bloggang.com mainmenu search
เมื่อพูดถึงนิวซีแลนด์ ... ใครไม่พูดถึง บันจี้ จั้มพ์ (Bungy Jump) ถือว่าเชยแหลก ...

ยิ่งนักเรียนไทยที่ไปเรียนที่นั่น ใครไม่เคยโดดบันจี้จั้มพ์ นี่ถือว้าผิดระเบียบศิษย์เก่าแดนกีวีเลยล่ะครับ ...

เพราะเป็นที่รู้กันดีว่า นิวซีแลนด์ คือต้นกำเนิดของกีฬาสุดเสียวนี้

ต้นตำรับคือ AJ Hackett แล้วก็แพร่ไปทั่วนิวซีแลนด์ ... จนตอนนี้แพร่ไปทั่วโลก ... พัทยายังมีเลย ...

ที่นิวซีแลนด์ ไปมุมไหนของประเทศ ก็จะเจอ บันจี้ จั้มพ์ ... สูงมั่ง เตี้ยมั่ง ... ตามแต่สถานที่ ... ไม่ว่าจะที่ Auckland, Taupo, Queenstown และที่เล็กๆ กระเซ็นกระสายอีกหลายแห่ง ...

แต่ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ...

รับรองว่า ... เสียวสุดๆ ...

... ตอนร่วงหล่นลงไปเบื้องล่างด้วยความเร็วสูง ... กระเพาะอาหารแทบจะหลุดไหลลงไปรวมกับสมอง ... หัวใจ ปอด ตับ ม้าม ไต กระเพาะปัสสาวะ ไหลไปตามแรงกระชาก จนผสมปนเปกันหมด ...

กระโดดเสร็จ ต้องใช้เวลาให้ร่างกายเรียงเครื่องในสักระยะนึงก่อน ถึงจะเข้าที่ ...

เด็กไทยกลุ่มนึงจากเวลลิงตัน รวมกลุ่มกันไปเที่ยวเมืองเทาโป (Taupo) ตอนกลางของเกาะเหนือ

แวะไปชมน้ำตกฮูก้า (Huka fall) นั่งเรือเจ๊ตโบ๊ทที่ขับหวาดเสียวมาก คนขับมันโค-ตรซาดิสต์ ... เห็นก้อนหิน เห็นฝั่งตรงไหน เป็นต้องวิ่งเข้าใส่ ...

... หัวใจจะวาย ...


น้ำตกฮูก้า (Huka fall) และเรือเจ๊ทโบ๊ท (Jet Boat)


จบจากเรือเจ๊ทโบ๊ท เป็นธรรมเนียมที่ต้องไปดูบั้นจี้จั้มพ์ที่อยู่ไม่ไกลกันต่อ

พอไปถึง พวกผู้ชายก็เดินอาดๆ ไปซื้อตั๋วโดด ... เพื่อนบางคนแสนจะคุณหนู อยู่เมืองไทย อย่าว่าแต่โดดบันจี้เลย ขึ้นเนินเตี้ยๆ ก็ยังไม่เคย ...

... เริ่มหันมามองเพื่อนล่อกแล่ก ... เหมือนกับจะถามว่า ... เฮ้ย ... เอาจริงเหรอ ...

... อ้าว ไม่โดดเหรอ มานิวซีแลนด์ทั้งที ... กลับไปเมืองไทย ใครถามว่าได้โดดบันจี้จั้มพ์ของแท้หรือเปล่า ถ้าตอบว่า ไม่เคยนี่ อายเขาตายเลยนะโว้ย ... เพื่อนในกลุ่มสบประมาท เมื่อเห็นบางคนชักหน้าถอดสี ...

... มันสูงไม่ใช่เล่นนาโว้ย ... ตกลงไปตายห่- อยู่ที่นิวซีแลนด์แน่ๆเลย ... คนที่ไม่กล้าเริ่มออกอาการอิดออด ...

... เอาน่า ใครไม่กล้า ก็โดดกันเป็นคู่ก็ได้ ... ใครเจ๋ง โดดเดี่ยวเลย ... อีกคนเสนอทางออกให้เพื่อน

ในที่สุดก็ตัดสินใจกัน ... พวกกล้ามาก ก็โดดเดี่ยว ที่กล้าน้อยจนถึงไม่กล้า ก็โดดคู่ ...

