ไดอารีที่ไม่มีความหมาย(ตอนที่2)


เดี๋ยวนี้ผมตื่นเช้าทุกวัน ตื่นตั้งแต่ตี5ครึ่ง มันก็ดีอย่างคือทำให้สมองมันโล่ง และคิดอะไรออกเกิดไอเดียต่างๆมากมาย ผมจำได้ว่าเคยอ่านประวัติของคุณสุทธิชัย หยุ่น ท่านบอกว่าพ่อของท่านตื่นตั้งแต่ตี 5 และพ่อของท่านสอนไว้ว่าพระพุธเจ้าตรัสรู้ตอนตี 5 ทำให้เวลาช่วงนี้เป็นเวลาฤกษ์ที่ดีและคุณสุทธิชัย หยุ่นก็ตื่นแต่ตี5ทุกวัน ที่ผมอ่านเจอมานะ แต่สาเหตุหลักที่ผมต้องตื่นตี5ครึ่ง เพราะเมื่อก่อนไปทำงานสายและรุ่นพี่ที่ทำงานซึ่งมีฐานะทางสังคมที่ทำงานเป็นหัวหน้าได้บอกว่าให้มาเช้าๆหน่อยเพราะผู้ใหญ่ตำหนิมา

พอตื่นเช้าๆมันก็มีภาพบรรยากาศของคนริมถนน 2ข้างทางให้เห็นแตกต่างจากช่วงสายที่ผมเคยออกเดินทางเป็นปกติประจำวัน(ปกติผมจะออกจากบ้านประมาณ9โมงเช้า กลับกลายเป็นต้องมาถึงก่อน9โมงเช้า)

อยู่ๆมันก็เกิดอาการแปลกๆขึ้นมากับร่างกายและมีความรู้สึกแปลกๆกับความคิดที่แล่นเข้าสู่สมองเกี่ยวกับคำว่า ความหมาย ว่าบางสิ่งมันมีความหมายกับคนบางคน แต่ไม่ความหมายใดๆทั้งสิ้นกับคนอีกคนเลย มันเป็นเรื่องที่น่าคิดมาก

จากสองข้างทางที่เข้ามากระทบกับสายตาทั้งสองข้างก่อนไปสู่สมองสองซีกซ้ายขวา ผมสังเกตุเห็นคนขายขนมถ้วยตอนเช้าในรถเข็นคันเก่าผุๆจอดขายอยู่ติดกับร้านเบเกอรี่ฝรั่ง มันก็สะท้อนให้คิดว่าร้านขนมถ้วยหรือร้านเบเกอรี่หรูหรามันก็ไม่มีความหมายสำหรับบางคนและก็มีความหมายกับบางคนเช่นกัน

หญิงสาวในชุดทำงานออฟฟิคที่เร่งรีบกระโดดขึ้นซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์รับจ้างอย่างเร่งรีบ สำหรับเวลาดูจะมีความหมายกับหญิงสาวแต่เวลาที่เร่งรีบในยามเช้าไม่มีความหมายกับชายหนุ่มผมเผ้ายาวรกรุงรังที่ไม่ใส่รองเท้าเนื้อตัวมอมแมมที่นั่งอยู่ข้างทางพลางตะโกนร้องด้วยเสียงที่คนธรรมดาไม่เข้าใจศัพท์เสงของเขา

หญิงสาวชาวต่างชาติขาขาดเดินด้วยไม้พยุงเท้า2 อัน โดยไม่ยอมใส่ขาเทียม เดินผ่านขอทานชาวไทยที่เราเรียกว่าวณิพกสองคนผัวเมียที่อายุมากจนเราสามารถเรียกว่าตายายที่นั่งขอเศษทานอยู่ไม่ห่างจากชายหญิงวัยกลางคนซึ่งมีฐานะทางสังคมเป็นที่เชิดหน้าชูตาแก่ตนเองและมีความหมายอย่างมากกับคนในครอบครัวและลูกน้องลูกจ้างที่ต้องอาศัยเศษส่วนเงินส่วนหนึ่งที่เขาหามาได้กำลังใส่บาตรให้กับพระภิกษุ

วันนี้ทำให้ผมคิดได้จากสิ่งรอบตัวที่มันดูไม่เคยมีความหมายกับผมมาก่อนเลย มันกับมีความหมายแต่ก็มีหลายสิ่งที่ดูแล้วมันไม่มีความหมายกับผมถ้าเอาเข้าจริงเป็นซะงั้น

============================================




 

Create Date : 18 ตุลาคม 2550
1 comments
Last Update : 18 ตุลาคม 2550 16:25:20 น.
Counter : 1676 Pageviews.

 

มาอ่านความคิดครับ ถึงแม้ว่าเข้ามาช้าไป 4 ปี แต่ก็ยังอยู่ร่วมสมัยครับ

 

โดย: Insignia_Museum 9 เมษายน 2554 12:30:20 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


น้องอชิตะ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




บนถนนแห่งทางชีวิต มีหลายสิ่งสูญหายไประหว่างทางแต่มีบางสิ่งที่ยังฝังแน่นในความทรงจำ คือ ภาพถ่ายเก่าๆและเพื่อนคนหนึ่ง เพื่อนๆสามารถเยี่ยมชมผลงานการถ่ายภาพหลายร้อยอัลบั้มฝีมือการกดShutterของผม ได้จากที่นี่และ http://www.ashitastudio.com ครับผม
และชมgallaryที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางและการใช้ชีวิตมีสาระบ้าง ไร้สาระบ้างที่
http://ashitastudio.multiply.com ครับผม
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2550
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
18 ตุลาคม 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add น้องอชิตะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.