Group Blog
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •   
  •  
[5 วัน 4 คืน]: เการักที่เกาหลีครั้งแรกช่วงตุลา 2015 (Part2)

[ดูบนมือถือ กดดูเนื้อหาแบบ Desktop Version ก่อนน้า~]

3rd day “ Enjoy local culture”

วันนี้พวกเรามีแพลนไปตลาด Noryangjin ซึ่งเป็นตลาดอาหารสดที่ใหญ่มากในโซล

ก่อนไปแวะซื้อกาแฟก่อนเลยติดมากจริงๆ นี่เป็นร้านกาแฟที่อร่อยมาก ชอบบบ

อยู่ติดที่พักเลยจ้าลงมาละเจอเลย แก้วนึงไม่แพง 3000 W ได้

 photo20151030_114051_resized.jpg

 photo20151030_113111_resized.jpg

ปล* เสื้อตัวลายทางข้างในนี่แหละที่บอกว่าซื้อรถไฟใต้ดิน Myeongdong 200 บาทไทย

วิธีการเดินทาง:

NoryangjinFish Market รถไฟใต้ดิน Line1  (สายสีน้ำเงิน) ลงสถานีNoryangjin ออกทางออกที่ 1 หลังจากออกมาจากทางออกรถไฟฟ้าแล้ว ให้เดินตรงไปทางสะพานลอยที่เป็นทางเชื่อมไปทางตลาด มันจะเป็นทางลาดลงไปข้างล่างค่ะ

ที่มาที่นี่เพราะอยากกินซาชิมิแบบสดๆเลยเนื่องจากไปเห็นภาพทริปของอาจารย์มหาลัยที่รู้จัก เค้าบอกว่าอร่อยมากแต่เค้ากินที่อินชอน นี่เลยถามพี่พูว่าควรกินที่ไหนดีในโซล

นางก็แนะนำว่าให้มาที่นี่และแนะนำ

Rock fish หรือภาษาเกาหลีคือ 볼락 (Polrak) โดยให้ทำเป็นซาชิมิ และ เอาก้างไปต้มเป็นซุป ซึ่งเรียกเป็นภาษาเกาหลีว่า 매운탕 (mae-un-tang)

ตอนมาถึงทีนี่คือแบบ เห้ย ร้านมันเยอะมากกกก

 photo20151030_120642_resized.jpg

 photo20151030_120648_resized.jpg

และทุกร้านที่พวกเราเดินผ่านนี่เรียกลูกค้ากันสุดฤทธิ์จ่ะ หนีห่าวๆกันใหญ่ หน้าชั้นคงจีนมาก55555555 คือชั้นจีนจริงแต่พูดไม่ได้เลยค่ะ

จนเราก็มาหยุดอยู่ร้านนึง ซึ่งพ่อค้าเค้าก็คุยกับเรา เลยเออดูก็ได้วะร้านนี้ เลยถามว่ามี polrak มั้ย

เค้าก็ชี้ในกะละมังให้ดูเลย ก็เลยตกลงซื้อ และเราอยากกินกุ้งด้วยเค้าเลยไปบอกอาจุมม่าร้านข้างๆให้

สิ่งที่พวกเลือกซื้อคือ rockfish ในราคา30,000 W และ กุ้งใหญ่ 1ตัว 20,000 W 

บอกเลยว่า.. สิ้นสุดการตกลงซื้อปลาปุ้ป นางเอาจอกแทงเข้าคอปลาแล้วเอาขึ้นมาแร่ทันที!!!OO

อินี่ยืนช็อคร้องหันหนีด้วยความตกใจ ฮรือออออ ปลาน้อยยยย ชั้นขอโทษษษษ TT

ละนางก็พาขึ้นมานั่งร้านอาหารข้างบน

คือ ทีนี่เค้าจะมีร้านอาหารอยู่ด้านบนหลายร้าน ซึ่งเราสามารถจิ้มๆๆละก็จ่ายตัง ละเค้าก็จะพาไปร้านอาหารข้างบนให้แม่ครัวทำให้กิน

 photo DSC00872.jpg

พวกเราตกลงกันว่าจะให้นางเอากุ้งไปย่าง รวมค่าทำอาหารข้างบนพร้อมข้าวสวย ประมาณ2000+ บาทไทย