... เอ็งไม่ต้องกลัว ผูกขากะข้า ... เอ็งไม่โดด เดี๋ยวข้าพุ่งออกไปเอง ... เอ็งหลับตากะแกล้งตายอย่างเดียว ... โอเค้ ... คู่ขาบันจี้นัดแนะกันขณะรอเพื่อนที่โดดคนเดียวกำลังผูกเชือกที่ขา

... เชือกเส้นเบ้อเร่อเลยหว่ะ ... คนที่เหลือมองเชือกที่ผูกขาเพื่อนคนแรกเป็นตาเดียว พร้อมวิพากวิจารณ์กันแซ่ด ...

พอผูกเชือกเสร็จ ฝรั่งมันก็พาไปยืนที่แท่น จากนั้น ก็ให้หันหน้าไปยิ้มกับกล้อง ถ่ายรูปก่อนโดด ... มันขายรูปได้อีกแน่นอน ... ใครไม่ซื้อก็บ้าแล้ว ... ครั้งเดียวในชีวิต ...


ถ่ายรูปก่อนโดด



จากนั้น มันก็นับ ทรี .. ทู ... วัน ... โก ....

เจ้าคนแรกหลับหูหลับตาพุ่งตัวออกไป ...

ร่างกายทุกส่วนทิ้งดิ่งลงไปยังลำธารเบื้องล่างยังกะเครื่องบินตก ... ได้ยินเสียงผู้กล้าจากแดนสยาม แหกปากลั่นหุบเขา ...

พอเชือกตึง จนศรีษะแทบแตะพื้นน้ำ เชือกก็เด้งดึ๋งขึ้นมา ... ตอนนี้พอรู้ว่า ไม่ตายแล้ว ... ก็เริ่มสนุกกับการเด้งเชือกที่เด้งขึ้นเด้งลง

พอโดดเสร็จ ฝรั่งมันก็ค่อยๆหย่อนเชือกลงไปยังเรือที่อยู่ข้างล่าง ที่แล่นออกมารับตัวคนโดด พากลับไปขึ้นฝั่ง ...

คิวต่อไป เป็นการโดดแบบคู่ ... เหมือนๆกับได้ยินเสียงกรรมการประกาศ ... ต่อไป เป็นประเภทคู่จากไทยแลนด์....

... เอาไงดีวะ ... คู่ต่อไปเริ่มอึกอัก ขณะที่ฝรั่งสวมเชือกให้ที่ข้อเท้าของทั้งสองคน แต่รวบขาให้ติดกันทั้งสี่ขา

ไอ้เจ้าคนที่สบประมาทเพื่อนๆตอนแรก ตอนนี้ชักกล้าไม่ออก ...

... ข้าว่า ข้าไม่เอาแล้วว่ะ ... แม่-งโค-ตรสูงเลย ... เอ็งดูดิ ...

ตรงจุดที่ผูกเชือก เรามักเรียกว่า ... พื้นที่มรณะ ... เพราะแยกออกมาจากคิวด้านหลัง ... ผ่านเชือกกั้นเข้ามา ... มองเห็นสะพาน มองเห็นพื้นน้ำข้างล่าง มองเห็นทิวทัศน์โล่งเบื้องหน้า ... ชวนให้ปวดท้องน้อยและลามไปถึงปวดท้องฉี่ได้เป็นอย่างดี


3 .... 2 .... 1 ..... Goooooo ....


... เอาน่า ... มาถึงขั้นนี้ โดดก็โดดวะ ... ไอ้คนที่ไม่กล้าตอนแรก ดันเสือกกล้าขึ้นมาตอนนี้ ...

... เดี๋ยว เดี๋ยว ... คู่โดดเอามือเกาะราวเหล็กแน่น ... บ่งบอกอาการถอดใจ 100 เปอร์เซนต์

... เดี๋ยวทำเตี่ยเอ็งแน่ะ ... หลับหูหลับตาโดดให้มันเสร็จๆ ไปเถอะวะ ... คนอื่นเขาจะได้โดดต่อ ... เห็นมั้ยคิวยาวเหยียด ...

