ลมหนาว ฟ้าใส ณ ดอยสูง อ.ปาย ตอน 2

หลังจากเมื่อวานได้เล่าถึงการสนองนี๊ดตัวเองสาระถะเดินทางสู่ ดอยสูง อ.ปายไปแล้ว ก็พยายามจะรวบรวมภาพบรรยากาศที่ถ่ายไว้มาแบ่งปันให้เพื่อนๆได้เห็นกัน..พยายามหาจากเครื่องนี้แต่ก็ได้เท่านี้จริงครับต้องขอโทดจริงๆ..อยางไรเสียจะพยายามนำจากคอมฯอีกเครื่องที่เก็บไว้ที่ต่างจังหวัดมาลงให้ดูอีกที....
.....เอาละครับหลังจากคืนวันแรกที่ไปถึง อ.ปายและซึมซับกับบรรยากาศที่เกินคำบรรยายพอแล้วก็เข้านอนที่เต้นท์ที่ตัวเองกางไว้แล้วคืนนั้นน้ำค้างแยะมากครับ..อาจเพราะเราตั้งเต็นท์ติดกับริมน้ำด้วยและความเย็นจากบรรยากาศรอบตัวที่จะดูดความอบอุ่นจากภายในร่างกายเราทุกครั้งที่พูดจะมีกลุ่มควันออกมาไม่ขาดกันเลยทีเดียว..ทำเอาผมเองคอแห้งได้อยู่ตลอดเวลา...ผมกะว่าคืนนี้จะนอนให้สบายเลยแต่ผิดครับ...จำได้ว่า เสื้อเชิ้ต3ตัว แจ้คเก็ต 1 ผ้าขนหนูหนาผันคอผืนใหญ่ บวกใส่กางเกงยีนท์นอน กับถุงเท้า แถม ด้วยหมวกคลุมหัวอีก1ลูก มันเป็นชุดนอนที่ไม่สามารถทำได้ ใน ก.ท.ม แน่นอนครับ ขนาดผมทำขนาดนี้ความเย็นจากอากาศยังรู้สึกว่ายังไม่ธรรมดาเลยทีเดียว..สรุปว่าคืนนั้นหลับไม่สนิทครับ..เพราะอากาศหนาวจริงๆ..ทำเอาคิดถึงที่นอน อุ่นๆที่บ้านมาตะหงิดๆ ที่เดียว(ฮา ฮา)

