ปิดฉากเวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2015 "น้องเฟร้นฟราย ธัญชนก" ดีกรีนักศึกษาสาวคณะจีนศึกษา สาขาจีนศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คว้ามงกุฎไปครอง
       
       ผ่านพ้นไปอย่างคึกคัก สำหรับการจัดการประกวด “มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2015” รอบตัดสิน ชั้น 5 ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว โดยสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ร่วมกับ บริษัท บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เพื่อค้นหาสาวงามที่มีความรู้ ความสามารถ

เป็นตัวแทนสาวไทยเข้าประกวดเวทีระดับโลก “มิสเวิลด์ 2015” ซึ่งจะจัดที่ประเทศจีน เปิดเวทีด้วย 22 สาวงามกับแฟชั่นโชว์ชุด “THE SPIRIT OF TRIBAL” โดยมี “กิตติ สิงหาปัด” และ “กาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ” รับหน้าที่เป็นพิธีกร กล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ พร้อมแนะนำของรางวัล และแนะนำคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ก่อน 22 สาวงามจะเข้าไปเปลี่ยนเป็นชุดราตรีสั้น ออกมาพร้อมแนะนำตัวทีละคน จากนั้นได้ประกาศรางวัลพิเศษ 5 รางวัล ดังนี้
       
       1. รางวัล  Miss Colorful Life By B-ing โดย บริษัท สิงห์ คอเปอร์เรชั่น ได้แก่ หมายเลข 6 “มายด์ สุจรรย์จิรา เข็มทรัพย์” รับเงินรางวัลมูลค่า 100,000 บาท พร้อมสายสะพาย และเครื่องดื่มเสริมสุขภาพบีอิ้ง ฟรีตลอดปี
       
       2.รางวัล “ขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน” โดย บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด มหาชน ได้แก่ หมายเลข 2 “แตงกวา นันทวัน เรืองฤทธิ์” ได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท พร้อมสายสะพาย และ กรมธรรม์ประกันชีวิตและสุขภาพ ทุนประกัน 1,500,000 บาท
       
       3. รางวัล Miss Charming by V-giff ได้แก่ หมายเลข 22 “พลอยใส เพียงรวี สุทธิโภชน์” รับเงินรางวัลมูลค่า 100,000 บาท พร้อมสายสะพาย
       
       4.รางวัล นางงามสุขภาพดี โดย โรงพยาบาลสมิติเวช ได้แก่ หมายเลข 1 “ด้า อะแมนดา ชาร์ลีน ออบดัม” มอบบัตรกำนัลการเข้าใช้บริการที่โรงพยาบาลมูลค่า 100,000 บาท พร้อมสายสะพาย
       
       5.รางวัล นางงามมิตรภาพ ได้แก่ หมายเลข 3 “บิวตี้ วรัญชนา ระดมเล็ก” รับเงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมสายสะพาย
       
       ต่อจากนั้นพิธีกรนำเข้าวีทีอาร์เก็บตัว ก่อน 22 สาวงามโชว์โฉมรอบชุดว่ายน้ำ จากแบรนด์ “กีลาโรช” ซึ่งออกแบบตัดเย็บพิเศษสำหรับสาวงาม คอนเซ็ปต์ The Power Harness ได้แรงบันดาลใจมาจากสายคุมบังเหียนของม้า รวมทั้งการใช้สี Colour Blocking ที่ตัดกัน และเพิ่มความพิเศษให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ด้วยการปักหมุดสีทองลงบนสายของชุด
       
       ต่อมาพิธีกรนำเข้าสู่การประกาศรางวัลพิเศษเพื่อเข้ารอบ 10 คนสุดท้ายแบบอัตโนมัติ 4 รางวัล โดยนางงามที่อุทิศตนเพื่อสังคม หมายเลข 4 “ฉัตร ชลฉัตร เสงี่ยม” รางวัลความสามารถพิเศษ หมายเลข 7 “อีฟ กีรติกาญจน์ ลำจวนจิตร์” รางวัลทักษะด้านการเดินแบบ หมายเลข 1 “ด้า อะแมนดา ชาร์ลีน ออบดัม” และ มิสป๊อปปูล่าโหวต หมายเลข 23 “เฟร้นฟราย ธัญชนก มูลนิลตา”
       