ซึ่งอิชั้นก็ไม่รู้หรอกว่ามันแพงหรือถูก เลยแชทไปถามพี่พู นางบอกว่า ราคาประมาณนี้แหละ ไม่โดนหลอก

นี่คือซาชิมิจาก Polrak เค้ามีแถมแซลมอลมาในเซ็ตด้วย

 photo DSC00863.jpg

 photo 20151030_130911_resized.jpg

 photo 20151030_130908_resized.jpg

พอลองชิมซาชิมิ แกร๊ คือมันกรุบ กรอบ สด หวานอร่อย กรี๊สสสสส (ตะกี้ได้ข่าวเพิ่งสงสารน้องปลา ตอนนี้กลับแหล็กมันอย่างราบคาบ555555555)  เค้ามีน้ำจิ้มแบบ วาซาบิ และGojuchang คือดีทั้งสองแบบ ดีคนละแบบ ชอบมาก ประทับใจ

 photo DSC00884.jpg

ส่วนกุ้ง เอาจริงเราว่ามันก็ดี แต่เฉยๆ กุ้งมันก็คือกุ้งอะ กุ้งย่าง5555555 แต่ก็ถือว่าไม่เลวค่ะ มาลองถึงถิ่น

 photo DSC00874.jpg

ส่วนซุป แรกๆที่กินมันจะแปลกๆจืดๆ แต่พอมันต้มไปเรื่อยๆ ต้มจนได้ที่ แล้วกินกับข้าวสวยเกาหลีเค้านะ หื๊มม ถามอิชุเอาละกัน นังนี่ซดแล้วซดอีก555555555

 photo DSC00882.jpg

คือหน้าตามันประมาณแกงส้มอะแก แต่ชั้นว่ามันอร่อยนะ ต้องรอให้มันต้มจนได้ที่ก่อน

เป็นมื้อที่น่าประทับใจมากจริมๆ

 .

.

หลังจากนั้นพวกเราก็เดินทางไปเที่ยวชมละแวกพระราชวังเริ่มที่ Deoksugung Palace รถไฟใต้ดิน สาย2 ลง CityHall ออกทางออกที่ 2 แต่ก่อนที่เราจะออก เหลือบไปเห็นขนมปังร้านนี้แล้วต้องหยุดแวะ.. 

 photo DSC00892 bun.jpg

누이단팥빵 อ่านว่า nu-ee-dan-pat-ppang นูอีดันพัดปัง แปลว่า ปังถั่วแดง

ซึ่ง 단팥dan-pat = ถั่วแดงนั่นเอง

คือมันเป็นร้านขนมปังที่น่ากินมาก เลยปรี่เข้าไปชมและชิม

เค้ามีให้ชิมฟรีด้วยแกร รสที่ชิมคือถั่วแดงและชีส แต่ที่ซื้อคือถั่วแดงและครีมชีส 55555555 เค้าคง งงอ่ะ

มันมีชีสสองแบบ ชีสแบบชีสจริงๆเป็นขนมปังยาวๆ กับอีกแบบคือครีมชีส ด้วยความที่มันใหญ่ยาวเหลือเกินเลยเออเอาครีมชีสละกัน (อะไรคือโลจิค ถถถถ)

 photo DSC00893.jpg

และก็ไม่ผิดหวัง คือมันนุ่มละมุนนีละมุนลิ้นมากก ชอบบบบ ตัวแป้งนุ่ม ไส้หวานหอม ปังจริง ต้องโดนนะคะ จำราคาไม่ได้แต่ไม่แพงเลยๆ

พอเราไปถึงหน้าพระราชวัง Deoksugung เค้ากำลังมีการแสดงพอดีเลย

 photo DSC00897.jpg

แต่พวกเราไม่ได้เข้าไปนะ ถถถถ เวลาไม่ทัน เลยได้แต่ถ่ายรูป และมีการไปถ่ายรูปกับอปป้าหน้าวังด้วยจร้า

 photo DSC00899.jpg

อปป้าคะ ทำไมอปป้าไม่ลืมตาคะ?

 photo DSC00900.jpg

หนูเข้าใจว่าแสงมันแยงตาค่ะ ถถถถถถถถถถถถ

.