.....ประมาณสักตี 6 โมงได้นะครับอย่างที่บอกว่าผมต้องรีบเก็บเต้นท์ก่อนคนอื่นๆเค้า..ก็มิผิดจากนั้นครับ หลังจากรูดซิปเต้นท์โผล่หน้าออกมาจากเต้นท์บรรยากาศยังกับพึงโดนฝนกระหน่ำมาทั้งคืนปีกไปหมดครับด้านนอก..หมอกจัดมากครับผมลองมองไปที่โค้งน้ำเมื่อคืนนี้แถบมองไม่เห็นกันเลยที่เดียว..ก็แชะๆๆ อีกประมาณ2-3รูปครับแล้วก็รีบเก็บเต้นท์อย่างที่บอก...หลังจากเก็บเสร็จก็เอาทุกอย่างเข้าเป้ใบเขื่อง..เลยเพราะว่ามือนี้เหน็บชา กินหมดแล้วล่ะ..ว่าแล้วก็พยายามหากิ่งไม้แห้งที่ตัวเองนอนทับมาทั้งคืนซึ่งคงจะเป็นที่เดียวที่ยังพอแห้งอยู่มา ก่อกองไฟสักหน่อยครับอย่างน้อยก็ต้มน้ำร้อน (ผมเอาแก๊สกระป๋อง+ตัวหัวแก๊สเล็ก ติดมาด้วยน่ะครับ แบบว่าโอเวอร์แพ๊ค นี้มันกะมีประโยชน์นะเออ)..เพื่อคลายหนาวสักหน่อยก็ดีเพราะรู้สึกว่ามือจะไม่มีความรู้สึกล่ะ..หลังจากวุ้นอยู่กับการเพิ่มความอบอุ่นให้กับตัวเองสักพักก็ถึงเวลา ดีดเป้ใบเขื่องขึ้นบ่า..เดินเข้าไปบน ถ.คนปายอีกครั้งครับบรรยากาศช่วงเช้านี้ก็ดูแปลกตาไปอีกแบบหากเทียบกับยามค่ำคื่นอันคึกคัก..หลักจากเดินมองซ้ายขวาไปเรื่อย..ก็สังเกตุเห็นคนเข้าออก วัดๆหนึ่งในตัวตลาดนั้น.ก็ลองเลียบๆเคียงๆไปดู ก็ถึงบางอ้อครับ..มันคือ สุขาวะดี..นั้นเองและนั้นก็เป็นสิ่งที่ผมมองหาอยู่เหมือนกัน..แต่แย่ตรงดันจำชื่อวัดไม่ได้ขอโทดอีกทีครับ..ผมก็ได้ใช้ห้องน้ำของที่วัดนี้ซึ่งหน้าห้องน้ำก็จะมีกล่องแห่งน้ำใจ ครับตั้งอยู่ ไม่ต้องมีคนคอยเรียกเก็บแบบในเมืองที่พัฒนามากๆอย่างที่อื่นๆหากแต่เป็นสิ่งที่เราต้องรู้เอง..น้ำใจเป็นของหาง่ายครับสำหรับที่นี้.....
.....หลังจากเสร็จธุระจำเป็นแล้วก็เริ่มคิดว่าวันนี้จะเริ่มอย่างไรดีล่ะ..ความอยากเห็นปายแบบถ้วนทั่วมันเริ่มเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย..แต่ยังครับยังเดินเหล่ๆตาม ถ.คนปายอยุ่สักพักเค้าซอยโน้นออกซอยนี้ประมาณว่าเป้ด้านหลังนั้นมันเบาซะเหลือเกิน..ก็ไปจะเอ๋เข้ากับร้าน รถเช่าครับ..ก็เลยตัดสินใจว่าเอาว่ะ..เช่าแมงกะไซค์ ขับดีกว่าจะได้ไปได้ทั่วดัวใจฝัน..(ฮา ฮา ฮา)ว่าแล้วก็ทิ้งกระเป๋าลงตรงหน้าร้าน "อารยา รถเช่า" แล้วลองเลียบๆราคาดูได้ความว่าราคาจะขึ้นอยู่กับชนิดของรถครับ คิดตาม ซีซี.จากที่สักเกตุเอาเป็นว่า รถที่เรารู้จักกันดี พวกรถ 4 จังหวะ นี้อยู่ที่ 120 บาท ต่อ วันครับ "ไม่ผิดครับ 120 บาทต่อวัน"ขับจนหัวฟู่กันที่เดียว ผมว่าราคาโอเคน่ะครับเมื่อเที่ยบกับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ..แต่คิวนานเหมือนกันครับเราต้องไปลงชื่อรอด้วย แล้วก็ลองมองดูร้านอื่นๆเหมือนกันก็มีอีก 2-3ร้านน่ะครับแต่สภาพรถนี้ไม่ค่อยน่าไว้ใจเท่าไหร่..อย่าลืมว่าแถวนั้นมันมีพื้นที่สูง ต่ำ ตลอดน่ะครับก็ต้องละเอียดกันนิดหนึ่งเดียวจะเจอเหตไม่คาดฝันเข้า...เอาเป็นว่าผมดูแล้วว่า"ร้านอารยา" นี้ดีครับ...เอารถพร้อม คนพร้อม แต่..เจ้ากระเป๋าใบเขื่องนี้ซิครั้นจะให้กระเตงไปด้วยคงมิเหมาะ..และก็อย่างที่บอกจริงๆครับ"น้ำใจที่เมืองนี้หาได้ง่าย" ตรงข้าง ร้าน อารยา ก็มีเป็น ธนาคารกรุงศรีฯน่ะครับก็มีพี่พนักงานคนหนึ่งแก่ก็ชวนสนทนาพาที่ด้วย..แหม่ข้อนข้างคุยกันถูกคอ..ที่เดียวพี่แก่มีน้ำใจมากครับ..แก่บอกให้เอากระเป๋าฝากแก่ไว้ที่นี้แหละ..แก่เลิกงานประมาณ 4 โมงเย็น ยังงัยก็ให้เรารีบกลับมาก่อน 4 โมงแก่จะเก็บกระเป๋าไว้ให้..ก็อยากขอบคุณพี่แก่มา ณ ที่นี้ด้วยจริง..ถ้าทริปหน้าไปอีกจะซื้อของไปฝากแก่ซะหน่อย...
.....หลังจากทุกอย่างลงตัว..ก็เลยหยิบ มินิแม็บ ที่หยิบมาจากร้าน รถเช่า.ดูว่าจะออกจากเมืองทางใหน..ดีว่าเป้นเด็ก แว้นเก่าเมื่อสมัย มัธยม..อิอิ..ว่าแล้วก็เริ่มเปิดไฟใส่หมวก..สำรวจปายกันเลย..หลังจากแวะเติมน้ำมันเต็มถังจุดหมายแรกจากในแผนที่ก็คือ วัดพระธาตุแม่เย็น ซึ่งจากบนพระธาตุนี้สามารถมองเห็นวิวของปายได้เกือบทั่วเมืองที่เดียวครับ..ประมาณวัน one stop view service กันเลยที่เดียว..หลังจากนั้นก็ขับไปเรื่อยครับเหมือนคนมิเคยเห็นมอเตอร์ไซค์ ไป สะพานโบราณเมื่อสงครามโลก,หมู่บ้านช้าง,ผมก็ขับไปทั่วเมืองจริงๆครับจนบ่ายกว่าและก็กะว่าจะกลับเข้าตัว เมืองปายล่ะ ระกว่างทางก็แชว๊ป เข้ากับ ปาย ดอย กิวลม เอชื่อมันน่าเข้าไปสำรวจน่ะ..วาแล้วก็มิรอครับเปิดไฟเลี้ยวอีกรอบเข้าไปยัง สถานที่ดังกล่าว..แต่ครับเอ๋ทำไมมันไกลจังน่ะ..ผมจำได้ว่าวิ่งเข้าไปไกลมากสองข้างทางก็เป็นพื้นที่ทำเกษตรของชาวบ้าน..แต่ก็สวยดีน่ะว่าแล้วก็วิ่งๆ วิ่งๆไปมันก็ยังไม่ถัง สักที่จนไปเจอหมู่บ้าน1สักเกตุจากป้ายเขียนว่า หมู่บ้าน แพมบก เอ๋เราคงมิได้ขับข้ามมิติอื่นไปน่ะ(ฮา ฮา ฮา)ก็เลยจอดร้านค้าร้านหนึ่งน่าจะเป็นร้านค้าของหมู่บ้านนี้น่ะครับ ผมก็เลยลงจากมอเตอร์ไซค์หลังจากเริ่มรุ้สึกเหน็บชาอีกรอบแต่มิได้จากอากาศหนาวน่ะครับแต่เป็นจากการกระแทกของแมงกะไซค์ (ฮา ฮา ฮา)..