
ผมรู้สึกว่าเล่มนี้ศักดิ์สิริแก่ขึ้น (แหงล่ะ) ไม่ช่างสงสัย ไม่ตั้งคำถาม ไม่วิจารณ์ แต่พร่ำเพ้อรำพัน
| หมื่นแสนคนปลอบใจไหนจะเท่า คนหนึ่งเฝ้าห่วงใยให้ความหวัง หมื่นแสนคำปลอบประโลมหรือจีรัง เท่าได้ฟังเสียงหัวใจใครหนึ่งคน
-หากมิใช่หลงละเมอ |
หากยังคงไว้ซึ่งอารมณ์ขัน
| ได้อุ้มพลันฉันก็พิศพินิจดู เหมือนแม่แท้บัวชมพูดูงามสม ฉันเป็นเพื่อแม่เจ้านา...เจ้าตาคม ลอบมองหนูดูดนมอยู่เป็นนาน
-บัวชมพู |
มีบ้างที่เทศนา
| ใจเป็นนายหรือเป็นทาสคาดไม่ถึง ขณะแบก หนักอึ้งแทบกระอัก ขณะปล่อย วางเบาสบายนัก ขณะจิต รู้จักและเข้าใจ
-ชีวิตวูบไหวเกินรำพึง |
บ่นตามประสาคนแก่ และโหยหาอดีต
| ผ่านเหน็ดเหนื่อยเหน็บหนาวกี่นานเนิ่น ผ่านทางเดินกี่ดงหนามแห่งปรารถนา ผ่านชัง รัก ผ่านร้าวรอนกี่ร้างลา มองข้างหน้าแลข้างหลังกี่หวังรอ
-นกฝัน
ข้ากลับมาหาเจ้าแล้วสาวน้อย ออกมาหาข้าหน่อยได้ไหมหนา ชั่วไหวติงเจ้าทิ้งร่างหญิงชรา ออกมาทางดวงตาที่คาค้าง
-สาวน้อย |
กระนั้น ก็เต็มไปด้วยความงดงามและอ่อนไหวในแบบศักดิ์สิริ
| ตายายถาม รถไฟเมื่อไรมา ข้าถาม ยายตาจะไปไหน คู่ชราตอบพลันมั่นพร้อมใจ นั่นรถไฟเล่นกัน...เท่านั้นเอง
-คู่ชรา |
หลงรักชั่วชีวิต นอกจากบทกวี ยังมีภาพถ่ายดินปั้นหญิงสาวอันอ่อนหวาน หลากอารมณ์ ผลงานของเกณิกา สุขเกษม
ผมให้ 


