bloggang.com mainmenu search


สวัสดีค่า เพื่อนๆชาว Bloggang ทุกท่าน

วันนี้ฤกษ์งามยามดี  ณัฐชาหนีงานไปเที่ยวอีกแว้ว  ติดสอยห้อยตามสามีเหมือนเดิม

งานนี้ไปไกลถึงกระบี่ค่า แค่นึกถึงทะเลสีฟ้าอมเขียว อิชั้นก็แทบด่าวดิ้นแล้ว อยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆจัง

แล้ววันนี้มันก็มาถึงจนได้.....เย้Smiley

อิชั้นเเดินทางด้วยสายการบินแอร์เอเชียค่ะ  บินประมาณ 10.20 น.  
แต่เราก็ต้องออกเดินทางแต่เช้าSmiley เพราะมาจากชลบุรีเชียวนะ  ขืนมาสายล่ะเกิดรถติดซวยเรย   สุดท้ายก็มาถึงเวลา 9.00 น. ค่ะ


เช็คอิน + โหลดกระเป๋าเสร็จ  เราก็เข้ามาเดินเล่นในช็อปขายของ
สุดท้ายอิชั้นก็อดใจไม่ไหว ซื้อหมวกมาใบนึง  อยากได้แทนใบเก่าที่เริ่มพัง
แต่ราคาแรงส์มากก ใบเนี้ย 590 บาทค่ะ  เอิ๊กกก

ทำไงได้....ก็ชอบแบบ ชอบสี  แถมพอดีหัวอีกตะหาก เอาวะ..ซื้อก็ซื้อ




เด๋วนี้ line เค้าบุกมาถึงดอนเมืองแล้วเหรอเนี่ย น่ารักจังSmiley




เสร็จแล้วเราก็แวะซื้อแซนวิสโออิชิที่ขายในเซเว่นมาหม่ำรองท้อง Smiley ตบท้ายด้วยมอคค่าเย็นๆชื่นใจ

พร้อมจะออกเดินทางแล้วค่ะ !!Smiley




ชอบถ่ายรูปวิวบนเครื่องบินจริงๆ ท้องฟ้าสวยจัง




มาถึงสนามบิน  พี่ศักดิ์ก็ให้คนขับรถมารับ
มาที่โรงแรมนี้ค่ะ อยู่ไม่ไกลจากสนามบิน
"มาริไทม์ปาร์ค รีสอร์ทแอนด์สปา"




บรรยากาศภายในโรงแรมค่อนข้างกว้างขวาง ประมาณว่าถ้าจะเดินเข้าโรงแรมต้องมีรถกอล์ฟมารับ ไม่งั้นเดินเมื่อยแย่

แต่อากาศจะร้อนๆหน่อย เพราะที่นี่เน้นเปิดโล่งแบบรับลมธรรมชาติ  แต่พอดีตอนนี้มันเที่ยงกว่าแร่ะ แถมไม่ค่อยมีลมซะด้วย เฮ้อ...





กลอนที่แต่งโดยเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ค่ะ เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของกระบี่ทั้งนั้นเลยค่ะ 




เราเอากระเป๋าไปเก็บในห้องพักก่อนนะคะ



ห้องพักไม่ใหญ่มาก  เป็นเตียงคู่  มีมุมพักผ่อนด้วย




มุมเสริมสวย





ไหนๆก็ส่องกระจกแร่ะ  ดูชุดวันนี้หน่อยดีกว่า
วันนี้อยากได้อารมณ์ทัวริสต์ต่างชาติ  ขอเป็นสาวเกาหมี เอ๊ย...เกาหลีสักวันก็แล้วกันนะ




แหม...ชอบหมวกใบนี้จริงๆ




ห้องน้ำ สะดวกและมี assessary ตามมาตรฐานโรงแรมค่ะ




มาดูวิวริมระเบียงกัน ร่มรื่นมากก






 จากตรงนี้มองเห็นเขาขนาบน้ำซึ่งเป็นสถานที่ขึ้นชื่อของกระบีด้วยค่ะ




ส่องห้องพักจนพอใจแล้ว นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้หม่ำข้าวเที่ยงเลย  
ไหนๆก็มาถึงกระบี่แล้ว มากินอาหารแบบคนท้องถิ่นดีกว่า  เมื่อตะกี้ก่อนเข้าโรงแรม  เห็นป้ายร้านข้าวแกงปักษ์ใต้ ท่าทางน่ากินดี  มาลงหม่ำดีกว่าSmiley




เราทานแกงอะไรสักอย่างกับผัดกระเพราทอดมัน แปลกดีค่ะ 
รสชาติอร่อยเข้มข้น  ตามประสาอาหารใต้ค่ะ
ชอบน้ำพริกกะปิด้วย   อร่อยดี   




ทานเสร็จแล้วเราก็เดินกลับโรงแรม
มาดูป้ายที่เค้าติดไว้  เป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของกระบี่ทั้งนั้น...
อยากไปจังเลยยSmiley




ตอนนี้เราต้องนั่งรอพี่ศักดิ์สัมนา  น่าจะเสร็จตอนเย็นๆ
เราอยากนั่ง relax ข้างนอกห้องบ้าง ก็เลยมานั่งเล่นตรง lobby
ไหนๆก็ไหนๆ สั่งน้ำมะนาวมาดื่มให้ชื่นใจ เสริมบรรยากาศหน่อยดิ อิอิSmiley




เฮ้อ...มีความสุขจัง  เป็น holiday แบบทีเราอยากมาเจงๆ Smiley
(ยกเว้นน้ำมะนาว  ราคาแรงส์ไปนิดนะ  แก้วนี้ 110 บาทแน่ะ  ตอนคิดเงินแทบอยากเอาไปคืน  เหอๆ แพงโคตร)