ป้าครับแป๊ปซี่กระป๋องครับ..ป้าแก่โชงกหน้าออกมาจากในบ้านหลังจากได้ยินสำเนียกที่ไม่คุณเคยนัก..กับคำพูดแรกที่ออกจากใบหน้าที่ยิ้มแย็มกับภาษาคำเมือง..ที่ฝังแล้วสบายอย่างบอกไม่ถูก.แม้คำพูดไม่กี่คำก็รับรู้ได้ถึง..ความเป็นมิตรได้ไม่ยากเลย..มาเที่ยวกันเหรอพ่อหนุ่ม.ครับคุณป้า..พอดีผมจะไปที่ ดอยกิ่วลม น่ะครับป้า..หลังจากป้าแก่ได้ยินคำถามแรกแก่ไม่รอช้าเลย..แก่ก็เล่าให้ฟังต้องขอบอกว่า..ผมฝังออกบ้างไม่ออกบ้างเพราะไม่คุณกับภาษาถิ่นที่นี้นักแต่ก็พอรับรู้ได้ว่า ที่ที่ผมจะไปนั้นยังต้องไปอีกไกลเหมือนกัน ทั้งๆที่จากปาย มันบอกว่า 2 กิโล..แท้ๆจากก่อนที่จะเลี้ยวเข้ามา...คุณป้าแก่ก็เล่าถึงที่ต่างๆมากมายถึงแม้ว่าจะไปไม่ถึง ดอยที่ต้องการแต่ก็ไม่ได้รุ้สึกเสียดายที่เลี้ยวเข้ามาเลย..กลับรู้สึกอิ่มเอมใจซะอีก..เพราะป้าแก่ดูจะมีความสุขกับการที่มีแขกมาหาซึ่งสักเกตุได้จากใบหน้าที่ยิ้มแย้มพร้อมเสียงหัวเรอะตลอดเวลาที่เล่าถึงสถานที่ต่างๆในปายให้เราฟัง...จนผมรู้สึกว่าแป๊ปซี่กระป่องนี้ มันอร่อยที่สุดเท่าที่ผมเคยซื้อกินเลยที่เดียว...หลังจากเพลินกับที่คุณป้าแก่เล่าอยู่สักพักก็เหลือบมองนาฬิกา..ก็เกือบๆจะ 3 โมงเย็นล่ะคงอยู่นานไม่ได้เพราะอาจต้องรีบไปเอากระเป๋าจากพี่ที่ธนาคารก่อนแก่เลิกงาน...ป้าครับยังงัยเดียวผมคงต้องไปล่ะครับ..ป้าแก่ยังเสนอให้เราใหนๆก็มาถึงนี้แล้ว ไม่ลองไปหมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาวหน่อยเหรอนี้เลยนี้ไปอีกประมาณ 3 กิโลก็ถึงแล้ว..ช่วงนี้เค้าเปิดหมู่บ้านด้วยน่ะเพราะเป็นวันปีใหม่ของเค้าพอดี..เค้ามีงานปีใหมกัน..ป้าก็อยากให้เราไปดูน่ะ..เอางัยล่ะที่นี้...ความอยากมันเกิดอีกแล้ว..คิดไปคิดมาก็เอาว่ะ..ใหนๆก็มาถึงนี้แล้ว..ขอบคุณครับคุณป้าเดี๋ยวผมจะลองไปดูครับ..แล้วก็ถึงเวลาลาป้าแก่..สังเกตุได้ว่าก็จะยิ้มตลอดเวลาทีคุยกัน..มันรู้สึกอบอุ่นใจยังงัยบอกไม่ถูก..ว่าแล้วก็เบิ่งมอเตอรไซค์ จ่ายตลาดวิ่งขึ้นเขากันอีกรอบ..สองข้างทางสวยดีเหมือนกันครับ..แต่ก็แอบน่ากลัวนิดๆเพราะเป็นป่านี้ครับ..นานๆจะเจอคนทำไรสักที่...แต่ที่แน่ๆหลังจากที่ขับลึกเข้าไปเรื่อยๆทางก็ลำบากขึ้นครับ..ตอนนี้เริ่ม2จิตสองใจล่ะครับว่าจะเอางัยดี..เพราะนี้ก็เย็นแล้วด้วย..จะเสียงเกินไปหรือเปล่าที่จะเข้าไปเพราะจากบ้านป้าที่ขับมานี้มันเกิน 3 กิโลแล้วแน่นอน..และยังมีทีท่าว่าจะเกินไปอีกมากผมเองก็ขับเลยไปอีกสักพักก็ตัดสินใจหยุดแค่ตรงนั้นครับเพราะดูแล้วจะไกลเหมือนกันถ้าไปค้างที่นั้นคงนะเหมาะแต่เราไม่ได้เตรียมตัวมาแต่แรก..ตอนแรกนึกว่าเราบ้ามาอยู่คนเดียวครับ ก็มีมอเตอร์ไซค์ ฝรั่งขับส่วนลงมาจาก ด้านหน้าครับ..โอ๊ะ.ฝรั่งดอย..อิอิอิ แสดงว่าหมู่บ้านคงอยู่อีกไม่ไกล..แต่ผมคงต้องกลับก่อนถึงเสียแล้วเพราะเวลาบีบเข้ามาเรื่อยๆครับ...สุดท้ายจึงหยุดหมู่บ้านกระเหรี่ยงไว้ที่ครึ่งทางครับ.ว่าแล้วก็แชะๆๆ..เก็บบรรยากาศในป่าเพิ่มนิดหน่อยแล้วหันหัวกลับเข้า อ.ปายทันที่.....
.....มาถึงที่ ธนาคารกรุงศรีฯก็เกือบๆ4โมงพอดีครับ ก็เข้าไปรับรับกระเป๋าที่พี่แก่ครับพี่แก่ก็ถามถึงวันนี้เป็นงัย...หลังจากสนทนากันสักพักก็ขอบคุณพี่แก่และก็ออกจากธนาคารเลยครับเพราะจุดหมายของคืนนี้เราจะไปนอนกันที่ยอดเข้า ณ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังครับ..ว่าแล้วก็ลากพี่เบิ้มกระเป๋าใบเขื่องของหนูขึ้นหลังแล้วบึ่งมอเตอร์ไซค์มุ้งหน้าสู่ ห้วยน้ำดังทันที่ คือห้อยน้ำดังนี้จะต้องขับรถย้อนกลับมาทางที่จะกลับไปเชียงใหม่น่ะครับ ซึ่งหางจาก อ.ปาย ประมาณ 30 กิโลครับซึ่งผมก็อุตสาขวบเจ้า รถจ่ายตลาดมาจนถึงเหมือนกันครับ.แต่คงมีหลายท่านที่เห็นคงแอบขำในใจมิน้อยกับภาพรถตลาดไต่เขา กับ ชายสะพายเป้ใบยัก...(ว่าแหมทำไปได้ 5555)ผมก็ขับมาสักพักครับกว่าจะถึงเพราะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษแหม่ก็เหวอยู่รอบตัว.ก็ต้องกลัวกันไว้ก่อนละครับ..หลังจากขับกันมาสักพักใหญ่ก็ถึงปากทางขึ้น อุตทยานสักที่ผมจอดพักรถหน่อยครับเพราะเริ่มได้กลิ่นเหม็นไหม้ออกมานิดนิดล่ะ..ก็เลยแบบแชะๆๆๆตรงป้ายทางขึ้นสักหน่อย..ระหว่างพักรถอยู่นั้นก็มีรถยนต์คันหนึ่งมาจอดข้างๆ.สังเกตุจากป้ายทะเบียนโห้ยมาไกลง่ะ..ชลบุรี ครับพร้อมกับมีผู้หญิงคนหนึ่งเปิดประตูลงมา..และมานั่งข้างๆผมดูจากสภาพก็รู้เลยครับว่า เมาโค้งมา แกลงมาอ๊วกน่ะครับคงเต็มที่แล้วเพื่อนแก่บอกให้แก่มากับผมได้หรือเปล่าเพราะแก่คงทนนั่งขึ้นไปบนจุดกางเต้นท์ไม่ไหวแน่ๆ..ผมโอเคอยุ่แล้วครับ.แต่แก่คงเขินๆน่ะครับเลยยอมนั่งเจ้ารถยนต์ที่แก่คงเกียจไปตลอดทริปนี้อีกรอบ..เจอกันบนยอดน่ะค่ะ..เสียงแจ้วๆจากคนขับอีกคนเอ่ยทักทายเพื่อเพิ่มบรรยากาศแห่งมิตรภาพอีกที่..ครับ..เจอกันข้างบนครับ...

