|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | |
|
|
|
|
|
|
|
นกปลีกล้วยลาย
นกปลีกล้วยลาย Arachnothera magna (Streaked Spiderhunter)เป็นหนึ่งในนกปลีกล้วย 7 ชนิดที่พบในประเทศไทยและมีรูปร่างหน้าตาคล้ายคลึงกับนกกินปลีเพียงแต่ตัวโตกว่า ปากยาวกว่า และสีสันไม่ เจ็บ เท่า
นกปลีกล้วยลายมีความยาวจากปลายปากจรดปลายหางราว 19 เซ็นติเมตร มีขนคลุมตัวด้านบนสีเหลืองอมเขียวและด้านล่างสีขาวครีม มีขีดสีดำลายๆไปทั้งตัว ที่เป็นอย่างนี้เพราะมีขีดสีดำที่กึ่งกลางขนนั่นเอง มีปากยาวโค้งสีดำ คอสั้น หางสั้น มีขาและเท้าสีเหลืองอมส้ม
อาหารของนกปลีกล้วยคือน้ำหวานจากดอกไม้ ที่โปรดที่สุดเห็นจะเป็นน้ำหวานจากปลีกล้วยซึ่งนกจะเกาะปลีกล้วยแบบสบายๆและยื่นปากยาวๆโค้งๆของตัวเองเข้าไปตามกรวยดอกเพื่อดูดซับน้ำหวานด้วยลิ้นที่ม้วนเป็นหลอดและปลายลิ้นที่เป็นแฉกอย่างทั่วถึง นอกจากน้ำหวานแล้วนกปลีกล้วยก็กินอาหารจำพวกโปรตีนอย่างแมลงต่างๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง แมงมุม ซึ่งนกสามารถบินกระพือปีกอยู่กับที่หน้าใยที่แมงมุมชักและจิกเอาเจ้าของใยไปได้อย่างง่ายดาย มีผู้พบนกชนิดนี้กระพือปีกอยู่กับที่และดูดน้ำหวานจากดอกไม้บ่อยๆเช่นกัน
ฤดูผสมพันธุ์และทำรังวางไข่ของนกชนิดนี้น่าจะอยู่ในช่วงฤดูร้อนทั้งฤดูไปจนถึงฤดูฝน โดยนกตัวผู้จะเกี้ยวพาราสีตัวเมียโดยการยกตัวขึ้น พองขนพร้อมส่งเสียงแหลมดัง บินไป แล้วบินมาใหม่ วนเวียนอยู่แบบนี้ เมื่อตกลงปลงใจกันแล้วนกจะทำรังโดยนำโครงใบไม้ หญ้าและเส้นใยของพืชมาสอดประสานกัน หุ้มด้วยใยแมงมุมจนกลายเป็นรูปถ้วยแล้วเย็บขอบรังด้านหนึ่งติดกับใบไม้ขนาดใหญ่เช่นใบกล้วยเพื่อกันน้ำฝน นกจะวางไข่ครั้งละ2-3ฟอง ขนาด19*14มม. เปลือกไข่สีน้ำตาลอ่อนหรือน้ำตาลอมเขียวอ่อน มีจุดกระ นกทั้ง 2 เพศผลัดกันกกไข่ 12-13วันต่อมาลูกนกก็จะออกจากไข่ นกเบียนของนกชนิดนี้คือนกคัคคูเหยี่ยวที่ชอบแอบเข้ามาจิกไข่ของเจ้าของรังทิ้งและวางไข่ตัวเองไว้แทน
นกปลีกล้วยลายมักอาศัยตามที่ที่มีกล้วยขึ้นเป็นดงในป่าผสมผลัดใบ ป่าดิบแล้งและป่าดิบเขา จากที่สูง900-1800เมตรจากระดับน้ำทะเล มีการกระจายพันธุ์ในแถบเชิงเขาหิมาลัย ตอนเหนือของอินเดีย ตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ของบังคลาเทศ พม่า จีนด้านตะวันตกเฉียงใต้ ไทย ลาว เวียตนามตอนกลางและตอนเหนือ และคาบสมุทรมลายู
นกปลีกล้วยมีทั้งหมด 6 ชนิดย่อย แต่พบในประเทศไทย 2 ชนิดย่อย ได้แก่ 1.ชนิดย่อย A.m.musarum พบทางภาคเหนือ ตะวันตกเฉียงเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ 2.ชนิดย่อย A.m.pagodarum พบทางภาคตะวันตกของประเทศไทย
ภาพนกในบล็อกถ่ายมาจากอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี นกปลีกล้วยลาย 2 ตัวผลัดกันบินมากินน้ำหวานที่ปลีกล้วย 2 ปลีอย่างเอร็ดอร่อย
ข้อมูลจาก:
//www.bird-home.com
//www.zyworld.com/NAKARIN/HTMLstreakedspiderhunterEpi2.htm
Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2551 |
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2551 19:09:14 น. |
|
11 comments
|
Counter : 4482 Pageviews. |
|
|
|
โดย: wildbirds วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:19:33:05 น. |
|
|
|
โดย: เขาพนม วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:21:08:34 น. |
|
|
|
โดย: ขึ้น15ค่ำ วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:30:23 น. |
|
|
|
โดย: เขาพนม วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:23:03:59 น. |
|
|
|
โดย: นกแห้ว วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:02:49 น. |
|
|
|
โดย: อนันตลัย วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:49:20 น. |
|
|
|
โดย: PANDIN วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:46:27 น. |
|
|
|
โดย: wildbirds วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:8:38:45 น. |
|
|
|
โดย: weraj วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:18:21:32 น. |
|
|
|
โดย: จันทร์ไพลิน วันที่: 20 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:52:14 น. |
|
|
|
|
|
|
|