bloggang.com mainmenu search
ถึงกับต้องแยกเรื่องออกมาเขียนบันทึกไว้ในความทรงจำเลยที่เดียว ต้นปี 2566 มีแต่เรื่องจริงๆ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม 2566 (ตรงกับวันพระด้วย) ช่วงครึ่งวันเช้า ทั้งแมวและหมาที่เราเลี้ยงตาย ไป 2 ตัว

*** ขออภัยหากมีภาพที่ไม่เหมาะสม *** 

"อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา" ทุกสรรพสิ่งในโลก เกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับสูญสลายไป ตามกฎไตรลักษณ์


เรื่องของแมว ที่ชื่อเป๋าตุง 

หลังจากที่พาแมว 7 ตัว ไปฉีดวัคซีนประจำปีเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2565 ใครจะไปรู้ละว่าอีก 50 วัน ผ่านไป "เป๋าตุง" จะตาย เจ้าเป๋าตุงนี้แหละที่ข่วน ถีบเราเป็นแผลเลือดออก ตอนจับใส่ตะกร้าจะไปฉีดวัคซีน ตลอดเวลาแมวเรายังดูปกติ แม้ว่าวันที่พาไปฉีดวัคซีนหมอบอกว่าหมอคลำเจอก้อนเนื้อตรงหน้าอกด้านซ้ายของเป๋าตุงแล้วมีก้อนขรุขระแถวนั้น เราลองไปจับดูก็เจอจริงๆ ก้อนเนื้อไม่ได้นูนขึ้นมาจากผิวหนังมาก จับดูเป็นกระจุกแบนๆ ลักษณะขรุขระใหญ่กว่าเหรียญ 10 บาทนิดนึง ตอนคลำแมวเราก็เฉย ไม่ได้แสดงอาการดิ้น เจ็บปวดตรงที่เราจับก้อนเนื้อ โดยก่อนหน้านั้นเป๋าตุงไม่เคยแสดงอาการเจ็บปวด ร้องคร่ำครวญไรเลย กินอาหาร ขับถ่าย วิ่งได้ตามปกติ และที่เราไม่รู้ว่าเป๋าตุงมีก้อนเนื้อเพราะ นางมักไม่ยอมให้อุ้ม เวลาอุ้มก็จะถีบตัวกระโดดออก อาจเป็นเพราะเราไม่ได้เลี้ยงตั้งแต่เป็นลูกแมวเบบี้ ตอนไปเอามาเลี้ยงเขาก็โตพอสมควรแล้วน่าจะสัก 3-4 เดือนได้ และนางเป็นแมวอินดี้ ชอบสันโดษ ไม่ขี้เล่น ขี้อ้อน แบบอารมณ์เฉยๆ 

เราถามเรื่องการรักษา หมอแจ้งว่าต้องนำเป๋าตุงมาตัดชิ้นเนื้อดูว่าชิ้นเนื้อนั้นเป็นเนื้อดีหรือเนื้อร้าย หรือเป็นเพียงแค่ก้อนไขมันใต้ผิวหนัง ค่าใช้จ่ายในการตรวจวิเคราะห์ชิ้นเนื้อ 5,000 บาท และหากเป็นเนื้อร้าย (มะเร็ง) ค่ารักษาเริ่มต้น 30,000 บาท ซึ่งก็ไม่รู้ว่าหากเป็นมะเร็งจะรักษาหายขาดหรือไม่ หลังฉีดวัคซีนผ่านไป 5 วัน เป๋าตุงก็ยังร่าเริงปกติ เราคุยกับสามีว่าจะเอายังไงดี จะพาเป๋าตุงไปตัดชิ้นเนื้อเผื่อตรวจหรือไม่ หากไปคงต้องเลือกโรงพยาบาลสัตว์เกษตร เพราะน่าจะเชฟค่าใช้จ่ายได้มากว่าการรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์แถวบ้าน(สงสารลูกต้องมาเจ็บตัว)แต่...อีกใจหนึ่งเราก็อยากรู้ว่ามันคือก้อนเนื้ออะไร อีกใจหนึ่งก็สงสารลูกเพราะว่าเป๋าตุงอายุ 10 ปี แล้ว (และประมาณการว่าแมวมีอายุได้เต็มที่ 14-15 ปี) หากอายุยืนกว่านั้นก็ถือว่าโชคดี คุณสามีบอกว่าให้สังเกตอาการไปก่อน คอยดูว่าก้อนเนื้อใหญ่ขึ้นหรือไม่ แมวซึมลงหรือเปล่า ...ทุกอย่างดูปกติ 1 อาทิตย์ก่อนเป๋าตุงตาย เรากับสามียังจับก้อนเนื้ออยู่เลย ขนาดก็ไม่ได้ใหญ่ขึ้น เจ้าเป๋าตุงยังดิ้น ทำตัวไหลลงพื้น ให้อุ้มยากเหมือนเดิม 

