Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2555
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
26272829 
 
20 กุมภาพันธ์ 2555
 
All Blogs
 

กระเป๋า Longchamp...เรียบง่าย แต่ได้ใจ


Longchamp...ลองฌองป์...ลองชอง..ลองชอม...หรือ...ลองแชมป์ จะเรียกหรือออกเสียงอย่างไรก็ตาม กระแสความนิยมกระเป๋าจ่ายตลาดของแม่บ้านฝรั่งเศสที่ทำจากผ้าไนลอนที่ดูจะแสนธรรมดาแต่ราคาแพงใบนี้ก็ยังแรงดีไม่มีตกเทรนด์ แม้จะวนเวียนอยู่บนถนนแฟชั่นมากว่า 2 – 3 ปีแล้วก็ตาม
       เมื่อเอ่ยถึงชื่อกระเป๋า Longchamp แล้ว สาวไทยจำนวนไม่น้อยที่เป็นเจ้าของ ส่วนที่เหลือกำลังมองหาเพื่อจะเป็นเจ้าของกับเขาสักใบ ไล่เรียงตั้งแต่วงสังคมไฮโซ ดารานักแสดง สาวออฟฟิศ นักศึกษาไปจนถึงนักเรียนมัธยมปลาย
       ด้วยรูปแบบที่แสนจะธรรมดา ที่เห็นด้วยสายตาคือกระเป๋าทำด้วยผ้าไนลอน พับเก็บได้ มีหูหิ้วและฝาเปิดปิดได้ สีสันสดใส แต่ทำไมกระเป๋าใบนี้จึงเป็นเพื่อนคู่แขนสาวๆ ไทยเกลื่อนถนนไปหมด
   




















       **กระเป๋าจ่ายตลาดของฝรั่งเศส**
       
Longchamp เป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่า ลู่วิ่งในสนามม้า เป็นเครื่องหนังของกรุงปารีส ภายใต้โลโกนักขี่ม้าแข่ง กำเนิดขึ้นเมื่อปี 1948 โดยฌอง กาสสย์ แกรง ซึ่งผลิตเครื่องหนังใช้หุ้มกล้องยาสูบ จนถึงปี 1960 จึงเริ่มปรับรูปแบบมาผลิตสินค้าเครื่องใช้เกี่ยวกับการเดินทางที่ผลิตจากหนังแกะ
       ปี 1975 Longchamp เริ่มเข้าสู่วงการแฟชั่นด้วยการผลิตกระเป๋าสำหรับสตรีเป็นรุ่นแรกในชื่อรุ่น Veau Foulonne ชื่อเสียงของ Longchamp เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นจนสามารถเปิดตลาดที่เอเชียที่ฮ่องกงเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1979
       จากกระเป๋าหนังแฟชั่นระดับแบรนด์เนม ปี 1994 Longchamp ได้เปิดตัวคอลเล็คชั่นใหม่ Le Pliages ‘เลอ ปิยาด’ ซึ่งเป็นกระเป๋าพับที่ตัดเย็บจากไนลอน น้ำหนักเบา พับเก็บได้ มีหูหิ้วและฝาปิดกระเป๋าเป็นหนัง มีสีสันให้เลือกหลากหลาย ซึ่งครั้งแรกว่ากันว่าผลิตขายเฉพาะในสนามบินส่วน Duty Free เท่านั้น เพื่อให้นักเดินทางได้ใช้สำหรับใส่สัมภาระชอปปิ้ง แถมตั้งราคาถูก คุณภาพทนทาน กันน้ำ จึงเป็นที่ถูกใจของนักชอปปิ้งเป็นอย่างมาก ต่อมาจึงกลายมาเป็นรุ่นฮอตฮิตไปทั่วโลกกว่า 10 ปีแล้ว
       สำหรับสาวฝรั่งเศสรวมไปถึงสาวยุโรปนั้นชอบถือกระเป๋ารุ่น Le Pliages กันมาก เรียกได้ว่าเกร่อถนนกันทีเดียว เพราะน้ำหนักเบา ทนทาน จุของได้มาก จึงเหมาะกับการถือไปจ่ายตลาด ไปชอปปิ้ง และใช้พับเก็บเป็นกระเป๋าลูกในกระเป๋าเดินทาง เนื่องจากยุโรปไม่นิยมหิ้วถุงพลาสติก
       หน้าตาของกระเป๋า Le Pliages ทำด้วยไนลอน มีฝาปิดเปิดและหูหิ้วที่ทำด้วยหนัง จะมี 2 ขนาดให้เลือกใช้และเป็นรหัสที่รู้กันในหมู่สาว ๆ ที่นิยมรุ่นนี้ คือ รุ่นไซส์ S หูสั้น,S หูยาว ไซส์ M หูสั้น,Mหูยาว แม้จะมีเพียงไม่กี่ขนาดและรูปแบบก็ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง แต่เสน่ห์ของรุ่นนี้อยู่ที่น้ำหนักเบามาก ทนทาน และที่พิเศษคือมีสีสันสดใสซึ่งเจ้าของผลิตภัณฑ์จะมีกลยุทธ์ออกออกสีสันและลวดลายใหม่ ๆ ปีละ 2 ครั้งตามฤดูกาลของแฟชั่นคือ Spring/Summer และ Autumn/Winter
       และทุกครั้ง เมื่อ Le Pliages รุ่นใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด บรรดาสาว ๆ สาวกของ Le Pliages ทั่วโลกก็จะต้องดิ้นรนหามาเป็นเจ้าของให้ได้
    





















