Acceptable Risk โดย Robin Cook
ที่มาที่ไป: คุณป้าของเพื่อนเปิดร้านเช่าวีดีโออยู่ที่ลอสแองเจลิส และในร้านก็มีหนังสือมือสองมาขายถูกๆ เราหยิบมาสองเล่ม แต่คุณป้าไม่คิดตังค์ บอกว่าให้เอามาอ่านเล่นฆ่าเวลาบนเครื่องบิน หลังจากขอบคุณคุณป้าแล้ว ก็บอกคุณป้าไปว่าอ่านเสร็จแล้วจะเอาไปบริจาคให้ห้องสมุด แต่หนังสือน่าสะสม คุณป้าขา ขอเอาหนังสือเล่มอื่นไปบริจาคแทนก็แล้วกันนะคะ
Acceptable Risk เริ่มต้นจากการตามรอยผู้หญิงคนหนึ่งที่มีชีวิตอยู่เมื่อสามร้อยปีก่อน ซึ่งต่อมานำไปสู่การทดลองยา และเรื่องราวสยองขวัญ สนุกมาก โดยโรบิน คุก คนแต่ง ที่เป็นหมอด้วยได้สรุปตอนท้ายว่าไม่ว่ายาอะไร มันมีผลข้างเคียงทั้งนั้น
เริ่มเรื่อง เมื่อสามร้อยปีก่อนในปราสาทของ Elizabeth ที่ Salem เกิดเหตุการณ์ที่น่ากลัว ซึ่งทำให้ Elizabeth ถูกแขวนคอตายในข้อหาเป็นแม่มด ก่อนตาย สามีของเธอ Ronald ขอให้เธอสารภาพ เธอจะไม่ถูกแขวนคอ แต่เธอไม่สารภาพ เธอยืนยันว่าเธอไม่ใช่แม่มด จะให้เธอยอมรับในสิ่งที่เธอไม่ได้เป็นได้อย่างไร?
กลับมาสู่ยุคปัจจุบัน
Stanton นัด Kim ซึ่งเป็นญาติ กับ Edward เพื่อนของเขามาเจอกัน โดยหวังว่าสองคนนี้น่าจะเป็นแฟนกันได้ แล้ว Stanton ก็จะได้ชวน Edward มาทำงานด้วย
Kim เป็นพยาบาลเพิ่งเลิกกับหมอ Kinnard ส่วน Edward เป็นหมอ เป็นนักวิจัย และเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่ฮาวาร์ด ฉลาดสุดๆ แต่ขี้อายและเข้าสังคมได้ไม่ดีนัก ระหว่างที่ Stanton แนะนำทั้งคู่ เขาได้พูดถึง Elizabeth ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของ Kim ว่าเป็นแม่มด Edward สนใจมาก ทั้งคู่ก็เลยตกลงที่จะสืบเรื่องของ Elizabeth เพราะเชื่อว่าไม่มีแม่มดแน่นอน น่าจะเป็นเรื่องที่สามารถพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์มากกว่า
ทั้งพ่อและแม่ของ Kim คัดค้าน ไม่อยากให้เธอขุดคุ้ย อีกอย่างหนึ่ง เรื่องของ Elizabeth ไม่มีใครรู้ และไม่ปรากฎในหนังสือประวัติศาสตร์เล่มไหนทั้งนั้น ในขณะที่เรื่องการแขวนคอแม่มดคนอื่นๆใน Salem มีให้อ่าน
Kim พา Edward ไป Salem ปราสาทหลังนี้เป็นมรดกตกทอดมาถึงเธอกับพี่ชาย Kim กับ Edward สำรวจปราสาทอายุกว่าสามร้อยปีไปเรื่อยๆ จนไปพบห้องเก็บอาหาร และ Edward ก็ได้เก็บตัวอย่างเชื้อราที่พบในห้องนี้ ไปพิสูจน์ในห้องทดลอง ส่วน Kim ก็ไปพบภาพวาดของ Elizabeth เข้า Kim รู้สึกว่าการที่เธอพบสิ่งที่เชื่อมโยงกับ Elizabeth ได้ง่ายอย่างนี้ น่าจะเป็นเพราะ Elizabeth อยากจะบอกบางอย่างกับเธอ