.....ว่าแล้วผมเองก็คงต้องรีบเหมือนกันต้องรีบขึ้นไปให้ถึงจุดกางเต้นท์ก่อนมืดล่ะเพราะจากทางขึ้นกว่าจะถึงก็อีกหลายกิโลที่เดียว..ตลอดทางขึ้นจะมีรถวิ่งขึ้นเป็นระยะๆยิ่งขึ้นสูงขึ้นอากาศก็ยิ่งเย็นลงครับ..ทำให้พอเดาสิ่งที่ต้องเจอด้านหน้าใด้อย่างมิยากเย็นเลย...สุดท้ายก็มาถึงครับยอดที่รอคอย..สิ่งแรกที่เห็นทำเอาอึ้งเหมือนกันครับ..โอ้วววววนั้นมันๆๆๆ....รถยนต์ครับ(ฮ่า ฮา ฮา) รถยนต์ป้าย ก.ท.ม กับ จังหวัดไกลๆ จอดเต็มด้านบนหลาย ร้อยคันที่เดียวครับ..คนเยอะมากครับดีที่ผมขับมอเตอร์ไซค์ทำให้ซอกแซกไปได้ตลอด..เพราะทุกๆคนก็จับจองทำเลดีๆเพื่อกางเต้นท์กันเต็มไปหมดบางคนก็กางซะชิดติดขอบ..แบบว่าไม่กลัวกันเลยที่เดียว..บางคนก็กางซะบนเนินสูงแบบไม่ต้องหลบลมหนาวที่จะกลำกลายมาในคืนนี้แบบไม่กลัวเกรงกันเลย..ผมวิ่งหาทำเล่ที่ดีๆพอจะเหลืออยุ่ครับสุดท้ายก็เจอะเข้าที่หนึ่งเราเต้นท์เล็กครับกางตรงใหนก็ไม่อยากเท่าไหร่...ก็เลยจัดแจงจอดมอเตร์ไซค์คู่กายที่นวดก้นผมมาทั้งวันไว้ตรงที่จอดรถ..แล้วเดินลัดเลอะเต้นท์ต่างๆไปยังจุดที่เล็งไว้..ว่าแล้วก็เริ่มวิชากางเต็นท์คร้งที่ 2 ของชีวิต ถ้าไม่นับตอนลูกเสือกับเต็นท์กระสอบเย็บมือกับไม้ไผ่น่ะครับ..ผมพยายามกางอยู่สักพักมันก็เป็นรูปร่างแล้วล่ะครับ..แต่น้ำใจจากเพื่อนรวมอุดมากาณ์ก็มิเคยขาดหายครับพี่คนหนึ่งเข้ามาช่วยแนะนำวิธีการปักเต็นท์ให้ครับ..พร้อมชวยกางให้ด้วย..ครับนี้ละครับความสุขที่ใด้จากการเดินทางที่แท้จริง.....สภาพเต็นท์คราวนี้ก็เลยดู pro มากมายกว่าเมื่อคืนที่ผ่านมามากนักเชียว.....