       **แฟชั่นนิสต้าไทยคลั่งไคล้**
       คนแรกที่นำ กระเป๋า Longchamp เข้ามาในเมืองไทยอย่างเป็นทางการคือบริษัท คิงพาวเวอร์ ซึ่งนำมาขายใน Duty Free ต่อมาจึงมีบริษัทโกเลย์ บูเชล(ประเทศไทย) จำกัด ได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ซึ่งตรงกับช่วงกระแสของกระเป๋านี้กำลังมาแรง หลังสุดบริษัท เอเวอเรสต์ จำกัด ได้เข้ามา Take over และทำการตลาดอย่างจริงจัง โดยมี Shop ใหญ่อยู่ที่ถนนเกสร และ Shop อื่นๆ กระจายไปทั่วกรุงเทพฯ
       “ กระเป๋า Longchamp โดยเฉพาะรุ่นLe Pliages เป็นกระเป๋าที่สาวไทยนิยมกันมาก ครั้งแรกนั้นเขาผลิตเพื่อต้องการให้เป็นกระเป๋าช็อปปิ้งของพวกแม่บ้านฝรั่งใช้กัน แต่กลับมาฮิตไปทั่วโลก เวลาออกรุ่นใหม่ ๆ มาทั้งคนฝรั่งเศสและสาว ๆ ทั่วโลกก็แห่กันไปต่อคิวยาวเหยียดเหมือนแบรนด์เนมอย่างหลุยส์ วิตตองเช่นกัน” รัฐโรจน์ ศิริคชาภรณ์ ผู้จัดการทั่วไป กล่าว
       รัฐโรจน์ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงความแรงของกระเป๋ารุ่นนี้ โดยเฉพาะรุ่น Limited นั้นจะขายหมดเร็วมาก “ คือ Limited บางรุ่นทำมาแค่ 1 พันใบ ทางเมืองไทยได้โควตา 20 ใบ เพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ขายเกลี้ยงแล้ว”
       **ดารานำเทรนด์**
       ไม่มีใครบอกได้ว่าทำไมสาวไทยถึงชอบกระเป๋า Longchamp รุ่น Les pliages กันนักหนา แต่มีคนวิเคราะห์ว่า คงเพราะคนที่ไปเมืองนอกแล้วเห็นพวกฝรั่งเห่อกันมาก ด้วยนิสัยสาวไทยที่ไม่ค่อยยอมตกเทรนด์โลกอยู่แล้วจึงต้องซื้อกลับมาใช้กันบ้าง และด้วยรูปแบ สีสันที่มีให้เลือกมากมายถูกใจสาว ๆ Les pliages จึงกลายเป็นกระเป๋ายอดฮิตในเวลาต่อมา
 






