.

บรรยากาศดีๆต้องเก็บภาพให้หนำใจ ครุคริ

 photo DSC00901.jpg

 photo DSC00910.jpg

จากนั้นเราก็เดินถ่ายรูป เดินเลียบถนนเลียบกำแพงหินไปเรื่อยๆเพื่อไปจตุรัสฮวางมุน

 photo DSC00926.jpg

 photo DSC00931.jpg

อากาศดจีมากๆแกร๊

 photo DSC00947.jpg

และเราก็ไปโผล่ที่ พระราชวังเคียงบก เอาจริงๆแนะนำว่าให้ไปคลองชองกเยชอนต่อไปเลย จะได้ไม่ต้องเหมือนอิเชอ วกกลับมาตอนดึก 55555 คือเหนื่อย

 photo DSC00962.jpg

 photo DSC00967.jpg

 photo DSC00973.jpg

 photo DSC00972.jpg

 photo DSC00978.jpg

ที่นั่นมันจะมีห้องประทับสมัยก่อนเปิดให้ได้ชมกันด้วยค่ะ

 photo DSC00984.jpg

 photo DSC00987.jpg

ต้องบอกว่า ฉากนี้ทำให้นึกถึงเรื่อง Rooftop prince มากแกร๊ คือบรรยากาศดีไปอี๊กก

 photo sitting.jpg

 photo DSC01004.jpg

 photo DSC01002.jpg

 photo DSC01037.jpg

กรี๊สสสส เสียดายที่ไม่ทันคิดเรื่องเช่าชุดฮันบกใส่ถ่ายรูป ไม่งั้นเจ้จิแวะไปเช่ามาใส่สวยๆเผื่อจะมีอปป้ามาสุ่ขอ *ตื่นค่ะ* 555555555555

ถ่ายรูปกันยาวๆ

 photo DSC01015.jpg

 photo DSC01025.jpg

 photo DSC01034.jpg

 photo DSC00998.jpg

 photo DSC00992.jpg

 photo DSC01045.jpg

หลังจากนั้นเราก็แวะไปที่ถนน Samcheongdong-gil ซึ่งเป็นถนนที่อยู่ข้างๆพระราชวังเลยค่ะ เป็นถนนที่เชอชื่นชอบมากกกแถวนั้นก็มีพวกร้านกาแฟ มีร้านแฟชั่นเสื้อต่างๆ เก๋ๆมีสไตล์

ราคากลางๆไปถึงสูง ประมาณ 400 บาทไทยขึ้นไป

คือเป็นย่านที่แบบคนไม่พลุกพล่านมาก เห็นเค้าว่ากันว่ามีอีกชื่อนึงคือ ถนนแกเลอเรีย

นอกจากนั้น พวกเราก็อยากจะแวะหมู่บ้านโบราณบุกชน ด้วย เห็นว่าตั้งอยู่ระหว่าง พระราชวังเคียงบกกุงกับพระราชวังชางด๊อกกุง เลยเอาสักหน่อย

กว่าจะเดินขึ้นไปถึง ล่อเอาหอบเบาๆ

 photo DSC01064.jpeg

 photo DSC01057.jpg

 photo DSC01066.jpg

 photo DSC01068.jpg

 photo DSC01070.jpg

 photo DSC01072_1.jpeg

 photo DSC01084.jpg

ได้บรรยากาศเงียบๆคลาสสิคไปอีกแบบ..

จากนั้นเราก็เดินลงมาตามทางเรื่อยๆ แวะร้านกาแฟ (อีกรอบถถถถ)

ร้านนี้เป็นร้านชื่อดังอีกแล้ว“Street Churros” ซึ่งอยู่สี่แยกของย่านซัมชองดงเลยค่ะ

แต่อิเชอขอกาแฟพอ เบาๆไม่ได้ลองขนม

 photo20151030_165628_resized.jpg

 photo20151030_165721_resized.jpg

ต้องบอกว่ามานี่กินกาแฟร้อนตลอดเลยค่ะ คือมันได้ฟีลมากๆ อากาศหนาวๆเย็นๆสบายจิบอะไรร้อนๆ ราคามีตั้งแต่ไม่เกินร้อยยันร้อยกว่าเลย ชอบกาแฟที่นี่มากๆ แก้วปกติของเค้าคือแก้วใหญ่บ้านเราอ่ะ 555