....จากทีสอบถามข่าวมาคืนนี้จะอากาศหนาวกว่าเมื่อคืนมากครับนี้ยังไม่บวกกับเรามานอนบนอุทยานที่ความสูงมากกว่าตัว อ.ปายอีกน่ะครับว่าแล้วผมเลยไปเช่าเป็นฟูกนิ่มรองนอนจากศูนย์กลาง..มา2ชิ้นครับกะว่าคืนนี้จะนอนให้อุ่นที่เดียวเชียว..ราคารู้สึกว่าจะ ชิ้นล่ะ 50 หรือปล่าวมิแน่ใจนักครับ..และก็แวะซื้อพวกน้ำเปล่าจากร้านอาหารมาด้วยครับเพราะผมซื้อชาแห้งจากคุณป้าที่ตอนจะไปหมู่บ้านกระเหรี่ยงมา 2 ถุง 20 บาท ครับจะได้ต้มดื่มๆให้อุ่นๆน่ะครับ...ว่าแล้วพอสัก 6 โมงก็ดูดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าครับ..เกินบรรยายอีกรอบครับ ดวงกลมโตสง่าแปล่งแสงสีส้มเรื่อๆค่อยๆคล้อยต่ำลงหลังยอดดอยๆไกลๆอย่างช้าๆๆพร้อมหมอกเย็นเริ่มเข้าปกคลุ่มพื้นที่เรื่อยๆอย่างเห็นได้ชัด..เมื่อความมืดปกคลุ่มแสงไฟแห่งความตื้นเต็นแปลกถิ่นของผู้คนก็เริ่มขึ้นครับ..บ้างก็ไปรวมกับกลุ่มการเล่นรอบกองไฟที่ศูนย์กลางอุตทยาน..เพราะที่อื่นๆห้ามก่อไฟเด็ดขาดครับ..นอกจากจะนำเตา หรือ อื่นๆมาเอง..ที่ขาดมิได้เลยแม้จะอยู่บนยอดเขาสูงก็ยังมีโคมไฟให้จุดเห็นลอยกันเต็มท้องฟ้าอีกคืน..ต่างที่ต่างบรรยากาศ..แต่มิต่างความอิ่มเอมที่ได้รับเลย...เพราะทุกที่มีแต่เสียงหัวเราะกลิ่นไอแห่งความสุขลอยปะปนกลับกลิ่นควันไฟแห่งความอบอุ่นอบอวนทั่วพื้นที่ไปหมด..มันเกินคำพูดใดๆจะมาเล่าต่อกันได้เลยครับ..คืนนั้นผมเองไม่ได้ไปรวมกองไฟกับเค้าด้วยเพราะเพลียมาจากช่วงกลางวันหลังจากเต็มอิ่มกับบรรยากาศได้ครึ่งคืนก็ขอเข้าเต็นท์พักเอาแรงเพื่อจะได้ตื่นมารับแสงแรกแห่งดวงตะวัน..พร้อมทะเลหมอกในหุบเหวเบื้องหน้าตอนเช้าตรู่ใด้อย่างสุขใจอีกรอบ.......