... หนอยดันเสือกมีวัฒนธรรม มีความรับผิดชอบต่อสังคมนะเอ็ง ... ไอ้คนที่ไม่ยอมโดดค้อน ...

ไป ... พูดไม่พูดเปล่า ขยับตัวลากขาเพื่อนไปด้วย

... เฮ้ย ... เฮ้ย ... อย่าเพิ่ง ... กูยังไม่พร้อม .... คู่ซี้ร้องเสียงหลงเมื่อมองเห็นแผ่นกระดานที่เป็นจุดโดดอยู่เบื้องหน้า

... อะไรของเอ็งอีกล่ะ ... ตะกี้ล่ะก็ ... พูดเป็นฉาก เป็นฉาก ... ใครมาไม่โดด อายเขาตาย ... เพื่อนชักฉุน ในขณะที่ฝรั่งมองแบบ งง งง ... มันพูดอะไรกัน ...

... น่า ... ขอกูตั้งหลักก่อน ... แน่ะมีการอ้อน ...

...ไม่ต้องแล้ว ... เอ็งแค่หลับตาแล้วแกล้งทำเป็นตายแบบที่เอ็งบอกข้าเมื่อกี้นี้ ... เดี๋ยวข้าโดดเอง ... ไป ... คำสุดท้ายพูดไม่พูดเปล่า เสือกลากเพื่อนไปยืนที่สะพานด้วย

... พอถึงสะพานโดด ... ฝรั่งมันให้โอบเอวกันไว้ ... โอบเสร็จมองออกไปข้างหน้า ... เข่าแทบทรุด

... พระเจ้าเอ๋ย ... พระองค์รู้มั้ยว่ามันช่างน่าหวาดเสียวอะไรเช่นนี้ ...

มันโล่งไปหมด ... ยังกะกำลังจะโดดตึก ... ข้างหน้ามองเห็นทิวทัศน์ของแม่น้ำ ขุนเขา ... ข้างล่าง โล่งโจ้ง ... หัวใจหวิว เหมือนจะเป็นลม

ยาหม่องน้ำเซียงเพียวอิ้วทั้งลังยังเอาไม่อยู่ ... ต่อให้ทั้งทา ... ทั้งดื่ม ...

เคยฝันว่าตกตึกแล้วสะดุ้งตกใจตื่นมั้ยครับ ... ยังไง ยังงั้น

ฝรั่งเริ่มนับ ... นับไม่นับเปล่า เสือกหันมาบอกให้ทุกคนที่ต่อคิวช่วยนับด้วย ...

... แม่-ง เสือกเอาพลังมวลชนมากดดัน ... ทำอย่างกับม๊อบที่ทำเนียบเชียวนะมีง ...

... ทรี ... ทู ... วัน ...

สามวินาที นานเหมือนสามชั่วโมง ...

จำอะไรไม่ได้ ... รู้แต่ว่า ได้ยินเสียงอะไร โก ... โก ...

ไอ้เพื่อนเจ้ากรรมกอดเอว เอียงตัวไปข้างหน้า ... ก่อนที่หน้าจะทิ่มลงไปเบื้องล่าง ... แน่นอนทั้งคู่หลับตาปี๋ ... ไม่มีใครอยากดูหรืออยากรู้ว่าวิวทิวทัศน์เป็นอย่างไง ...

... ทั้งคู่ร้องเสียงหลง เป็นโทนเสียงผสมผสานกันอย่างได้จังหวะ ... จังหวะดิ่งลงไป ร้องดังเป็นโทนเสียงหนึ่ง ... จังหวะเชือกเด้งขึ้นมา ดังอีกโทนเสียงหนึ่ง ... ฟังไม่รู้ว่าเป็นภาษาอะไร ...

กว่าเชือกจะหยุดเด้ง ... ทั้งคู่เกือบตาย ...



ตอนหย่อนเชือกลงไปที่เรือที่แล่นมารับ ... คู่โดดยังมีการถามว่า ... เป็นไงบ้างวะ ... คราวนี้มึงเล่าประสบการณ์ให้คนที่เมืองไทยฟังได้แล้วใช่มั้ย ...