วันที่ 29 มกราคม 2566 เป๋าตุงก็จากไปดาวแมวแล้ว ไม่รู้ด้วยว่าตายตอนไหน แฟนเรามาเห็นศพเป๋าตุงคนแรก เขาได้แต่ยืนค้างและบอกเราว่าเป๋าตุงตายแล้วๆๆ ซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น เราจัดการชันสูตรศพลูก ขนยังนิ่ม ตัวแข็งทื่อ ตัวเย็นเฉียบ นอนตาค้าง จากการสังเกตพื้นที่โดยรอบบริเวณที่ลูกตาย บริเวณปากไม่มีร่องรอยน้ำลายยืด หรือน้ำลายฟูมปาก ไม่มีการฉี่ราด อึราดที่พื้น ที่กระบะทรายแมวไม่มีร่องรอยอุจจาระเรี่ยราด หรือคราบเลือด เหมือนว่าเป๋าตุงมานอนตายเฉยๆ ปกติที่ประจำของนางที่ชอบนอนคือหลังตู้เสื้อผ้า และซอกประตู เราได้แต่หวังว่าเป๋าตุงจะจากไปแบบไม่ทรมาน แถมเราไม่รู้ด้วยว่าเป๋าตุงตายเพราะสาเหตุอะไร อยากส่งศพไปผ่าชันสูตรเหมือนกัน แต่คุณสามีบอกว่าพอเถอะ ลูกตายแล้ว

เป๋าตุง วันที่ 14 กรกฎาคม 2556 ถึงวันที่ 29 มกราคม 2566 / อายุประมาณ 10 ปี





หลังจากจัดการห่อศพ ก็ต้องหาที่ฝังกัน เราจ้างเขาฝังในราคา 300 บาท คนรับจ้างฝังคิดราคาค่าบริการตามน้ำหนักของสัตว์ (น้ำหนักตัวเป๋าตุงตอนตายชั่งได้ 3.1 โล ตอนเป๋าตุงยังมีชีวิตน้ำหนักอยู่ที่ 3.75 โล) เพราะบริเวณบ้านเราไม่มีพื้นดินให้ฝัง จะไปขุดหลุมฝังบริเวณอื่นก็น่าเกลีียด เจ้าของที่ดินมาเห็นจะหาว่าบุกรุกพื้นที่ แถมยังเอาศพแมวมาฝังอีก เป็นเราก็คงไม่ชอบ ในใจก็คิดว่า เออ..หลุมมันตื้นไปไหม ไม่เผื่อตอนแมวเราขึ้นอืดเลยรึ คนขุดน่าจะขุดลึกกว่านี้สักหน่อย เดี๋ยวตัวเงินตัวทองได้กลิ่นตอนศพขึ้นอืดก็มาลากศพแมวเราไปกินพอดี





คนที่รับจัดการศพหมา แมว เราเคยไปเจอป้ายโฆษณาที่โรงพยาบาลสัตว์แถวบ้านที่เราพาแมวไปฉีควัคซีน เลยถ่ายรูปเก็บไว้