....ตอนแรกกะว่าจะเขียนให้จบภายในตอนนี้แต่แฮ่ะๆเหนือยเหมือนกันแฮะ อย่างไรเดี่ยวจะมาต่อให้จบน่ะครับ..




 

Create Date : 30 กันยายน 2551   
Last Update : 30 กันยายน 2551 8:17:01 น.   
Counter : 684 Pageviews.  


ลมหนาว ฟ้าใส ณ ดอยสูง อ.ปาย

ครั้งหนึ่งเราทำงานให้กับบ.ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งใน ก.ท.ม ก็น่าขำดีเหมือนกัน เราส่งผู้คนไปที่ต่างๆหลายที่ทั้งในเมืองไทย และ เมืองอื่นๆ..แต่เรายักกะไม่มีโอกาสได้ไปเองเลย(ฮา ฮา ฮา)แอบอิจฉาลูกค้าดีเหมือนกัน...


...ช่วงปลายปีที่ผ่านมามีลูกค้าคนหนึ่งให้เราหาข้อมูล และจัดการเรื่องที่พักที่เมืองปายให้หน่อย..เอะ! อ.ปายเหรอ.. นี้เองที่เป็นจุดให้เราต้องแบกกะเป๋าคูใจที่ทุ่มทุนซื้อหามาในราคาหลายพันบาท แต่ไม่เคยพามันออกเดทที่ใหนสักที...นอกจากตู้เก็บของที่ห้อง กับ นำมาปัดฝุ่น นอกตู้แล้วเก็บเข้าที่เดิม......


...เมือลองหาข้อมูล ฮ.ปาย มากๆเข้า เพื่อจะได้ตอบลูกค้าได้ว่า อ.ปายมันดีไหม สวยมากเหรือเปล่า จะพักที่ใหนดี ..ต้องไปอย่างไร ประหนึ่งว่า เรา ไปที่นั้นมานับไม่ถ้วน..(ฮา ฮา ฮา)หลังจากให้ข้อมูลมาพอควรก็จัดส่งลูกค้าไปลงปายตามฝัน ก็ไม่ผิดหวังเลยลูกค้าชอบมากๆๆ..และนั้นก็เป็นบ่อเกิดความอิจฉา..ที่ได้สนองกิเลสตัวเอง..ตัดสินใจซื้อตั๋วไป อ.ปายซะเลย...และแน่นอนดูหนังมาแยะ..ฉันจะต้อง Backback มั้งแหมคำนี้มันช่าง ..เท่อย่างบอกไม่ถูกเลยที่เดียว..และก็ตั้งโจทน์ในใจ จะต้องไปแบบประหยัด..และจะต้องใช้เงินให้น้อยที่สุด(สำคัญ เลย อิอิ) หลังจาก เอาทุกอย่างใส่เป้คู่ใจที่ไม่เคยออกเดทเลยเรียบร้อย ก็รีบบึ่งไป หัวลำโพงทันที่..ก็ไปจับตั๋วรถไฟชั้น 3 ราคาประมาณ 200 กว่าๆจำมิได้ซะล่ะไปลงเชียงใหม่..กะวาชิลๆ ตามสไตล์ back pack แต่แหม่กว่าจะถึงเชียงใหม่ นี้ก็เอาซะท้อเหมือนกัน..แหะๆๆเพราะออกจากกรุงเทพฯประมาณ 4 ทุ่มกว่าๆ ถึง สถานีเชียงใหม่ 3 โมงเย็น แต่ถึงเหนื่อยก็สนุกดี...ได้ฟังเสียง ปู้น กระชึกๆๆ จนอิ่มกันเลยทีเดียว...พอรถไฟจอดเทียบชานชลาที่ 1/4 ณ สถานีเชียงใหม ก็ทำธุระที่ส่วนตัวล้างหน้าแปรงฝัน กันสักหน่อยเติมความสดชื่อกันนิด แหม่ไม่ทันถึงที่หมายก็เจอ เพื่อนร่วมอุดมการณ์ซะแล้ว พี่สามีภรรยาคู่หนึ่ง หลังจากสอบถามกัน แก่มาจากทางภาคใต้จะไปเชียงราย กัน แหม่ น่าอิจฉา อ่ะ มาเป็นคู่ แก่ก็ขอเบอร์เรา.เพราะอยากโทรมาถามว่าที่ อ.ปายที่เราจะไปเป็นงัยบ้างแก่อยากไปบ้าง..หลังจากสนทนาพาทีกันสักพัก..เราก็ขอลา เพราะเดี่ยวกลัวไม่มีรถ ต่อ ไปปาย เพราะมันก็เย็นแล้ว