รัฐโรจน์ ศิริคชาภรณ์


       กลุ่มแรก ๆที่ชอบถือกระเป๋า Longchamp แล้วทำให้กลายเป็นกระแสยอดฮิตขึ้นมาคือ ‘ดารา’ บ่อยครั้งที่ดูละครยอดฮิตทางโทรทัศน์แล้วจะเห็นทั้งนางเอก นางร้าย ถือกระเป๋ารุ่นนี้เต็มจอ ซึ่งไปสะดุดตาบรรดาสาว ๆ ที่ติดตามละครทุกคืนเริ่มอยากได้เป็นเจ้าของบ้าง
       แพนเค้ก – เขมนิจ จามิกรณ์ นางเอกยอดนิยม ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้นำที่ถือกระเป๋า Le Pliages อยู่เป็นประจำ และไม่ได้ถือคนเดียวด้วย เพราะทุกครั้งที่เห็นแพนเค้กเดินกับคุณแม่นั้น สองแม่ลูกจะถือ Le Pliages รุ่นเดียวกันสีเดียวกันในสไตล์แม่ลูก DUO จนกลายเป็นเทรนด์ฮิตเอาอย่างสำหรับครอบครัวอื่น ๆ ถ้าสังเกตให้ดีตามห้างสรรพสินค้าชื่อดังหลายแห่งจะเห็นแม่ลูกหลายคู่ถือกระเป๋า Le Pliages ในสไตล์นี้เช่นกัน
       เช่นเดียวกับ น้ำฝน - กุลณัฐ ปรียะวัฒน์ ด้วยความที่เป็นคนชอบถือของเยอะ ก็เลยชอบ กระเป๋ารุ่น Le Pliages และสไตล์กระเป๋าที่ชอบถือก็เป็นกระเป๋าที่เรียบๆ ไม่ฉูดฉาดมากจนเกินไป ที่สำคัญกระเป๋ารุ่นนี้ทำความสะอาดง่าย เวลาถือก็ไม่ต้องระวังมากเป็นพิเศษ





















