กระทรวงอุตสาหกรรม ถก ส.อ.ท.18 ส.ค.ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 7 เดือนอนุมัติ รง.4 ลงทุน 2.1 แสนล้าน
กระทรวงอุตสาหกรรม ถก ส.อ.ท.18 ส.ค.ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 7 เดือนอนุมัติ รง.4 ลงทุน 2.1 แสนล้าน กระทรวงอุตสาหกรรม ถก ส.อ.ท.18 ส.ค.ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 7 เดือนอนุมัติ รง.4 ลงทุน 2.1 แสนล้าน
สำนักวิจัยเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
สรุปประเด็นข่าวสำคัญ : ประจำวันพุธที่ 6 สิงหาคม 2557
ค่าเงินบาท (ประจำวันที่ 5 สิงหาคม 2557) 32.118 บาท/$
ทองคำแท่ง ซื้อ 19,600.00 บาท
ขาย 19,700.00 บาท
ทองรูปพรรณ ซื้อ 19,313.84 บาท
ขาย 20,100.00 บาท
เบนซินออกเทน 95 48.75 บาท/ลิตร
ดีเซลหมุนเร็ว 29.85 บาท/ลิตร
แก๊สโซฮอล 95 40.23 บาท/ลิตร
แก๊สโซฮอล 91 37.78 บาท/ลิตร
ข่าวในประเทศ
1. กระทรวงอุตฯ ถก ส.อ.ท.18 ส.ค.ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 7 เดือนอนุมัติ รง.4 ลงทุน 2.1 แสนล้าน (ที่มา: หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการรายวัน, ประจำวันที่ 6 สิงหาคม 2557)
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า วันที่ 18 สิงหาคม คณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรมจะหารือร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อบูรณาการร่วมการทำงานกับเอกชน หลังจากการหารือร่วมกับ ส.อ.ท.เมื่อเดือนกรกฎาคม 57 ได้เห็นชอบตั้งคณะทำงานร่วมกัน 4 คณะ ได้แก่ 1.คณะทำงานการปรับ ปรุงการอนุญาตของกระทรวงอุตสาหกรรม 2.คณะทำงานกำกับโรงงานให้ปฏิบัติตามกฎหมาย 3.กระตุ้นเศรษฐกิจ และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันและ 4.การต่อต้านคอร์รัปชัน โดยคณะทำงานของกระทรวงอุตสาหกรรมกับ ส.อ.ท.จะมีการประชุมเพื่อขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกันในทุกเดือน และเดือนสิงหาคมนี้ทางส.อ.ท.จะเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ซึ่งการตั้งคณะทำงาน 4 ชุดล่าสุดได้กำหนดให้มีตัวแทนจากฝ่ายละ 3 คนเข้าร่วมในคณะทำงานทุกชุด ซึ่งจะทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพและรวดเร็วซึ่งจะทำให้อุปสรรคการลงทุนต่างๆ หมดไป สำหรับการอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน(รง. 4) ทั่วประเทศผ่านหน่วยงานอนุญาตของกระทรวงอุตสาหกรรม 7 เดือน (มกราคม-กรกฎาคม 57) มีทั้งสิ้น 2,212 โรงงาน คิดเป็นเงินลงทุนทั้งสิ้น 211,314 ล้านบาท ก่อให้เกิดการจ้างงาน 60,692 ซึ่งมีทิศทางลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีการอนุญาตรง. 