ใกล้ๆร้านกาแฟแถวนี้เค้ามีไกด์คอยแนะนำทางด้วย ก็เลยถามทางไปอินซาดง ซึ่งเราก็เดินเข้าซอยกาแฟนี้และตรงไปเรื่อยๆยาวๆเลย

ระหว่างทางไปอินซาดง แอบบอกว่ามีร้านนึง เป็นขายaccessories ราคาย่อมเยาว์ จำชื่อร้านไม่ได้ เสียใจมาก

แต่จำอปป้าเจ้าของร้านได้555555555555 แกร คือนางแต่งตัวดีมากเว้ย เสื้อคอเต่า สูทตัวยาว หน้านิ่งตลอดเว สุงยาวเข่าดี อือหือ 

นี่คือโฉมหน้าอปป้า แอบถ่ายมาลางๆ อิอิ

 photo20151030_171557_resized.jpg

ซูมเห็นกันมั้ย?555555

นี่เป็นเคสที่ชั้นสอยมา ในราคา 5000W

 photo note4.jpg

คือถูกอะ ฟรุ้งฟริ้งกระดิ่งแมวมาก สอยบีนี่ร้านนี้มาด้วยซึ่งก็จะใส่วันถัดไปอีกเช่นเคย

ไว้มีโอกาสก็คงกลับไปร้านนี้อีก ถถถถ

 .

.

พอเราถึงอินซาดง ชุตี้ก็ฟินละค่ะ จุดประสงค์นางคือมาสอยตะเกียบเด็กและหม้อต้มมาม่า55555555 คือถิ่นนี้ก็เปรียบเสมือนย่านสำเพ็งบ้านเรานั่นเอง อิเชอสอยส้ม+ช้อน2-in-1 มา

ระหว่างทางเราก็ได้แวะที่ตึกใหม่ในอินซาดงด้วยนั่นก็คือ Insadong Maru เข้ามาปุ๊ปเจอขนมปังขรี้ก่อนเลยค่ะ55555

 photo DSC01092.jpg

 photo DSC01088.jpg

แกรมันเป็นอารมแบบ ขนมปังปลา แต่นี่เป็นรูปนุ้งขรี้ไส้ช็อคโกแลต อร่อยดีค่ะ ร้อนๆ ชิ้นละ 1000W นอกจากนี้ก็มีร้านค้าอื่นๆ เป็นพวกงานฝีมือ กิ๊ฟช็อพ ร้านอาหาร อะไรแบบนี้ เราก็เดินไปจนถึงชั้นบนสุด ก็เจอโซนให้ถ่ายรูปคู่รักอีกเช่นเคย

 photo DSC01097.jpg

แต่ดูพวกเราเส่ะ ถถถถ ผลัดกันถ่าย

 photo DSC01094.jpg

เดินไปจนสุดทางก็เจอร้านขายสาหร่ายด้วย คนขายนี่พอเค้ารู้ว่าเราเป็นคนไทยนี่พูดสวัสดีครับ ทักทายเราใหญ่เลย นางมีการแกะสาหร่ายให้ชิมด้วย ใจดีมาก นังชุเลยฟาดสาหร่ายนางไปด้วยค่ะ

ระหว่างทางเราก็เริ่มจะหิวเล็กน้อย แล้วเจอร้านข้าวต้มซุปหางวัว ก็ปรี่เข้าไปสิคะรออะไร

 photo DSC01098.jpg

อิเชอนี่ชื่นชอบซุปหางวัวมาแต่ไหนแต่ไร เห็นในซีรี่ยส์คนชอบกินเยอะมาก พอได้ลองที่ไทยนี่ติดใจเลย นี่มาถึงถิ่น นอกจากข้าวต้มก็ได้สั่งmandoo ด้วยค่ะ

 photo DSC01099.jpg

เป็นเกี๊ยวหมูผสมผัก คือมันชิ้นใหญ่มากกกก กินแล้วอิ่มเลยอร่อยดีค่ะ

เสียใจที่จำชื่อร้านไม่ได้ แต่อยู่ในซอยตรงอินซาดงนี่แหละ เป็นข้าวต้มซุปหางวัวร้านดังอยู่ ต้องโดนค่ะ ราคาไม่แพงมาก มีกิมจิให้ตักตรงโต๊ะไม่อั้นเช่นกัน