อันนี้คือวัดต่างๆ ที่รับจัดงานศพแมว



เป๋าตุง กับ อังเปา เป็นพี่น้องครอกเดียวกันที่สามีเราขอมาเลี้ยงเป็นเพื่อนเจ้าสัวเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2556(ตอนนั้นเรามีแค่เจ้าสัวตัวเดียว สามีกลัวมันเหงาเลยหาเพื่อนมาให้ แต่...ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเจ้าสัวท้อง แล้วจะออกลูกมาอีก 4 ตัว เจ้าสัวท้องเพราะโดนแมวตัวผู้จรจัด บุกประตูพังมุ้งลวด ลอดเหล็กดัดเข้ามาปล้ำถึงในบ้าน ตอนนั้นยังไม่ได้พาเจ้าสัวไปทำหมันค่ะ





มาดูรูปความน่ารักของเป๋าตุงตอนเด็กกันค่ะ ตอนที่ไปรับนางมาเลี้ยงเจ้าของเก่าบอกว่าเด็กๆ อายุประมาณ 3-4 เดือน
























เรื่องของหมา ที่ชื่อลัคกี้

ลัคกี้ เป็นหมาพันธุ์มินิเอเจอร์ พินเชอร์ ที่พ่อเราไปขอจากเพื่อนมาให้เราเลี้ยงเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2551 (เอามาทดแทนโกโก้หมาปั๊ก ที่เพิ่งตายไปเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2551) ตอนได้ลัคกี้มาน้องน่าจะอายุประมาณ 2-3 เดือน เรากับน้องสาวตั้งฉายาให้ลัคกี้หลายชื่อมาก เช่น หมาดำ/น้องกุ/จูกกุจัง ตั้งแต่เด็กยันแก่ ลัคกี้เป็นโรค

1. ท้องเสียถ่ายเป็นมูกเลือด ถ้ากินอาหารเยอะ

2. ช่วงวัยกลางคน จะเป็นโรคตับ
 ถ้ากินอาหารมันๆ หรือโปรตีนมากๆ แล้วมันจะท้องอืด ย่อยยาก
  และตอนนั้นพ่อชอบซื้ออาหารพวกสมาร์ทฮาร์ท เพ็ดดีกรี ราคาถูกให้หมากิน เราเลยต้องเปลี่ยนมาจัดการซื้ออาหารให้หมาเอง โชคยังดีที่โรคตับสามารถรักษาหายได้ แต่ก็เสียเงินไปเยอะ เพราะอาหารกระป๋องสำหรับหมาเป็นโรคตับมันแพง

3. พออายุ 7-10 ปี เป็นหินปูนในช่องปาก ต้องพาไปขูดหินปูน 2 ครั้ง เสียเงินไป 8,000 บาท พอแก่ตัวไปหินปูนมันก็กลับมาอีกนะ หมอบอกตามวัยของหมา

และเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2566 เวลาเกือบเที่ยง ลัคกี้ก็จากไปดาวหมา ด้วยวัยชรา โดยที่ก่อนหน้านั้นสัก 3-4 วัน พ่อบอกลัคกี้ไม่ยอมเข้ากรง พอเอาเข้ากรงก็ร้องเสียง แอ๊คๆ จะออก พ่อเลยต้องเอาเบาะที่นอนหมามาวางให้ตรงกรง มันถึงจะยอมนอน บางวันร้องตอนตีสาม ตีสี่ ร้องแอ๊คๆ นานจนพ่อกับแม่นอนไม่หลับ ต้องพามันไปหาหมอ หมอก็บอกว่ามันแก่แล้ว อายุเยอะตั้ง 15 ปี หมอเลยรักษาตามอาการให้กูลโคส ฉีดวิตามิน ให้น้ำเกลือ เสียค่ารักษา 450 บาท ลัคกี้อยู่ได้สัก 6 วันก็จากไป