4 ที่ 2,339 โรงงานเงินลงทุน 194,535 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หลังกระทรวงอุตสาหกรรมลดขั้นตอนการพิจารณา รง. 4 ตั้งแต่ 1 กรกฎาคมให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ทำให้เดือนกรกฎาคมมีการอนุญาต รง.4 จำนวน 241 รายคิดเป็นเงินลงทุน 43,581 ล้านบาท ดังนั้น แนวโน้มการอนุญาต รง.4 ไตรมาส 4 จะดีขึ้น ทั้งนี้ การอนุญาตโรงงานในกรอบใหม่ 30 วัน คาดว่าจะเห็นชัดเจนในเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งยืนยันว่าสามารถดำเนินการได้จริงนับจากวันที่ได้รับเอกสารครบถ้วนและถูกต้อง โดยการอนุญาตโรงงานที่ใช้เวลาเร็วขึ้นได้ดำเนินการควบคู่ไปกับการบังคับกฎหมายอย่างเคร่งครัดและกำกับอย่างเข้มงวดซึ่งสะท้อนจากยอดคำร้องเรียน 10 เดือน(1 ตุลาคม56 - 31 กรกฎาคม 57) มีการร้องเรียน 202 เรื่องลดลง 36% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดร้องเรียน 274 เรื่อง โดยเรื่องหลักๆ ที่มีการร้องเรียนได้แก่ 1. กลิ่น 2. ฝุ่นละออง 3. น้ำเสีย ส่วนจำนวนเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น 115 ครั้งลดลง 3% โดยเหตุฉุกเฉินคือ ไฟไหม้ 66% ระเบิด 10% และอุบัติเหตุ 8%
2. เอสเอ็มอีลงทุนนอกหอการค้านำทัพขยายธุรกิจในเวียดนาม รองเท้า-สิ่งทอ-ชิ้นส่วนมอเตอร์ไซค์เด่น (ที่มา: โพสต์ ทูเดย์, ประจำวันที่ 6 สิงหาคม 2557)
นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทยได้ร่วมมือกับมูลนิธิเพื่อสถาบันการศึกษาวิชาการจัดการแห่งประเทศไทย (ไอเมท) จัดทำโครงการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยที่ต้องการไปลงทุนในต่างประเทศโดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่ต้องการไปลงทุนต่างประเทศ แต่ยังขาดความเข้าใจเกี่ยวกับประเทศนั้นๆ รวมทั้งขาดแผนรองรับความเสี่ยงในการทำธุรกิจ จึงทำให้การออกไปทำธุรกิจไม่ประสบความสำเร็จ โดยโครงการนี้จะให้บริษัทใหญ่ที่ประสบความสำเร็จเป็นพี่เลี้ยงให้แก่เอสเอ็มอี และจะนำร่องส่งเสริมการลงทุนในประเทศเวียดนาม ตอนนี้เวียดนามเริ่มนิ่งขึ้นทั้งเรื่องราคาที่ดิน กฎหมายต่างๆ ที่มีความชัดเจนขึ้น จากช่วงแรกที่มีบริษัทใหญ่ๆ ของไทยหลายรายเข้าไปลงทุนและประสบความสำเร็จมาแล้ว จึงเหมาะที่จะสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยเข้าไปลงทุน ทั้งนี้ เบื้องต้นตั้งเป้าว่าภายใน 1 ปี จะมีธุรกิจไทยไปลงทุนในเวียดนามอย่างน้อย3 ราย โดยอุตสาหกรรมที่ส่งเสริมให้ไปลงทุน ได้แก่ รองเท้า สิ่งทอ ชิ้นส่วนมอเตอร์ไซค์ และบรรจุภัณฑ์ และหากโมเดลนี้ประสบความสำเร็จก็จะขยายผลการลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียนอื่นๆเช่น อินโดนีเซียและพม่า
สำหรับบริษัทขนาดใหญ่ที่จะมาเป็นพี่เลี้ยงมี 14 บริษัท เช่น ปตท. กลุ่มเครือ เจริญโภคภัณฑ์ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์และเครือเอสซีจี เป็นต้น
3. อุตฯ ชิ้นส่วนบุกอินโดฯ (ที่มา: โพสต์ ทูเดย์, ประจำวันที่ 6 สิงหาคม 2557)
นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า นโยบายเศรษฐกิจภายใต้ผู้นำคนใหม่น่าจะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจภายในประเทศอินโดนีเซียให้ดีขึ้น โดยเฉพาะด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ขณะที่เป้าหมายที่จะผลักดันให้อินโดนีเซียเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์อาจส่งผลดีต่อผู้ประกอบการไทยเช่นกัน ทั้งนี้ ที่ผ่านมานักลงทุนญี่ปุ่นจำนวนมากได้ตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ในอินโดนีเซีย และในอนาคตจะมีผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไปลงทุนในอินโดนีเซียมากขึ้น โดยอุตสาหกรรมขั้นกลางหรือชิ้นส่วนยานยนต์ยังมีโอกาสเติบโตไปพร้อมกัน ซึ่งผู้ประกอบการไทยน่าจะเข้าไปลงทุนเพื่อป้อนวัตถุดิบให้กับผู้ผลิตยานยนต์ได้
อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ประกอบการไทยที่มีโอกาสเข้าไปลงทุนคงเป็นกลุ่มซัพพลายเออร์ของบริษัทญี่ปุ่นหรือกลุ่มที่มีลูกค้าอยู่แล้ว แต่กลุ่มที่ไปเดี่ยวๆ อาจจะทำได้ยากกว่า เพราะผู้ประกอบการอินโดนีเซียค่อนข้างมีความเข้มแข็งอยู่แล้ว และภาครัฐย่อมให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกอบการท้องถิ่นมากกว่า ขณะที่อุตสาหกรรมอื่นๆที่ควรเข้าไปลงทุน คือ การแปรรูปสินค้าเกษตรที่ไทยมีความเชี่ยวชาญ ซึ่งในอินโดนีเซียยังมีไม่เพียงพอ
ข่าวต่างประเทศ
1. ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานสหรัฐพุ่งขึ้น 1.1% ในเดือนมิ.ย.
(ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์, ประจำวันที่ 6 สิงหาคม 2557)
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าที่ผลิตในโรงงานสหรัฐปรับตัวขึ้น 1.1% ในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งที่สี่ในรอบห้าเดือน และมากที่สุดในรอบสามเดือน อีกทั้งยังมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ถึงเกือบสองเท่า โดย นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่ายอดสั่งซื้อเดือนมิถุนายนจะเพิ่มขึ้น 0.6% หลังจากที่ร่วงลง 0.6% ในเดือนพฤษภาคม มียอดสั่งซื้อเดือนพฤษภาคมถูกปรับทบทวนจากรายงานก่อนหน้านี้ซึ่งระบุว่าลดลง 0.5% ยอดสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน นำโดยยอดสั่งซื้อเครื่องบิน เครื่องจักรอุตสาหกรรม รวมถึงคอมพิวเตอร์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ โดยยอดสั่งซื้อเครื่องบินพาณิชย์พุ่งขึ้น 8.4% ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรเพิ่มขึ้น 2.9% ขณะที่ยอดสั่งซื้อคอมพิวเตอร์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น 2.9%
สำหรับยอดสั่งซื้อสินค้าทุนนอกภาคกลาโหมซึ่งไม่รวมอากาศยาน เพิ่มขึ้น 3.3% ในเดือนมิถุนายน โดยนักเศรษฐศาสตร์จับตาดูสินค้าหมวดนี้ เพราะเป็นข้อมูลที่ใช้ประเมินแผนการใช้จ่ายและความเชื่อมั่นทางธุรกิจ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ซึ่งเป็นสินค้าที่มีราคาแพงและมีอายุการใช้งานอย่างน้อย 3 ปี เช่น คอมพิวเตอร์ รถยนต์ และเครื่องจักร เพิ่มขึ้น 1.7% ขณะที่ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ไม่รวมสินค้าด้านการขนส่งซึ่งมีความผันผวน ปรับตัวขึ้น 1.9% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 2.5%
//www.star-circuit.com/news/Ministry-of-Economy.html
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ
โดย: peepoobakub 16 มีนาคม 2560 16:25:23 น.