ในซอยนั้นจะมีร้านขนมหวานพื้นเมืองด้วย ขออภัยที่ไม่มีรูปร้านมาให้

ร้านมีชื่อว่า bizeun ค่ะ ร้านใหญ่ //www.bizeun.co.kr


มันเป็นร้านขนมพื้นเมือง+caféในตัว มีขนมที่ทำด้วยแป้งต๊อก ขนมคล้ายๆไดฟุกุ ไส้ถั่วแดง ไส้ช็อคโกแลต อะไรแบบนี้ สีสันสวยงาม เค้ามีเป็นกล่องให้ด้วยค่ะ โดยที่เราสามารถเลือกรสได้ แอบชิมรสช็อคโกแลตไป (รูปซ้ายสุดแถวล่าง) อร่อยมากกเลยค่ะ หอมช็อคโกแลต

มันไม่หวานแบบแสบคอเหมือนขนมญี่ปุ่น ตอนออกจากร้าน ข้างหน้ามีขายเค้กข้าวนึ่งอยู่ด้วย

เป็นสี่เหลี่ยม มีถั่วแดงดำหรือถั่วด้านบน

ซึ่งเราก็สอยมากิน เห็นเลื่องลือกันเหลือเกินในซีรี่ยส์

สรุป.. 

มันไม่อร่อยเลยอะะะะ แบบรสชาติจืดมากกก ฝืดๆ กินยากมากกก T T บรัยยย

จากนั้นเราก็เดินทางไปคลองชองกเยชอนต่อ ซึ่งตอนดึกๆมันก็ให้บรรยากาศดีไปอีกแบบ

 photo DSC01115.jpg

 photo _1.jpg

เห็นในซีรี่ยส์แล้ว เราก็มาถึงแล้วนะจ้ะ ผู้คนไม่เยอะมากเวลานี้

 photo DSC01151.jpg

 photo DSC01136.jpg

ระยะทางข้างล่างนี้เห็นว่ายาวถึง 5 กม. ซึ่งพวกเราก็ถ่ายรูปเล่นกันไป และตัดสินใจไม่เดินต่อ เพราะเรามีมิชชั่นต่อไปอีก555555 ตารางชีวิตถ้าจะแน่นขนาดนี้

ปิดท้ายด้วยการข้ามก้อนหินในตำนาน เป็นอันเสร็จ

 photo DSC01163.jpg

.

.

หลังจากกลับมาที่พัก เราก็ตัดสินใจแวะไปกินติมที่ตลาดวัยรุ่นฮงแดอีกครั้ง มันคือไอติมที่พวกเราเล็งกันตั้งแต่เมื่อคืน หึหึ

“ Tiramisu Ice-Cream”

 photo DSC01172.jpg

 photo DSC01173.jpg

 photo DSC01174.jpg

 photo DSC01175.jpg

แกร๊ คือคนต่อคิวเยอะมาก แม้อากาศจะหนาวเหน็บเพียงใด คนก็ต่อคิวกันติมกันจริงจัง

ตอนอินี่ยกกล้องขึ้นมาถ่ายตอนที่เจ้าของร้านตกแต่งครีมใส่แก้ว..