       **ไฮโซมีคนละใบ**
       
สแกนไปที่กลุ่มสาวไฮโซซึ่งเป็นผู้นำเทรนด์แฟชั่นเหมือนกัน ปรากฏว่าถ้าเป็นไฮโซระดับไฮเอนด์ที่ถือกระเป๋าราคาแพงระยับอย่าง Hermes Chanel Prada Louis Vitton ก็จะไม่ถือกระเป๋า Les pliages ซึ่งถ้าซื้อตาม Shop ราคาตั้งแต่ 3,500 บาทขึ้นไป จึงถูกจัดให้เป็นเป็นแฟชั่นระดับ High Street Brand มีแต่ไฮโซระดับกลางที่นิยมใช้หรือไฮโซระดับชอบชอปปิ้งเพราะ Les pliages จะเบาและจุของได้มาก ซึ่งไฮโซกลุ่มนี้จะต้องมีกันอย่างน้อยคนละ 1 ใบ
       คุณแม่ยุคใหม่อย่าง หนิง - ศรัยฉัตร จีระแพทย์ บอกว่า เพิ่งใช้กระเป๋าใบนี้ได้ประมาณ 6-7 เดือน ตอนแรกก็สงสัยเหมือนกันว่ากระเป๋ายี่ห้อนี้ดียังไง ทำไมคนถึงนิยมถือ จนกระทั่งได้เดินทางไปต่างประเทศแล้วเห็นเพื่อนซื้อก็รู้สึกว่า กระเป๋าใบนี้ดูท่าทางคงจะทนทานดี และราคาก็สมเหตุสมผล เลยตัดสินใจซื้อมาลองใช้ 1 ใบ พอลองใช้ได้เพียงวันเดียวก็ปิ๊งกระเป๋าใบนี้เลย ยิ่งตอนนี้มีลูกด้วย ก็ต้องการกระเป๋าที่กะทัดรัด ใส่ของได้เยอะ แล้วก็ไม่หนักมาก
       “ตอนนี้ซื้อมาแบบเดียวกัน 3 สีเลย คือสีดำ สีเหลือง สีแดง แต่คนละขนาดกันไป ถ้าใบใหญ่หน่อยก็ใส่เสื้อผ้าเวลาไปออกกำลังกาย หรือเวลาที่พาลูกไปว่ายน้ำ แต่ถ้าเราอยากจะสมบุกสมบันหน่อยเวลาไปเที่ยว กลัวจะสกปรกเลอะเทอะ ก็จะใช้สีดำ แต่ข้อเสียของกระเป๋าใบนี้ก็คือ เราจะใส่ทุกอย่างยัดลงไปในนั้น พอจะหาอะไรทีก็ต้องควานหา แต่มั่นใจว่าไม่มีอะไรหาย เพราะว่ามันอยู่ข้างตัวเรา บางทีคิดว่าไม่จำเป็นหรอกที่จะต้องถือกระเป๋าแพงๆ ถ้าเราถือกระเป๋าแพงมากๆไปวางตรงไหน เราก็กลัวว่าจะหาย หรือกลัวว่าจะเปื้อน ถือใบนี้แล้วไม่ต้องกลัวอะไรเลย และที่สำคัญคือมันพับได้ บางทีเราอยากเก็บในห้อง เพราะว่ากระเป๋าเยอะ ก็จะพับเก็บเป็นซองๆเลย แล้วก็สะดวกเวลาหยิบมาใช้ด้วย”
       ส่วน รมมี่ -รมณีย์ เธียรประสิทธิ์ ผู้ที่ใช้กระเป๋าหลายยี่ห้อ แต่หนึ่งในนั้นก็ต้องมีกระเป๋าของ Longchamp เป็นตัวเลือก บอกถึงความชื่นชอบกระเป๋าใบนี้ว่า
       






















       “เริ่มจากคุณแม่ก่อนเลย คุณแม่ชอบกระเป๋าแบบนี้มาก การดีไซด์ที่เก๋ เรียบๆ ถึงขั้นให้น้องสาวคุณแม่พาข้ามฝั่งจากสวิตฯ ไปซื้อที่ฝรั่งเศส แล้วท่านก็ลองเอามาให้เราใช้ ตอนนี้ก็ชอบมากเลย ซึ่งใบล่าสุดรมมี่ เพิ่งซื้อมาเมื่อเดือนตุลาคมนี้เอง ซื้อมาหลายสีเลยจากฝรั่งเศส ชอบสีที่แจ่มๆ สดใสๆ มีความรู้สึกว่ามันเหมาะกับการใส่ของไปเที่ยวทะเล เพราะว่ากระเป๋าจะเบามาก เราก็เลยสามารถที่จะใส่ของได้เยอะ และสามารถที่จะใช้กระเป๋าใบนี้ไปได้กับทุก ไลฟ์สไตล์ ของเรา”
       