และแล้ว...
พี่ศักดิ์และคณะก็สัมนาเสร็จจนได้ค่า เย้
แม้จะมีเวลาเหลือไม่มากก่อนอาหารเย็น  แต่เราก็ขอไปเที่ยวสักนิดนึงบ้าง  อะไรบ้างนะ

มาถ่ายรูปกับปูยักษ์ สัญลักษณ์ของกระบี่ก่อน







เสร็จแล้วก็มาสุสานหอย 75 ล้านปีกันต่อค่ะ
แม้ว่าตอนนี้จะเย็นย่ำมากแล้ว  ร้านรวงก็ปิดซะเกือบหมด แต่ก็ยังพอมีแสงอาทิตย์ให้เราเห็นได้ค่ะ


มาดูข้อมูลของสุสานหอยกันหน่อยค่ะ
V
V

สุสานหอยอยู่ในบริเวณชายทะเลบ้านแหลมโพธิ์ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 17 กม.มีซากดึกดำบรรพ์ของหอยน้ำจืดชนิดต่างๆ  ส่วนใหญ่เป็นหอยขม   มีขนาดยาวประมาณ  2 เซนติเมตร
ซากหอยเหล่านี้ได้ทับถมกันจนกลายเป็นสุสานหอย  โดยมีน้ำประสานธาตุปูนจับตัว  ให้กลายเป็นหินแข็งทับอยู่ชั้นหินลิกไนท์และหินดินดาน นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ    เมื่อแผ่นดินบริเวณนี้ยกตัวขึ้นสูงซากหอยดึกดำบรรพ์เหล่านี้จึงปรากฏให้เห็นเป็นลานหินกว้างใหญ่ยื่นลงไปในทะเล  และเป็นหลักฐานทางโบราณคดีที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของโลก
ช่วงแรกประมาณกันว่าสุสานหอยแห่งนี้เกิดขึ้นเมื่อ 75 ล้านปีมาแล้วต่อมาความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี  และการค้นพบหลักฐานด้านธรณีวิทยามีมากขึ้น  จึงกำหนดอายุของสุสานหอย ใหม่เหลือประมาณ 40-20 ล้านปี






ป้ายนี้คงเป็นป้ายเก่านะคะ  
แต่จะว่า 20 - 40 ล้านปีนี่ก็นานใช่น้อยแล้วล่ะ  นึกถึงสภาพในยุคนั้น ยุคดึกดำบรรพ์ชัดๆ





บริเวณนี้ดูเป็นลานโล่งๆ  แต่ที่จริงคือซากหอยที่จับตัวเป็นแผ่นหินค่ะ  อเมซิ่งเนอะ






พี่ศักดิ์ชี้ให้ดูหอยในหิน



หอยเพียบบ



ชื่นชมสุสานหอยเสร็จแล้ว  พระอาทิตย์ก็เริ่มลาลับขอบฟ้า ความมืดเริ่มเข้ามาครอบคลุมพื้นที่ เราคงต้องกลับกันแล้วค่ะ

ขณะที่เรากำลังเดินกลับ  ทันใดก็ได้ยินเสียงละหมาดดังก้องกังวานไปทั่ว คงดังมาจากมัสยิดที่ใดที่หนึ่งแถวๆนี้  


เป็นเสียงที่อิชั้นฟังไม่เข้าใจ  รู้แต่ว่ามันมีมนต์ขลัง  เข้ากับบรรยากาศทะเลใต้จริงๆ




เราเดินทางกันต่อ มาที่อ่าวนาง แต่ตอนนี้มืดสนิทเลย มองอะไรไม่เห็นแล้ว



พี่ศักดิ์เลยเบนเข็ม  พาพวกเรามาเดินตลาดแทน ลักษณะคล้ายๆพัทยาบ้านเราเลย  

เท่าที่ดู  ของที่ขายที่นี่ไม่แรงส์เท่าไหร่นะคะ  อาหารก็ไม่แพงมาก



แต่เราก็ไม่ได้ทานแถวนี้ค่ะ เพราะพี่ศักดิ์บอกว่า เพื่อนให้มาทานที่ร้านนี้  ชื่อร้าน "ปูดำ"  อยู่ตรงข้ามหุ่นปูยักษ์ที่เราถ่ายรูปตอนขามาไงค่ะ


อาหารที่นี่สดมากก อร่อยมากด้วยค่ะ  ถูกปากพวกเราผุดๆเลย
ที่สำคัญราคาไม่แพงด้วยค่ะ  ถูกกว่าที่บางแสนบ้านเราเยอะเลย


อิ่มจากของคาว  พี่ศักดิ์ยังไม่หนำใจ  พาพวกเราไปกินโรตีกรอบ
ร้านนี้อยู่ตรงธนาคารกรุงไทย เป็นร้านที่มีชื่อของกระบี่ค่ะ

ลักษณะโรตีจะกรอบ อร่อยดีค่ะ  ถึงพวกเราจะอิ่มก็พยายามกินๆๆ คืนนี้คงได้กลิ้งเข้าโรงแรมแน่ 555




อิ่มจนจุก เราก็กลับโรงแรมกัน  วันแรกของทริปกระบี่ก็ผ่านไปเท่านี้ค่ะ  ขอกลับไปนอนย่อยที่โรงแรมก่อนดีกว่า (ทำตัวเป็นงูหลามไปได้  55) 



สำหรับวันนี้  Good night นะคะ

Create Date :26 สิงหาคม 2556 Last Update :21 ตุลาคม 2556 13:32:35 น. Counter : 1710 Pageviews. Comments :2