       ก่อนพิธีกรจะประกาศผลผู้ผ่านเข้ารอบ อีก 6 คนเป็น 10 คนสุดท้าย “มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2015" พร้อมเดินโชว์โฉมอีกครั้ง จากนั้นสาวงาม 10 คนสุดท้ายกลับมาอีกครั้งในชุดราตรียาว ซึ่งชุดทั้งหมดในการประกวด ออกแบบตัดเย็บโดยห้องเสื้อ Glam Gold Label จากนั้น “เมญ่า นนธวรรณ ทองเหล็ง” มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2014 ขึ้นอำลาตำแหน่ง ต่อมาเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อพิธีกรประกาศผลผู้ผ่านเข้ารอบ 5 คนสุดท้ายและตอบคำถามประชันไหวพริบ โดยให้ 5 สาวงามจับฉลากลำดับก่อนหลัง ซึ่งเป็นคำถามเดียวกัน มีเวลาในการตอบ 45 วินาทีเท่านั้น
       
       และวินาทีสำคัญก็มาถึง พิธีกรประกาศผลการตัดสิน ปรากฏว่า หมายเลข 23 “เฟร้นฟราย ธัญชนก มูลนิลตา” สาวงามจากเชียงใหม่ เรียนจบปริญญาตรี คณะจีนศึกษา สาขาจีนศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พิชิตใจกรรมการ คว้ามงกุฎอันทรงเกียรติ “มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2015”

รับเงินรางวัล 1,000,000 บาท มงกุฎเพชรประดับมุก จาก ภูเก็ต เพิร์ล กรุ๊ป มูลค่า 1,300,000 บาท รถยนต์ Nissan Juke รุ่น 1.6 V สีแดง มูลค่า 884,000 บาท ทาวน์โฮม พร้อมที่ดิน โครงการ เค.ซี คลัสเตอร์ ( นิมิตรใหม่ ) มูลค่า 1,950,000 บาท กรมธรรม์ประกันชีวิตและสุขภาพ ทุนประกันรวม 5,000,000 บาท จาก บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)

เครื่องประดับ จาก ภูเก็ต เพิร์ล กรุ๊ป มูลค่า 150,000 บาท โปรแกรมดูแลสุขภาพผิว มูลค่า 50,000 บาท จาก โรงพยาบาลผิวหนังอโศก บัตรที่พักห้อง Grand Suite 3 วัน 2 คืน พร้อมแพคเกจสปา Dusit Heaven จาก Dheva Mantra Resort มูลค่า 50,000 บาท เครื่องดื่มเสริมสุขภาพ บีอิ้ง โดยบริษัท สิงห์ คอเปอร์เรชั่น ฟรีตลอดปี
       
       โดยรองอันดับ 1 “มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2015” ได้แก่ หมายเลข 15 “กีฟท์ มิณทร์ลดา สร่างโศก” ได้รับเงินรางวัล 300,000 บาท มงกฎเพชรประดับมุข จาก ภูเก็ต เพิร์ล กรุ๊ป มูลค่ารางวัลละ 850,000 บาท กรมธรรม์ประกันชีวิตและสุขภาพ ทุนประกันรวม 3,000,000 บาท จาก บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) โปรแกรมดูแลสุขภาพผิว จาก โรงพยาบาลผิวหนังอโศก มูลค่า 30,000 บาท เครื่องดื่มเสริมสุขภาพ บีอิ้ง โดยบริษัท สิงห์ คอเปอร์เรชั่น ฟรีตลอดปี
       
