ชาวนนทรีรวมใจประดิษฐ์ดอกไม้จันท์นถวายพ่อหลวง ร.9
ชาวนนทรีรวมใจประดิษฐ์ดอกไม้จันท์นถวายพ่อหลวงร.9 เตือนใจ เจริญพงษ์ ตามที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดกิจกรรม โครงการจิตอาสาประดิษฐ์ดอกไม้จันท์นพระราชทาน ขึ้นเพื่อทูลเกล้าฯ ถวายในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชนั้น ด้วยทรงพระราชอนุสรณ์ถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชและทรงเข้าพระทัยถึงความรัก ความผูกพัน และความจงรักภักดีของปวงชนชาวไทยทีมีต่อล้นเกล้าล้นกระหม่อมพระองค์นี้อย่างหาที่สุดมิได้ สืบเนื่องจากพระองค์ทรงขจัดปัดเป่าทุกข์ยากของราษฎรและทรงวางแนวทางสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน อีกทั้งทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนักที่สุดในโลก มีผลทำให้พระเกียรติยศของพระองค์เลื่องลือไปทั่วโลก สำหรับการประดิษฐ์ดอกไม้จันท์นในโครงการนี้จะมีครูผู้ฝึกสอนจากวิทยาลัยในวังหญิงและวิทยาลัยในวังชาย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายพระราชฐานชั้นใน ช่วยสอนการประดิษฐ์ดอกไม้จันท์นแก่หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป ................................................................................................................................................................. ในการนี้ ดร.วิฑูรย์ สิมะโชคดี นายกสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในพระบรมราชูปถัมภ์(ส.มก.) ได้มอบหมายให้ ส.มก.เป็นศูนย์กลางของชาวนนทรีทั้งศิษย์เก่าและนิสิตปัจจุปัน รวมทั้งบุคคลากรทุกภาคส่วนของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อรวมใจประดิษฐ์ดอกไม้จันท์นถวายพ่อหลวงร.9 อย่างเป็นทางการ เพราะต่างซาบซึ้งและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่มีต่อมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และประชาชนอย่างหาที่สุดมิได้ ..................................................................................................................................................................... และเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2560 ส.มก. ได้เปิด โครงการชาวนนทรีรวมใจประดิษฐ์ดอกไม้จันท์นถวายพ่อหลวง ร.9 อย่างเป็นทางการ โดยมีนายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรีในรัชกาลที่9 เป็นประธาน ดร.กฤษณพงศ์กีรติกรนายกสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นายก ส.มก. นายยุคล ลิ้มแหลมทอง อุปนายกสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นอ.หญิงสุวัฒนา ลิ้มแหลมทอง และพี่- เพื่อน-น้อง ชาวนนทรีมาร่วมงานอย่างคับคั่ง ..................................................................................................................................................................... ดร.วิฑูรย์สิมะโชคดี นายก ส.มก. เปิดเผยว่ เมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกรนายกสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้กล่าวตอนหนึ่งในการเปิดประชุมสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ว่า ผมปลื้มใจมากที่ได้ร่วมงานประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์ของ ส.มก. และได้ร่วมทำดอกไม้จันท์นด้วย นอกจากนี้นายก ส.มก.ได้รายงานสรุปในการประชุมสภามหาลัยถึงที่มาและวัตถุประสงค์ของการร่วมแรงร่วมใจ100 วัน 100,000 ดอก พร้อมทั้งขอให้นิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มีส่วนร่วมในเรื่องนี้ด้วยชึ่งปัจจุบันมีนิสิตอยู่ประมาณ 70,000 คน และเจ้าหน้าที่ใน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์อีก 12,000 คน เพื่อจะได้ช่วยกันคนละ 1 ดอก ร่วมกับ ส.มก. ให้ได้ครบ 100,000 ดอก(ยิ่งมากยิ่งดี) ขอความร่วมมือทุกคณะและทุกหน่วยงานในมก.ด้วย ...................................................................................................................................................................... สำหรับความเป็นมาและธรรมเนียมการใช้ดอกไม้จันท์นนั้น กล่าวกันว่าคนไทยใช้ดอกไม้จันท์นในพิธีกรรมเกี่ยวกับความตายมาช้านานถึง 4 สมัย คือสมัยสุโขทัย สมัยอยุธยา สมัยกรุงธนบุรี และสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งรูปแบบของแต่ละสมัยก็แตกต่างกันไป ...................................................................................................................................................................... ดอกไม้จันทน์ ใช้ในการจัดทำพิธีฌาปนกิจศพมีธรรมเนียมการใช้ดอกไม้จันทน์ควบคู่กับธูปทองและเทียนทองเพราะเชื่อว่ากลิ่นหอมของดอกไม้จันทน์จะนำดวงวิญญาณของผู้ที่ล่วงลับไปสู่สรวงสวรรค์แต่ธรรมเนียมการใช้ดอกไม้จันทน์จะใช้เฉพาะผู้มีตระกูลสูงเท่านั้นสามัญชนจะใช้ไม่ได้ เพราะดอกไม้จันทน์เป็นของสูง เป็นของต้องห้าม และมีราคาแพง .................................................................................................................................................................... ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 พบว่าดอกไม้จันทน์เริ่มหายากขึ้นจึงมีผู้คิดค้นประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์เทียม โดยการนำไม้จันทน์มาทำเป็นแผ่นบาง ๆนำมาเข้ารูปลักษณะคล้ายดอกไม้ชนิดต่าง ๆ แต่รวมเรียกว่า ดอกไม้จันทน์ ใช้ในงานพิธีหลวงต่อมาจึงแผ่ขยายการใช้ดอกไม้จันทน์เทียมในหมู่สามัญชน นับแต่นั้นมาเริ่มมีธรรมเนียมการใช้ในหมู่สามัญชนโดยแขกที่มาร่วมงานจะนำดอกไม้จันทน์ไปวางไว้ที่พานหน้าโลงศพ เป็นการเผาหลอกก่อนแล้วจึงนำดอกไม้จันทน์ทั้งหมดไปใช้ในการเผาจริงอีกครั้ง ต่อมาไม้จันทน์ที่ใช้ทำดอกไม้จันทน์หายากจนแทบหาไม่ได้เลยจึงเปลี่ยนไปใช้วัสดุอย่างอื่นแทน เพราะหาง่ายและมีราคาถูกแต่แก่นแท้ของธรรมเนียมการใช้ดอกไม้จันทน์ก็ยังไม่เปลี่ยนไป ................................................................................................................................................................... ดอกไม้จันทน์แบบทั่วไปที่นิยมใช้กันมาเป็นแบบธรรมดาส่วนใหญ่ทำเป็นรูปดอกกุหลาบดอกแก้ว มีขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยาก และมีสีสันตายตัวคือ สีขาว สีครีม หรือสีดำแต่ในยุคปัจจุบันด้วยภูมิปัญญาชาวบ้านที่สร้างสีสันสีต่าง ๆ ของดอกไม้จันทน์ทำให้ดอกไม้จันทน์มีความแปลกในรูปแบบ สีสันก็เปลี่ยนไปด้วยทำให้ทัศนคติของคนที่นำไปใช้มีความรู้สึกว่า การใช้ดอกไม้จันทน์เพื่อเป็นการเคารพระลึกถึงผู้ล่วงลับ ไม่มีบรรยากาศของความโศกเศร้าแต่อย่างเดียว สำหรับพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชครั้งนี้มีการจัดทำดอกไม้ 7 ขนิด ซึ่งล้วนมีความหมายที่ลึกซึ้ง เพราะเป็น 7ดอกไม้จันท์นพระราชทาน ถือเป็นสัญลักษณ์จากใจของเหล่าพสกนิกรที่ร่วมกันประดิษฐ์เพื่อถวายแด่ องค์พ่อหลวงร.9 ประกอบด้วย ...................................................................................................................................................................... 1.ดอกดารารัตน์ (Dadfodil) เป็นดอกไม้ทรงโปรดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชและพระราชทานให้กับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถอยู่เสมอ เมื่อครั้งยังทรงศึกษาและประทับอยู่ที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ดอกดารารัตน์นิยมใช้มอบให้แก่บุคคลอันเป็นที่รัก เพื่อบอกว่ามิเคยหวังสิ่งใดตอบแทนและยังหมายถึง เกียรติยศ ความกล้าหาญ สัญลักษณ์ของความหวัง นอกจากนี้ดอกดารารัตน์ยังมีความหมายที่ลึกซึ้ง ดารา หมายถึง ดวงดาว คือสิ่งที่อยู่สูงสุด คำว่ารัตน์หมายถึง แก้ว หรือสิ่งที่มีค่า ........................................................................................................................................................................ 2.ดอกกุหลาบ เป็นสัญลักษณ์แห่งความรักอันบริสุทธิ์ด้วยอานุภาพแห่งความจงรักภักดีของทวยราษฎร์ที่ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในองคืพระประมุขของชาติเพื่อถวายความอาลัยเป็นครั้งสุดท้ายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชผู้เป็นกษัตริย์ที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย ..................................................................................................................................................................... 3.ดอกพุตตาน เป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคงและความอุดมสมบูรณ์ ชาวจีนเชื่อว่าเป็นไม้มงคล เพราะดอกพุตตานเปลี่ยนสีได้ถึง 3 สี ภายในวันเดียวกัน ซึ่งเปรียบเสมือนวัฎจักรของชีวิตมนุษย์ที่เริ่มต้นเปรียบเหมือนเด็กที่เป็นผ้าขาวเติบโตขึ้นพร้อมกับสีสันที่แต่งแต้มขึ้นมาจนกระทั่งสูงอายุมากขึ้นพร้อมกับสีที่เข้มข้น จนกระทั่งร่วงโรยจากไป เพื่อเป็นการระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและเป็นพระราชกุศลอุทิศถวายครั้งสุดท้ายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ......................................................................................................................................................................... 4.ดอกลิลลี่ เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงออกถึงความรักที่บริสุทธิ์เช่นเดียวกับดอกกุหลาบสีขาวอีกทั้งดอกลิลลี่สีขาวยังสื่อถึงความซื่อสัตย์และเทิดทูนด้วยอานุภาพแห่งความจงรักภักดีของพสกนิกรชาวไทยที่มีต่อพระบาทสทเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชและความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ................................................................................................................................................................... 