**วัยไหนๆ ก็ติดเทรนด์**
       
ใช่ว่าจะมีแค่ดาราและไฮโซเท่านั้นที่ใช้ กระแสของ Le Pliages นั้นแทรกซึมไปสู่สาวออฟฟิศที่นิยมใช้กันอย่างไม่น้อยหน้าวงการอื่น
       หน่อง - กนกวรรณ อินทยูง ประชาสัมพันธ์สาวสวย บอกถึงที่มาที่ไปของการเริ่มใช้กระเป๋า ยี่ห้อม้าวิ่ง ว่า เธอใช้กระเป๋าใบนี้มา 3 ปีแล้ว ญาติไปเมืองนอกแล้วหิ้วมาฝาก ราคาก็ไม่แพงมาก เป็นกระเป๋ามียี่ห้อ ที่ราคาไม่แพงจนเกินไป ยิ่งตอนนี้เดินไปไหนก็จะเห็นคนใช้กระเป๋าของ Longchamp ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะรุ่น Les pliages สามารถจอบโจทย์ได้ทุกข้อเพราะกระเป๋าที่เรียบๆไม่มีลวดลายมาก ที่สำคัญใช้ได้ทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นงานกลางวัน หรือกลางคืน
       เช่นเดียวกับ เปิ้ล-วรรณรดา พฤกษาสมบูรณ์ พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง บอกว่า เป็นกระเป๋าแบรนด์เนมที่ราคาไม่สูงมาก และด้วยความที่มีหลายสีเลยทำให้ดูมีสีสันในการถือ และก็ไม่ต้องระมัดระวังในการถือมากเพราะถ้าเลอะก็ทำความสะอาดได้ง่าย ทุกวันนี้ก็คอยติดตามอยู่ตลอดว่ามีสีหรือรุ่นไหนออกมาใหม่รึเปล่า หรือว่าอันไหนที่เรายังไม่มี ก็จะคอยติดตามอยู่ตลอด
       
       






















       ไม่พียงแต่วัยทำงานเท่านั้น แม้แต่นักเรียน-นักศึกษาก็ยังฮิตเหมือนกัน กิ๊ฟ นักศึกษาปี 3 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เล่าว่า ตอนแรก ไม่รู้ว่ากระเป๋ายี่ห้อนี้ชื่อลอง ฌองป์ เพราะเห็นเพื่อนๆพูดว่ากระเป๋า ‘ลองแชมป์’ ก็เข้าใจว่าชื่อนี้ และรู้แค่ว่าคนใช้เยอะมาก เพื่อนๆในกลุ่มก็ใช้กระเป๋าใบนี้กันเกือบทุกคน ตอนนั้นรู้แค่ว่ากระเป๋า เป็นกระเป๋าพับได้ ผ้าร่ม เบา ด้วยความที่ไม่อยากตกเทรนด์ กิ๊ฟซื้อใบแรกเป็นสีแดงเพื่อใช้เป็นกระเป๋าสำหรับใส่สมุด หนังสือเรียนไปในตัว
       “พอซื้อใบแรก ใบที่ 2 ที่ 3 ก็ตามมา จนตอนนี้กิ๊ฟมีทั้งหมด 6 ใบ ต่างแค่สีและขนาด ก็แล้วแต่ว่าวันนี้อยากจะใช้สีอะไร เรียกได้ว่าตอนนี้ถ้าให้ซื้อกระเป๋า หนึ่งในนั้นร้านที่จะต้องเข้าไปดูต้องเป็นร้านกระเป๋ายี่ห้อนี้ด้วย”
       
       **แหล่งซื้อของ “หิ้ว”**
       แม้ว่าจะมีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเมืองไทย แต่สำหรับโลกยุคโลกาภิวัตน์นี้สามารถหาซื้อได้ไม่จำกัดสถานที่ จึงไม่แปลกเลยที่กระเป๋า Longchamp จะกลายเป็นหนึ่งในลิสต์ของฝากซื้อสำหรับคนที่ไปเที่ยวฮ่องกงและฝรั่งเศส
       ตั๊ก สาวออฟฟิศย่านสีลมเป็นเจ้าของ Le Pliages 5 ใบวิพากษ์แหล่งขายว่า “ที่ฮ่องกงมีสีให้เลือกไม่มากนัก ส่วนมากจะเป็นสีพื้น ๆ อย่างดำ ขาว น้ำเงิน สีเบส แต่ถ้าไปฝรั่งเศสก็มีจะแบบและสีให้เลือกเยอะ ตอนนี้กำลังมองหาสีเหลืองสดซึ่งเป็นของฤดูกาลที่แล้วอยู่”




