       รองอันดับ 2 “มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2015” ได้แก่หมายเลข 2 “แตงกวา นันทวัน เรืองฤทธิ์” ได้รับเงินรางวัล 200,000 บาท มงกฎเพชรประดับมุข จาก ภูเก็ต เพิร์ล กรุ๊ป มูลค่ารางวัลละ 850,000 บาท กรมธรรม์ประกันชีวิตและสุขภาพ ทุนประกันรวม 3,000,000 บาท จาก บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) โปรแกรมดูแลสุขภาพผิว จาก โรงพยาบาลผิวหนังอโศก มูลค่า 20,000 บาท เครื่องดื่มเสริมสุขภาพ บีอิ้ง โดยบริษัท สิงห์ คอเปอร์เรชั่น ฟรีตลอดปี
       
       ทั้งนี้ เฟร้นฟรายเป็นสาวงามจากเชียงใหม่ ผิวสีแทนคล้ายเมญ่า เรียนจบปริญญาตรี คณะจีนศึกษา สาขาจีนศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเหมาะที่จะประกวดเวทีมิสเวิลด์ที่ประเทศจีนเป็นอย่างมาก ด้านคำถามบนเวที ถามว่าถ้าขอพรได้ 1 ข้อจะขออะไร เฟร้นฟรายตอบอย่างฉะฉานว่าขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จ เพราะทุกคนมีฝัน อยากให้มุ่งไปตามฝัน
       
       ทั้งนี้ “เฟร้นฟราย” ได้เผยถึงความรู้สึกหลังได้รับตำแหน่ง รับไม่คาดฝันมาก่อนว่าตนจะชนะใจกรรมการ
       ความรู้สึกตอนนี้ก็เกินความคาดหมายนะคะ คือก็เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ได้รับ ก็รู้สึกว่าเหมือนฝันเลย ตอนที่เขาประกาศบนเวทีแล้วได้ยินชื่อว่าเฟร้นฟราย ธัญชนก มูลนิลตา ได้ตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2015 ก็ต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกๆ ท่านค่ะ คณะกรรมการ คุณพ่อคุณแม่ กองเชียร์ แล้วที่ขาดไม่ได้เลยคือพี่ๆ สื่อมวลชนทุกท่านค่ะ ขอบพระคุณมากๆ เลยค่ะ (ยกมือไหว้)”
       
       “(พูดเป็นภาษาเหนือ) ก็ขอบคุณพ่อกับแม่นะคะ ที่ทุกวันนี้ประสบความสำเร็จได้ก็เพราะพ่อกับแม่สอนให้ลูกคนนี้ใฝ่ดีค่ะ ทุกเรื่องในชีวิตเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน เรื่องการงาน เรื่องความคิดทัศนคติ แล้วก็ต้องขอขอบคุณพ่อกับแม่ที่สนับสนุน ไม่ว่าจะทำอะไรก็แล้วแต่ ก็จะสนับสนุนตลอด ทุกครั้งเลย ขอบคุณค่ะแม่ ขอบคุณค่ะพ่อ(ยกมือไหว้)”
       
       บอกแอบบนขอพรพระธาตุดอยคำและพระธาตุดอยสุเทพ ขอให้ตนแสดงทุกอย่างได้เต็มที่
       “มีขอพรค่ะ ที่พระธาตุดอยคำที่จังหวัดเชียงใหม่ แล้วก็พระธาตุดอยสุเทพ ก็ขอให้วันนี้เป็นวันที่หนูสามารถรวบรวมสติ แล้วก็แสดงทุกอย่างออกมาให้เต็มที่ที่สุดค่ะ ครั้งแรกคือจริงๆ ต้องบอกว่ามีเพื่อนแนะนำมาให้ประกวด ก็เป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยมัธยม คือเขาอยากให้หนูมาประกวดตั้งแต่ตอนอยู่ปี 2 แล้ว แต่หนูไม่ได้มา