5.ดอกกล้วยไม้ เป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคง ความรักและความสง่างาม สมดั่งพระมหากรุณาธิคุณในการบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชให้ขจรขจายไปทั้งแผ่นดินไทยตลอดถึงนานาประเทศทั่วโลก ...................................................................................................................................................................... 6.ดอกชบาทิพย์ เป็นดอกไม้ที่สร้าสรรค์ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อสื่อถึงการดับสูญและความเป็นทิพย์ เพื่อเป็นการถวายความอาลัยเป็นครั้งสุดท้ายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชพระผู้ทรงสถิตย์ในดวงใจของปวงประชาราษฎร์ชั่วนิรันด์ ....................................................................................................................................................................... 7.ดอกชบาหนู เปรียบเสมือนความอาลัยในการสูญเสียของพสกนิกรทุกหมู่เหล่าเป็นสัญลักษณ์ที่แทนดวงใจไทยทุกดวงในการน้อมส่งเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชในการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ........................................................................................................................................................................ ## การทำกิจกรรมประดิษฐ์ดอกไม้จันท์นครั้งนี้ นายก ส.มก. และ นอ.หญิง สุวัฒนา ลิ้มแหลมทอง ผู้บริหารคณาจารย์จากคณะต่างๆและนิสิตของมหาวิทยาลัยเกษตรศาตร์ อีกทั้งสมาชิกนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์สาขาจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ รวมทั้งพี่น้องชาวนนทรีหลายรุ่นต่างอุทิศเวลา ร่วมแรง ร่วมใจประดิษฐ์ดอกไม้จันท์นหมุนเวียนกันทุกวัน เพื่อน้อมถวายและส่งเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชพระผู้ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงปกครองบ้านเมืองด้วยหลักธรรมทำให้แผ่นดินไทยร่มเย็นเป็นสุขอีกทั้งพระองค์ทรงขจัดความทุกข์ยากของราษฎรของพระองค์ได้อย่างแท้จริงจนได้รับความจงรักภักดีอย่างแน่นแฟ้นจากชาวไทยและชาวต่างประเทศมาโดยตลอด .......................................................................................................................................................................... อนึ่งงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กำลังจะมีขึ้นในช่วงเดือน ต.ค. 2560 ตามที่คณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงฯได้กราบบังคมทูลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ โดยพระราชพิธีดังกล่าวจะแบ่งเป็น5 วัน ดังนี้ .......................................................................................................................................................................... วันที่ 1 พระราชกุศลออกพระเมรุ ณพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง วันที่ 2 พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระเมรุมาศ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง วันที่ 3 เก็บพระบรมอัฐิ ณ พระเมรุมาศ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง วันที่ 4 งานพระราชกุศล พระบรมอัฐิ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง และวันที่ 5 เลี้ยงพระภิกษุ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทพร้อมเชิญพระโกศพระบรมอัฐิขึ้นประดิษฐานพระวิมานบนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ...................................................................................................................................................................... สำหรับภาพรวมการดำเนินการในส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดได้เตรียมจัดทำซุ้มขนาดใหญ่ 76 ซุ้ม และซุ้มขนาดกลางทุกอำเภอ 802 ซุ้มส่วนในต่างประเทศจะมีซุ้มขนาดกลางที่สถานเอกอัครราชทูตไทยและสถานกงสุล 96 ซุ้ม และซุ้มขนาดเล็กตามวัดไทย 539 ซุ้ม ....................................................................................................................................................................... เนื้อหาเรื่องนี้ได้เผยแพร่ลงในวารสารนนทรี ฉบับที่1 ปี 2560 เดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม
Create Date : 16 สิงหาคม 2560 |
Last Update : 18 สิงหาคม 2560 15:30:28 น. |
|
0 comments
|
Counter : 846 Pageviews. |
|
|
|