ซึ่งวันเสาร์ที่ 28 มกราคม 2566 เรายังไปเยี่ยมลัคกี้อยู่เลย ถือโอกาสไปร่ำลามัน ไปถึงเราก็ลูบหัวลูบตัวมัน มันนอนอยู่บนเบาะจับรู้สึกได้เลยว่ากี้ผอมลงเยอะตามประสาหมาแก่ ผอมลงนิดนึง กว่าตอนที่เราเจอเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2565 เราบอกกี้ว่าไม่ต้องห่วงเราหรือคนในครอบครัวเรา เราไม่ได้ทอดทิ้งลัคกี้ เราบอกว่าถ้าเหนื่อยก็พัก กี้แก่แล้ว นอนหลับไปเฉยๆ เถอะนะ อย่าได้รู้สึกทรมานอะไรเลย บอกให้ลัคกี้นึกถึงตอนที่มันชอบตามแม่ไปกรวดน้ำเวลาแม่สวดมนต์เสร็จ ลัคกี้รู้ว่าเรามาหา มันจำเสียงเราได้ กี้พยายามจะลุกจากเบาะ ก็ลุกไม่ขึ้น ร้องแอ๊ดๆ อยู่ 3 รอบก็นอนพักไปอีก จนเรากลับมาจากห้างหลังทำธุระเสร็จ ก็มาช่วยแม่เตรียมของใส่บาตร ลัคกี้ได้ยินเสียงมีคนมา มันก็ยืนเซเด้งหน้า เด้งหลัง ตามประสาหมาแก่ และก็ล้มลงนอนไปอีก สักพักเราหันไปมองตรงที่ลัคกี้นอน หมาเราไม่อยู่จ้า เอาก็เอะใจ ว่ากี้มันเดินไปไหน ปรากฏว่า...ลัคกี้แข็งใจเดินมาหาเราได้ถึง 200-300 เมตร จากที่มันนอนประจำ จนถึงประตูครัวหลังบ้าน มาแอบดูเรากับแม่เตรียมของใส่บาตร เราเลยอุ้มมันขึ้นมาหอมที่หัว โถ..กี้เอยตาก็ฝ้าฟาง เดินจะไม่ไหว ยังอุตส่าห์รักเรา เดินมาอ้อนเรา สักพักเราจะกลับบ้านลัคกี้มันก็หลับต่อ

พอถึงเวลาใกล้เที่ยงของวันที่ 29 มกราคม 2566 เราจัดการเรื่องศพแมวเสร็จ กลับถึงบ้าน พ่อก็โทรมาบอกว่าลัคกี้ตายแล้ว แม่บอกว่าก่อนตายมันร้องแอ๊คๆ 2 ที แม่เลยให้พ่อเอานมป้อน ผ่านไปสักพักลัคกี้ก็หลับไป และหลับไปตลอดกาล เราบอกพ่อว่าตายแน่นะ เอาให้ชัวร์ มันอาจแค่หลับไป พ่อเราบอกว่าเดี๋ยวรอสัก 1 ชั่วโมงก่อนค่อยเอาลัคกี้ไปฝัง พ่อจัดการฝังศพลัคกี้ใกล้กับหลุมศพที่ฝังพิงค์กี้ หมาชิสุ ที่แก่ตายไปเมื่อวันที่ 14 กรกฏาคม 2564

ลัคกี้ วันที่ 21 สิงหาคม 2551 ถึงวันที่ 29 มกราคม 2566 / อายุประมาณ 15 ปี

แม่ถ่ายรูปลัคกี้ให้ดูตอนกี้ตายแล้ว 



รูปลัคกี้เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2566 เวลา 11.00 น.