หนูตั้งใจเรียนก็ทำกิจกรรมที่มหาวิทยาลัย ซึ่งพอหลังจากที่เรียนจบก็เป็นอีกหนึ่งโอกาสดี คือรอบแรกเราก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากค่ะ แต่คิดว่าอยากจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดแล้วก็เต็มที่ แต่พอเข้ามาเรื่อยๆ มันก็เกิดความคาดหวัง ซึ่งความคาดหวังเหล่านั้นก็เป็นแรงผลักดัน ที่ทำให้เฟร้นฟรายสามารถประสบความสำเร็จบนเวทีได้ค่ะ”
       
       “อะไรที่ทำให้เราชนะใจกรรมการ คิดว่าการเป็นตัวของตัวเองค่ะ คือหนูรู้สึกว่าหนูเป็นตัวเองมากๆ ทั้งวิธีการพูด การเดิน แล้วก็รอยยิ้มอะไรต่างๆ ค่ะ ในเวทีนี้ต้องบอกก่อนเลยว่ามาประกวดเป็นเวทีแรก แล้วก็ได้รับตำแหน่ง ซึ่งทุกๆ อย่างที่เวทีนี้ให้ทำกิจกรรม มันได้ทั้งมิตรภาพที่ดี แล้วก็ความอดทน รวมไปถึงกำลังใจที่หลากหลายมากๆ เลยค่ะ ก็เป็นบททดสอบสำคัญในชีวิตอีกหนึ่งอย่างที่ต้องผ่านไปให้ได้ค่ะ”
       
       เตรียมนำรำไทยไปโชว์ที่เมืองจีน บอกหลังจากนี้จะฟิตหุ่นสู้ศึกประกวดเวทีโลก
       “(พูดภาษาจีนตะกุกตะกักเพราะตื่นเต้น) สวัสดีค่ะ ชื่อหลินเจียฮุ่ยนะคะ หรือว่าเฟร้นฟราย ก็อยากจะให้พี่น้องชาวจีนเป็นกำลังใจให้เฟร้นฟรายด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ เรื่องความสามารถพิเศษที่จะนำไปโชว์แน่นอนนะคะ ตอนนี้เราได้รับตำแหน่งแล้ว เราต้องแสดงความเป็นไทย ก็จะเป็นรำไทย ร้องเพลงไทย ร้องเพลงสากล รวมไปถึงพูดภาษาจีน”
       
       “การเตรียมตัวแน่นอนค่ะ ว่าต้องฟิตหุ่นแล้วก็ต้องเตรียมพร้อม ก็ต้องดูสื่อที่ผ่านๆ มาขอปีที่แล้ว ก็เตรียมความพร้อมให้มากขึ้น เพราะว่าตอนนี้เราไม่ได้สู้คนเดียวแล้วค่ะ เราเป็นกำลังของพี่น้องชาวไทย ทุกๆ ภาคทุกๆ ส่วนเลยนะคะ ก็เต็มที่ ซึ่งถ้าถามความพร้อมก็ 80 เปอร์เซ็นต์แล้วกันค่ะ เหลืออีก 20 เปอร์เซ็นต์ ขอฝึกอีกนิดหนึ่งในเรื่องของภาษาให้แข็งยิ่งกว่านี้อีกนิดหนึ่ง คือจริงๆ ก็พูดได้อยู่แล้วค่ะ แต่ว่าเพื่อความเป๊ะ ก็ต้องให้ดีกว่านี้อีกนิดหนึ่ง”
       