ออนนี1:“masca@#)()(%^#$%”

อิเชอ: “Huh?” หน้างงเป็นไก่ตาแตก

นางก็พูดอีก:“Mascapo@#$)*%”

อิเชอ:“..... OO”

ออนนี2:“Mas-ca-po-nue-chee-sue”

อิเชอ: “อ๋ออออ”

ออนนี1+2:“อ๋ออออออ”

“MASCARPONECHEESE”

555555555555555

คือน่ารักดี ภาษาปะกิดนาง

คือนางจะสื่อว่า ไอครีมขาวข้างล่างที่เพิ่งโปะลงแก้วเนี่ย คือมาสคาโปนชีส

แล้วเค้าก็กดไอติมใส่ลงไป แล้วเอาช็อคโกแลตเป็นก้อนใหญ่ๆขูดฝอยลงแก้วอย่างเยอะ แล้วโรยผงโกโก้แบบ ไม่แคร์พื้นเลยค่า นางไม่เอาอะไรรอง นางโรยแล้วปล่อยให้มันลงพื้นหมดเลย ร้านเลยอบอวนไปด้วยกลิ่นโกโก้

มาพูดถึงรสชาติ..

 photo DSC01178.jpg

คือ ไม่ผิดหวังที่รอ.. รสชาติมันดจีมว๊ากกกกกกกกกก แกร๊!!

 photo tira.jpg

ละมุนลิ้นเหลือเกิน กลิ่นหอมของแผ่นช็อคโกแลตที่ขูดฝอยบวกก้บรสขมของผงโกโก้ พอเจอกับไอติมมันลงตัวมากอะะะ และที่ฟินสุดคือตักกินกับมาสคาโปนชีสข้างล่าง.. อื้อหือ ฟินมาก!

ตอนกินเสร็จนี่อยากซัดอีกแก้วมาก5555555

ราคาจำได้ว่าแก้วละประมาณ 150 บาทไทย แต่คืออร่อยเหาะจริง ยอมค่ะ

จากนั้นเราสองก็กลับห้องพัก เปลี่ยนชุดแปลงโฉมแล้วท่องยามราตรีอีกครั้ง ผับเกาหลีกับชื่อเสียงอันเลื่องลือ.. “NB2” จากที่เคยอ่านกระทู้ต่างๆว่า อปป้าในผับนี่สุดยอดมือปลาหมึกและขึ้นชื่อเรื่องColoring .. (สี)

วันนี้ อิชั้น.. “เชื่อแล้วค่ะ”

ค่าเข้า ตอนนั้นไปเกินห้าทุ่ม เลยโดนไป15,000 W ได้ 1drink

ด้วยความที่เป็นคืนวันก่อนHalloween คนเป็นล้านนนน แน่นชิปหาย

ที่นี่จะมีสองชั้น ชั้นสองคือเป็นระเบียง คนไม่เยอะมาก ชั้นล่างเป็นFloor เต้น มีดีเจตรงกลาง คนแน่นเอี๊ยดดด ยั้วเยี้ยไปหมด

ส่วนการฝากกระเป๋านี่ต้องเดินไปทางหนีไฟอะ เพราะโซนข้างในมันเต็ม ค่าฝากก็โดนอีก แต่จำไม่ได้เท่าไหร่ แต่ไม่แพงเท่า octagon

คนที่นี่จะค่อนข้างเด็กค่ะ แบบวัยรุ่นมหาลัยเลย มีผู้ใหญ่บ้าง แต่ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น

หลังจากฝากกระเป๋าอะไรเสร็จสรรพ เราก็ไปแลกดริ้ง ที่นี่ก็จะมีเป็นcocktail vodka whisky shot อะไรแบบนี้ เราเลือกเป็นcocktail Malibu คือนางกดดันอะ ไม่รู้จะเลือกไรเลยจิ้มมาสักอัน แม่มไม่อร่อยเลยด๋อย กลิ่นมะพร้าว ละมีผลไม้เปรี้ยวๆ == แหย่ะ จากนั้นก็ลงไปข้างล่าง

สิ่งที่ชอบสำหรับที่นี่คือ “แนวเพลง” มันเป็นHiphop และเป็นเพลงที่เราฟัง เรารู้จัก BigBang งี้ เพลงฝรั่งก็มี สนุกมาก ระหว่างยืนฟังเพลงอยู่ด้านหลังๆของโซนfloor

มีมือมาลูบไหล่ชั้นตอนเดินผ่าน หันไปนี่หน้าประมาณ 40+ อีเดาะ คือแบบ เมิงมาลูบกูทำแมะ!