..หลังจากเก้ๆกังอยู่แป๊ปหนึ่ง ก็ก็ตกลงเรียกสองแถว เพื่อไป อาเขต เค้าเอา 40 บาท ไม่รู้ว่าแพงไปหรือเปล่า หรือเป็นราคาปกติ แต่ก็โอเค คนขับก็พา ซอกแซกเค้าซอย สักพัก ก็ไปโผล่ ที่ อาเขต ขนส่งของเชียงใหม่..เรารีบเดินหาช่องไป ปาย แม่ฮ่องสอนเลย ...ถามคนแถวนั้นเค้าก็ชี้ออกไปทางด้านหลังนอกห้องโถง..เมื่อเดินไปก็เจอ ช่องขายตั๋วรถตู้ และ รถพี่เบิร์ด(รถแดงหวานเย็น)ที่เข้าปายขายช่องเดียวกัน..ราคารถตู้ 120 ถ้าจำไม่ผิดน่ะแต่เราซื้อ รถเมล์พี่เบิร์ดราคา 80บาท รอประมาณ 15 นาที่รถก็มาสภาพรถเหมือนตอนเราดูหนังที่พระเอกเดินทางไปเที่ยวรถจะเก่าๆมีมนขลังดีเหมือนกัน..ว่าแล้วก็รีบเอากระเป๋าให้พี่เข้ายกไว้บนหลังคารถ..แก่มองกระเป๋าเรา และทำท่าฉงนนิดหนึง (ประมาณว่า มันใส่ช้างไว้ข้างในหรืองัยถึง โอเวอร์ แพคกิ้งขนาดนั้น)ก็เห็นในทีวีกระเป๋าฝรั่งใส่กันหลังแอ่นเลยก็กะว่าจะได้เหมือนเค้าบ้างเลยใส่มาซะเวอร์ไปหน่อยคงอยู่ได้เป็นเดือน..แต่แกก็รับไปไว้ด้านบนแล้วก็รีบขึ้นไปจับที่นั้งบนรถทันที่ผมเลือกแถวหลังสุดเพราะจะได้มองบรรยากาศรอบๆถนัดๆ..งานนี้มีเพื่อนรวม ทริป ทั้งไทยและต่างๆชาติหลายคนที่เดียว เพราะเป็นช่วงสิ้นปี พอดี...บรรยากาศ สองข้างทาง แม้จะเย็นมากแล้วแต่ก็ทำให้รู้สึกไม่ผิดหวังสักนิดที่ตัดสินใจมาในครั้งนี้ เพราะบรรยากาศที่รู้สึกได้ถึงลมเย็นที่ปะทะผิวที่เย็นเพิ่มขึ้นเรื่อยเป็นละลอกๆเวลาขึ้นดอยสูงขึ้นเรื่อยๆ..รถหยุดให้พักแป๊ปหนึ่งตรงใหนก็ไม่ทราบเพราะบรรยากาศเริ่มมืดแล้ว แต่ที่สักเกตุแม้จะเป็นดอยที่ห่างไกล แต่รถราก็พลุกพล่านที่เดียว แต่แอะ..เมื่อสักเกตุป้ายทะเบียบ อ่าว ก.ท.ม ซะงั้นเองสามารถกันจริงๆ..เมื่อพักให้ซื้อของกันนิดหน่อยกินอาหารแถวนั้นกันเสร็จก็ไปต่อกว่าจะถึงตัวปายก็ผ่านมา มิอยากบอกโค้งเลย..เดลจะตกใจ..ก็ถังสักที่ปายของฉาน...เราถึงปายกันประมาณ 2 ทุ่มๆกว่า รถวิ่งช้าๆไปยังท่ารถในปายแต่ก็ไม่สามารถผ่าฝูงชนที่เดินกันเต็มบน ถนน คนปาย เราต้องลงแถวถนนแล้วก็ไปที่พักเอง...ความรู้สึกแรกที่เห็นนี้เกินคำบรรยายจริงๆครับ...ผู้คนที่เดินรับลมหนาวที่ไม่ต่ำกว่า 15 องศา กันอย่างมีความสุขโดยไม่ได้รู้สึกถึงความเย็นที่กระทบกายเลย เพราะบรรยากาศที่เกินคำบรรยาย บางคนนั้งล้อมว่งดื่มอะไรร้อนๆรอบกองไฟ พร้อมกับเล่นกีตาร์เบาๆ ถ้าจะให้เปรียบ ก็คงเหมือน ถ.ข้าวสารในกรุงเทพฯมิปาน แต่บรรยากาศ นี้ คนละเรื่องกันเลยที่เดียว..ผมไม่รู้สึกแปลกใจเลยกับที่เค้าว่า..ถ้าคนที่มาปายแล้ว...จะต้องไม่พลาดที่จะมาอีกเป็นครั้งที่ 2 หรือ 3,4 ตามมาด้วยซ้ำ......

