การเป็นคดีความกันนั้น จะเป็นคดีทางแพ่งและคดีทางอาญา หากปรากฎว่า ศาลพิพากษาให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึี่งชนะคดีทางแพ่งแล้ว ต่อมามีกรณีพิพาทในคดีอาญาในมูลเหตุเดียวกัน คำพิพากษาในส่วนแพ่งไม่ผูกพันคดีอาญาให้ต้องถือข้อเท็จจริงตามคดีแพ่ง เพราะภาระการพิสูจน์ในคดีแพ่งไม่เหมือนกันกับภาระการพิสูจน์ในคดีอาญา คดีอาญานั้นจะต้องพิสูจน์ให้ปราศจากข้อสงสัยจึงจะลงโทษจำเลยได้ ส่วนคดีแพ่งนั้น เพียงแต่น้ำหนักพยานหลักฐานของฝ่ายใดดีกว่าก็เป็นฝ่ายชนะคดีไป นั้น จึงไม่อาจนำคำพิพากษาในส่วนแพ่งมาใช้เพื่อให้ข้อเท็จจริงยุติไปตามคำพิพากษาในส่วนแพ่ง 

ท่านสามารถอ่านบทความตัวเต็มได้ที่
https://www.xn--42cgi4cjab1btnchd1exbza5gvad6dvnqc6f.com/%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%8D%E0%B8%B2.html

บทความดีๆจาก ทนายเชียงใหม่