bloggang.com mainmenu search
ได้ไปฟังการพูดคุยถึงการดูแลตัวเองมาแล้ว อยากสรุปไว้ให้อ่านกันนะ

ผิวสวย ดูอ่อนเยาว์ แบบเดาอายุไม่ได้ ....น่าจะเป็นสิ่งที่ผู้หญิงเราอยากจะเป็นกันทุกคน

แต่ในชีวิตประจำวันเราเจอสิ่งที่ทำให้เกิดอนุมูลอิสระทำลายเซลล์ผิวลงเรื่อยๆมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นรังสียูวีจากแสงแดด มลพิษ ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้อายุผิวเราวิ่งนำไปไกล
โครงสร้างคอลลาเจนใต้ผิวถูกทำลายให้เสื่อมเร็วขึ้น ผิวจึงขาดความชุ่มชื้น ไม่ยืดหยุ่นและมีริ้วรอยแห้งกร้าน

การดูแลตัวเองพื้นฐานที่เราทำกันได้ง่ายๆก็คือ


พักผ่อนให้เพียงพอ ทาครีมกันแดด ทานอาหารที่มีประโยชน์
ดื่มน้ำสะอาดไม่ต่ำกว่า 8 แก้ว/วัน ออกกำลังกาย

แต่ว่าทุกอย่างรอบตัวเรามีการหมุนไปตลอดเวลา
 เทคโนโลยีต่างๆ นวัตกรรมใหม่ๆก็เข้ามามีบทบาทอย่างรวดเร็ว
การค้นพบสิ่งต่างๆที่จะช่วย มาดูแลเราจากภายใน ก็มีมากขึ้น

ยกตัวอย่าง สารต่างๆที่สามารถช่วยดูแลผิวเราให้ดูอ่อนเยาว์ได้



สารสกัดจาก "สาหร่ายสแกนดิเนเวีย"

สาหร่าย ฮีมาโตคอกคัส พลูวิเอลิส

เป็นสาหร่ายเซลล์เดียวจากแถบสแกนดิเนเวีย มีความสามารถในการปรับตัวและมีชีวิตรอดได้นานถึง 20 ปี
แม้สภาวะแวดล้อมจะขาดสมดุล ปราศจากน้ำและอาหาร หรืออากาศหนาวเย็นผิดปกติ

สาหร่ายจะปรับกลไกลของเซลล์ให้ผลิตสารสีแดง คือ "แอสตาแซนธิน"

ขึ้นมาเก็บสะสมไว้ใช้เสมือนเป็นเกราะที่ทำหน้าที่ปกป้องนิวเคลียสของเซล์
ซึ่งสามารถปกป้องและทำให้สาหร่ายอยู่รอดได้นานถึง 40 ปี
และเมื่อกลับมาอยู่ในสภาวะปกติสาหร่ายก็สามารถปรับตัวมาเป็น ไมโครแอลจีสีเขียวอีกครั้ง


"แอสตาแซนธิน" เป็นสารที่ผลิตได้จากพืช สาหร่าย ยีสต์ และแบคทีเรียบางชนิด
แต่แหล่งที่สามารถผลิตได้มากที่สุดคือ
"สาหร่าย ฮีมาโตคอกคัส พลูวิเอลิส"

สรุปคือ สาร
"แอสตาแซนธิน" หรือสารต้านอนุมูลอิสระสีแดงที่มีประสิทธิภาพสูงสุดตามธรรมชาติ
เรียกว่าเป็น Super Antioxidant มีบทบาทช่วยในการชะลอความเสื่อมของร่างกายได้

เพราะมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ สูงกว่าวิตามินซี วิตามินอี
เบต้าแคโรทีน โคเอนไซม์คิวเทนและสารแคททีคิน

มีประสิทธิภาพสูงกว่าวิตามินซี 6000 เท่า
สูงกว่าโคเอนไซน์ Q10 800 เท่า
และสูงกว่าวิตามินอี 550 เท่า

และด้วยประสิทธิภาพนี้ของ "แอสตาแซนธิน" ทำให้นักวิจัยจำนวนมากได้ให้ความสนใจ
นำมาศึกษาและวิจัย ในด้านการดูแลผิวและการชะลอวัยอย่างกว้างขวาง
.
.