... อย่าลืมเล่าตอนเอ็งแหกปากตะกี้นี้ด้วยนะ ... หนวกหูชิบหา-ยเลย ... เสือกมาตะโกนข้างหู ...

... เหอะน่า ... มันก็ดังพอกันละวะ ... อีกคนเถียง

... ว่าแต่อายคนดูจังว่ะ ...

ทั้งคู่เงยหน้าขึ้นไปดูข้างบน ระหว่างนอนหงายท้องอยู่บนเรือ เห็นฝรั่งยืนเกาะรั้วดูกันแน่น ... ยังกะดูการให้อาหารจระเข้ที่ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ ยังไง ยังงั้น ...

เดี๋ยวเราเดินขึ้นไป แกล้งบอกว่า เราเป็นเวียดนามก็แล้วกัน ...

... ยังอุตส่าห์มีลูกเล่นอีกแน่ะ ... ตะกี้ล่ะเกือบตาย ...

ระหว่างเดินขึ้นไป เห็นเพื่อนนักเรียนไทยคนที่จะโดดต่อไป คราวนี้โดดคนเดียว นั่งห้อยเท้าอยู่ปลายไม้กระดาน ...

... เฮ้ย ... ทำไมไม่โดด ... อย่านั่ง ... ยืน ... หลับหูหลับตาโดดไปเลย ... ทั้งคู่ตะโกนสอนเพื่อน ทั้งที่ตะกี้ตัวเองก็แทบเอาตัวไม่รอด

... กูไม่เอาแล้ว ... กูไม่โดด ... เพื่อนที่นั่งอยู่ปลายไม้ตะโกนตอบ

อันที่จริง ทุกคนลงความเห็นว่า ตรงปลายไม้ ... จุดที่มันนั่งนั่นน่ะ ... หวาดเสียวยิ่งกว่าโดนลงไปเสียอีก ... ห้อยเท้าต่องแต่ง จะหล่นไม่หล่นแหล่ ...

เพื่อนๆกล่อมอยู่พักใหญ่ ... ฝรั่งที่มามุงดูก็ลุ้นว่ามันจะโดดหรือไม่โดด

สักประเดี๋ยว ... ไอ้เจ้านั่น ก็หย่อนตัวจากท่านั่ง ค่อยๆหล่นลงไป ... เป็นท่าโดดบันจี้จัมพ์ที่น่าเอน็จอนาถที่สุดครั้งหนึ่งตั้งแต่ก่อสร้างบันจี้จัมพ์ที่เทาโปมา

นักเรียนไทยผู้หญิงที่ไปด้วย โดดคู่ ตั้งใจล้างอายให้เด็กผู้ชาย พอไปถึงจุดโดด เกาะเอวกันกันพุ่งตัวลงไปข้างล่าง ... ได้ยินแต่เสียงกรีด ... กริ๊ด ... กริ๊ด ... เหมือนตอนดูคอนเสริต์

... อย่างน้อยก็เป็นสัญญานว่าน้องทั้งสองเค้ายังไม่เป็นไร ... ยังมีแรงกริ๊ด ...

เสร็จสิ้นการกระโดดครบทุกคน ... มานั่งมองหน้ากัน ผลัดกันวิจารณ์ ไม่วิจารณ์เปล่า หัวเราะกันน้ำหูน้ำตาไหล

... นี่ไง ... กูบอกแล้ว มานิวซีแลนด์ทั้งที ... มันต้องโดดบันจี้ ...

เพื่อนอีกคนตบศรีษะมันดังป้าบ ... เอ็งไม่ต้องพูดมาก ... ตะกี้นี้ หน้าซีดขาสั่นพั่บๆ ... ตอนนี้ทำมาพูดดี ...

เพื่อนๆ หัวเราะกันลั่น ...

ลาทีบันจี้จั้มพ์ ... ครั้งเดียวก็เกินพอ ...







Create Date :18 พฤศจิกายน 2551 Last Update :21 พฤศจิกายน 2551 12:01:26 น. Counter : Pageviews. Comments :52