bloggang.com mainmenu search






อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รับสนองพระบรมราชโองการ
เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของประเทศไทย
ที่พรรคประชาธิปัตย์





นายกรัฐมนตรีกล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ การศึกษาไร้พรมแดน
เพื่อพลเมืองและผู้นำโลกในอนาคต พร้อมฟังการอภิปราย
และถามคำถาม ในงานนิทรรศการศึกษาต่อสหราชอาณาจักร
เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2552




ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้สมัคร สุนทรเวช พ้นสภาพจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีใน พ.ศ. 2551 อภิสิทธิ์ก็ยังพ่ายแพ้ให้กับสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ยุบ 3 พรรคการเมือง พรรคพลังประชาชนเป็นหนึ่งในนั้นด้วย

ซึ่งทำให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นอันต้องยุติลง และศาลยังตัดสินให้สมชาย วงศ์สวัสดิ์พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกด้วย

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ที่ร่วมก่อการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 ถูกสื่อมวลชนรายงานว่าเขาเป็นผู้ที่สนับสนุนหรือบีบบังคับให้ ส.ส.ฝ่ายตรงข้ามแปรพักตร์มาอยู่ฝ่ายอภิสิทธิ์ ส.ส.เหล่านั้นมาจากพรรคเพื่อไทย (พรรคที่สืบทอดต่อจากพรรคพลังประชาชน)

สมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนานำโดยสนั่น ขจรประศาสน์ (พรรคที่สืบทอดต่อจากพรรคชาติไทย) และพรรคมัชฌิมาธิปไตย และกลุ่ม "เพื่อนเนวิน" อดีตสมาชิกพรรคพลังประชาชน ทำให้ให้พรรคประชาธิปัตย์มีเสียงข้างมากในสภา สามารถเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลได้

จึงสนับสนุนให้อภิสิทธิ์ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และชนะการโหวตการเป็นนายกรัฐมนตรีในวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2551 โดยมีประชา พรหมนอกเป็นคู่แข่ง

ทางด้านคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภาแบบสรรหาและแนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงการที่อภิสิทธิ์ได้เป็นนายกรัฐมนตรีว่า "เป็นชัยชนะของพันธมิตรฯ ที่แท้จริง" และ "รัฐประหารสไตล์อนุพงษ์" โอกาสที่อภิสิทธิ์ได้ขึ้นเป็นนายกครั้งนี้ได้รับความเห็นชนชั้นกลาง

การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ในวันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2551 เวลา 17.19 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร นำร่างพระบรมราชโองการแต่งตั้งอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน

การแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีที่มีความสำคัญรวมไปถึงกษิต ภิรมย์ แนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ชวรัตน์ ชาญวีรกูล รักษาการนายกรัฐมนตรีคนก่อนหน้านายอภิสิทธิ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

และกรณ์ จาติกวณิช อดีตนายทุนนายธนาคาร และอดีตเพื่อนร่วมคณะเศรษฐศาสตร์กับนายอภิสิทธิ์ ที่มหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอภิสิทธิ์ถูกวิพากย์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง จากกรณีที่แต่งตั้งนายกษิตมาเป็นรมว.ต่างประเทศ

อภิสิทธิ์ออกมากล่าวปกป้องนายกษิตว่า "คุณกษิตได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำงานของเขามาอย่างดี เคยเป็นเอกอัครราชทูตคนสำคัญของประเทศ มีความรู้เกี่ยวกับเศรษฐกิจเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าเขาเคยร่วมแถลงการณ์ต่างๆ หรือร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ แต่ถ้าเขาไม่ได้ทำอะไรที่ผิดกฎหมายเขาก็จะไม่ถูกดำเนินคดี"

พรทิวา นาคาศัย อดีตเจ้าของธุรกิจอาบอบนวด เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ทั้งนี้ อภิสิทธิ์ได้ให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้มีการเจรจาต่อรองตำแหน่งทางการเมืองแต่อย่างใด


ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงยา

ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2552 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่ามีผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงยาจำนวน 1,000 คนอพยพมาจากประเทศพม่า ได้ถูกราชนาวีไทยจับกุมพร้อมทั้งถูกทารุณกรรม จากนั้นถูกจับโยนลงทะเล โดยไม่มีเรือมารับ และขาดแคลนทั้งน้ำและอาหาร