คราวนี้มาพูดต่อถึง การดูแลผิว ที่มีการบอกกันว่าผิวดีต้อง มี 5 มิติ
มดได้ไปตรวจสภาพผิวเพื่อวิเคราะห์ 5 มิติ ดังนี้

1.ความชุ่มชื้น Hydration
2.ความแห้ง Dryness
3.ความยืดหยุ่น Elasticity
4.ริ้วรอย Wrinkle
5.ความเรียบเนียน Texture

เป็นวิธีการตรวจแบบ Yamashita study

ซึ่งเป็นการตรวจที่มีการควบคุมอุณหภูมิ 20 องศา และมีความชื้นสัมพันทธื 65%
อาสาสมัครทุกคนต้องล้างหน้าก่อนตรวจ

พารามิเตอร์ในการตรวจสขภาพผิว ประกอบด้วย

1. แบบสอบถาม Questionnaire โดยถามความรู้สึกหลังทาน
2. การตรวจวิเคราะห์สภาพผิวจากผู้เชี่ยวชาญ
3. การตรวจวัดความชุ่มชื้นของผิว โดยใช้เครื่องวัด
Corneous moisture content (electrical conduction MS)
ที่บริเวณหางตาและแก้ม
4. การตรวจวัดไขมันที่ชั้นผิวหนัง (Sebum) ที่บริเวณหางตาและแก้ม
5. การตรวจสภาพผิวทั้งหน้าด้วยการถ่ายภาพ ภายใต้กล้องกำลังขยาย 60 เท่า

ซึ่งได้มีการทำการวิจัย 2 ผลการวิจัยคือ

Yamashita E.2002
ใช้อาสาสมัครอายุ ประมาณ 40 ปี 16 คน
ทานแคปซูลของ
"แอสตาแซนธิน" 2 มก. ร่วมกับ วิตามินอี 40 มก.
ทุกวันหลังอาหารเย็น นาน 4 สัปดาห์

โดยวัดสุขภาพผิว สัปดาห์ที่ 2 และ 4

ผลคือ อาสาสมัครรู้สึกว่าจุดด่างดำ ริ้วรอย ดีขึ้นในสัปดาห์ที่ 2
และสิวลดลง ในสัปดาห์ที่4

ผลการวิเคราะห์สภาพผิวจากผู้เชี่ยวชาญ พบว่า
ความเรียบเนียน ความชุ่มชื้น ความยืดหยุ่น การเกิดสิว ความหย่อนคล้อย ริ้วรอย
มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ
.
.

Yamashita E.2006

ใช้อาสาสมัครอายุ ประมาณ 47 ปี 49 คน
ทานแคปซูลของ
"แอสตาแซนธิน" 2 มก.
ทุกวัน วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้าและเย็น นาน 6 สัปดาห์

โดยวัดสุขภาพผิว สัปดาห์ที่ 3 และ 6


ผลคือ ตั้งแต่ สัปดาห์ที่ 3 จนถึง 6 อาสาสมัครรู้สึกว่าผิวดีขึ้น คือ
ความแห้ง หยาบ กระด้าง ริ้วรอย ลดลง
ความชุ่มชื้น ความยืดหยุ่น เพิ่มขึ้น
.
.

มาดูผลการตรวจสภาพผิวของมดบ้าง



แค่เริ่มต้นก็อึ้งเลย Dry Not goog สภาพผิวแห้งและยืดหยุ่นไม่ได้



พอวัดครบ ทั้ง 5 มิติ ผลออกมาแบบนี้

คือ นี่มันคืออะไำร มดเข้าใจว่าผิวตัวเองอยู่ระดับกลางๆ ไม่ได้มีปัญหามาก
แต่ดูแล้ว ปัญหาหนักมากนะนี่


แต่ทางผู้เชียวชาญบอกว่า การวัดครั้งนี้ไม่ได้ล้างหน้า ผลจะคลาดเคลื่อนเพราะมีเมคอัพอยู่บนผิว

การนอน และการดื่มน้ำก่อนวัดก็มีผล
มดนอนไปแค่ 3 ชม.เอง และดื่มน้ำไปแค่ 1 ขวด ก่อนไปวัด


ผลจึงย่ำแย่เช่นนี้



ตารางนี้คือ % ของผิวสุขภาพดีที่ควรจะเป็น

ทุกข้อของมด ไปอยู่ที่ ผิวต้องการดูแลอย่างเร่งด่วน


 ทำให้คิดได้ว่า บางทีผิวที่ดูเหมือนไม่มีปัญหา อาจจะซ่อนปัญหาไว้มากมายและพร้อมระเบิดตัวออกมาก็ได้

การดูแลแค่ทาครีม ทากันแดด ไม่เพียงพอซะแล้ว

การแต่งหน้าเพื่อปกปิดความจริงนั้น ก็ไม่ช่วยอะไร



ทางทีดีที่สุดคือเราดูแลจากภายใน เมื่อภายในเราดีผลจะสะท้อนออกมาภายนอกเอง

Create Date :29 กรกฎาคม 2556 Last Update :30 กรกฎาคม 2556 12:15:42 น. Counter : 6581 Pageviews. Comments :4