รมว.ปวีณา หงสกุล เปิดงานสัมมนาของสภาสังคมสงเคราะห์ฯ โดยมีพลตรีหญิง คุณหญิงอัสนีย์ เสาวภาพ, ส.ว.ยุวดี นิ่มสมบุญ และส.ว.ตวง อันทะไชย ให้การต้อนรับ.
เพื่อเตรียมพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดย พลตรีหญิง คุณหญิงอัสนีย์ เสาวภาพ ประธานสภาสังคมสงเคราะห์ฯ ได้จัดสัมมนา เรื่อง กฎหมายสำคัญที่ใช้ในการบริการกลุ่มเป้าหมายด้านสวัสดิการสังคม เพื่อรองรับประชาคมอาเซียน สำหรับองค์การสมาชิกสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย โดยมีผู้แทนองค์กรสมาชิก 89 องค์กรเข้าร่วมงาน ที่โรงแรมเอส ดี.อเวนิว เมื่อเร็วๆนี้
นางยุวดี นิ่มสมบุญ รองประธานสภาสังคมสงเคราะห์ฯ และประธานโครงการสัมมนาฯ กล่าวว่า เพื่อให้องค์กรสมาชิกของสภาสังคมสงเคราะห์ฯ ได้รับรู้ เข้าใจสาระสำคัญของกฎหมาย ที่จะต้องใช้ในกลุ่มเป้าหมาย จึงจัดสัมมนาครั้งนี้ขึ้น และจะมีการจัดในภูมิภาคต่างๆอีก 3 ครั้งที่จังหวัดอุบลราชธานี, เชียงใหม่ และชุมพร ซึ่งน่าจะเกิดประโยชน์ต่อกลุ่มคนทำงานสวัสดิการสังคมต่อประเทศและประชาคมอาเซียน
โอกาสนี้ นายตวง อันทะไชย สมาชิกวุฒิสภา ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ได้ให้ความรู้ในเรื่อง ทิศทางขององค์กรสมาชิกสภาสังคมสงเคราะห์ฯในประเทศ กับสภาสังคมสงเคราะห์อาเซียน ด้วยว่า ก่อนที่เราจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอีกไม่กี่ปี ประเทศไทยจึงต้องมีการเตรียมตัวและปรับตัว คนทำงานก็ต้องปรับและเปลี่ยนแปลง ต้องสร้างความรู้ให้คนไทยมีที่ยืนในอาเซียน และเตรียมรับมือกับการหลั่งไหลของคนในอาเซียน ที่สามารถจะไปทำงานที่ไหนก็ได้ในอาเซียน เราจึงต้องเรียนรู้เรื่องอาเซียน ทั้งด้านกฎหมายและวัฒนธรรมประ-เพณีต่างๆของอาเซียน ซึ่งมีทั้งวัฒนธรรมขงจื๊อ, วัฒนธรรมพุทธ, วัฒนธรรมอิสลาม และวัฒนธรรมคริสต์ การเข้ามาของอาเซียนจะนำมาทั้งการเปลี่ยนแปลงของโอกาสทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม การ เตรียมตัวต้องเริ่มตั้งแต่การเรียนรู้เรื่องภาษาอังกฤษ ซึ่งจะต้องใช้เป็นเครื่องมือในการทำงาน เจรจาต่อรอง ต่อไปคนทำงานภาคสังคม ทำคนเดียวไม่ได้ อาจต้องมีการติดต่อกับองค์กรต่างๆ รวมทั้งกองทุนอาเซียน ต้องทำงานให้คนชนบทยากไร้มีที่ยืนในสังคมอาเซียนด้วย นอกจากนี้ยังต้องใช้สื่อออนไลน์ ทั้งกูเกิล, เฟซบุ๊ก ให้เป็นประโยชน์ในการทำงาน วิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์ประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนเขาเตรียมพร้อมแล้ว อย่างเวียดนาม นอกจากภาษาอังกฤษแล้ว เขายังให้เรียนภาษาจีนและภาษาไทย, กัมพูชา เรียนภาษาอังกฤษในวัด ใครที่พูดภาษาอังกฤษได้ มีงานทำเลย ส่วนลาว มีนโยบายเรียนภาษาเวียดนามและภาษาไทย, อินโดนีเซีย เรียนภาษาไทยเป็นภาษาที่ 3, มาเลเซีย เขาประกาศจะเป็นศูนย์การจัดการการศึกษาของโลก เขาไม่มองแค่อาเซียน เวทีโลกเป็นเป้าหมายที่เขาจะไปแล้ว ส่วนประเทศไทยจะมีวิสัยทัศน์อย่างไร?.