วันนั้นอิเชอไม่ได้แต่งตัวล่อแหลมเลยค่า เดรสแขนยาว ไม่สั้น แค่มีเว้าไหล่เป็นวงนิดเดียว

หลังจากนั้นนี่เริ่มโดนcoloring เรื่อยๆ ต้องคอยระวังเป็นระยะ คือเซ็งมาก ชั้นไปคือไปให้รู้ และไปแด๊นซ์ แต่culture ที่นี่คือการคัลเลอร์ริ่งแอนด์แฮฟฟันสินะ

บางคนมาพูดห่านไรด้วยไม่รู้ อิเชอก็ได้แต่บอกว่าไม่เข้าใจ แล้วก็ Noๆ ไป บางคนก็จะหยุด ส่วนบางประเภทก็จะมือปลาหมึก แกะมือออกละก็ยังมาจับ ตรงเอวอีก ยี๊!

หนักสุดคือโดนเข้าด้านหลัง ละนางเอาเป้ามาพยายามจะcoloring ตูดช้านนนนนน อีห่ารากไส้ นี่ก็แอ่นหนีเต็มที่ แกะมือออกจ้า

จังหวะที่ชั้นกับอิชุเขยิบเข้าไปตรงฟลอร์หน่อย เหมือนมีเรดาร์ชวิ้งขึ้นมากลางกาอากาศ..

อปป้าสองคนพุ่งตัวเข้ามาพร้อมกัน แล้วนางก็ตะโกนใส่กัน “ย๊าาาาา!!”

ประหนึ่งแย่งช้านนน อีเวร กุสวยเพรียวมากกกกก =..=

บอกเลยว่าอิเชอไม่ได้มองหน้าใครเลย หลบหน้าหนีอย่างเดียว

แม่งก็พูด

อปป้าหื่น: @#)(*%%(^*$#%@_)

อิเชอ: I don’t understand และผละมันหนี มันก็ยังกอดชั้นอยู่ แล้วก็ ถาม

อปป้าหื่น: “Where are youfrom?”

อิเชอ: “Thailand” .. เท่านั้นแหละ

มันหยุดคิดไป 3 วิ.. แล้วรวบชั้นเข้าไปกอดอีกรอบ! กรี๊สสสสสส “เห๊ย” มึงคงคิดว่า ญไทยใจง่ายมากใช่มั้ยยย!?

ชั้นก็รีบปฏิเสธ

อิเชอ: No ๆๆ!! หันหนีแบบรัวๆ มันก็พูดเสียงดังแบบไม่สบอารมณ์ใส่

อปป้าหื่น: “NO?” ชั้นก็ หันหนี ผละๆๆออก ละรีบเดินออกมาเลย แม่งก็แบบ “ฮู๊ววแบบไม่พอใจ แล้วพยายามจะเอามือมาจับตูดตอนชั้นเดินออกอีก อีเวน!

หลังจากนั้นนี่ยืนอยู่โซนด้านหลังFloor ตลอด แล้วก็ขึ้นไปเต้นชั้นสองแทน ปลอดภัยค่ะ ริมระเบียง แม้จะไม่มันเท่าข้างล่างแต่ก็โอเค

วิวจากระเบียงที่มองไปFloor นี่แบบ อ้อเหาะ คือแทบทุก area เต็มไปด้วยคู่ๆๆ กอดกันจากด้านหลังจ่ะ สักพักก็จะจูงมือกันออกไปบ้างงี้ เอริ่ม.. มันคงเป็นธรรมดาของบ้านเค้า

หลังจากอยู่กันไปจนเริ่มเมื่อยก็เลยกลับที่พัก สอยของมินิมาร์ทมานั่งกินกัน


อ่านต่อ Part3 ได้ที่นี่เลยจ้าา: //www.bloggang.com/mainblog.php?id=cherriiecherry&month=09-01-2016&group=17&gblog=3




Create Date : 09 มกราคม 2559
Last Update : 11 มกราคม 2559 18:00:55 น.
Counter : 897 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 808387
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 23 คน [?]



cherriiecherry's blog
Beauty, Fashion & Lifestyle
"ทุกอย่าง เกิดขึ้นได้จากแรงบันดาลใจและความเชื่อ"

รายละเอียดเพิ่มเติมใน About me เลยค่า <3




New Comments