       ขณะที่สาวก Le Pliages อีกคนแนะนำว่าร้าน Duty Free ที่ซอยรางน้ำราคาจะถูก แต่มีสีให้เลือกน้อยและถ้าชอบต้องตัดสินใจซื้อทันทีเพราะเดี๋ยวก็หมด “เคยไปดูเห็นมีสีดำมา 5 ใบ ที่แรกก็ลังเลใจอยู่ ผ่านไป 2 วันกลับไปดูปรากฏว่าขายเกลี้ยงแล้ว คือตอนนี้ถ้าชอบต้องรีบซื้อเลยเพราะเดี๋ยวของหมด”
       อีกแหล่งช็อปขนาดใหญ่ที่บรรดาคนรักกระเป๋าจะรู้จักกันดีคือ Webside ที่เปิดขายกระเป๋าแบรนด์เนมกันมากกว่าShop เสียอีก โดยเฉพาะกระเป๋ารุ่น Le Pliages เป็นสินค้าอีกแบรนด์หนึ่งที่ขายดิบขายดีมีลูกค้าสั่งเข้ามาเยอะมาก แต่ก็มีคำเตือนจากสาวนักชอปว่าให้ระวังมิจฉาชีพและกระเป๋าบางรุ่นผลิตจากจีนไม่ใช่จากฝรั่งเศส รวมถึงข้อเสียที่ซื้อในเน็ตคือเปลี่ยนสินค้าไม่ได้
       ส่วนสนนราคาที่ซื้อขายกันในเน็ตนั้นถูกกว่าร้านค้าทั่วไป เพราะเดี๋ยวนี้ไม่ใช่แอร์โฮสเตสที่มีอาชีพเสริมหิ้วของมาขายแล้ว แต่ยังมีพวกที่รับหิ้วของเป็นอาชีพประจำอีกด้วย โดยเฉพาะกระเป๋า Le Pliages เป็นกระเป๋าที่พับได้ เวลาหิ้วกลับมาแต่ละครั้งจึงหิ้วได้จำนวนมาก สนนราคาค่าหิ้วนั้นถ้าเป็น Le Pliages บวกเพิ่ม 500 บาท แต่ถ้าเป็นยี่ห้อแพงๆ บวกเพิ่ม 1,000 บาท
       อย่างไรก็ตามรัฐโรจน์ในฐานะตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการกล่าวถึงสินค้าที่ซื้อขายกันนอก Shopว่า “ถ้าใครซื้อ Longchampจากร้านเรานั้น ให้เก็บใบเสร็จซึ่งรับประกัน รวมทั้งบริการหลังการขายให้ด้วย แต่ถ้าไปซื้อที่อื่น ๆ เราคงไม่สามารถตรวจสอบว่าเป็นของจริงหรือเปล่า”






















