bloggang.com mainmenu search








* เรื่องสั้นจากเมืองจีน *


















































เรื่องสั้นเรื่องนี้ จขบ.ได้รับเป็น Fwd Mail จากเพื่อนคนหนึ่งซึ่งทำงานที่ธนาคารใหญ่ในกรุงเทพ เป็นเรื่องสั้นชื่อ ‘เพียงฉันที่ไม่ได้กินฟรี’ ผู้แต่งใช้นามแฝงว่า ‘ภรรยาคุณเลี่ยว’ แต่งโดยใช้ตัวอักษรจีน 800 ตัว .. จากข้อมูลใน Fwd Mail บอกว่าเป็นเรื่องสั้นที่ได้รับรางวัลวรรณกรรมดีเด่นมากมาย ประจำปี 2006




จริงอยู่ ท่านว่าอย่าเชื่อ Fwd Mail ชิ้นไหนง่ายๆ เพราะเป็นลักษณะแนวจดหมายลูกโซ่ซึ่งส่งต่อๆกันมาโดยไม่มีแหล่งผู้ส่ง อาจจะมีการดัดแปลงปรุงแต่งตอนไหนแค่ไหนก็ได้ แต่เพราะเรื่องสั้นเรื่องนี้มีลักษณะเป็นเรื่องราวของชีวิตในสังคมเมืองจีน ซึ่งตรงกับที่จขบ.เคยรู้เคยฟังมา ก็เลยรู้สึกประทับใจ และคิดว่าเรื่องสั้นเรื่องนี้มีลักษณะไม่ห่างไกลไปจากชีวิตในสังคมของบางประเทศอีกด้วย




เมื่อรู้สึกประทับใจ ก็เลยรีบตอบอีเมล์ไปถึงเพื่อนผู้ที่ส่ง Fwd Mail มาให้ว่า “ผมอ่านแล้ว เป็นเรื่องที่ดีมากๆ น่าจะนำไปเผยแพร่ในบล็อกเนอะ คุณเน็กนำไปลงในบล็อกของคุณเน็กซิ ไม่งั้น ผมนำมาลงที่บล็อกของผม เน้อ?” ไม่นานเพื่อนของจขบ.ก็ตอบอีเมล์กลับมาว่า “เอาเลยค่ะ ตามสบาย” จขบ.ตอบกลับไปอีกครั้งว่า “จริงเหรอ? งั้น จะเอาลงในบล็อกเรื่องหน้า นะ”




แล้วเรื่องสั้นเรื่องนี้ ก็ถูกจขบ.นำมาลงในบล็อกวันนี้เสียเลย












วันนี้เป็นวันสุดสัปดาห์ พวกเพื่อนๆสมัยเรียนอยู่ชั้นมัธยม ได้นัดชุมนุมพบปะสังสรรค์กันที่ภัตตาคารเทียนอัน




นับตั้งแต่สำเร็จการศึกษา พวกเพื่อนเก่าได้นัดพบปะกันสม่ำเสมอ มีแต่ฉันเท่านั้นที่ขาดการติดต่อกับพวกเพื่อน ฉันทำงานวาดภาพผลิตภัณฑ์ในโรงงานแห่งหนึ่ง ฉันและสามีต่างก็ช่วยกันทำมาหากินเลี้ยงดูครอบครัว ด้วยรายได้ที่ไม่มากนัก ความจริงฉันตั้งใจจะไม่ไปร่วมงานเลี้ยง แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธเพื่อนๆได้ ก็เลยต้องรับปาก




สามีของฉันยุ่งอยู่กับการทบทวนบทเรียนให้ลูกชาย ซึ่งลูกชายของเรากำลังเตรียมตัวเข้าเรียนชั้นมัธยม เพื่ออยากให้ลูกชายได้เรียนในโรงเรียนมัธยมที่ดีมีชื่อเสียง พักนี้สามีต้องวิ่งเต้นเข้าหาผู้บริหารโรงเรียน ซึ่งจนบัดนี้ก็ยังไม่ทราบผลว่าสำเร็จหรือไม่