ลัคกี้ หมาแก่ รูปตอนต้นเดือนธันวาคม 2565 ใส่เสื้อสีส้มวินมอไซต์ที่น้องสาวเราซื้อให้



ลัคกี้ปี 2564 / 2 ปีก่อนตาย ยังหล่ออยู่และแสบเลย 555



มาดูความน่ารักของลัคกี้ตอนเด็กยันโตกัน วันแรกที่มาตัวนิดเดียว หางก็มีอยู่นิดเดียว



ตอนเด็กซนมากชอบดม ชอบแทะ ตามวัยหมาเด็ก ตอนเด็กลัคกี้กินก็อาหารเปียกแบบถาดนะ แต่กี้ไม่ได้ชอบมาก ชอบอาหารเม็ดแช่นมมากกว่า





ชอบนั่งรถเที่ยวมาก



ตอนเช้าชอบขึ้นมาชั้น 2 ของบ้าน เวลา 7.30 น.ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ เพื่อมาหาเราที่ห้องนอน เอาเท้าเกาประตูห้องนอนเรียกเรา ให้เปิดประตู อุ้มขึ้นไปนอนเล่นบนเตียง บางวันไอ้เราก็ง่วงยังไม่ตื่นเลย ลัคกี้มันก็จะเกาประตูอยู่นั้นแหละ จนกว่าเราจะเปิด พอเราเปิดมา มันก็นั่งยิ้มดีใจ กระโดดดึ้งๆ หมุมรอบตัวเอง จะให้เราอุ้ม



ท่านอนประจำของเขาละ ตอนลัคกี้เด็กๆ ต้องเอาเชือกผูกกระดูกของเล่นหมาไว้ให้มันแทะเล่น ไม้งั้นมันชอบคาบกระดูกไปซ่อน และถ้าเป็นกระดูกใหม่ทุกครั้งที่ให้มันแทนกระดูกของเล่นเดิมที่เก่า ดำ เน่า มันจะหวงของเล่นมาก ใครเข้าใกล้กระดูก และพูดคำว่า แย่งๆๆ ไม้ได้ มันจะแยกเขี้ยว วิ่งไล่กัดรอบบ้าน โคตรตลกอะ 





พออยู่กับพ่อเรามันจะเรียบร้อยมาก ไม่ดื้อ ไม่ซน





ตอนแม่เราเกษียณอายุ แม่ก็สวดมนต์ทั้งวัน พอ 17.00 น. แม่จะไปกรวดน้ำ อุทิศส่วนกุศล ลัคกี้รู้เวลา ฉลาดมาก มันจะเดินตามไปดูแม่เรากรวดน้ำทุกวัน 





ขนาดหมาแมวเราตาย ยังมาให้โชคเจ้าของ เราบอกพ่อแม่ว่า ไปซื้อล็อตเตอร์รี่สิ เอาวันที่มันตายนี่แหละ 29 /92 เราลืมซื้อล็อตเตอร์รี่ เลยซื้อหวยแทน ตัวละ 10 บาท บอกพี่ที่เขาเขียนให้ว่าเอาทั้งบนและล่าง แต่...โชคไม่เข้าข้าง พี่เขาไม่ได้เขียนซื้อตัวล่างให้ เออ...ไอ้เราคนไม่เล่นหวย จะเขียนเองก็เขียนไม่เป็น บุญมีแต่กรรมบัง 555 ส่วนพ่อแม่เราถูกล็อตเตอร์รี่ งวดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 เลขท้าย 2 ตัว 92 จำนวน 3 ใบ พ่อบอกว่าหาทั้งซอยมีแค่ 3 ใบ คนขายล็อตเตอร์รี่บอกว่าเลขที่หายาก เป็นเลขดัง เอาน่าอย่างน้อยลัคกี้กับเป๋าตุงก็ให้โชค ให้ลาภ เราภาวนาขอให้เป๋าตุง กับลัคกี้ ไปสู่ภพภูมิที่ดี เพราะในชาตินี้เขาได้ชดใช้กรรมในร่างของหมาแมว หมดแล้ว
Create Date :02 กุมภาพันธ์ 2566 Last Update :3 กุมภาพันธ์ 2566 11:44:55 น. Counter : 1064 Pageviews. Comments :15