หน้าตากระเป๋ารุ่น Le Pliages รุ่น Copy จะเห็นว่าทรงกระเป๋าจะไม่อยู่ตัว


       **‘แชมเปี้ยน’ ขวัญใจคนจน**
       
สนนราคาของ Le Pliages แม้จะเป็นราคาสบายกระเป๋าสำหรับคนมีเงินก็ตาม แต่สำหรับสาวๆ ที่เบี้ยน้อยหอยน้อยที่อยากวิ่งตามแฟชั่นก็ยังดูไกลเกินเอื้อมเหมือนกัน Le Pliages รุ่นCopy จึงกลายเป็นสินค้ายอดฮิตไปเช่นเดียวกัน แหล่งขายของก็มีตั้งแต่สยามสแควร์ไปจนถึงตลาดนัด ในสนนราคา 199 – 350 บาท ซึ่งบางแหล่งแม้จะ Copy รูปลักษณ์ภายนอกได้เหมือนเกือบทุกจุดแต่เรื่องวัสดุนั้นไม่สามารถหาที่เหมือนได้
       เจ้ตาล-วิจิตรา พันธุวา เจ้าของร้านขายกระเป๋าแฟชั่น ย่านสยามฯ เล่าว่าไม่แน่ใจว่ากระเป๋ายี่ห้อนี้มีที่มาที่ไปยังไง แต่เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว เห็นลูกค้าถามถึงหลายรายก็เลยต้องหาของมาขายให้ลูกค้า แต่ของที่ร้านนำมาขายจะเป็นยี่ห้อ ‘แชมป์เปี้ยน’ ซึ่งจะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับกระเป๋ายี่ห้อ Longchamp
       “คนที่มาซื้อกระเป๋าส่วนใหญ่จะเป็นเด็กนักเรียนวัยรุ่นจนถึงวัยทำงาน แต่เท่าที่สังเกตดู จะเป็นกลุ่มคนทำงานซะมากกว่า อายุประมาณ 20-30 ปี พวกพนักงานบริษัทหรือไม่ก็สาวออฟฟิศจะมาถามหากระเป๋าแบบนี้กันเยอะ ยิ่งตอนนี้มีให้เลือกหลายสี หลายแบบ ทั้งแบบมีลาย ไม่มีลาย มีซิป ไม่มีซิป ราคาก็จะมีตั้งแต่ 350 บาทขึ้นไป”
       เจ้ตาล ยังแนะนำอีกว่า ยิ่งในช่วงนี้ เป็นช่วงที่เศรษฐกิจซบเซา เซื่องซึม ประชาชนไม่ค่อยกล้าจับจ่ายใช้เงินกันสักเท่าไหร่ ถ้าเป็นของจริงใบหนึ่งราคาก็หลายพัน ดังนั้น ลูกค้าจึงหันมาใช้ของ Copy แทน ราคาก็ถูก แล้วก็ได้ของที่ถูกใจด้วย
      





















       **เทคนิคในการดู Les pliages ของจริง **
       1. ผ้าของกระเป๋ารุ่น Les pliages จะต้องมี 2 ชั้น ทั้งด้านในและด้านนอก และตัวผ้าค่อนข้างหนาพอสมควร
       2. หากเป็นกระเป๋า shopping bag รุ่น Les pliages และรุ่น Cabas ที่ไม่มีซิป หรือรุ่นอื่นที่ใช้ผ้าแบบเดียวกัน หูกระเป๋าและฝาปิดจะต้องเป็นหนังแท้เท่านั้น
       3. แต่ถ้าเป็น Les pliages ที่เป็นหูสั้น ที่แผ่นฝาหลังตัวสุดท้าย จะมีเขียน size และต้องมี S,M,L ตามขนาดของกระเป๋าด้วย
       4. ฝากระเป๋าด้านหลัง ที่เขียนตัวหนังสือ แต่ละแบบจะไม่เหมือนกัน เช่นถ้าเป็นรุ่น shopping bag รุ่น Les pliages ที่เป็นหูยาวสะพายไหล่ได้ ด้านหลังฝากระเป๋าจะเขียน sac shopping ไม่มีขนาด size ส่วนรุ่นอื่นๆ ที่ฝากระเป๋าด้านหลังก็เปลี่ยนไปตามแต่ละรุ่น
       5. สันซิป จะต้องมีเลข 45 ทุกใบทุกขนาด ที่มีซิป และรวมถึง ซิปทุกแบบทุกรุ่นของกระเป๋า Longchamp ถ้าไม่มีเลข 45 ก็เป็นของปลอมทุกใบ
       6. ถ้าเป็นกระเป๋ารุ่นเก่า series no. จะอยู่ที่ฝากระเป๋าด้านในใกล้ที่ติดกับตัวกระเป๋า แต่ถ้าเป็นรุ่นใหม่ดูง่ายหน่อยคือ มี tag เป็นพลาสติก เย็บอยู่ในกระเป๋า มี series no. ติดอยู่






























       































       




 




 

Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2555
0 comments
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2555 19:39:18 น.
Counter : 21689 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


เหมียว CHANEL
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add เหมียว CHANEL's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.