ก่อนออกจากบ้านฉันเหลือบมองดูลูกชายแล้วจึงเดินออกไปภัตตาคารเทียนอัน เป็นภัตราคารหรูชั้นหนึ่ง เมื่อฉันเดินเข้าไปห้องที่จองไว้ พวกเพื่อนๆมากันครบแล้ว ทักทายฉันเกรียวกราว ยังไม่ทันได้นั่งต่างก็แย่งกันยื่นนามบัตรให้ ฉันพลิกดูนามบัตรแต่ละคนต่างก็มีตำแหน่งใหญ่โต เป็นผู้จัดการ ผู้บริหารต่างๆ แม้กระทั่ง อาฮุย ซึ่งเรียนไม่เอาใหนที่สุด สอบได้ที่โหล่ ก็ยังได้เป็นตำรวจ เป็นผู้กำกับสถานีตำรวจ




มองดูอาหารที่พนักงานนำมาเสริฟ ฉันหูตาลายไปหมด นั่งนึกสงสารตัวเอง ที่ผ่านๆมาไม่เคยได้ลิ้มรสอาหารพวกนี้เลย คำนวนในใจค่าอาหารโต๊ะนี้มีมูลค่าเท่ากับรายได้ของฉันถึง 3 เดือนทีเดียว อาฮุย ตำรวจทำตัวเหมือนเจ้าภาพงานเลี้ยงนี้ ชักชวนเพื่อนๆให้กินกันไม่หยุด และรินเหล้าแจกทุกคน คีบอาหารให้คนโน้นคนนี้ ปากก็พูดไม่หยุดว่า "กิน พวกเรากิน มื้อนี้ผมจัดการเอง ไม่ต้องห่วง" พรรคพวกทุกคนไม่มีใครขัดศรัทธา ทั้งกินทั้งดื่ม สนทนากันอย่างสนุกสนาน




เมื่อสมควรแก่เวลา หลังจากที่กินกันอย่างอิ่มหนำสำราญแล้ว ก็เป็นเวลาที่ต้องแยกย้ายกลับกัน ฉันสังเกตดูไม่มีใครแสดงความใจกว้างที่จะเป็นผู้เคลียร์จ่ายค่าอาหาร ในที่สุด อาฮุย ควักโทรศัพท์ออกมา กดหมายเลขแล้วพูดว่า "เสี่ยวหลี่ คืนนี้ออกไปจับกุมกวาดล้างได้อะไรใหม ..เออ ดี ดี ส่งมาพบผมที่ภัตตาคารเทียนอัน สักคน ให้มาช่วยจ่ายค่าอาหารหน่อย"




พูดจบเขาก็เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าด้วยความภาคภูมิใจ พวกเพื่อนก็เฮด้วยความสนุกสนาน ต่อมาไม่ถึง 15 นาที ก็มีชายวัยกลางคนผลักประตูเข้ามา พอเห็นยอดเงินในใบเสร็จก็หน้านิ่วคิ้วขมวด ดูเหมือนว่าเงินสดเขามีไม่พอจ่าย เขาควักโทรศัพท์ออกมาพร้อมทั้งกดโทรพูดว่า "คุณเลี่ยวหรือครับ ผมครูใหญ่หม่า นะครับ เรื่องลูกชายของคุณที่ฝากมาเข้าโรงเรียนมัธยมของผมนั้น เป็นอันว่าผมตกลงรับไว้แล้วนะครับ แต่พอดีวันนี้ผมเชิญเพื่อนๆมาเลี้ยงอาหาร อยากขอให้คุณมาช่วยจ่ายค่าอาหารได้ใหมครับ ผมอยู่ที่ภัตตาคารเทียนอัน ห้อง 203 ...."




หลังจากนั้นประมาณ 20 นาที มีคนมาเคาะประตู พอประตูเปิดออกมา ทันทีที่เห็นสามีที่ใส่แว่นตาหนาเตอะของฉัน คือผู้ที่เดินเข้ามา ฉันเป็นลมล้มฟุบลงทันที.





Shanghai, China








































ขอขอบคุณที่ติดตาม


ขอขอบคุณมากๆ นะครับ ที่มีผู้กรุณาโหวตให้ ในสาขา Topical Blog ของบล็อกแก๊งค์



จาก สิน yyswim



Create Date :09 กันยายน 2554 Last Update :9 กันยายน 2554 0:06:35 น. Counter : Pageviews. Comments :20