.....หลังจากอึ้งกับบรรยากาศเบื้องหน้าอยู่สักพัก..ก็ไปหาที่นอนละครับชิชิ ทริปนี้ กะback pack เต็มที่เตรียมเต้นท์ มาเอง เหล่ไปเหล่มาก็ไปจะเอ.ตรงริมแม่น้ำปาย..ที่รอบๆมีเพื่อนๆปักเต้นกันเต็มไม่เหงากันเลยที่เดียว..หลังจากวุ้นปักเต้นท์อยุ่สักพักเพราะมันมืดมากและน้ำค้างก็ลงมากด้วยเพราะเรามาถึกดึกก็เลยวุ้นวายกันนิดหน่อย..สภาพเต้นท์ก็คงต้องรีบเก็บก่อนคนอื่นในต้อนเช้าเพราะ..ทนอายไพร่ฟ้าประชา ปาย ไม่ไหว..(ฮา ฮา ฮา)...หลังจากปักเตนท์เสร็จก็ออกมาหาอะไรกินที่ ถ.คนปายอีกรอบ รอบนี้ต้องเดินสำรวจให้หมด...คืนั้นทั้ง เมืองปาย เป็นมี โคมไฟ ลอยกันให้เต็มท้องฟ้าไปหมด..มันเกินคำบรรยายจริงๆครับ....เมื่อเดินจนเต็มอิ่มก็กลับมาเต้นท์ของเรานอนเอาแรงสำหรับ อ.ปาย ที่ต้อง สวมบท พี่ติ๊ก navigator ในวันรุ่งขึ้น..พร้อมเสพความสุขให้กระอักกันเลยที่เดียว..
(เดี่ยวจะมาต่อตอน 2 นะครับเรื่องราวยิ่งกว่าในละครซะอีกครบทุกรถชาติ จริงๆทริปนี้)




 

Create Date : 29 กันยายน 2551   
Last Update : 29 กันยายน 2551 8:05:44 น.   
Counter : 858 Pageviews.  


Cambodia

HI ALL NEW VISITOR, TIME FOR CAMBODIAN! YEAH I BEEN THERE FOR A WHILE UMM THAT GREAT FOR ME BUT ONLY ONE THING ANNOYED ME SOME PEDDLER PORNOGRAPHIC FILM STICK ME ALL THE TIME DAMN,.




 

Create Date : 02 กรกฎาคม 2550   
Last Update : 2 กรกฎาคม 2550 9:54:43 น.   
Counter : 309 Pageviews.  


เยือน อินทนนท์

กะชะแวปไปเที่ยว...ดอยอินทนน์มาอ่ะก๊าบ.พี่น้องก๊าบกะหนุกหนานมากมายกะ..ได้ไปเที่ยว เชียงใหม ง่ะ..กะเลยนั่งรถไปตีนดอย..และกะเหมารถขึ้นอินทนนท์ กานอ่ะ
โฮ่ะ.ๆๆ พอดีเจอฝาหร่างกุ่มนึ่ง..กะเลยได้แชร์ค่ารถ..กานอ่ะ..งุงิเจงๆแระอ่ายฝาหร่างมันเดินมาถาม..ว่าขึ้นดอยป่าว..เค้าก็กะจะแชร์กะเราเหมือนกัน...เห่อ..เรยจ่ายการคนล่ะ 150 มั่ง...มะงั้นคิดเราเป่ง 1000 เรย..




 

Create Date : 11 เมษายน 2550   
Last Update : 11 เมษายน 2550 14:17:20 น.   
Counter : 372 Pageviews.  



bkkboys
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




หนุ่มยาคูลท์
[Add bkkboys's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com