เรื่องนี้อภิสิทธิ์ออกมาตอบโต้ในเบื้องต้นว่า ซีเอ็นเอ็นรายงานข่าวเกินความจริง และที่ว่าผู้ลี้ภัยเหล่านี้ใช้เรือใบโดยไม่มีเครื่องยนต์และห้องน้ำบนเรือ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือพวกเขาขึ้นมายังชายฝั่ง ทางด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ออกมาปฏิเสธว่าสื่อรายงานไม่ถูกต้อง

วันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2552 ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ออกมาขอร้องให้รัฐบาลไทย ช่วยเข้าถึงตัวผู้รอดชีวิตบนเรือ 126 คนจากการดูแลของไทย

อภิสิทธิ์กล่าวว่า เขารู้สึกยินดีที่ได้ร่วมงานกับองค์กรระหว่างประเทศ แต่แท้ที่จริงแล้วองค์กรนี้ จะต้องทำงานบนพื้นฐานของความร่วมมือกับวิธีปฏิบัติของรัฐบาลไทยที่ถูกต้อง กองทัพกล่าวว่าทางกองทัพเองไม่มีข้อมูลที่กระจ่างชัด เกี่ยวกับผู้ลี้ภัยในการควบคุมของกองทัพ

นอกจากนี้สื่อยังได้รายงานผลการสอบสวนว่า ผู้ลี้ภัยเหล่านี้ได้หายตัวไปจากการกักขังที่ส่วนกลางและยังไม่พบว่าอยู่ที่ไหน ทางเจ้าหน้าที่ราชนาวีไทยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า "พวกเราอาจหยุดเดินเรือหรือพวกเขาจะกลับมา ทิศทางลมจะพาพวกเขาไปยังอินเดียหรือไม่ก็ที่อื่น"

จากนั้นอภิสิทธิ์ให้สัญญาว่าจะดำเนินการ สอบสวนผู้นำทางทหารอย่างเต็มที่ แต่ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่หาว่าปกปิดการใช้อำนาจกองทัพไปในทางที่ผิด การสอบสวนถูกนำโดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน เป็นหน่วยงานที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อต่อต้านคอมมิวนิสต์

จากนั้นได้ทบทวนเพื่อดำเนินการกับกลุ่มคนที่โฆษณาชวนเชื่อให้ต่อต้าน พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง เสนอแนะว่าสถานการณ์ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ปั้นน้ำเป็นตัวขึ้นมาทั้งนั้น เพื่อทำลายภาพลักษณ์และชื่อเสียงของประเทศไทย

นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวหาซีเอ็นเอ็นว่า รายงานข่าวไม่เป็นความจริง และยังเรียกร้องให้ประชาชนอย่าไปหลงเชื่อ

แองเจลินา โจลี ทูตสันถวไมตรีแห่งข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ วิจารณ์รัฐบาลไทยว่า ไม่สนใจไยดีต่อสภาพความเป็นอยู่ที่เลวร้ายของชาวโรฮิงยา และเสนอแนะว่ารัฐบาลไทยควรดูแลคนกลุ่มนี้ให้ดีกว่าตอนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพม่า

กระทรวงการต่างประเทศออกมาตำหนิ UNHCR มีการบันทึกว่า UNHCR ไม่มีอำนาจหน้าที่และการกล่าวว่าเรื่องนี้ ไม่ควรจะอ้างถึงกระทรวงการต่างประเทศ และอาคันตุกะของกระทรวงการต่างประเทศ

นายอภิสิทธิ์ถูกวิพากษ์วิจารณ์ทั้งนักวิเคราะห์ชาวไทย และชาวต่างชาติ จากการที่ออกมาปกป้องกองทัพ ที่ใช้จ่ายเงินในการปกป้องสิทธิมนุษยชนของผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงยา

"เราจะไม่เห็นรัฐบาลอภิสิทธิ์เจริญก้าวหน้าหลังจากกองทัพ เพราะมันเป็นผลประโยชน์ในตำแหน่งของเขา" ฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ นักรัฐศาสตร์กล่าว


ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


สิริสวัสดิ์จันทรวาร เปรมปรีดิ์มานรมณีย์นะคะ
Create Date :07 พฤศจิกายน 2553 Last Update :30 ธันวาคม 2553 16:14:51 น. Counter : Pageviews. Comments :0