       “ก่อนอื่นต้องขอบคุณคุณพ่อกับคุณแม่ที่คอยสนับสนุนมาตลอด แล้วก็ต้องขอบคุณกองเชียร์ทุกๆ ท่านที่มาเชียร์นะคะ ต่อจากนี้ไป ถ้ามีกิจกรรมเพื่อสังคมหนูก็จะทำประโยชน์เพื่อประเทศไทยค่ะ จริงๆ แล้วเฟร้นฟรายสนใจในเรื่องการศึกษา ในวัยเด็กและเยาวชน ในรอบ Fast Track เราได้มีโอกาสพาเด็กนักเรียนจากมงฟอร์ต วิทยาลัย ไปลงพื้นที่ ที่มูลนิธิตะวันฉาย ซึ่งมูลนิธิตะวันฉาย เป็นมูลนิธิที่น้อมนำเอาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาใช้ ให้ได้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งเฟร้นฟรายคิดว่าการปลูกฝังทัศนคติ การเป็นผู้ให้และการเป็นผู้รับ เป็นสิ่งสำคัญ ในเด็กยุคสมัยนี้ค่ะ”
       
       ด้าน “สุพจน์ มูลนิลตา” และ “สมใจ มูลนิลตา” พ่อ-แม่ของมิสไทยแลนด์เวิลด์คนล่าสุดเผยดีใจจนพูดไม่ออก
       พ่อ : “มีความยินดีมากเลยครับ พูดไม่ออกเลยครับ”
       
       แม่ : “ไม่คาดคิดเลยค่ะ ว่าจะมาถึงระดับนี้”
       
       พ่อ : “ก็มีแฟนคลับมาจากเชียงใหม่เลยครับ มาจากหลายที่ ที่อยู่กรุงเทพฯ ก็มีมาครับ ตอนนี้ยังไม่ได้เตรียมมาเลยครับ (หัวเราะ)”
       
       เฟร้นฟราย : “ฉลองใหญ่ดีไหมค่ะ กองเชียร์ (เสียงกองเชียร์บอกให้ฉลอง)”
       
       บอกเตรียมใจรับทุกกระแสข่าว ย้ำยกรุ่นพี่เป็นต้นแบบ
       “จริงๆ ในการได้รับตำแหน่ง ก็คงจะจบในทุกๆ การตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นแง่บวก หรือในแง่ที่อาจจะยากในการรับได้ เราก็อาจจะพยายามที่จะรับให้ได้ทั้งหมด ซึ่งถ้าเกิดว่าดีกับตัวเองก็พร้อมที่จะน้อมรับค่ะ แล้วก็นำมาปรับปรุงแก้ไขค่ะ ก็ขอฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ
       
       “ก่อนหน้านี้หนูเคยเป็นผู้ประกาศข่าว แล้วก็พิธีกรค่ะ แล้วก็มีถ่ายโฆษณาบ้าง จริงๆ พอมาประกวดไม่รู้สึกกดดันเลยค่ะ ก็มองรุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จที่ผ่านมา ก็อยากให้เป็นต้นแบบที่ดี ในการที่จะก้าวเดินต่อไป (มีคนหรือใจหรือยัง?) อ๋อ ยังไม่มีนะคะ (หัวเราะ) คือเราพยายามมองเป็นพี่เป็นน้องกันดีกว่า หนูยังไม่คิดเรื่องนั้น เพราะโฟกัสเรื่องเรียน เรื่องทำงานมากกว่า ยังไม่ได้คิดถึงตรงนั้นค่ะ ยังอายุน้อยอยู่เลยค่ะ”
       
       โดยที่ผ่านมาเธอผ่านงานในแวดวงบันเทิงมาแล้วมากมาย อาทิ พิธีกรรายการ เลดี้ไนน์, เรื่องจริงผ่านจอ พิธีกรประจำมหาวิทยาลัย, ถ่ายแฟชั่นนิตยสาร คาราบาวเดอะซีรี่ ตอนเวลคัมทูไทยแลนด์ พิธีกรภาษาไทยจีน งาน Ditan world tour expo รวมถึง ผู้ประกาศข่าวรายการ Good Morning On the Road ทางสถานีโทรทัศน์ดิจิตอลช่อง MONO 29

       

       

       

       

       

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์

สิริสวัสดิ์อาทิตยวารค่ะ