(อ่านถึงตรงนี้แล้วเริ่มกลัวว่าจะกลายเป็นเรื่องผีๆ ก็อยากรู้อ่ะนะว่า ทำไมคนยุคนั้นถึงเรียก Elizabeth ว่าแม่มดก็เลยต้องอ่านต่อ)
Edward เอาเชื้อราไปทดลอง ทำให้รู้ว่าไอ้เชื้อรานี้มีผลกับการทำงานของสมอง เขาลองกินยาที่เขาสกัดจากเชื้อรา ผลที่ได้ก็คือเขารู้สึกสดชื่น ความจำดี ยิ้มง่าย เข้าสังคมได้ง่ายขึ้น Stanton เลยเสนอให้มาร่วมมือกันพัฒนาตัวยา โดย Stanton จะออกทุนให้
Kim กับ Edward ย้ายไปอยู่ด้วยกันที่ Salem ขณะที่ปรับปรุงบ้าน ผู้รับเหมาขุดเจอโลงศพเข้า ซึ่งเป็นศพของ Elizabeth เหมือนถูกซ่อนเอาไว้ Edward เอาหัวกะโหลก Elizabeth ไปหาเชื้อรา แล้วเขาก็พบว่าเป็นเชื้อราชนิดเดียวกันกับที่เห็นในห้องเก็บอาหารในปราสาท Stanton กับ Edwardหวังว่ามันจะสกัดเป็นยาที่ทำเงินมหาศาล Stanton ออกทุนให้สร้างห้องทดลองใกล้กับปราสาท Edward ไปควานหานักวิทยาศาสตร์ชื่อดังของโลกมาได้อีก 4-5 คน และทั้งหมดก็ยินดีที่จะเอาตัวเองเป็นหนูทดลองยา Kim สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในคนพวกนี้ โดยรวมๆแล้วก็เป็นไปในทางที่ดี พวกเขาร่าเริงและดูมีความสุขดี
ขณะที่ Edward ยุ่งเรื่องการทดลองยา Kim ก็แกะรอยเรื่องราวของ Elizabeth ไปเรื่อยๆ (อารมณ์ตอนอ่านช่วงนี้จะเหมือนกับกำลังอ่านดาวิน ชี โค้ด)
แล้วเหตุการณ์สยองก็เกิดขึ้น! หมาของ Edward ถูกกัดตาย ตำรวจก็เดาไปว่าน่าจะเป็นถูกสัตว์อื่นกัด ต่อมาก็มีคนตายอีก บาดแผลคล้ายถูกกัด ถังขยะใน Salem ถูกคุ้ยเละ และหนุ่มสาวคู่หนึ่งแอบมาพรอดรักกัน แต่ยังไม่ทันถึงไหนก็มาเจอะกับสิ่งที่เรียกว่าคนก็ไม่ใช่ ผีก็ไม่เชิง แต่น่ากลัวมาก โชคดีที่รอดมาได้
หลังจากตามรอยยังกะดาวิน ชี โค้ดอยู่สักพัก Kim ก็รู้ว่าหลักฐานที่ชาวบ้านลงความเห็นว่า Ellizabeth เป็นแม่มดคือตัวอ่อนของมนุษย์ที่หน้าตาคล้ายปิศาจที่วาดกันในคัมภีร์สมัยก่อน ไม่มีสมอง ตาโตเหมือนตากบ ปากอ้ากว้าง มีหางคล้ายปลา
อ่านถึงตรงนี้แล้วน่ากลัวมากๆ Kim ไปหา Edward ที่ห้องทดลองเพื่อจะบอกเรื่องผลข้างเคียงที่เกิดกับ Elizabeth แล้วเธอก็เกือบเอาชีวิตไม่รอดในคืนนั้น จากสัตว์ 6 ตัวในคราบมนุษย์
สยองงงงงงง อ่านไปกลัวไปแต่วางไม่ลงจริงๆ