ฉันขายไปไม่รอด (ฉันคิด)
แต่ปีนี้ บังหายไป ไม่มาขายทุเรียนเหมือนเคย อาจเป็นเพราะตอนนี้ในตลาดแม่ค้าทุกคนแห่กันมาขายทุเรียน (สงสัยเห็นบังออกป้ายแดง) จากขายกระเทียมก็เป็นขายทุเรียน จากขายกุ้งก็มาขายทุเรียน แต่ละทุเรียน ต่างก็แข่งกันลดราคา พอร้านหนึ่งติด กิโลละ 35 ร้านถัดมาก็ขึ้นป้าย 30 คนซื้อก็ชอบ คนซื้อก็สบาย ยิ่งนานวัน ยิ่งซื้อถูก ยิ่งเดินยิ่งถูก แต่หารู้ไหมว่า ตาชั่งของคนขายทุเรียนนี่แหละ มั่วกว่าอย่างอื่นเยอะ
Create Date : 05 มิถุนายน 2551 |
|
6 comments |
Last Update : 5 มิถุนายน 2551 13:20:45 น. |
Counter : 2394 Pageviews. |
|
 |
|
|
| |
โดย: มะปราง IP: 58.106.100.163 5 มิถุนายน 2551 14:22:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: ayopolie 5 มิถุนายน 2551 16:19:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: mawantha 5 มิถุนายน 2551 17:23:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: p&e IP: 58.136.81.154 9 มิถุนายน 2551 10:06:19 น. |
|
|
|
| |
|
|