ชั้นล่างสุดเป็นเค้กช็อคโกแล๊ตเนื้อและรสเดียวกันกับชิ้นแรก
โปะทับด้วยครีมสดสีขาวกลิ่นวนิลาอ่อน ๆ
ชั้นกลางเป็นกล้วยหอมสุกหั่นชิ้นราดทับด้วยคาราเมล
รสชาติหวานและหอมมาก และสุดท้ายโปะทับด้วยครีมสดอีกที
ความหวานของคาราเมลที่เข้ากันได้ดีกับกลิ่นกล้วยหอม
ตัดกับความขมนิด ๆ ของเนื้อเค้ก ทำให้ชิ้นนี้ อร่อยทีเดียวค่ะ 
และชิ้นสุดท้าย Mango mousee
ชิ้นนี้พ่อพระเอก(ในดวงใจ) ติดใจตั้งแต่แรกเห็น
เลยต้องสั่งมาด้วย (จริง ๆ แอบเล็งเค้กชาเขียวไว้
แต่กลัวจะอิ่มก่อนได้ทานอาหารคาว เลยต้องตัดใจหยุด)

มูสมะม่วงที่ชั้นล่างใช้เค้กเนื้อเดียวกันกับชิ้นอื่นเป็นฐาน
แล้วแปะด้วยมูสสีเหลืองอ่อนกลิ่นมะม่วง รสออกเปรี้ยวหน่อย ๆ ของมะม่วง
ตัดกันพอดีกับความหวานของเนื้อมะม่วงสด
น้ำดอกไม้ ประดับด้วยสตอเบอรี่สดครึ่งลูก
ที่แปะทองคำเปลวไว้ เนื้อสัมผัสที่นิ่มนวลของมูส รวมไปถึงกลิ่นของมะม่วง
เข้ากันได้ดีกับเนื้อเค้ก ทำให้ไม่เลี่ยน ชิ้นนี้ก็ไม่ผิดหวังค่ะ 
อวดโฉมทั้งสามชิ้นก่อนจะหม่ำ เค้กที่นี่ราคาชิ้นละ 139 บาทค่ะ 

เมื่ออิ่มจากของหวานแล้ว ทีนี้มาดูของคาวกันบ้าง
กับจานแรก Banked spinach ผักโขมอบชีสนั่นเอง
เป็นอาหารจานเรียกน้ำย่อย ที่เป็นตัวเพิ่มน้ำหนักและได้เป็นอย่างดี
ผักโขมสด สีเขียวสวย กับชีสปริมาณมากที่ผ่านการอบจนละลายเหลือง
เคลือบอยู่ทุกอณูของผักโขมที่ปรุงรสออกเค็มนิด ๆ และรสชีสที่ออกมันๆ
จัดใส่ถ้วยสีขาว โรยหน้าด้วยอัลมอนต์อบ อร่อยมาก ถึงแม้ว่าจะเค็มไปนิดนึง

(แต่พ่อคุณเค้าชอบ เห็นว่าเข้ากับรสชีสได้ดี) จานนี้ 150 บาท

จานต่อมาไส้กรอกรวม MIxed sausage ไส้กรอก 3 ชนิด ย่างไฟให้สุก
จัดใส่จานเสิร์ฟพร้อมมันบด ซอสสูตรเฉพาะและสลัดผักสด ราดน้ำสลัดรสออกเปรี้ยวนิดหน่อย
ใส่ลงในแก้วเพิ่มความเก๋ ทั้งหมดจัดลงจาน แถมด้วยขนมปังเนยเป็นออเดิฟ
จานนี้สมที่เป็นรายการฮิตยอดนิยมสามดาวของเขา รสชาติดีทีเดียว
จานนี้ราคา 250 บาท 

จานที่สาม Grilled Aus. Rib จานนี้เป็นจานเอกของคนที่ไปด้วย
เนื้อริบอาย สั่งแบบพอสุกนิดๆ 2 ชิ้นจัดเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียง
เห็ดออรินจิเผา พริกหวานเหลืองแดงย่างพอสุก รวมถึงมันบดข้างใต้เนื้อ
ราดด้วยซอสเกรวี่ และพริกไทย อันนี้เนี่ยคุณผู้ชายบอกว่าชอบมากกว่าเนื้อเสียอีก ราคา 850 บาท 

และจานสุดท้าย พระเอกของมื้อนี้ Filet mignon.
เจ้าเนื้อฟิเลต์ มิยอง ที่สั่งแบบมีเดียม ตัวเบคอนที่พันก้อนเนื้อที่กรอบกำลังดี
ไม่เหนียว ทานได้รสชาติกรุบกรับ 2 ชิ้นวางทับบนมันบดสูตรเฉพาะ
และราดด้วยน้ำซอส Foie Gras สีน้ำตาลเข้ม อีกครั้ง
เข้าปากเคี้ยวหนุบๆ แทบละลายเลย จานนี้ให้เต็มสิบค่ะ ราคา 850 บาท


ด้วยอาหารที่นี่ทั้งจานและชิ้นใหญ่มาก
จึงไม่ได้สั่งอาหารแนะนำจากทางร้าน ขาหมูเยอรมัน
ซึ่งได้ยินมาว่าขึ้นชื่อเป็นอย่างมากมาชิม (ไว้คราวหน้าเนอะ) 
มาดูขนาดและปริมาณของอาหารคาวสามจานกันค่ะ 

มื้อนี้รวม โกโก้เย็นกับชาพีช ราคาแก้วละ 80 บาทเข้าไป
สนน. ราคามื้อนี้อยู่ที่ 2687 บาท จัดว่าราคาไม่แพงจนเกินไปนัก สำหรับร้านระดับนี้
ใครผ่านถนนธนะรัชต์เข้าไป เจอปราสาทที่อยู่ติดถนน ลองเข้าไปแวะชิมได้นะคะ กับ Smoke House
แนะนำให้ไปช่วงโพล้เพล้ ใกล้ค่ำ เพราะทางร้านจะมีด้านนอกไว้รับแขกด้วย
และมีวงดนตรีฟังสบาย ๆ ไว้ต้อนรับ จัดเป็นที่สุดโรแมนติดที่นึงเลย
(เสียดาย ไปได้ตอนกลางวัน เลยไม่มีโอกาสเก็บภาพเย็น ๆ มาให้ดู ไว้ครั้งหน้านะคะ)
บรรยากาศตอนกลางคืนคงสวยมากๆเลยนะคะ
น่าไปมากๆค่ะ ต้องไปให้ได้เลย
ขอบคุณสำหรีบรีวิวสวยๆนะคะ จะเอาไปshareให้เพื่อนดูไว้555